ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1390 คลื่นลูกก่อนหน้าได้ถูกพัดหายไปบนหาดทรายแล้ว
แสงขั้วโลกในค่ำคืนนี้ ทุกคนได้ชมกันอย่างถึงอกถึงใจมาก
ซึ่งเหมือนกับในตำนานว่า เมื่อแสงอันสวยงามส่องตรงลงมาจากบนท้องฟ้า ด้านบนเหนือศีรษะจะดูเหมือนถูกทาสีด้วยสีสันอันสดใส เปล่งประกายสวยงามจนทำให้คนไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้ ส่องสว่างเข้าสู่สายตาของทุกคน เป็นความทรงจำที่ยากจะลบเลือนหายไปได้ในชีวิตนี้ มันวิเศษมากเลยจริงๆ
เส้นหมี่เนื่องด้วยร่างกายที่ยังไม่แข็งแรง
ในตอนที่มองดูถึงช่วงท้าย เธอจึงซ่อนตัวอยู่ในแจ็กเกตกันหนาวตัวใหญ่ในอ้อมแขนของผู้ชาย
ชายคนนี้ใช้เสื้อปิดเธอเอาไว้อย่างมิดชิดโผล่ให้เห็นแค่ศีรษะเล็กๆ ถ้าหากไม่ใช่เพราะลูกสาวหนูรินจังของพวกเขาก็อยู่ที่นี่ด้วย คนอื่นเห็นแล้วยังต้องคิดว่าเธอคือลูกของเขา
“สวยจังเลย พี่ชาย พวกเราต้องนำเวลานี้เก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก”
“ไม่ใช่ว่าต่อไปจะมาอีกไม่ได้”
ชายหนุ่มที่เป็นคนตรงๆ กลับพูดประโยคแบบนี้ออกมา
เส้นหมี่ถึงกับไปต่อไม่ถูกเลย
สุดท้ายเธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปไว้มากมาย
และม็อกโกกับแสงดาวที่อยู่อีกฝั่งหนึ่ง และยังมีคณาธิปกับแสงดาวต่างก็พากันถ่ายรูปเก็บไว้ได้จำนวนไม่น้อย ถ่ายท้องฟ้าและถ่ายคน สรุปคือในคืนวันนี้ทุกคนมีความสุขกันมากเลยทีเดียว
นอกจากเด็กน้อยสามคนนั้น
“พี่ชินจัง พี่ทำอะไรอยู่เหรอ? ทำไมถึงถ่ายรูปไปแล้วยังถือปากกาเซ็นชื่อไปด้วยล่ะ?”
“น้องไม่เข้าใจ เขากำลังทำวิจัยอยู่”
คิวคิวค่อนข้างรู้จักพี่ชายดี เขาจึงอธิบายให้น้องสาวฟังในตอนที่ช่วยพี่ชายทำกล้องโทรทรรศน์ดาราศาสตร์อันนั้น
หนูรินจังได้ฟังแล้ว ทันใดนั้นดวงตาสีดำที่ทั้งกลมทั้งใหญ่ก็มองดูพี่ชินจังด้วยความชื่นชมมากยิ่งขึ้น
แต่ไม่นานนัก…..
“แด๊ดดี้พวกเราต้องรีบไปจากที่นี่ อีกหนึ่งชั่วโมงจะมีพายุเฮอริเคน”
ทันใดนั้น ชินจังก็ถือสมุดบันทึกในมือขึ้นมาแล้วเดินไปหาแด๊ดดี้กับหม่ามี๊ทางนั้น
แสนรักกับเส้นหมี่ทั้งสองคนที่กำลังดื่มด่ำช่วงเวลาสองต่อสองที่หาได้ยากกันอยู่ จู่ ๆ เห็นลูกชายคนโตคนนี้เดินมาหา เขาก็อึ้งไปเล็กน้อย
“พายุเฮอริเคน? ตอนที่มาไม่เห็นพยากรณ์อากาศบอกแบบนี้เลย”
“นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่สามารถคำนวณความเปลี่ยนแปลงของที่นี่ได้เลย แสงขั้วโลก อันที่จริงคือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาระหว่างซากปล่อยยานอวกาศกับสสารบางอย่างในเอกภพ ซึ่งเมื่อปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้นแล้ว ความร้อนที่เกิดขึ้นมาด้วยจะมีการทำปฏิกิริยาอีกครั้งกับความชื้นบนผิวทะเล การระเหยที่มากจนเกินไปก็จะส่งผลให้เกิดพายุขึ้นได้”
เด็กหนุ่มตัวน้อยที่ใบหน้าดูเย็นชาคนนี้ หลังจากที่พูดในสิ่งที่ตัวเองคำนวณออกมาอย่างตรงไปตรงมาต่อหน้าของทุกคนแล้วก็ได้ฉีกกระดาษสองแผ่นแล้วยัดใส่ในมือของแด๊ดดี้
แสนรัก: “…….”
เส้นหมี่: “…….”
