ภาค 11 คุนหลุนกลาง กว่างเฉิงบูรพา บทที่ 1131 ผู้คนรอคอย

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ในช่วงที่เยี่ยนจ้าวเกอเร้นกายหลอมอุปกรณ์อยู่ในหุบเขาผีเสื้อมังกร กาลเวลาก็เลยผ่าน วันคืนเคลื่อนคล้อย พริบตาเดียวผ่านไปอีกเกือบหนึ่งปี

ในหนึ่งปีนี้ โลกซ้อนโลกสงบลงกว่าก่อนหน้ามาก สิ่งที่น่าสนใจที่สุดก็คือจักรพรรดิแพรขาวและดำกลับโลกซ้อนโลกตามลำดับ

การต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาวและอาภรณ์ดำ คล้ายกับจักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาวได้เปรียบมากกว่า แย่งชิงธงจตุกำเนิดอันเป็นอาวุธเซียนมาสำเร็จ

ตอนที่อาหู่ส่งข่าวนี้ให้เยี่ยนจ้าวเกอ ชายหนุ่มรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ตามการคาดการณ์ของเขาหากไม่มีแรงภายนอกเข้าแทรกแซง การต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิแพรดำขาว สมควรเป็นจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำเป็นฝ่ายลงมือได้ก่อนถึงจะถูก

‘มีคนอื่นสอดมือหรือ’ เยี่ยนจ้าวเกอคล้ายนึกอะไรได้

จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำกลับโลกซ้อนโลกก่อน หลังจากหยุดอยู่พักหนึ่งก็ออกจากโลกซ้อนโลกไปยังมิติต่างแดน

จักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาวติดตามไปติดๆ หลังจากหยุดพักอยู่สักพักก็ไล่ตามจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำไปต่อ

กระนั้น ตอนที่จักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาวกลับโลกซ้อนโลก ฟู่ถิงกับเมิ่งหว่านได้พบกับเขา

ฟู่ถิงถ่ายทอดหมัดแปลงกำเนิดที่ได้จากการแลกเปลี่ยนกับเยี่ยนจ้าวเกอให้แก่จักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาว

ดังนั้น ในที่สุดวิชาห้ากำเนิดแรกเริ่มในการสืบทอดของยอดเขาอัศจรรย์จึงมีครบสมบูรณ์

ความรู้สึกในใจของจักรพรรดิแพร เกรงว่าจะมีแต่ตัวเขาที่ทราบ

จักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาวไม่ได้แสดงความไม่เห็นด้วยต่อการใช้ดัชนีต้นกำเนิด ร่างกาลอวกาศกำเนิดและร่างสสารกำเนิดไร้ประมาณไปแลกเปลี่ยนกับหมัดแปลงกำเนิดวิชาเดียวของฟู่ถิง

การตัดสินว่าสิ่งของอย่างหนึ่งมีราคาขายสูงหรือต่ำ ไม่อาจเพียงแค่ดูที่คุณค่า ยังต้องดูด้วยว่าผู้ซื้อต้องการซื้อขนาดไหน ยิ่งมีความต้องการมากเท่าไร คุณค่าของมันก็ยิ่งสูงเท่านั้น

ดังนั้น การใช้สามแลกหนึ่งในแลกเปลี่ยนครั้งนี้ เยี่ยนจ้าวเกอย่อมได้กำไรแล้ว และยอดเขาอัศจรรย์ก็ไม่ได้ขาดทุน

โดยเฉพาะจักรพรรดิแพรอาภรณ์ขาวที่ได้รับหมัดแปลงกำเนิดก็มีพลังเพิ่มขึ้น

บวกกับมีธงจตุกำเนิดอันเป็นอาวุธเซียน ตอนนี้ยามที่เผชิญหน้ากับจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำ ถ้าสู้กันตามลำพังจะมีความได้เปรียบอย่างเต็มเปี่ยม แต่ถ้ามีแรงภายนอกเข้าแทรกแซง สถานการณ์ก็จะไม่ชัดเจนแล้ว

ปัจจุบันจักรพรรดิแพรดำขาวหนึ่งหนีหนึ่งไล่ มุ่งหน้าไปยังมิติต่างแดนอีกครั้ง พวกเยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่บนโลกซ้อนโลกได้แต่คอยจับตาดูเงียบๆ

สำหรับเยี่ยนจ้าวเกอและเขากว่างเฉิง ยังมีเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญเรื่องหนึ่งเกิดขึ้น ถือเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่งทีเดียว

เยี่ยนตี๋ บิดาของเยี่ยนจ้าวเกอ ผู้รับตำแหน่งเจ้าสำนักคนปัจจุบันของเขากว่างเฉิงได้รุดหน้าขึ้นอีกขั้น เลื่อนสู่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้าย

