ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1431 โน้มน้าว
และแล้วเชียนหยวนล๋ายเย่ก็กลับไปกับคณาธิปอย่างว่าง่าย
ส่วนคณาธิปเอง ก็ไม่ได้คิดมาก คิดแค่ว่าเด็กสาวเพียงแค่ยังรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ รอให้ผ่านไปสักระยะเดี๋ยวก็ดีขึ้น
เพราะฉะนั้น หลังจากนั้นสองวัน นอกจากจะอยู่เฝ้าเธอในห้องผู้ป่วยแล้ว เวลาที่เหลือ ก็จะมาจัดการงานในบริษัท
ผ่านไปสองวัน เพราะใกล้จะตรุษจีนแล้ว พวกเส้นหมี่เองก็ต้องกลับไปแล้ว
ดิลก “ธิป ถ้างั้นก็อยู่ดูแลหนูเย่ที่นี่ต่ออีกสองสามวันนะ พอถึงวันตรุษจีนที่28แล้ว ก็พาเธอกลับมานะ ถึงตอนนั้นก็มาฉลองวันตรุษจีนด้วยกัน”
คำพูดที่ทำให้คนฟังรู้สึกดีใจและตั้งตารออย่างมากนั้น
คณาธิปรีบตอบตกลงทันที “ครับ”
นั่นสินะ หลายปีมาแล้ว เขายังไม่เคยฉลองวันตรุษจีนกับทุกคนเลย
แสงดาวเองก็บอกไว้ ว่าเธอจะอยู่ที่บริษัทต่อ จนกว่าเขาจะกลับมา
มีแต่ทางของเส้นหมี่และแสนรัก เมื่อเห็นบรรยากาศที่น่ายินดีนี้แล้ว เธอก็ยังคงอดไม่ไหว ถามขึ้นต่อหน้าของชายที่อยู่ข้างๆ “พี่คะ เรื่องนี้ เราไม่ต้องไปเตือนเขาจริงหรือคะ?”
แสนรักเป็นคนมีเหตุผลมาก
“เตือนอะไรกัน? บอกเขาว่ายัยเด็กนั่นกำลังปิดบังอะไรอยู่หรือ? ไม่จำเป็นหรอก บางครั้ง เรื่องบางเรื่องก็มีแต่เจ้าตัวที่จะแก้ปัญหาได้ เหมือนฉันกับเธอตอนนั้น ถ้าหากพ่อไม่แทรกมือเข้ามายุ่ง เราก็คงไม่ต้องเสียเวลาขนาดนั้นหรอกใช่ไหม?”
จู่ๆเขาก็พูดเรื่องที่ผ่านมาขึ้น
เมื่อเส้นหมี่ได้ยินดังนั้น ก็นิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น
นั่นสินะ ตอนนั้น ทั้งๆที่เป็นเรื่องที่แก้ปัญหาได้ง่ายมากแท้ๆ แต่เพราะความคิดเองเออเองของธนากร ยื่นมือเข้ามายุ่งเรื่องของพวกเขา
สุดท้าย ก็ต้องแยกจากกันอย่างทรมานถึงห้าปี
สุดท้ายเส้นหมี่ก็ล้มเลิกความคิดนี้ไป แต่ว่า ก่อนที่เธอจะจากไป ก็ได้ไปพบเชียนหยวนล๋ายเย่
“หนูเย่?”
ในห้องผู้ป่วยที่เงียบสงัด เพราะทุกคนกำลังจดจ่อแต่กับการบอกลาคณาธิป ที่นี่ก็เลยเงียบมาก
เชียนหยวนล๋ายเย่ที่กำลังนั่งเหม่อไปนอกหน้าต่างอยู่บนเตียง เมื่อได้ยินเสียงนี้ ก็รีบหันหน้ามา “พี่? มาได้อย่างไรคะเนี่ย?”
เธอรู้สึกประหลาดใจอยู่หน่อย
และในขณะเดียวกัน ก็หลบตาอย่างตื่นตระหนก
ก็ดีๆอยู่แท้ๆ จะหลบอะไรนะ?
เมื่อเส้นหมี่เห็นภาพนี้ ก็ยิ่งเชื่อคำพูดที่สามีของตนเองวิเคราะห์แล้ว
“อืม มาเยี่ยมน่ะ พวกเราจะกลับกันแล้ว ใกล้ตรุษจีนแล้ว หนูเย่ พวกเราทุกคนรอเธออยู่ที่เมืองAนะ ต้องรีบหาย แล้วกลับมาพร้อมกับพี่ธิปนะ เข้าใจไหม?”
