ตอนที่ 2480 เจ้าเคยพูดเอาไว

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

เมื่อสามบรรพบุรุษลงมือพร้อมๆ กันนั้นพลังที่แสดงออกมามันย่อมจะแทบฉีกกระชากฟ้าดิน

ภาพของสงครามสิ้นโลกในครั้งก่อนนั้นมันได้ปรากฏให้คนทั้งหลายเห็นชัดเจนแก่สายตา

ที่สำคัญไปกว่านั้นฝีมือของปั่วยี่นั้นยังแข็งแกร่งจนเรียกได้ว่าเป็นรองแค่เทียนชิงเท่านั้น!

การที่เขาเข้าร่วมศึกมันย่อมจะเปลี่ยนกระแสการต่อสู้ไปทันที

ต่อให้จะมีวิญญาณมังกรฟ้าอยู่ถึงแปดตนแล้วในตอนนี้แต่มันก็ยังถูกสามบรรพบุรุษนี้รับไว้ได้สิ้น

เมื่อพวกเขาทั้งสามใช้วรยุทธแท้เต๋าสวรรค์ออกมาพร้อมๆ กันนั้นมันย่อมจะผลักดันทำให้วิญญาณมังกรฟ้าทั้งหลายไม่อาจเข้าใกล้ได้

ในเวลานี้กำลังฝีมือของบรรพบุรุษต้นตระกูลเผ่าเทวามันได้แสดงออกมาอย่างเด่นชัด

แต่ว่าฝั่งที่น่าตกตะลึงกว่านั้นมันคือเย่หยวน!

เต๋าบรรพกาลไฟนั้นเปิดปากอ้าค้างออกมา “นี่มัน… จะไม่บ้าเกินไปหรือ? เขานั้นกลับปะทะกับสามบรรพบุรุษได้ด้วยตัวคนเดียว? ทั้งนี่เขายังไม่ทันขึ้นถึงระดับของกฎด้วยซ้ำ หากวันหน้าเขาผสานกฎอันเหนือล้ำกอปรกับพลังกายที่มหาศาลนี้ จะยังมีใครหยุดยั้งไว้ได้อีกกัน?”

หลินเฉาเถียนนั้นขมวดคิ้วแน่น “สำหรับพวกเราแล้วมันเป็นหายนะ! มิใช่เรื่องน่ายินดีเลย!”

หลินเฉาเถียนนั้นหรี่ตาลงด้วยความรู้สึกสับสนไม่รู้ต้องตื่นเต้นดีใจหรือกังวลหนักดี

เพราะการที่เย่หยวนเป็นภัยต่อเผ่าเทวาได้เช่นนี้มันย่อมเป็นเรื่องดีแก่ทุกผู้คน

แต่ตัวเขาเองก็รู้ว่าความแค้นที่พวกเขามีต่อเย่หยวนมันลึกล้ำปานใด!

ยิ่งเย่หยวนแข็งแกร่งมากขึ้นเท่าใด มันก็ยิ่งทำให้พวกเขาหลับได้ไม่เต็มตาเท่านั้น

แต่ชาวมนุษย์คนอื่นๆ ย่อมไม่ต้องกังวลเรื่องนี้

พวกเขานั้นแทบจะลุกขึ้นมาเต้นรำด้วยความยินดี ได้เห็นความหวังใหม่ในชีวิตอีกครั้ง!

เย่หยวนนั้นดึงพวกเขากลับขึ้นมาจากความสิ้นหวัง

“ท่านนักบุญฟ้าครามจงเจริญ!”

“ท่านนักบุญฟ้าครามเก่งกาจล้ำ ต้านทานเผ่าเทวาด้วยตัวคนเดียว!”

“ฮ่าๆๆ… ท่านนักบุญฟ้าครามนั้นทำเอาข้ากังวลเสียเปล่า! ด้วยกำลังของท่านนี้เผ่าพันธุ์ของเราจะยังพ่ายแพ้เผ่าเทวาใดๆ อีก?”

