ขณะเดียวกันกัน เย่เฉินกำลังนั่งเฮลิคอปเตอร์ และบินอยู่บนน่านฟ้าจินหลิง

เฉินจื๋อข่ายเอ่ยปากถามเย่เฉินว่า: “คุณชาย คุณชายจะจัดการอย่างไงกับลูกสาวของเซวหนานซาน!”

เย่เฉินพูดออกมาอย่างไร้ความรู้สึกว่า: “เธอสูญเสียพ่อและแม่ไปแล้ว ตอนนี้เธอกลายเป็นเด็กกำพร้าไปแล้ว ส่งเธอไปที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็แล้วกัน”

เฉินจื๋อข่ายรีบพูดว่า: “คุณชาย เรื่องแบบนี้เราควรจัดการขั้นเด็ดขาดนะ ไม่ควรเลี้ยงงูพิษไว้……”

เย่เฉินโบกมือ: “ลูกผู้ชายทำในสิ่งที่ควรทำ ไม่ไปทำสิ่งที่ไม่ควรทำ ฉันไม่มีทางที่จะทำร้ายเด็กเล็ก นำเธอไปส่งที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ถ้ามีคนของตระกูลอู๋มารับเธอไป ก็ปล่อยเธอกลับไปพร้อมเขา”

เฉินจื๋อข่ายพยักหน้าและพูดว่า: “ฉันรู้สึกว่าคนของตระกูลอู๋คงไม่มารับเด็กคนนี้แล้ว เพราะตอนนี้ตระกูลอู๋คับแค้นเซวหนานซานมาก ฉันเดาวิกฤตครั้งนี้ของตระกูลอู๋ พวกเขาอย่างน้อยก็ต้องสูญเสียทรัพย์สินไปมากกว่าครึ่ง พรุ่งนี้ราคาหุ้นของบริษัทพวกเขาน่าจะตกอย่างเห็นได้ชัด”

เย่เฉินยิ้มออกมาและพูดว่า: “งั้นพอดีเลย ตระกูลอู๋ฝีมือตกแล้ว ฉันก็จะผลักดันให้ตระกูลซ่งขึ้นมาแทนที่ ให้ตระกูลซ่งขึ้นเป็นตระกูลอันดับแรกของเจียงหนาน”

เฉินจื๋อข่ายพูดออกมาทันทีว่า: “คุณชาย ถ้าต้องการอะไร คุณชายสั่งมาได้เลยนะ”

“ได้เลย”

เฉินจื๋อข่ายพูดต่อว่า: “ใช่แล้วคุณชาย ตอนนี้แอคหลุมที่ชื่อใจดีสวรรค์ช่วยถูกส่งไปโรงเลี้ยงหมาของหงห้าแล้ว ท่านจะไปดูหน่อยมั้ยครับ?”

เย่เฉินโบกมือ: “ก็แค่ยาจกที่หากินโดยการไปด่าคนอื่น สับเขาให้ละเอียดแล้วเอาไปให้หมากิน ฉันไม่ไปดูคนแบบนี้หรอก จะทำให้ตาฉันเปื้อนเปล่าๆ”

เมื่อพูดจบ ทันใดนั้นเย่เฉินนึกถึงโคบายา ชิอิจิโร่ขึ้นมา เจ้าคนนี้ยังอยู่ที่โรงเลี้ยงหมาของหงห้าจนถึงตอนนี้

เขาก็เลยถามเฉินจื๋อข่ายไปว่า: “ตอนนี้โคบายา ชิอิจิโร่เป็นไงบ้าง”

เฉินจื๋อข่ายตอบและหัวเราะ: “เขาจะเป็นอย่างไงละ เลี้ยงหมาทุกคน ให้อาหารหมา ล้างขี้หมา ทั้งวันทั้งคืนเขาไม่กล้าออกไปไหนเลย ถ้าตอนนี้เขาออกไป แล้วน้องชายของเขารู้ว่าเขาออกไป จะต้องใช้เงินมหาศาลจ้างนักฆ่ามาฆ่าเขาแน่นอน”

