ภาค 11 คุนหลุนกลาง กว่างเฉิงบูรพา บทที่ 1110 ผู้ฝึกกระบี่สายเหนือพิสุทธิ์ที่เจ็บปวดใจ

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ถึงอย่างไรจิตกระบี่ที่ตี๋ชิงเหลียนเหลือไว้บนยอดเขาเมฆาสีชาดก็ผ่านเวลามาหลายปีแล้ว

แม้จะมีคนตั้งใจรักษาไว้ไม่ให้มันสลายไปไหน แต่คิดจะขุดค้นหลักการที่อยู่ด้านในออกมาศึกษาหลัได้มากเท่าไร ก็ยังคงเป็นเรื่องลำบากเรื่องหนึ่ง

ไม่เพียงแต่ต้องมีพรสวรรค์ด้านวรยุทธ์ที่ล้ำเลิศเท่านั้น ขณะเดียวกันก็ต้องมีสติปัญญาความเฉลียวฉลาดในด้านมรรคากระบี่มากพอด้วย

เวลาที่เยี่ยนจ้าวเกอใช้ศึกษามรรคาอยู่บนเขา เห็นได้ชัดว่าน้อยกว่าเวลาที่พวกเกาเสวี่ยโพกับหลงเสวี่ยจี้คาดไว้มาก

นี่จะไม่ทำให้จอมกระบี่ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองถอนใจชมเชยได้อย่างไร

ยังไม่เอ่ยถึงเกาเสวี่ยโพสองพี่น้องได้รับข่าวก็ประหลาดใจ แม้แต่ตัวเยี่ยนจ้าวเกอที่ลงมาจากยอดเขาเมฆาสีชาด ระหว่างทางก็ยังคงใคร่ครวญถึงผลลัพธ์ที่ได้มาเมื่อก่อนหน้าอยู่เช่นกัน

‘การศึกษาและความเข้าใจที่ท่านย่ามีต่อกระบี่ลงทัณฑ์เซียนโดดเด่นกว่าผู้ใดจริงๆ มีรายละเอียดที่ควรค่าแก่การครุ่นคิดทบทวน และสามารถไตร่ตรองได้อย่างต่อเนื่องอีกมากมาย’ เยี่ยนจ้าวเกอจุ๊ปากชมเชย ‘เห็นความจริงในสิ่งที่ดูธรรมดา ส่วนที่เป็นรายละเอียกลับเปลี่ยนแปลงครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ธรรมดาอย่างที่คิดไว้’

ขณะผ่านสระปลดกระบี่ตรงสันเขา เยี่ยนจ้าวเกอได้เก็บกระบี่วิเศษที่ตนได้หย่อยเอาไว้เมื่อก่อนหน้าขึ้นมา

หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง สุดท้ายเยี่ยนจ้าวเกอก็ทิ้งกระบี่บึงมรกตไว้ ไม่ได้นำติดตัวไปด้วย

ตั้งแต่เยี่ยนจ้าวเกอออกท่องยุทธจักร กระบี่เล่มแรกก็คือกระบี่วิญญาณมังกรมรกต ต่อมาได้ส่งต่อให้แก่อิงหลงถูหรือฮานหลงเอ๋อร์ซึ่งเป็นศิษย์น้อง

ฮานหลงเอ๋อร์ปัจจุบันสำเร็จเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ กระบี่วิญญาณมังกรมรกตที่อยู่ในระดับอาวุธวิญญาณชั้นต่ำไม่เหมาะมืออีกต่อไปแล้ว

แต่ว่าเขาก็ทะนุถนอมราวชีวิต พกติดตัวตลอดเวลา แม้ปัจจุบันจะมีอาวุธอื่นๆ ให้ใช้ ทว่ากระบี่วิญญาณที่เยี่ยนจ้าวเกอมอบให้แก่เขาก็ยังคงไม่เคยออห่างจากตัวแม้แต่วินาทีเดียว