เดิมทีเยี่ยนตี๋แน่วแน่มุ่งมั่น พลังฝึกปรือพุ่งทะยาน ไม่มีสิ่งใดขวางกั้นอยู่แล้ว ครั้นมีพิธีเจ็ดแก่นโคจรช่วย ก็ประหยัดเวลาได้อีกขั้นหนึ่ง การเพิ่มขึ้นของระดับพลังฝึกปรือของเขายิ่งทำให้ผู้คนสั่นสะท้าน

ถึงแม้ข่าวนี้จะไม่ได้กระจายเป็นวงกว้าง แต่ก็ทำให้ยอดฝีมือระดับสูงที่ทราบเรื่องบนโลกซ้อนโลกต่างรู้สึกตะลึงลาน

จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนที่ได้สังหารประมุขคนหนึ่งกับมือ ปัจจุบันมีพลังฝึกปรือยิ่งมายิ่งเข้าใกล้ระดับประมุขแล้ว เมื่อเขาเลื่อนเป็นประมุข สำเร็จร่างมนุษย์เซียน จะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นบ้างนั้น บันดาลให้ผู้คนต้องขบคิดอย่างแท้จริง

ตัวเยี่ยนจ้าวเกอ นอกจากจะใช้เวลาไปกับการหลอมอุปกรณ์แล้ว การฝึกฝนประจำวันก็ไม่ได้ละทิ้ง

เขาครอบครองคัมภีร์พลิกฟ้า พอมาถึงระดับพลังฝึกปรือในปัจจุบัน การกระทำทุกอย่างในยามปกติจะมีลมปราณโคจรอยู่ตลอดเวลา สั่งสมอย่างเงียบๆ

ไม่ว่าจะทำอะไรล้วนเหมือนกับกำลังฝึกฝน เพียงแต่มีความแตกต่างด้านประสิทธิภาพเท่านั้น

การหลอมของวิเศษจำนวนหนึ่ง และได้ศึกษาหลักการข้างใน เดิมทีก็ส่งผลต่อการฝึกฝนของเขาอยู่แล้ว

พร้อมกับที่เวลาผ่านไป ระยะเวลาหนึ่งปีที่พวกเหิงเซียนต๋าเจ้าของจวนวายุอัสนีนัดไว้ก็ใกล้จะมาถึงแล้ว

ในช่วงนี้ นอกจากจะมอบสายฟ้าเทวราชจำนวนหนึ่งให้แก่จวนวายุอัสนี เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่ได้แพร่งพรายน้ำพักน้ำแรงในหุบเขาผีเสื้อมังกรออกไปด้านนอก

ตึกความลับฟ้าได้จัดตั้งสำเร็จแล้ว เพียงแต่ข้างในยังคงว่างเปล่า

สืบเนื่องจากการช่วยป่าวประกาศของจวนวายุอัสนี กอปรกับมีลูกศิษย์ของกษัตริย์กระบี่ช่วยรับรอง ปัจจุบันชื่อของตึกความลับฟ้าจึงโด่งดังขึ้นมา ดึงดูดความสนใจของทุกคน กลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่สุดบนโลกซ้อนโลกในตอนนี้ นอกเหนือจากการต่อสู้ระหว่างจักรพรรดิแพรดำขาวโดยสมบูรณ์

การป่าวประกาศถือว่าทำได้ดี แต่ก็ยังไม่เห็นการเปิดกิจการอย่างเป็นทางการ จึงไม่อาจหลีกเลี่ยงไม่ให้มีเสียงครหาได้

ความอดทนของทุกคนกลังถูกท้าทายอย่างต่อเนื่อง

ขุมกำลังที่คุ้นเคยกับจวนวายุอัสนี ไปจนถึงคุ้นเคยกับเขานครหยกยอดเขาเป่ยเกา ต่างเริ่มส่งคนไปสืบข่าวไม่หยุด

“พี่เหิง ท่านช่วยบอกข้าที” ชายชราชุดแพรคนหนึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งแขกในจวนวายุอัสนี ถามเหิงเซียนต๋า “ตึกความลับฟ้านี้ความจริงมีแค่เปลือกนอก หรือว่าเป็นของจริง?”