เย่เฉินพยักหน้าและหัวเราะ: “ให้เขาอดทนอยู่ที่โรงเลี้ยงหมาอีกนิดหน่อย เมื่อถึงเวลาที่สมควร ฉันจะปล่อยเขากลับญี่ปุ่น ให้เขาไปแย่งสมบัติตระกูลกับน้องชายเขาต่อ”

เฉินจื๋อข่ายพูดว่า: “ถ้าโคบายา ชิจิโร่รู้ว่าโคบายา ชิอิจิโร่ยังไม่ตาย เดาว่าเขาคงโกรธมากแน่ๆ”

เย่เฉินยิ้มอ่อนๆ และพูดว่า: “จะโกรธหรือไม่ไม่รู้ เมื่อถึงตอนนั้น บริษัทผลิตยาโคบายาเป็นของฉันแน่ๆ”

เฉินจื๋อข่ายยกย่องจากใจและพูดว่า: “คุณชาย วิธีที่ท่านใช้จัดการกับตระกูลหลิน ชั่งเป็นวิธีที่วิเศษมากเลย เป็นวิธีที่ดีสุดยอดจริงๆ!”

เย่เฉินยิ้มและตอบว่า: “ก็ไม่ได้วิเศษอะไรมากหรอก หลักๆเลยก็คือใช้ความโลภของคนตระกูลหลิน ดังนั้นคนนี้ จะโลภมากไม่ได้ ถ้าโลภมากจะมีความหายนะตามมา ก็เหมือนกับแอคหลุมคนนั้น ถ้าเขาไม่โลภเงินทอง เขาก็จะไม่ถูกสับละเอียดแล้วเอาไปให้หมากินหรอก”

……..

สิบนาทีผ่านไป

เฮลิคอปเตอร์ที่เย่เฉินนั่ง ได้ลงจอดที่บนดาดฟ้าของป๋ายจินฮ่านกง

ระหว่างที่เฮลิคอปเตอร์ของเย่เฉินลงจอด เครื่องบินอีกลำได้ส่งเด็กๆ ไปที่โรงพยาบาลชุมชนแล้ว

พวกป้าหลี่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็ได้ข่าวบางส่วนมาตั้งแต่แรกแล้ว เธอรู้ว่าเด็กถูกช่วยออกไปแล้ว ทุกคนรู้สึกคึกคักมาก เมื่อได้รู้ว่าเด็กๆ จะถูกส่งไปที่โรงพยาบาลชุมชนพวกเธอก็ได้รีบตามไปที่โรงพยาบาล

อยากที่จะไปหาเด็กๆที่โรงพยาบาล แต่นึกถึงเรื่องนี้ที่กำลังโด่งดังอยู่บนโซเชียล เขาไม่อยากให้ป้าหลี่และเพื่อนรู้ว่าเรื่องนี้มีเขาอยู่เบื้องหลังคอยสั่งงาน เขาก็เลยให้เฉินจื๋อข่ายขับรถส่งเขากลับบ้าน

เมื่อถึงTomson Rivieraเย่เฉินไม่ได้รีบเข้าไป และโทรไปถามป้าหลี่: “ป้าหลี่ ผมได้ข่าวว่าเด็กๆถูกช่วยกลับมาได้หมดแล้วใช่มั้ย?”

ป้าหลี่ตื่นเต้นและพูดอย่างสะอึกสะอื้นว่า: “ใช่เย่เฉิน เด็กๆถูกช่วยออกมาหมดแล้ว ตอนนี้เด็กๆอยู่ที่โรงพยาบาลชุมชนรอดูอาการอยู่”

เย่เฉินรีบถามไปว่า: “เด็กๆไม่ได้เป็นอะไรมากใช่มั้ย?”

“ไม่เป็นไรๆ” ป้าหลี่พูดด้วยความตื่นเต้นว่า: “หมอได้ตรวจเช็คให้เด็กๆแล้ว เป็นเพราะเด็กๆ กินยานอนหลับไป แต่ตอนนี้มีเด็กสามคนฟื้นขึ้นมาแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร หมอบอกว่ารอดูอาการสักพัก คืนนี้น่าจะกลับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้แล้ว”