สองคู่สามีภรรยาทางนั้นหันหน้ามามองฉากทางนี้ แต่ละคนต่างก็พากันมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง
เจ้าหนูน้อยคนนี้ไม่สามารถใช้คำว่า “อัจฉริยะ” มาอธิบายได้อีกต่อไปแล้วสินะ
เขาคือผิดปกติจริงๆ !!
ม็อกโกที่เชื่อคำพูดของหลานชายลุกขึ้นยืนเป็นคนแรก: “ถ้าเป็นแบบนี้ รัก งั้นพวกเรารีบไปกันเถอะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวพายุเฮอริเคนมาแล้วจะยุ่งยากไปกันใหญ่”
“อืม ผมก็คิดว่ามีเหตุผล”
คณาธิปก็ช่วยเสริมขึ้นมาด้วยจากทางนั้น
แสนรักกระตุกหางตา
ในท้ายที่สุดก็ไม่มีทางเลือกยอมฟังคำแนะนำของลูกชายและก็เริ่มลุกขึ้นมา จัดเก็บสิ่งของเพื่อเตรียมตัวกลับ
และในเวลานี้ ที่ฐานการวิจัย ถมัตถ์ ที่เพิ่งกลับมาถึงจากบนฝั่ง หลังจากที่ได้ยินว่าคนเหล่านี้ไปดูแสงขั้วโลกกันหมดแล้ว เขาซึ่งเป็นคนคุ้นเคยและรู้จักกับสภาพอากาศที่แปลกประหลาดของที่นั่นดี
จึงรีบร้อนใจราวกับมด
“พวกคุณนี่จริงๆ เลย ทำไมไม่ห้ามพวกเขาล่ะ? ไม่รู้เหรอว่าบนเกาะนั่นอันตรายมากแค่ไหน?”
“ไม่ใช่ครับ ผู้อำนวยการสถาบันเป็นคนเสนอให้พวกเขาไปเอง”
พวกวิศวกรในสถาบันวิจัยต่างพากันเสียใจมากที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม
พอถมัตถ์ ได้ฟังก็ยิ่งร้อนใจจนแทบจะกระทืบเท้า เพราะว่าผู้อำนวยการสถาบันคนนี้หาพูดในเชิงการศึกษาวิจัยเทคโนโลยีนั้นไม่ได้มีความสามารถมากนัก ที่เขาสามารถเป็นผู้อำนวยการสถาบันวิจัยได้ก็เพราะพึ่งพาความสามารถในการบริหารและความเป็นผู้นำ
นี่ไม่ใช่เรื่องที่แย่ที่สุด
ถมัตถ์ จะออกไปจัดการหาเรือด้วยตัวเอง
แต่เรื่องนี้ ราตรี ภรรยาที่มาถึงพร้อมกันกับเขากลับจู่ ๆ เดินเข้ามาหา
“มัตถ์ คุณอย่ารีบร้อนไปเลย นั่นคือรัก ไม่ใช่คนอื่น ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ เขาจะต้องมีมาตรการรับมือได้แน่”
“เอ่อ…..”
เกลี้ยกล่อมหนึ่งประโยค ชายคนนี้จึงไม่ได้ไปจัดหาเรือต่อ
โชคดีก็คือพวกเขารออยู่ที่สถาบันวิจัยได้ไม่นานนัก ก็ได้ยินเสียงของการ์ดด้านนอกพูดว่าคนเหล่านี้กลับมาแล้ว ซึ่งห่างกันเวลาเพียงแค่สิบนาทีเท่านั้นก่อนที่พายุเฮอริเคนจะไปถึงเกาะแสงขั้วโลกพอดี
อันตรายมาก!
ถมัตถ์ ได้ยินแล้วก็รีบวิ่งออกไปทันทีด้วยความตื่นเต้น
“รัก ในที่สุดพวกเธอก็กลับมาแล้ว? ฉันเป็นห่วงแทบแย่”
“อืม คุณอามัตถ์ กลับมาแล้ว”
แสนรักที่กำลังอุ้มลูกสาวขึ้นฝั่งอยู่ เมื่อเห็นพ่อของเพื่อนสหายที่รีบวิ่งเข้ามาหาทางตัวเองคนนี้ จึงได้ตอบกลับหนึ่งประโยคด้วยความรู้สึกขอโทษแบบที่หาได้ยาก
เส้นหมี่จูงมือลูกชายอีกสองคนอยู่ข้างหลัง เมื่อได้เห็นผู้อาวุโสคนนี้ก็รู้สึกสำนึกผิดเช่นกัน
“คุณอามัตถ์ ทำให้อาเป็นห่วงแล้ว”
“ไม่เป็นไรไม่เป็นไร กลับมาก็ดีแล้ว พวกเธออย่าคิดมาก ผู้อำนวยการหิรัญคนนี้ สำหรับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่พวกเราคิดค้นทำออกมา อันที่จริงเขาไม่ได้รู้ชัดเจนมาก เขาก็คือผู้นำพวกเรา อย่าโกรธเลยนะ”
เมื่อ ถมัตถ์ เห็นว่าทุกคนปลอดภัยดีก็รู้สึกโล่งใจ น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นผ่อนคลายมากขึ้น