มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1289

คิดมาถึงตรงนี้ หลัวซิวก็ได้กระพือปีกเทพมังกรครามยักษ์ไร้มลทิน ร่างของเขาได้มุ่งหน้าลงไปยังส่วนลึกของหุบเหวด้วยความเร็วอย่างที่สุด

เหวมรณะ ลึกเพียงใดกันแน่ นับตั้งแต่ที่มีโลกาอสูรฟ้าขึ้นมาก็ไม่มีผู้ได้รับรู้เลย ต่อให้เป็นบันทึกสูงสุดของผู้แข็งแกร่งจ้าวนภา ก็สำรวจลงไปลึกเพียงแค่สองหมื่นลี้เท่านั้น สถานที่ที่ลึกลงไปยิ่งกว่า ต่อให้เป็นจ้าวนภาก็ไม่กล้าที่จะเข้าไปโดยบุ่มบ่าม เพราะมันมีอันตรายถึงชีวิต

การเคลื่อนไหวของปีกเทพมังกรครามยักษ์ไร้มลทิน นั้นรวดเร็วเพียงใด? เพียงแค่ช่วงเวลาไม่กี่พริบตา หลัวก็ได้ลงไประยะทางนับร้อยลี้แล้ว ยิ่งลึกเข้าไปในหุบเหวแห่งนี้ กฎความตายที่กระจายอยู่โดยรอบก็ยิ่งแข็งแกร่ง

กดความตายของหลัวซิวนั้นแฝงไปด้วยกระแสพลัง แหล่งกำเนิดพลังเช่นนี้ ไม่ใช่กฎดั้งเดิมที่หลัวซิวควบคุมไว้เพื่อบรรลุถึงแดนเทพมาร แต่เป็นที่มาของกฎความตาย ก็เหมือนกันกับที่กฎเบญจธาตุหยินหยางได้เกิดขึ้นมาจากกฎตรีภพ

แค่ใส่ตรงจุดนี้ หลัวก็สามารถรวมเป็นหนึ่งเดียวกับกฎความตายที่กระจายอยู่ใน ณ ที่นี้ได้

“เจ้าคิดว่าเช่นนี้จะหลบหนีไปได้อย่างนั้นหรือ?”

ชายวัยกลางคนชุดเขียวยิ้มออกมาอย่างเหี้ยมโหด ร่างของเขากลายเป็นปราณกระบี่สายหนึ่ง และตามไปอย่างรวดเร็ว

วิญญาณมรณะ ก็คำรามออกมาด้วยความโมโหหนึ่งครั้ง มันร้องคำรามพลางไล่ล่า เพราะว่าสำหรับมันแล้ว เหวมรณะเป็นอาณาจักรของมัน ทั้งสองคนนี้กล้าไม่เห็นเจ้าบ้านอย่างมันอยู่ในสายตา?

“ครือนนน……”

ไม่นานนัก หลัวซิวก็ได้เข้าไปในระดับที่ลึกถึงหนึ่งหมื่นลี้ กดความตายในที่นี้ไม่ใช่หมอกควันสีดำอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นทะเลที่มีสีดำ คล้ายกับทะเลสาบดำที่งูมรณาจิ่วหยินอาศัยอยู่

แต่เมื่อเทียบกับพลังแห่งกฎความตายในที่นี้ ทะเลสาบดำของงูมรณาจิ่วหยินไม่คู่ควรแก่การเอ่ยถึงเลยสักนิด

พลังแห่งกฎความตายได้ควบแน่นจนถึงขีดสุด กลายเป็นของเหลวสมุทรมรณะเห็นได้ชัดว่าอานุภาพได้บรรลุถึงขั้นใหม่เป็นที่เรียบร้อย หากผู้แข็งแกร่งเทพมารได้เข้าไป ร่างก็จะสูญสลายไปในทันที ไม่เหลือแม้แต่กระดูก

ทว่าหลัวซิวกลับไม่ได้ลังเลเลยสักนิด และพุ่งเข้าไปในทะเลสีดำทันที “บ้าเอ๊ย!”

ชายวัยกลางคนชุดเขียวไล่ติดตามมา เมื่อเห็นหลัวซิวได้เข้าไปในสมุทรมรณะ เขาก็มีท่าทางเคร่งเครียดขึ้นมา

“มหาจักรพรรดิยุทธ์เล็ก ๆ คนหนึ่งกล้าบุกเข้าไปในสมุทรมรณะ ข้าเป็นถึงผู้แข็งแกร่งแดนเทพฟ้าขั้นสี่ ไม่เชื่อหรอกว่าวันนี้จะสังหารเจ้าไม่ได้!”

ชายวัยกลางคนชุดเขียวกล่าวออกมาอย่างเย้ยหยัน จากนั้นก็ได้ตามเข้าไปในสมุทรมรณะ

ผู้แข็งแกร่งเทฟ้าช่วงกลางสามารถสำรวจลงไปลึกถึงในระดับประมาณหนึ่งหมื่นแปดพันลี้ เขาไม่เชื่อว่าหลัวซิวจะมีความสามารถเช่นนี้เหมือนกัน พอถึงตอนนั้นหากเขาบุกเข้าไปลึกยิ่งกว่าก็ต้องตาย คิดจะหันหลังกลับก็ต้องพบกับหนทางมรณะเช่นเดียวกัน

สำหรับชายวัยกลางคนชุดเขียวแล้ว เส้นทางที่หลัวซิวเลือกในการเอาชีวิตรอด มันเป็นเพียงทางตันเท่านั้นเอง

น้ำที่อยู่ในสมุทรมรณะ มีความเหนียวหนืดอย่างสุดขีด วินาทีที่สิ่งมีชีวิตเข้าไป ก็ได้เกิดเป็นระลอกคลื่นขึ้นมาทันที และกลั่นกร่อนพลังเทพคุ้มครองกายอย่างต่อเนื่อง

เสียงแบบนี้มันทำให้คนรู้สึกขนหัวลุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสัมผัสได้ถึงความอ่อนแอลงของพลังเทพคุ้มครองกายเมื่อถูกกัดกร่อนอย่างต่อเนื่อง มันยิ่งทำให้คนรู้สึกสิ้นหวัง ไม่กล้าที่จะ เข้าไปลึกมากกว่านี้

“สลายให้ขาเสีย!”

ชายวัยกลางคนชุดเขียวตวาดขึ้นมา กระดูกอันแหลมคมเหมือนดั่งกระบี่ที่อยู่บนร่างกายสองอันได้ลอยขึ้นมา วนไปรอบร่างกาย บีบน้ำสีดำที่อยู่โดยรอบให้ออกห่าง

เขาได้ฟันปราณกระบี่ออกมา ทำให้น้ำสีดำกลายเป็นถนนสายหนึ่ง และบุกเข้าไปในระดับที่ลึก ยิ่งกว่า

สำหรับวิญญาณมรณะแล้ว สมุทรมรณะยิ่งไม่มีสิ่งกีดขวางใด ๆ เลยสักนิด มันเคลื่อนไหวได้รวดเร็วกว่าชายวัยกลางคนชุดเขียวมากนัก หลังจากที่ตามมา ก็ได้อ้าปากเข้าไปหาชายผู้นั้น

“ไสหัวไปเสีย!”

ชายวัยกลางคนชุดเขียวพลันหันกลับไป กระบี่ที่เกิดขึ้นจากรัศมีเทวได้พุ่งออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างของเขา เสียงผลัวะดังขึ้น ทำให้ร่างของวิญญาณมรณะเกิดเป็นรูขึ้นมาสองรู