ภาค 11 คุนหลุนกลาง กว่างเฉิงบูรพา บทที่ 1127 นิวาสสถานของประมุขที่อลังการที่สุดในประวัติศาสตร์

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

“สหายร่วมเส้นทางเยี่ยนมีความคิดเช่นนี้ ทั้งยังช่วยเหลือข้า ฟู่ถิงซาบซึ้งยิ่ง”

ฟู่ถิงพูดพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย “เพียงแต่คนอื่นๆ ในโลกซ้อนโลก ใช่ว่าจะมีความคิดเหมือนกัน”

เห็นได้ชัดว่านางพิจารณาแล้ว ว่าในการต่อสู้ของจักรพรรดิแพรขาวดำนี้ ยอดฝีมือระดับสุดยอดคนอื่นๆ บนโลกซ้อนโลกใช่ว่าจะสนับสนุนจักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาว

ดูจากมุมมองด้านการพัฒนา การคบหากับจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำจะได้ประโยชน์ในอนาคตมากกว่า ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นว่าที่กษัตริย์

ส่วนจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำอนาคตจะมุ่งไปยังทิศทางใด เกรงว่าตัวเขาก็ยังไม่รู้

น้ำใจของจักรพรรดิผู้หนึ่งย่อมล้ำค่า แต่ว่าเทียบกับน้ำใจของกษัตริย์ผู้หนึ่งแล้ว กลับด้อยกว่า

“คนส่วนใหญ่จะรักษาท่าทีคอยดูอยู่ด้านข้าง” เยี่ยนจ้าวเกอยักไหล่ “คนที่จะหาเรื่อง เกรงว่าจะเป็นคนที่ก่อนหน้านี้มีความขัดแย้งด้วย แน่นอนว่าไม่นับเฉินเฉียนหัว”

เขามองเมิ่งหว่านที่อยู่ด้านข้าง “อืม พวกเจ้าคุยกันเถอะ ข้าจะออกไปคุยกับท่านพ่อ”

ฟู่ถิงกับเมิ่งหว่านมองกันไปมา สายตาซับซ้อนถึงขีดสุด

แต่ทั้งสองก็เป็นคนเยือกเย็นและมีเหตุผล เยี่ยนจ้าวเกอจึงไม่ห่วงว่าปล่อยให้พวกนางอยู่เพียงลำพังแล้ว จะมีใครสักคนในนี้สร้างความลำบากให้แก่อีกฝ่าย

การไม่มีคำพูดจะกล่าว อาจเป็นสถานการณ์ที่ควรเกิดขึ้นมากที่สุด?

สุดท้ายก็ต้องมีวันนี้ ในสถานการณ์เช่นนี้เยี่ยนจ้าวเกอไม่อาจก้าวก่าย

เพียงแต่ทั้งสองหันหน้าเข้าหากัน ไม่มีคนที่สามอยู่รอบๆ อาจจะส่งผลดีต่อการสนทนาของพี่น้องต่างมารดาคู่นี้ก็เป็นได้

เมฆแปลงกำเนิดบานออกเหมือนกับดอกบัว เยี่ยนจ้าวเกอกระโดดออกมาจากด้านใน ตกลงด้านหน้าเยี่ยนตี๋

“ดูจากเรื่องที่จักรพรรดิแพรลงมือกับข้าในนพยมโลก การคาดเดาก่อนหน้าของข้าถือว่าถูกต้องแล้ว”

เยี่ยนจ้าวเกอมองเยี่ยนตี๋ กล่าวว่า “เขาเดินบนเส้นทางไร้รัก คิดจะก้าวหน้าขึ้นอีกขั้น จำเป็นต้องหลอมเปลี่ยนเมฆแปลงกำเนิดของท่าน”

เจตนาร้ายต่อเยี่ยนจ้าวเกอในนพยมโลกเกิดขึ้นเพราะต้องการเด็ดปีกของเยี่ยนตี๋ กำจัดอุปสรรคของแผนการ

“ต่อให้ข้าจะปกป้องบุตรีของเขาหรือไม่ เขาก็จะมาหาเรื่องอยู่ดีหรือ” เยี่ยนตี๋ได้ยินดังนั้นสีหน้าก็ไม่แปรเปลี่ยน เพียงพยักหน้าเงียบๆ

เยี่ยนจ้าวเกอว่า “วันนี้จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำกับอาภรณ์ขาวสะกดซึ่งกันและกัน กลับช่วงชิงเวลาให้กับพวกเรา ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดย่อมเป็นจักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาวชนะ แต่ว่าไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาไปอยู่ที่ใด แต่ก็ไม่มีวิธีการอะไร ได้แต่คอยดูการเปลี่ยนแปลงอย่างสงบ กลับเป็นคนอื่นๆ บางทีนอกจากจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำแล้ว อาจจะมีคนประสงค์ร้ายต่อฟู่ถิงกับเมิ่งหว่าน จำเป็นต้องป้องกันไว้ก่อน”