จวนวายุอัสนีช่วยโฆษณาให้แก่ตึกความลับฟ้า ถ้าหากว่าสุดท้ายตึกความลับฟ้าว่างเปล่า จวนวายุอัสนีคงถูกผู้คนหัวเราะเยาะ

“น้องจงโปรดวางใจ อดทนอีกหน่อยเถอะ เดี๋ยวก็จะมีข่าวเอง” เหิงเซียนต๋าไม่รีบไม่ร้อน ยังคงเยือกเย็น

สายฟ้าเทวราชที่ได้มาจากเยี่ยนจ้าวเกอแม้จะมีจำนวนจำกัด แต่ก็ทำให้ทั่วทั้งจวนวายุอัสนีสบายใจแล้ว

บางทีอาจเป็นเพราะเยี่ยนจ้าวเกอไม่มีวิธีหลอมสร้างสายฟ้าเทวราช เพียงแต่ได้สายฟ้าเทวราชจำนวนหนึ่งมาโดยบังเอิญ

บางทีอาจะเป็นเพราะเยี่ยนจ้าวเกอครอบครองวิธีหลอมสร้างสายฟ้าเทวราช แต่ปัจจุบันเพราะต้องการเก็บเป็นความลับ ป้องกันไม่ให้จวนวายุอัสนีแกะสูตรได้ ดังนั้นจึงมอบสายฟ้าเทวราชให้แค่น้อยๆ

ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหน ตอนนี้ก็มากพอจะคลายความกังวลให้แก่พวกเหิงเซียนต๋าได้แล้ว

“น้องจง พวกเราเป็นคนรู้จัก คบหากันมานานแล้ว” เหิงเซียนต๋ากล่าวอย่างมีเลศนัย “อย่าว่าข้าไม่ได้บอกกล่าวก่อน ถ้าท่านคิดจะทำอะไร จำเป็นต้องเตรียมตัวเองไว้ ตามที่ข้าทราบ ตึกความลับฟ้านั้นอาจจะขายสุราภูตผี”

ชายชราเสื้อแพรแซ่จงพอฟังดังนั้น สายตาก็เปลี่ยนเป็นคมกริบ นั่งตัวตรง “สุราภูตผี? ว่ากันว่านั่นเป็นสุราเลิศรศก่อนวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ที่วังเทพใช้สำหรับเลี้ยงแขก?”

“ไม่ผิด นั่นเป็นสุราภูตผี” เหิงเซียนต๋ากล่าว “วังเทพมีสุราเลิศรสมากมาย ถึงแม้สุราภูตผีจะเป็นสุราคุณภาพต่ำ แต่สำหรับมนุษย์แล้ว ถือเป็นของล้ำค่าที่หายาก”

ชายชราแซ่จงเข้าใจดี

สำหรับสำนักที่เขาเป็นผู้นำ ยิ่งล้ำค่ามากล้น

สุราภูตผี เมื่อดื่มกินจะฟื้นฟูกำลังขึ้นมหาศาล แม้จะไม่ส่งผลต่อเซียนจริงแท้ไร้ช่องโหว่ แต่กลับแสดงผลลัพธ์กับมนุษย์ธรรมดาชัดเจนกว่า

วรยุทธ์ที่ชายชราแซ่จงฝึกฝนคือวิชาที่ให้ความสำคัญกับพละกำลัง เดินบนวิถีสภาวะยิ่งใหญ่พลังหนักแน่น กำลังมหาศาล

สุราภูตผีเป็นวาสนาอันยิ่งใหญ่สำหรับชายชราแซ่จงและคนในสำนัก เหนือกว่าของวิเศษอื่นใด

“พี่เหิง เพื่อช่วยสร้างชื่อให้แก่ตึกความลับฟ้า ท่านลงแรงไม่น้อยทีเดียว!” ชายชราแซ่จงชี้เหิงเซียนต๋า กล่าวอย่างจนปัญญา

เหิงเซียนต๋าหัวเราะฮ่าๆ “ท่านไม่ต้องเชื่อข้าก็ได้ แต่ถึงเวลาหากถูกคนแย่งไป อย่าหาว่าข้าไม่เตือน ว่ากันว่าสุราภูตผีนั่นมีจำกัด”

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ข้าจะต้องกลับไปเตรียมตัวแล้ว” ชายชราแซ่จงสีหน้าเปลี่ยนเป็นจริงจัง “ถ้าหากข่าวได้รับการยืนยัน สุดท้ายได้ของมา จะขอส่งของขวัญให้แก่พี่ท่าน”

เหิงเซียนต๋าพยักหน้ายิ้ม “น้องจงเกรงใจแล้ว ท่านได้ประโยชน์อะไร ข้าย่อมดีใจ”

เรื่องราวคล้ายกัน เกิดขึ้นไม่ต่ำกว่าหนึ่งครั้ง

ไม่เพียงแต่สุราภูตผีเท่านั้น ยังมีของล้ำค่าในตำนานอีกมากมาย ข่าวที่ส่งออกมาจากตึกความลับฟ้าดึงดูดความสนใจของทุกคน

คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มรอคอยวันที่ตึกความลับฟ้าเปิดอย่างเป็นทางการ

………………..