ชื่อเสียงของเย่หยวนนั้นมันสูงล้ำฟ้ามาเป็นทุนเดิม

เวลานี้เมื่อได้แสดงฝีมือเหนือล้ำออกมาต่อสู้สามบรรพบุรุษด้วยตัวคนเดียวนั้น มันย่อมทำให้ความชื่นชมของคนทั้งหลายพุ่งทะยานล้ำไปกว่าเก่าก่อน

เหล่ายอดฝีมือชาวมนุษย์ทั้งหลายนั้นไม่ว่าจะเป็นชายหญิงแก่หนุ่มใดๆ ต่างมองดูเย่หยวนราวกับเขาเป็นพระผู้เป็นเจ้าผู้ลงมาโปรด!

เวลานี้เย่หยวนนั้นมิใช่แค่คนที่พวกเขานับถือ แต่กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความน่านับถือไป!

พวกเขานั้นเชื่อมั่นสุดใจว่าเย่หยวนจะพาพวกเขาทั้งหลายสู่ชัยชนะ!

แต่ในเวลานั้นเองตัวเย่หยวนก็มีเหงื่อไหลลงมาเต็มหน้า

การเชิญวิญญาณมังกรฟ้าทั้งแปดออกมานี้มันมิใช่เรื่องง่ายๆ!

แต่มือของเขานั้นก็ยังไม่หยุดลง!

ได้เห็นเช่นนั้นเทียนชิงก็ต้องเบิกตากว้างร้องลั่นขึ้นมา “ให้ตายสิ เจ้าเด็กคนนี้มันคงไม่คิดจะเรียกเก้ามังกรจุติโลกออกมาจนครบใช่ไหม?”

เสียงของเขายังไม่ทันจางหายมิติมันก็เกิดการสั่นไหวขึ้น

หัวของมังกรทองตัวหนึ่งค่อยๆ โผล่ออกมา

และราวกับว่ามันสัมผัสได้ถึงการปรากฏตัวนี้วิญญาณมังกรฟ้าที่เหลือทั้งแปดนั้นมันกลับมีพลังต่อสู้เพิ่มพูนขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

หลงยี่นั้นในฐานะผู้นำเผ่ามังกรต้องลุกขึ้นกระโดดอย่างตกตะลึง

“วิญญาณมังกรที่เก้า! นี่มันเป็นภาพที่ไม่อาจเอาอะไรมาเทียบเคียงได้ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน! มังกรทั้งเก้าปรากฏขึ้นมาพร้อมๆ กันนั้นมันไร้เทียมทานในฟ้าดิน! หากวิญญาณมังกรที่เก้ามาถึงจริงๆ แล้วเทียนชิงนั้นมันจะยังมีค่าใด? เผ่ามังกรของข้านี้จะเป็นผู้กำราบเผ่าเทวาเอง!” หลงยี่ร้องลั่นขึ้นด้วยร่างกายที่สั่นเทา

เพราะภาพนี้มันเป็นอะไรที่กระตุ้นลึกลงไปถึงจิตวิญญาณ

แต่ในเวลานั้นเองสีหน้าของเย่หยวนมันก็ซีดขาวลงเรื่อยๆ ด้วยความเหนื่อยอ่อน

วิญญาณมังกรที่เก้านี้มันไม่เหมือนตนก่อนๆ เพราะมันค่อยๆ โผล่ออกมาจากห้วงมิติแค่ทีละน้อย

แต่การค่อยๆ โผล่ออกมาทีละน้อยนั้นมันกลับค่อยๆ เพิ่มพลังให้แก่วิญญาณมังกรฟ้าทั้งแปดไปอย่างมากมายมหาศาล!

กำลังของพวกมันนั้นพุ่งทะยานล้ำ!

เดิมทีบรรพบุรุษทั้งสามนั้นร่วมมือกันกดดันวิญญาณมังกรฟ้าทั้งแปดไว้ได้

แต่เวลานี้ทั้งสองฝ่ายกลับเริ่มมาเสมอกันแล้ว!