ชายหนุ่มแจ้งเรื่องที่ตนได้เจอตอนที่เข้าไปในนพยมโลกครั้งนี้ และเรื่องที่ได้ไปเจอมรกตท่องฟ้าหลังจากนั้นให้เยี่ยนตี๋ฟัง

“หลังจากจัดการภารกิจในมือเสร็จ ต้องหาเวลาไปที่มรกตท่องฟ้าสักเที่ยวหนึ่ง” เยี่ยนตี๋มีสีหน้าเสียดายอยู่บ้าง

เขามองเยี่ยนจ้าวเกอ เอ่ยว่า “เรื่องของศิษย์หลานเฟิง รอกษัตริย์เร้นลับออกฌาน หรือรอศิษย์พี่เยว่กลับมาก่อนค่อยตรวจสอบ บางทีพวกเขาอาจจะมีข่าวสารเบาะแสของราชันพระราหูในอดีตมากกว่า เป็นประโยชน์ต่อการตามหาศิษย์หลานเฟิงของพวกเรา”

เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าอย่างเงียบงัน

ความจริงบนโลกซ้อนโลกในตอนนี้ มีตัวเลือกที่เป็นไปได้ตัวเลือกหนึ่ง

ครั้งกระโน้นประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิงเป็นคนที่เคยติดต่อกับราชันพระราหูด้วยตัวเอง ทว่าชายชราผู้นี้เห็นได้ชัดว่าไม่ได้หวังดีกับฝ่ายตนเอง การไปหาข่าวสารที่เขาเท่ากับเป็นการขอหนังจากเสือ

หลังจากจักรพรรดิไร้จำกัดกลับโลกซ้อนโลก คงได้บอกสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับหวังเจิ้งเฉิงแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้เยี่ยนจ้าวเกอไปแจ้ง

เปรียบกันแล้ว ถ้าต้องหวังให้หวังเจิ้งเฉงช่วยเหลือ เยี่ยนจ้าวเกอมิสู้อดทนรอกษัตริย์เร้นลับออกฌาน หรือกษัตริย์กระบี่กลับมาจากมิติต่างแดน

แน่นอนว่า ความคิดเหล่านี้ได้แต่เรียกว่าเป็นเรื่องของใครของมัน

เรื่องของเฟิงอวิ๋นเซิง ขึ้นอยู่กับตัวนางเอง คนอื่นๆ คิดช่วยเหลือกลับไม่อาจทำได้

เยี่ยนจ้าวเกอรู้เรื่องนี้อยู่เต็มอก แต่เขาไม่ต้องการไปขบคิด ได้แต่หาวิธีที่ตนสามารถทำได้อย่างสุดกำลัง

“จริงด้วย เจ้าเห็นอย่างไรกับเรื่องของธงพฤหัสบดี” เยี่ยนตี๋พลันถาม

ชายหนุ่มใคร่ครวญพลางเอ่ย “ตามคำกล่าวของเฉินเฉียนหัว ของวิเศษชิ้นนี้เป็นเขาได้มากจากมือของคนอื่น ไม่ใช่เขาแย่งมาจากสำนักของมารดาด้วยตัวเขาเอง ถึงแม้คนผู้นี้จะเหลวไหลยิ่ง แต่ข้าค่อนข้างเชื่อถือคำพูดนี้ของเขา เพียงแต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เฉินเฉียนหัวซ่อนตัว ไม่อาจรู้ได้ว่าเขาไปเอาธงพฤหัสบดีมาจากผู้ใด”

“ทว่า…” เยี่ยนจ้าวเกอตาเป็นประกาย “คนที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดมีอยู่แค่ไม่กี่คน”

เยี่ยนตี๋เอ่ยอย่างเชื่องช้า “ประมุขบูรพา ประมุขประจิม ประมุขพายัพ และประมุขปฐวี”

เขตสุราลัยบูรพา เขตกระฟ้าประจิม เขตฟ้าสงัดพายัพ รวมถึงเขตมหานภากลาง อาณาเขตทั้งสี่ที่ออกคำสั่งให้ตามล่าผู้สืบทอดของจักรพรรดิเจิดจรัสหูเยว่ซิน

“คอยสังเกตไปก่อนเถอะ ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ท่านแม่ไปอยู่ที่ใด” เยี่ยนจ้าวเกอนวดขมับของตัวเอง “แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เมื่อได้ธงพฤหัสบีดีกลับมา หลังจากท่านแม่ได้รู้จะต้องดีใจมากแน่”

เยี่ยนตี๋ถอนใจอย่างหาได้ยาก ด้วยรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอยู่บ้าง

