ภาค 11 คุนหลุนกลาง กว่างเฉิงบูรพา บทที่ 1129 รอวันนี้มานานแล้ว

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอออกจากจวนวายุอัสนี ก็มุ่งหน้าไปยังเขาคุนหลุนทันที เพื่อไปยังหุบเขาเซียนเร้นกายอันเป็นนิวาสสถานที่บำเพ็ญของกษัตริย์เร้นลับก่อน

ไม่มีเรื่องน่าประหลาดใจ กษัตริย์เร้นลับยังคงเข้าฌานไม่ออกมา

เยี่ยนจ้าวเกอต้องรักษาของที่ได้รับจากฉู่หลีหลีในมรกตท่องฟ้าไว้ก่อน

ชายหนุ่มออกจากหุบเขาเซียนเร้นกาย เดินทางไปยังเขานครหยกยอดเขาเป่ยเกา หลังจากถึงแล้วก็ทักทายพวกหวังผู่

ชิวเจียไห่ได้รับการไหว้วานจากเยี่ยนจ้าวเกอให้จัดการเรื่องของตึกความลับฟ้า จึงไม่ได้อยู่บนภูเขา

คนที่ไปด้วยยังมีเสี่ยวอ้าย

ไม่ผิด เสี่ยวอ้ายเป็นคนที่เยี่ยนจ้าวเกอวางไว้จัดการตึกความลับฟ้าโดยเปลือกนอก

ถึงแม้อาการบ้าผู้ชายและโลภสิ่งของจะกำเริบเป็นช่วงๆ มักทำท่าเป็นยาโถวน้อยต่อหน้าเยี่ยนจ้าวเกอ แต่ครั้งกระโน้นนางได้ติดตามเสวี่ยชูฉิงขึ้นเหนือล่องใต้ ได้ประสบการณ์มากมาย มีความสามารถเฉพาะตัว

บางทีอาจจะยังเดียงสา แต่ก็มีศักยภาพให้ฟูมฟัก บวกกับยังมีชิวเจียไห่คอยดูแล จึงไม่น่าเกิดปัญหา

ดังนั้นหลังจากเริ่มธุรกิจอย่างเป็นทางการ นางจะลดราคาให้แก่ลูกค้าที่นางมองว่าหล่อเหลาหรือไม่ เยี่ยนจ้าวเกอได้แต่ปิดตาข้างหนึ่งลืมตาข้างหนึ่งแล้ว

‘อย่าติดกับแผนชายงาม ถูกใส่กระสุนเคลือบน้ำตาลเป็นอันใช้ได้’ เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวในใจโดยคิดในแง่ร้าย

สำหรับเสี่ยวอ้ายซึ่งที่แล้วมาโลภในสมบัติ การดูแลหอเก็บของล้ำค่าเช่นนี้เป็นงานในฝันในงานในฝัน ต่อให้นางไม่อาจครอบครองสิ่งของ แต่ขอแค่ได้สัมผัส ก็ก่อให้เกิดความรู้สึกโชคดีอย่างมหาศาลแล้ว

เป็นเช่นนี้แล้ว เสี่ยวอ้ายจึงไม่อาจคอยปรนนิบัติอยู่ข้างกายเยี่ยนจ้าวเกอได้อีก เมื่อสูญเสียสถานะหญิงรับใช้ ขณะที่นางรับหน้าที่ก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์อยู่บ้าง

นางยังไม่ชินกับการเปลี่ยนจากสาวใช้มาเป็นผู้ดูแล

“ของที่จำเป็นต้องเก็บรวบรวม เจ้าบอกไว้เมื่อก่อนหน้าได้รับการจัดการอย่างดี และถูกส่งไปที่หุบเขาผีเสื้อมังกรแล้ว” หวังผู่ว่า “ของอย่างอื่นยังมีน้อย ภายหลังเมื่อมีไปเสริม จะส่งไปในทันที”

เยี่ยนจ้าวเกอปรบมือ “ประเสริฐยิ่ง รบกวนศิษย์พี่หวังแล้ว”

เขาเลือกส่วนที่สามารถสะดวกเล่าจากในบรรดาเรื่องที่ประสบพบเจอในการเดินทางครั้งนี้ของตน เพื่อเล่าให้หวังผู่ฟัง

“พวกเราจับตาดูสถานการณ์ของจักรพรรดิแพรอย่างใกล้ชิดเถอะ”

หวังผู่มีความคิดคล้ายกับหลิวเจิงกู่ในเรื่องการต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิแพรขาวดำ

หลังจากสนทนากับเยี่ยนจ้าวเกอเสร็จ เขาก็เปลี่ยนมุมมอง สนับสนุนจักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาวแทน

