ตอนที่ 1985 จงติดตามข้า

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 1985 จงติดตามข้า

 

ที่นี่คือเมืองวิดีโอสถ และหลิงฮันก็เป็นประมุขในอนาคตของเมืองวิถีโอสถ แต่กลับมีคนบอกให้เขายืนรอที่หน้าประตู และต้องขออนุญาตคนอื่นก่อนงั้นรึ?

 

นี่มันเป็นการยั่วยุที่โจ่งแจ้งอย่างเห็นได้ชัด

 

หลิงฮันส่ายหัว แต่เดิมหลู่เซียนหมิงนั้นเป็นอัจฉริยะที่มากพรสวรรค์ผู้หนึ่ง ไม่คาดคิดว่าตอนนี้อีกฝ่ายจะยอมกลายมาเป็นลิ่วล้อให้คนอื่น และทําหน้าที่เฝ้าประตูเช่นนี้ ช่างน่าอัปยศยิ่งนัก

 

“หลู่เซียนหมิง การที่ข้านับว่าเจ้าเป็นคู่ต่อสู้นั้น ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ผิดจริงๆ” เขากล่าวด้วยรอยยิ้มก่อนที่ใบหน้าจะค่อยๆ กลายเป็นมืดมนและหันหลังตะโกน “พวกเจ้าตัวมาทําอะไร อยู่ที่นี่ไม่มีที่ให้ไปกันรึไง?”

 

เมื่ออนาคตประมุขกล่าวเช่นนี้ ใครกันจะกล้าขัดขึ้น?

 

ภายในพริบตา ผู้คนรอบด้านก็แยกย้ายกันจากไปทันที แน่นอนว่าถึงแม้ตอนนี้พวกเขาจะยอมจากไป แต่ก็ใช่ว่าหลังจากนี้จะไม่กลับมาใหม่ เพราะอย่างไรหลิงฮันก็ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้ตลอดไปอยู่แล้ว

 

หมู่เซียนหมิงจดจ้องหลิงฮันด้วยสายตาอาฆาต

 

ในความคิดของเขา หากไม่ใช่เพราะหลิงฮันล่ะก็ คนที่จะยืนอยู่ในสถานะตรงหน้านี้สม ควรเป็นเขาแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับตกไปอยู่ในมือหลิงฮันเสียได้

 

ช่างน่ารังเกียจนัก!

 

โชคยังดีที่ตอนนี้ เขาได้รับมอบโอกาสครั้งใหม่มาแล้ว ไม่คิดไม่ฝันว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งศาสตร์ปรุงยา ของดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตกจะส่งคนมาที่นี่ แถมเขายังสามารถตีสนิทกับอีกฝ่ายได้สําเร็จด้วย โดยที่หลังจากนี้เขาจะติดตามหมาถงกวาง ไปยังดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตก ซึ่งเขาเชื่อว่าด้วยพรสวรรค์ที่ตนเองมี เขาจะสามารถก้าวข้ามหม่าถงกวางได้ในระยะเวลาไม่กี่ปี และจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตกได้ในที่สุด

 

เมื่อถึงตอนนั้น หลิงฮันจะเป็นเพียงมดปลวกตัวจ้อยที่ทําได้เพียงแหงนมองเขาจะเบื้องล่าง เพราะว่าระดับวรยุทธไม่ใช่แค่สิ่งเดียวที่ดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตกนั้นเหนือกว่าดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันออก แต่ระดับของศาสตร์ปรุงยาเองก็สูงส่งกว่าเช่นกัน เนื่องจากพวกเขามีปรมาจารย์นักปรุงยาห้าดาวอยู่

 

เมื่อวันใดที่เขาบรรลุเป็นปรมาจารย์นักปรุงยาสี่ดาวได้ เขาจะกลับใสที่นี่ เพื่อแสดงให้ผู้คนของเมืองวิถีโอสถเห็นว่า พวกเขานั้นตัดสินใจผิดพลาดที่ไม่เลือกเขาเป็นประมุขคนต่อไป

 

“ผู้สืบทอดหลิงช่างน่าเกรงขามนัก!” หลู่เซียนหมิงระงับความโกรธเอาไว้ “เพียงแต่ก็อย่าได้ลืมว่า ตอนนี้เจ้าเองก็ยังไม่ได้ขึ้นเป็นประมุขอย่างแท้จริง!”

 

เพี้ยะ!

 

หลิงฮันตบเข้าที่ใบหน้าของหมู่เซียนหมิง ด้วยพลังในระดับห้านิพพานของเขาในตอนนี้ ไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะปัดป้องได้ทัน และถูกตบจนมึนงง

 

หลู่เซียนหมิงสามารถพยุงตัวเอาไว้ได้ แต่มุมปากก็มีโลหิตไหลออกมา

 

หลิงฮันดึงมือกลับและกล่าวอย่างไม่แยแส “อย่าลืมว่าเจ้าไม่ใช่ผู้สืบทอดแล้ว หากเจ้าทําตัวไร้ความเคารพต่อข้า อย่าว่าแต่ข้าจะตบเจ้า ต่อให้ข้าสังหารเจ้าไปก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร”

 

ดวงตาของหมู่เซียนหมิงราวกับจะมีเปลวเพลิงปะทุออกมา แต่ที่หลิงฮันกล่าวก็เป็นความจริง ตอนนี้เขาไม่ใช่ผู้สืบทอดที่สูงส่งอีกต่อไปแล้ว และเป็นเพียงนักปรุงยาสองดาวทั่วไปเท่านั้น

 