หลังจากกระบี่วิญญาณมังกรมรกต กระบี่ที่เยี่ยนจ้าวเกอใช้บ่อยที่สุดก็คือกระบี่บึงมรกต อันเป็นอาวุธวิญญาณชั้นสูง

กระบี่เล่มนี้หยวนเจิ้งเฟิง อาจารย์ปู่ของเยี่ยนจ้าวเกอเซ่นหลอมด้วยตัวเอง ต่อมามันติดตามเขาตลอดเวลา จนกระทั่งเขาเลื่อนสู่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ หลังจากเปลี่ยนมาใช้อาวุธศักดิ์สิทธิ์แล้ว เขาก็ไม่ได้ใช้มันอีก

ทว่ากระบี่วิเศษเล่มนี้ก็ยังคอยอยู่ข้างกายเยี่ยนจ้าวเกอ

ตอนที่เขาหลอมสร้างกระบองไม้ไผ่สีเขียวขี้ม้าท่อนนั้นของตัวเอง ได้ใส่ศาตราเทพอาวุธวิเศษจำนวนนับไม่ถ้วนเข้าไปด้วย อาวุธวิญญาณชั้นสูงที่มีอยู่ในตอนนั้นแทบกลายเป็นฟืน ต่อมาอาวุธศักดิ์สิทธิ์ก็ถูกใช้ไปมากมาย แต่ว่ากระบี่บึงมรกตเล่มนี้เขาก็ยังคงรักษาไว้

ในอนาคต ถ้าหากจำเป็น ต่อให้เขาจะต้องหลอมตรากระบี่กาลเวลา กระบี่ประกายฟ้าเมฆาเคลื่อน หรือแม้แต่กระบี่ปีศาจเทาเที่ยก็ไม่มีทางปวดใจ

แต่กระบี่บึงมรกตเล่มนี้แตกต่างกัน เหมือนกับกระบี่วิญญาณมังกรมรกตในตอนนั้น

เยี่ยนจ้าวเกอมองสระบัวที่มีบัวสีขาวมากมายเบ่งบาน สุดท้ายก็ทิ้งกระบี่บึงมรกตไว้ที่ก้นบ่อ

‘ในอดีตท่านมีฉายาว่า ‘ตาชั่งกระบี่’ น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้รับการทดสอบชี้แนะจากท่านด้วยตัวเอง กลับไม่ทราบว่าตัวเองจะผ่านด่านหรือไม่’

ชายหนุ่มถอนใจคำหนึ่ง คารวะไปทางสระบัว “ข้าไม่สามารถพักที่มรกตท่องฟ้าได้นาน ขอทิ้งกระบี่บึงมรกตไว้ที่นี่ตลอดกาล”

เขาลงจากเขา ผู้สืบทอดของเกาเสวี่ยโพรออยู่ก่อนแล้ว

พอเห็นเยี่ยนจ้าวเกอ ลูกศิษย์ยอดเขาขาวเรืองหลายคนต่างก็แตกตื่นตะลึงลาน ถึงขั้นที่ไม่รู้สึกตัว

ก่อนหน้านี้เขาได้รับคำสั่งว่าให้คอยอยู่ที่นี่ ผู้อาวุโสกล่าวอย่างคลุมเครือว่า เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่บนเขากำลังศึกษามรรคา อย่าไปรบกวน

ถึงแม้ยอดเขาเมฆาสีชาดจะว่างเปล่ามานาน แต่ว่าสำหรับจอมยุทธ์กระแสตรงสายเหนือพิสุทธิ์ ย่อมรู้ว่าที่นี่เป็นสถานที่ใด

สำหรับพวกเขาแล้ว การศึกษามรรคาในที่อยู่เดิมของจักรพรรดิแพร ต่อให้กินเวลาหลายเดือนหลายปีก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