เทียนชิงนั้นหรี่ตาลงมองด้วยความสั่นสะท้านสุดใจ

มองดูเช่นนี้แล้วหากวิญญาณมังกรฟ้าตนที่เก้าหลุดออกมาจนหมดนั้นมันคงเอาชนะได้แม้แต่ตัวเขา

เขานั้นสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะกล่าวออกมาด้วยใบหน้าเหยเห “เจ้าเด็กคนนี้มันไม่รู้จักคำว่าหยุดจริงๆ!”

เขานั้นได้แต่ร้องตะโกนในใจขอให้มันไม่ออกมา!

เพราะหากเย่หยวนนั้นเรียกวิญญาณมังกรฟ้าตนที่เก้าออกมาได้จริง เผ่าเทวาคงได้จบลงในวันนี้แน่

แต่วิญญาณมังกรฟ้าตนที่เก้านั้นมันก็ยังค่อยๆ โผล่ออกมา

ไม่นานนักเหล่าบรรพบุรุษทั้งสามก็ถูกวิญญาณมังกรฟ้าทั้งแปดนั้นกดดันจนเริ่มเสียเปรียบ

แต่ว่าในวินาทีนั้นเองที่เย่หยวนกระอักเลือดคำโตออกมาพร้อมมือที่หยุดลง

วิญญาณมังกรฟ้าตนที่เก้านั้นจางหายไปเหมือนไม่เคยปรากฏขึ้นมา

แรงสั่นสะเทือนในห้วงมิตินั้นมันได้หยุดลงในที่สุด

เมื่อวิชาของเย่หยวนถูกขัดลงเช่นนี้วิญญาณมังกรฟ้าที่เหลือทั้งแปดตนเองก็บินหายกันไปคนละทิศละทางเช่นกัน

เหล่ามนุษย์ทั้งหลายนั้นต่างได้แค่ถอนใจด้วยความเสียดาย

“เฮ้อ! อีกแค่นิดเดียว นิดเดียวเท่านั้น! น่าเสียดายนัก! น่าเสียดายจริงๆ!” หลงยี่นั่นตบขาตัวเองด้วยท่าทางเสียดายสุดใจ

การมาถึงของเก้ามังกรพร้อมๆ กันนั้นมันจะทำให้ฟ้าดินต้องสั่นสะท้าน!

เรื่องราวเช่นนั้นมันทั้งน่าตื่นตะลึงและศักดิ์สิทธิ์กับเขา แต่มันยังขาดไปเพียงนิด!

หยวนเซี่ยว อี้เฟิงและปั่วยี่ทั้งสามนั้นต่างทิ้งตัวลงหอบหายใจมองดูเย่หยวนอย่างตกตะลึง

พวกเขานั้นไม่เคยนึกฝันว่าตนเองจะถูกกดดันจนมีสภาพเช่นนี้เข้าวันหนึ่ง

เมื่อเทียนชิงได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนใจยาวด้วยความโล่ง

โชคยังดีที่พลังเลือดของเย่หยวนนั้นมันไม่มากพอที่จะเรียกมังกรฟ้าตนที่เก้า

ไม่เช่นนั้นพวกเขาทั้งหลายคงได้ถอยทัพกลับลงมิตินรกแน่

เย่หยวนนั้นหอบหายใจด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อนอย่างถึงที่สุด

เขานั้นเรียกได้ว่าใช้พลังเลือดที่มีทั้งหมดออกมาเพื่ออัญเชิญมังกรฟ้าตนที่เก้า

แน่นอนว่าเวลานี้เขาย่อมจะหมดแรงต่อสู้ใดๆ

แต่ในพริบตาเดียวกันนั้นเองมันก็ได้ปรากฏเงาร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาช้อนรับตัวเย่หยวนไว้บนหลัง

อู๊ดๆ!

เงาร่างที่มารับเย่หยวนไว้นี้มันย่อมเป็นหมูสมบัติแล้ว!