กระนั้นตอนนี้ไม่ทราบว่าจักรพรรดิแพรดำขาวไปอยู่ที่ใด พวกเขามีความสามารถแต่ก็ใช้ไม่ได้อยู่ดี ได้แต่คอยดูสถานการณ์ไปก่อน

“ถ้าหากการวินิจฉัยนิสัยของจักรพรรดิแพรขาวดำของเจ้าถูกต้อง กลับจำเป็นต้องระวังเรื่องหนึ่งไว้ก่อน” หวังผู่ครุ่นคิดพักหนึ่ง ก็โพล่งว่า “ระวังจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำส่งเสียงบูรพาตีประจิม ใช้ธงจตุกำเนิดดึงดูดความสนใจของจักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาว หันหัวหอกอย่างฉับพลัน”

เยี่ยนจ้าวเกอเข้าใจว่าเขาหมายถึง ต้องป้องกันจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำสลัดหลุดจากจักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาว เข่นฆ่ากลับโลกซ้อนโลก โจมตีฟู่ถิงและเมิ่งหว่านสองพี่น้อง รวมถึงลอบคิดบัญชีกับเยี่ยนตี๋เพื่อชิงเมฆแปลงกำเนิด

“ศิษย์พี่หวังเตือนได้ถูกต้อง” เยี่ยนจ้าวเกอค้อมศีรษะ “ก่อนหน้านี้ข้าได้คุยกับท่านพ่อแล้ว แม้ความเป็นไปได้นี้จะต่ำ แต่ก็ไม่อาจไม่ป้องกัน”

สถานการณ์ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำหรือจักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาว คิดจะเลื่อนระดับขึ้นต่อไปจำเป็นต้องกำจัดอีกฝ่ายก่อน

นี่เป็นพื้นฐานของทุกสิ่ง ต่อจากนี้ค่อยพูดถึงอย่างอื่น

ธงจตุกำเนิดย่อมส่งผลสำคัญที่สุดในการต่อสู้ระหว่างทั้งสอง

จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำหากยินยอมละทิ้งธงจตุกำเนิด กลับโลกซ้อนโลกมาจัดการปัญหาด้านอื่น จะต้องมีความเสี่ยงอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่พอคำนวณผลได้ผลเสียให้ดี ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

เมื่อไม่มีธงจตุกำเนิด จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำสู้จักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาวไม่ได้ กระนั้นเขาก็ใช่ว่าต้องเผชิญจักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาวเพียงคนเดียว

การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่การต่อสู้เพียงลำพัง ชัยชนะในตอนสุดท้ายจึงนับว่าเป็นชัยชนะ

“ถ้าท่านอาจารย์กลับมา จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำจะไม่ยอมเสี่ยง” หวังผู่กล่าว “หากประสงค์ร้ายกับอาจารย์อาเยี่ยน ท่านอาจารย์จะต้องไม่ปล่อยเขาแน่นอน”

“ถ้าเขาคิดจะลงมือกับอาจารย์อาเยี่ยน ต้องมีความมั่นใจมากพอ หลังจากสำเร็จแล้วต้องรุดหน้าขึ้นอีกหนึ่งก้าวในระยะเวลาสั้นๆ กลายเป็นกษัตริย์คนใหม่ให้ได้ และต้องมีความเชื่อมั่นว่าจะรับมือเมื่อท่านอาจารย์คิดบัญชีกับเขาได้ เช่นนี้แล้วถึงจะสำเร็จ ไม่อย่างนั้นเมื่อคำนวณแล้วจะมีผลเสียมากกว่าผลดี เขาย่อมไม่ยอมลงมือง่ายๆ”

ทว่าตอนนี้หวังผู่ก็ไม่แน่ใจว่ากษัตริย์กระบี่จะกลับโลกซ้อนโลกตอนไหน “ที่แล้วมาท่านอาจารย์ไม่กลับ ไม่ทราบว่าจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำจะมีโอกาสยอมเสี่ยงขนาดไหน”

“บางทีเขาอาจติดต่อให้คนอื่นลงมือป้องกันอาจารย์ลุงให้ตัวเขา” เยี่ยนจ้าวเกอหัวเราะ “ถ้ามีแค่เขามาเสี่ยงคนเดียว ตอนนี้โอกาสที่จะสำเร็จคงน้อยยิ่ง”

หวังผู่ได้ยินก็ยิ้มขึ้น

เนี่ยจิงเสินก้าวสู่ระดับประมุข แตกต่างกับการเลื่อนระดับเป็นประมุขของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าคนอื่นๆ โดยสิ้นเชิง ในฐานะผู้ฝึกกระบี่ ถนัดโจมตีไม่ถนัดป้องกัน เมื่อเผชิญจักรพรรดิเซียนจริงแท้ เขาความจริงใช่ว่าจะทำได้ดีกว่าเฉินเฉียนหัว

แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ เนี่ยจิงเสินก็ไม่เหมือนกับมนุษย์เซียนตามความหมายทั่วไป เขาพอเลื่อนเป็นระดับประมุขในหมู่คน แรงกดดันที่จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำนำมาจะลดลงมาก ยิ่งไปกว่านั้นกษัตริย์กระบี่ยังได้ทิ้งอาวุธเซียนไว้บนโลกซ้อนโลก

หลังจากเยี่ยนจ้าวเกอปรึกษาเรื่องราวอื่นๆ กับหวังผู่เสร็จแล้วก็บอกลา ออกจากยอดเขาเป่ยเกา มุ่งหน้าไปยังหุบเขาผีเสื้อมังกร

ที่แห่งนั้นก่อนหน้านี้มีจอมยุทธ์เขานครหยกเช่นพวกหวังผู่ช่วยเหลือ จึงเตรียมการก่อนเวลาไว้มากมาย

อาหู่กำลังรออยู่ที่นั่น พอเห็นเยี่ยนจ้าวเกอมาก็ฉีกยิ้มกว้าง “คุณชาย ท่านกลับมาแล้ว”

“มีแต่เรื่องต้องกังวล” เยี่ยนจ้าวเกอแตะนิ้วกับริมฝีปากพลางพูด “ช่างเถอะ วันนี้นับว่าเรียบร้อยไปส่วนหนึ่ง สามารถจัดการแผนการก่อนหน้าได้แล้ว”

เขายืนอยู่กลางหุบเขาผีเสื้อมังกร รู้สึกถึงความปรวนแปรของปราณวิญญาณในที่แห่งนี้ มุมปากยกเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย

เขากระทืบเท้าเบาๆ หุบเขาทั้งหุบพลันเริ่มสั่นไหว

ลวดลายอาคมหลายสายสว่างขึ้น แล้วขยายออกไปรอบๆ กลายเป็นค่ายกลอาคมขนาดใหญ่โต ครอบคลุมหุบเขาเอาไว้

วินาทีถัดมา แสงของลวดลายอาคมค่อยๆ มืดจางลง มองดูจากด้านนอกไม่เห็นเลศนัยอันใด แต่ว่าบนพื้นที่ในหุบเขาทิ้งเป็นร่องรอยหลายสาย

ใยดินในหุบเขาสั่นไหว ปราณวิญญาณหลายสายทะลักออกมาจากใต้ดินคล้ายกับน้ำพุ

“ขึ้น!” อาหู่ได้รับคำสั่งจากเยี่ยนจ้าวเกอมาแต่แรก ยกเตากระถางขึ้นเตาแล้วเต่เล่า แล้วโยนไปบนตาน้ำพุที่มีปราณวิญญาณหลายสายทะลัก

เตากระถางทั้งหมดเก้าเตายามนี้ฝาเปิดออกพร้อมกัน ไฟเตาลุกไหม้ขึ้นมาเอง

ปราณวิญญาณที่พรั่งพรูในใยดิน ถูกเหนี่ยวนำสู่ด้านในเหมือนกับเชื้อไฟ

พร้อมกับที่เตากระถางทั้งเก้าเตาหมุนวนพร้อมกัน ผสานเป็นสภาวะค่ายกลทางอ้อม ก็เริ่มกระตุ้นวงโคจรของปราณวิญญาณระหว่างฟ้าดินทั้งหมดให้พุ่งมาอยู่กลางหุบเขา

การไหลเวียนของปราณวิญญาณในเขาคุนหลุนเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยมีหุบเขาผีเสื้อมังกรเป็นศูนย์กลาง

“เยี่ยมมาก” เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นก็พยักหน้าอย่างพอใจ

“คุณชาย พวกเราจะเริ่มจากตรงไหนก่อน” อาหู่ถามอย่างสัตย์ซื่ออยู่ด้านข้าง “สายฟ้าเทวราชดีหรือไม่ จวนวายุอัสนีนั่นเอาใส่ใจดี พวกเราควรมอบของหวานให้แก่พวกเขา ให้พวกเขาเกิดความต้องการมากกว่าเดิม และเพิ่มกำลังซื้อมากกว่าเดิม”

เยี่ยนจ้าวเกอดีดนิ้ว “สายฟ้าเทวราชอยู่อันดับที่สอง พวกเราหลอมของอย่างอื่นก่อน เป็นของที่ตัวเองใช้ได้ก่อน ข้ารอวันนี้มานานแล้ว”

………………..