ผู้ใดหาทราบไม่ว่าผ่านไปแค่ไม่กี่วันเท่านั้น เยี่ยนจ้าวเกอก็ลงจากเขาแล้ว

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ลูกศิษย์ยอดขาวเรืองรองเหล่านั้นคงสงสัยว่าเยี่ยนจ้าวเกอคว้าน้ำเหลว ยากจะมีผลสำเร็จ สุดท้ายจำเป็นต้องยอมเลิกล้ม ยอมแพ้อย่างรวดเร็ว จึงลงเขามาเร็วถึงเพียงนี้

แต่ว่าในฐานะผู้สืบทอดกระแสตรงของสายเหนือพิสุทธิ์ และลูกศิษย์ของยอดเขาขาวเรืองบนเขาแหนเขียว และยังเป็นลูกศิษย์ที่ได้รับคำสั่งให้มารออยู่ที่นี่โดยเฉพาะ พวกเขาจึงมีความเข้าใจเยี่ยนจ้าวเกออยู่บ้าง

เยี่ยนจ้าวเกอมีชื่อเสียงโด่งดังอยู่บนโลกซ้อนโลก วงในที่เป็นแกนกลางของมรกตท่องฟ้าในปัจจุบันก็เริ่มมีข่าวสารกระจายอยู่เช่นกัน

คนที่เพิ่งปีนขึ้นสู่สะพานเซียน แต่สามารถต่อสู้กับประมุขซึ่งๆ หน้าได้ จะเป็นตัวโง่งมไปได้อย่างไร

‘เพียงแต่นี่ก็เร็วเกินไปกระมัง!’ ลูกศิษย์ยอดเขาขาวเรืองอุทานในใจ ‘หรือเขาอาจไม่บรรลุมรรคากระบี่ แต่ในเมื่อพวกผู้อาวุโสอนุญาตให้เขาปีนขึ้นยอดเขาเมฆาสีชาด เช่นนั้นสมควรเป็นคนที่ใช้กระบี่ได้ถึงจะถูก…’

แม้ในใจจะสงสัย แต่ว่าจอมยุทธ์ยอเขาขาวเรืองก็ไม่ได้เสียมารยาท หลังจากเข้าไปคำนับเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว ก็นำทางเยี่ยนจ้าวเกอกลับยอดเขาขาวเรือง

เยี่ยนจ้าวเกอตาเป็นประกาย รู้สึกได้ว่าไกลออกไปคล้ายมีคนกำลังแอบมองตนกับยอดเขาเมฆาสีชาดอยู่

พอเห็นเขาลงมา อีกฝ่ายก็จากไปทันที เหมือนกับคนที่ระมัดระวังตัว

“เหอะ…” เยี่ยนจ้าวเกอมุมปากโค้งเล็กน้อย ทว่าไม่ได้พูดอะไร

โลกซ้อนโลกกับมรกตท่องฟ้ามีความขัดแย้งกันล้ำลึกยิ่ง

เหมือนกับตอนที่แย่งชิงเตาทองคำม่วงเมฆาลี้ลับในอดีต สหายในสำนักของเกาฉิงตีฝีปากโต้ตอบลูกศิษย์ของจักรพรรดิแพรงามแห่งยอดเขาอัศจรรย์บนเขาคุนหลุนในโลกซ้อนโลก

โลกซ้อนโลกยังคงไม่อนุญาตให้จอมยุทธ์ผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์เคลื่อนไหว มรกตท่องฟ้าก็ห้ามไม่ให้ผู้สืบทอดสายหยกพิสุทธิ์กับเอกพิสุทธิ์ปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน

หากสถานะถูกเปิดเผยและโดนจับกุม ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้รวบรัดแค่โดนขับไล่ จำเป็นต้องเห็นเลือด

เป็นเพราะเรื่องของท่านย่า ตนจึงเข้ามาในมรกตท่องฟ้าได้ไม่มีปัญหา ทว่าหากกล่าวถึงที่สุดแล้ว เขาก็ไม่ใช่ผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์อยู่ดี

ในโลกของจอมยุทธ์ การจะตัดสินสถานะของคนผู้หนึ่ง นอกจากสายเลือดแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นอีกมากมาย