พ่อลูกมองกัน ต่างเกิดความรู้สึกจนปัญญา

หากชมตัวเองอย่างหน้าด้านๆ บุรุษของตระกูลเยี่ยนเช่นพวกเขาล้วนเป็นอัจฉริยะบุคคล

ทว่าเหล่าสะใภ้ของตระกูลเยี่ยนล้วนทำให้ผู้คนเป็นห่วงนัก…

พร้อมกับที่สงครามระหว่างเนี่ยจิงเสินกับเฉินเฉียนหัวจบลง และเฉินเฉียนหัวไปรับโทษที่ผาบัวแดง ในที่สุดคลื่นลมที่ก่อนหน้าสั่นสะเทือนโลกซ้อนโลกก็เริ่มสงบลง

เยี่ยนจ้าวเกอรั้งอยู่ในฝั่งทิศใต้ระยะหนึ่ง หลังจากจัดการเรื่องราวในมือเสร็จก็บอกลาพวกเยี่ยนตี๋ แล้วกลับเขตมหานภากลาง

กระนั้นระหว่างทาง เขาก็ยังมีเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งที่ต้องทำ นั่นคือการไปเยี่ยมเยือนเนี่ยจิงเสิน ประมุขทักษิณที่เพิ่งรับตำแหน่งใหม่

“ศิษย์พี่เนี่ย ครั้งนี้ขอบคุณท่านที่ชักกระบี่ช่วยเหลือ” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างสะทกสะท้อน

เนี่ยเจิงเสินทั้งไม่เปิดสำนักตั้งพรรค ทั้งไม่เคลื่อนไหวเอิกเกริก เพียงพกหนึ่งกระบี่เข้าสู่ฝั่งทิศใต้ หาสถานที่แห่งหนึ่งอยู่แถวๆ บึงพันทะเลสาบซึ่งอยู่บนบริเวณจุดตัดของพรมแดนทางเหนือสุดของเขตเพลิงทักษิณและเขตมหานภากลาง

การกระทำที่ตรงไปตรงมาเช่นนี้ ทำให้เหล่าคนที่รู้เรื่องต่างเกิดความคิดอยากกลอกตาขาวใส่

คนที่ทราบ รู้ว่าเขาเนี่ยจิงเสินเป็นประมุขทักษิณ

คนที่ไม่รู้ ยังนึกว่าเขาเฝ้าประตูทางทิศเหนือให้แก่เขตเพลิงทักษิณ

สภาพแวดล้อมในการฝึกฝนของเขตเพลิงทักษิณย่อมสู้เขาคุนหลุนไม่ได้ แต่ก็เป็นแดนอุดมสมบูรณ์ระดับสุดยอดไม่ด้อยไปกว่าเขตมหานภากลาง

เขาลีลาหงส์ซึ่งเคยเป็นที่อยู่ของเนินต้นจักรพรรดิเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ที่โด่งดัง มีปราณวิญญาณเต็มเปี่ยม

ทว่าเนี่ยจิงเสินกลับไม่เลือกสถานที่ที่คล้ายกัน ไม่มีผู้ติดตาม ไม่มีลูกศิษย์ เพียงปลูกกระท่อมบนเกาะเล็กๆ ใจกลางทะเลสาบในบึงพันทะเลสาบ ฝึกฝนอยู่ในกระท่องมุงจากนี้คนเดียว

เขาไม่เคยถามไถ่เรื่องราวในเขตเพลิงทักษิณ มอบพื้นที่ให้แก่เยี่ยนจ้าวเกอกับเขากว่างเฉิงอย่างชัดเจน

นี่กลายเป็นเหตุการณ์ประหลาดบนโลกซ้อนโลก ไม่เคยมีผู้ใดกระทำมาก่อน บางทีอาจจะเป็นนิวาสสถานของประมุขทักษิณที่หยาบที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลกซ้อนโลกแล้วก็ได้

หยาบจนถึงขั้นอลังการ

เนี่ยจิงเสินอาจจะเป็นประมุขทักษิณที่มีอำนาจและอิทธิพลน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์

ทว่า เขากลับสมควรเป็นประมุขทักษิณที่มีพลังฝึกปรือและความสามารถแข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์เช่นกัน

“ทั่วทั้งเขากว่างเฉิงของข้าล้วนรับรู้วีรกรรมของศิษย์พี่เนี่ยท่าน ท่านไม่จำเป็นต้องอยู่ที่บึงพันทะเลสาบจริงๆ” เยี่ยนจ้าวเกอเกลี้ยกล่อม “สภาพปราณวิญญาณของที่นี่ด้อยกว่าเขาคุนหลุนมาก ไม่ส่งผลดีต่อการฝึกฝนของท่าน”

เนี่ยจิงเสินไม่ได้เย็นชาเหมือนเช่นตอนเผชิญกับพวกเฉินเฉียนหัว บัดนี้เขายิ้มจางๆ “หาเป็นไรไม่ สภาพของเขาคุนหลุนแม้จะดี แต่ว่าสงบสุขเกินไป ข้าบางครั้งบางคราวก็จำเป็นต้องเคี่ยวกรำคมกระบี่ในที่ที่แร้นแค้นบ้าง”

………………..