เธอเข้าไปนั่งอยู่บนขอบเตียง แล้วกุมมือของอีกฝ่ายแล้วพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน
เชียนหยวนล๋ายเย่เงยหน้าขึ้นมาทันที
“พี่คะ พวกพี่……ไม่เกลียดหนูหรือคะ?”
“เกลียด?”
เส้นหมี่แสดงความไม่เข้าใจออกมา “ทำไมพวกเราต้องเกลียดเธอด้วยล่ะ? ทำไมถึงพูดแบบนั้น?”
“หนู……หนู…….”
ทันใดนั้นดวงตาของเธอก็แดงก่ำ ก้มศีรษะลงทันที เธอลังเลอยู่นาน แล้วจึงพูดขึ้นไม่กี่คำ ราวกับเด็กที่ทำความผิดมา
“หนู……ฆ่าพี่สาวของตัวเอง พวกพี่ไม่เกลียดหรือ? ไม่คิดว่าหนูน่ารังเกียจหรือคะ?”
“จะเป็นอย่างนั้นได้ยังไงล่ะ?” เส้นหมี่ปฏิเสธทันที
“ฉันยังคิดว่าเธอทำได้ดีมากเลยล่ะ พี่สาวของเธอคนนั้น ใจดำอำมหิตไม่มีความเป็นคนเลย เธอลืมไปแล้วหรือ? เรื่องของเธอและพนักงานทำความสะอาดตอนอยู่ที่จุดแช่น้ำพุร้อนนั่น ฉันเป็นคนทำนะ!”
“……”
ทันใดนั้น เด็กสาวก็รีบเงยหน้าขึ้นมามองลูกพี่ลูกน้องที่กำลังตบอกของตนเองอยู่ตรงหน้าเธอ ด้วยความตกตะลึงทันที
“พี่……พี่พูดจริงหรือคะ?”
“ใช่สิ ทำไมล่ะ? เธอยังไม่รู้อีกหรือ? อ้าว ฉันคิดว่าเธอรู้แล้วนะ เพราะพวกเราตระกูลหิรัญชารู้กันหมดแล้วล่ะ เพราะตอนนั้นพี่สาวของเธอคิดแผนชั่วใส่น้องชายฉัน ฉันโกรธมาก ก็เลยจัดการวางแผนใส่เธอไปน่ะ”
เส้นหมี่อธิบายไปอย่างละเอียด
น้ำเสียงนั้น แน่นอนว่าไม่มีเจตนาจะปิดบังอะไรอยู่แล้ว เธอพูดอย่างตรงไปตรงมาราวกับสิ่งที่ได้ทำลงไปนั้น ก็เพื่อมอบความยุติธรรมแทนสวรรค์ยังไงอย่างนั้น
แต่ความจริง กับคนอย่างเชียนหยวน ชิกะ ก็สมควรแล้ว
ในที่สุดเด็กสาวก็มีปฏิกิริยาตอบโต้ขึ้นมา ดวงตาของเธอ เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เธอได้กำจัดพี่สาวของเธอด้วยมือของตนเอง
ราวกับคนที่เดินอยู่ตรงหน้าผาอยู่นาน ในที่สุดก็คว้าแสงสว่างไว้ได้
“แล้ว…….พี่ทำเรื่องพวกนี้ไป พี่เขยเขาไม่ว่าอะไรหรือคะ?”
“ว่าอะไรล่ะ?” เส้นหมี่คิดอย่างละเอียด
“อ๋อจริงสิ เขาว่าสิ ตอนที่ฉันกำลังดู เขามาปิดตาของฉันไว้ บอกว่าฉันทำรุนแรงเกินไป ต่อไปเรื่องแบบนั้น ให้เป็นหน้าที่ของเขาก็พอแล้ว”
แล้วเธอก็พูดปฏิกิริยาของสามีในวันนั้น
ดวงตาสีดำของเด็กสาวเบิกตากว้างขึ้นอีก และอ้าปากค้างอยู่แบบนั้นไปสักแป๊บเลย
นี่เป็นเรื่องที่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย
เพราะว่า เธอไม่เคยคิดว่า ผู้ชายคนหนึ่งจะตามใจภรรยาของตนเองจนถึงขั้นนี้ แม้แต่เรื่องเหล่านี้ เขาก็ไม่โกรธ แถมยังบอกกับเธอ ว่าต่อไปให้เป็นหน้าที่ของเขาอีก
แล้วที่เธอฆ่าพี่สาวของตนเองนั้น ก็ไม่ต้องมีความกดดันในใจอะไรขนาดนั้นใช่ไหม?
สามีของเธอ ก็คงไม่คิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่อำมหิตใช่ไหม?