สิ่งที่สำคัญที่สุดในนี้ก็คือการสืบทอด

ในบางสถานการณ์ การสืบทอดยังแสดงให้เห็นได้ชัดยิ่งกว่าสายเลือด

เยี่ยนจ้าวเกอผละจากยอดเขาเมฆาสีชาด กลับยอดเขาขาวเรืองภายใต้การนำทางของจอมยุทธ์จากยอดเขาขาวเรืองเหล่านั้น

หลังจากที่เขาเคลื่อนไหว ย่อมมีลูกศิษย์ยอดเขาขาวเรืองจำนวนไม่น้อยหาวิธีแจ้งเกาเสวี่ยโพสองพี่น้อง

ตอนที่เดินทางอยู่ เยี่ยนจ้าวเกอมีท่าทีสงบนิ่ง ขณะสนทนากับลูกศิษย์ยอดเขาขาวเรืองเหล่านั้นจนเข้าใจสถานการณ์ในมรกตท่องฟ้ามากกว่าเดิมอีกขั้นหนึ่ง ก็บรรยายถึงประสบการณ์ส่วนหนึ่งบนโลกซ้อนโลกและมิติต่างแดนให้ฟัง ทำให้ผู้คนได้เปิดโลกด้วย

ระหว่างทางพลันมีประกายกระบี่สายหนึ่งสว่างขึ้น

ประกายกระบี่นั้นหยุดลงต่อหน้าทุกคน ปรากฏเป็นเงาร่างของคนหนุ่มสายหนึ่ง

อีกฝ่ายมีหน้าตาธรรมดา สีหน้าจริงจัง แต่ว่าจิตกระบี่บนร่างกับเหี้ยมหาญยิ่ง

เขาเป็นฝ่ายคำนับก่อน “เซียนผู้ถูกเนรเทศจากโลกซ้อนโลกอยู่ตรงหน้า เหวินไต้หง ลูกศิษย์จากถ้ำประกายม่วงแห่งยอดเขางามเลิศบนเขาแหนเขียวในมรกตท่องฟ้า ขอคารวะแล้ว”

เยี่ยนจ้าวเกอประสานมืออย่างเรียบเฉย “ไม่ทราบว่ามีอะไรจะชี้แนะหรือ”

เหวินไต้หงสีหน้าเคร่งขรึม “ได้ยินความสามารถของเซียนผู้ถูกเนรเทศมานาน เป็นคนที่หาตัวจับยากคนหนึ่ง ทั้งยังเป็นอัจฉริยะสำนักเต๋าที่มีไม่กี่คนหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ข้าผู้แซ่เหวินเลื่อมใสยิ่ง เพียงแต่เรื่องของบรรพบุรุษของท่าน ทำให้คนรู้สึกเหมือนมีก้างติดคอ ข้าผู้แซ่เหวินไร้ความสามารถ อยากให้ท่านช่วยชี้แนะสักเล็กน้อย”

เรื่องในตอนนั้น…เรื่องอะไรในตอนนั้น

ย่อมเป็นเรื่องที่เยี่ยนซิงถาง ปู่ของเยี่ยนจ้าวเกอใช้กระบี่สะกดมรกตท่องฟ้าด้วยสถานะคนของฝ่ายสายหยกพิสุทธิ์ ทำให้ผู้ฝึกกระบี่แห่งสายเหนือพิสุทธิ์ทั้งหลายต้องยอมรับนับถือ

หลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ นั่นเกรงว่าจะเป็นครั้งที่เหล่าผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์เสียหน้ามากที่สุด

วิกฤตการณ์ที่สร้างความเสียหายจนบาดเจ็บล้มตาย มรกตท่องฟ้าใช่ว่าจะไม่มี แต่ว่าขอบเขตที่ตนมีชื่อที่สุด และเชี่ยวชาญที่สุดกลับถูกคนเล่นงานจนไม่มีชิ้นดี นี่เป็นเรื่องที่ทำให้ผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ที่ประสบเจ็บใจยิ่ง

………………..