“ฮ่าๆๆ ผู้สืบทอดหลิงฮันอุตส่าห์ให้เกียรติมาเยี่ยมเยียนทั้งที ข้านี่ช่างเสียมารยาทยิ่งนัก ที่ไม่รีบออกมาต้อนรับ” ทันใดนั้นเอง เสียงหัวเราะของใครบางคนก็ดังขึ้น พร้อมกับชายหนุ่มชุดขาวได้ เดินออกมาจากประตู เขาเป็นบุรุษที่มีใบหน้าหล่อเหลาเป็นอย่างมาก เส้นผมของเขาดําหนา และ มีดวงตาที่งดงามราวกับจันทรา

 

“นายน้อยหม่า!” หลู่เซียนหมิงรีบหันหลังกลับไปคารวะ ท่าทีของเขาดูเคารพนอบน้อมเป็นอย่างมาก

 

คนผู้นี้คือหม่าถงกวาง นักปรุงยาอัจฉริยะจากดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตก

 

ดวงตาของหลิงฮันหรี่ลงเล็กน้อยและเผยรอยยิ้ม “ข้าเองก็เสียมารยาทเช่นกัน ที่ตั้งหลายวัน แล้วไม่ยอมมาทักทาย แต่เพิ่งมาเอาปานนี้”

 

ในเมื่ออีกฝ่ายพยายามจะพูดทําให้ตนให้ดูเหนือกว่า หลิงฮันย่อมไม่ปล่อยโอกาสอีกฝ่ายทําเช่นนั้น

 

หม่าถงกวางขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

 

หลิงฮันเองก็ยิ้มตอบ และคร้านจะเสวนากับคนผู้นี้

 

“น้องชายหลิงฮันคงจะเป็นตัวแทนของปรมาจารย์จื่อเฉิง ไปเข้าร่วมการแข่งขันปรุงยาที่จะจัดขึ้น ในดินแดนแห่งเซียนตะวันตกสินะ?” หม่าถงกวางเปลี่ยนหัวข้อคุย

 

“ไม่ผิด” หลิงฮันพยักหน้า “ข้ามาที่นี่ก็เพราะเรื่องนั้น”

 

หลู่เซียนหมิงเผยสีหน้าริษทันที หากไม่มีหลิงฮันล่ะก็ คนที่ได้รับสิทธิ์นั้นย่อมต้องเป็นเขา

 

คิดดูว่าจะมันจะเป็นหน้าเป็นตาขนาดไหนกัน ที่ได้เป็นตัวแทนของนักปรุงยาทั่วทั้งดินแดนแห่งเซียนฝังตกวันออก

 

เพียงแต่ตอนนี้ เขากลับต้องมาหาทางเข้าหาหม่าถงกวางเพื่อเป็นหลายกับอีกฝ่าย ซึ่งคําว่าสหายนั้นเป็นคําที่ใช้เพื่อให้ฟังดูดีเท่านั้น หากจะพูดตรงๆ ก็คือผู้ติดตาม หรือว่าลิ่วล้อนั่นเอง ด้วยสถานะเช่นนี้คนอื่นคนใดกันจะมาแยแสเขา?

 

แต่เดิมเขาเป็นถึงตัวแทนผู้สืบทอดของเมืองวิถีโอสถ ที่ไม่ว่าไปที่ไหนก็จะมีแต่ผู้คนล้อมรอบ ตอนนี้เมื่อเขาต้องตกลงมาจากเมฆอันสูงส่ง จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะทําใจยอมรับได้

 

หากมอบโอกาสให้เขาอีกครั้งล่ะก็ เขาจะหาทางกําจัดหลิงฮันให้ได้ทุกวิถีทาง

 

หม่าถงกวางกล่าว “น้องชายหลิง เมื่อเจ้าไปถึงดินแดนแห่งเซียนฝั่งตกวันตก เจ้าจะพบว่าระดับของดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันออกนั้นต่ําขนาดไหน ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องอื่น เพียงแต่ปรมาจารย์นักปรุงยาสี่ดาวของดินแดนแห่งเซียนฝังตกวันตก ก็มีมากถึงสามพันหกร้อยห้าสิบห้าคน”

 

ช่างแตกต่างกันมากจริงๆ ปรมาจารย์นักปรุงยาสี่ดาวของ ดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันออกนั้น หากนับรวมนักปรุงยาพเนจรที่เก็บตัวไปด้วย จํานวนก็มีเพียงแค่สิบคนเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ก็ไม่รู้ด้วยว่าปรมาจารย์นักปรุงยาพเนจรเหล่านั้น ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพราะถึงแม้พวกเขาจะเป็นนิรันดร์ แต่แม้แต่ราชานิรันดร์ก็ยังสิ้นชีพเพราะบาปเคราะห์แห่งสวรรค์ได้

 

ปรมาจารย์นักปรุงยาถึงสามพันหกร้อยกว่าคน จึงนับว่าเป็นความแตกต่างที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง

 

หลิงฮันอุทาน “โอ้” ออกมา และกล่าว “เป็นจํานวนที่มากจริงๆ”

 

“น้องชายหลิง ถึงแม้เจ้าจะยังเยาว์วัยและมีศักยภาพสูง แต่โอกาสที่เจ้าจะบรรลุเป็นนักปรุงยาสี่ดาวได้ก็มีไม่มาก” หม่าถงกวางกล่าวอย่างไม่แยแส “เพียงแต่หากเจ้ายอมติดตามข้าล่ะก็ด้วยการช่วยเหลือจากข้า ไม่เพียงแค่เจ้าจะสามารถบรรลุเป็นนักปรุงยาสี่ดาว แต่การจะบรรลุเป็นนักปรุงยาห้าดาวก็ใช่ว่าจะไม่มีความหวัง!”

 

นักปรุงยาห้าดาว นั่นคือตัวตนที่มีสถานะทัดเทียมกับราชานิรันดร์อย่างแท้จริง