การปรากฏตัวของเจ้าหมูสมบัติมันทำให้เทียนชิงหน้าถอดสีอีกครั้ง

เพราะเขานั้นย่อมจะได้ยินเรื่องของหมูที่ปะทะกับสองเต๋าบรรพกาลได้อย่างสูสีมาก่อนแล้ว!

ข้างกายเย่หยวนนั้นมันกลับยังมีตัวตนสุดแกร่งเช่นนี้อยู่

เย่หยวนทิ้งร่างลงบนหลังของหมูสมบัติก่อนจะหันไปมองเทียนชิง “เทียนชิง เจ้าจะรับคำขู่ของข้าไว้ได้หรือยังเล่า? เจ้าก็รู้ดีว่าข้านั้นยังไม่บรรลุพลังระดับกฎ! หากวันหน้าข้าขึ้นไปถึงระดับกฎแล้ว เจ้ายังมั่นใจหรือไม่ว่าข้านั้นจะไม่เป็นภัยใดๆ อีก?”

เทียนชิงได้แต่ทำหน้าเหยเก เพราะเขานั้นกำลังถูกข่มขู่!

เทียนชิงนั้นคือยอดฝีมือที่ต่อสู้ผ่านยุคผ่านสมัย ต่อให้จะเป็นตอนที่ปะทะกับมหาบรรพกาลมิติเวลาเองเขาก็ยังสังหารอีกฝ่ายลงได้ไม่ยากเย็น

แต่วันนี้เขานั้นกลับกำลังถูกคนผู้หนึ่งข่มขู่!

เขานั้นรู้แก่ใจว่าคำพูดของเย่หยวนนั้นมันเปี่ยมด้วยเหตุผล!

หลากเผ่าพันธุ์ของมหาพิภพถงเทียนนี้ ไม่มีใครคนไหนที่จะทำให้เขาต้องเฝ้าระวัง

แม้แต่เต๋าบรรพกาลชีวิต หลินเฉาเถียนนั้นเองก็ยังไร้ค่าใด!

คนเดียวที่เขาเกรงกลัวนั้นมันก็คือเย่หยวน!

หากเป็นก่อนหน้าคำขู่ของเย่หยวนคงเป็นได้แค่เรื่องตลก

แต่เวลานี้เย่หยวนสามารถปะทะรับมือสามบรรพบุรุษได้ด้วยตัวคนเดียว ภัยในวันหน้าของเขานั้นมันมากเกินวัดได้

หลังจากที่เย่หยวนก้าวขึ้นถึงระดับของกฎแล้วกอปรกับร่างกายที่สุดแสนแข็งแกร่งนั้น เขาย่อมจะไร้ผู้ต้านทานใดๆ

และสิ่งที่น่ากลัวที่สุดของเย่หยวนมันก็คือเรื่องความเป็นอมตะของเขานั้น!

นี่มันคือภัยคุกคามอย่างแท้จริง!

เทียนชิงได้แต่ยืนเงียบไปนาน!

ฝั่งด้านมนุษย์ทั้งหลายนั้นเหล่ายอดฝีมือต่างเฝ้ามองดูเรื่องราวด้วยหวัง

สิ่งที่แม้แต่เต๋าบรรพกาลทั้งเก้ายังทำไม่ได้แต่เย่หยวนคนเดียวนี้กลับทำได้!

เขานั้นทำให้ยอดคนอันดับหนึ่งแห่งเผ่าเทวา เทียนชิงคนนั้นต้องลังเลที่จะตัดสินใจ!

หลังผ่านไปอีกนานสองนานเทียนชิงก็หรี่ตาลงกล่าวขึ้น “เผ่าเทวาของข้าขึ้นมาอยู่บนมหาพิภพถงเทียนได้! เจ้าเคยพูดเอาไว้!”

เย่หยวนยิ้มรับพร้อมพยักหน้า “ข้าพูดไว้จริง! ตะวันออกของเขาแห่งถงเทียนไปนั้นคือดินแดนของหลากเผ่าพันธุ์! ตะวันตกของเขาแห่งถงเทียนไปนั้นคือดินแดนของเผ่าเทวา!”

….