ตอนที่ 2,740 : อุปกรณ์อมตะ ระดับจอมราชัน
ได้ยินคำของชายหนุ่มชุดคลุมขาว ต้วนหลิงเทียนก็ได้แต่เงียบไป
เพราะเขารู้ดีว่าที่อีกฝ่ายมาไม่ใช่แค่คำกล่าวลอยๆเท่านั้น และไม่พ้น 3 นิกายอมตะต้องกระทำเช่นนั้นแน่
ทุกอย่างล้วนเกิดจาก ความโลภ ในใจคน
“แล้วเจ้าคิดว่าไฉนพวก 3 นิกายอมตะนั่น มันจึงรู้ว่าจำต้องใช้ผู้ที่อายุไม่ถึงร้อยปีเข้าไปถึงจะไม่ตายเล่า? นี่เป็นเพราะพวกมันได้ลองผิดลองถูกไปมากมาย ไม่ทราบมีกี่ชีวิตที่ต้องสังเวยกว่าจักได้รับทราบเงื่อนไข ว่ามีแต่ผู้ที่อายุไม่ถึงร้อยปีเท่านั้นเมื่อเข้าไปแล้วจึงจะไม่ตาย”
ชายหนุ่มในชุดคลุมขาวพูด
สองตาต้วนหลิงเทียนก็หดเล็กลงทันที 3 นิกายอมตะสมควรสังเวยผู้คนไปมากมายแล้วจริงๆ
และความตายของคนเหล่านั้น ก็เพียงเพื่อให้พวกมันได้รับทราบเท่านั้น…
ว่าโลกใบเล็กแห่งนั้นมีแต่คนที่อายุไม่ถึงร้อยปีจึงจะเข้าไปได้
“เช่นนั้นเจ้าอย่าได้บังเกิดความคิดสูงส่งอย่างไปกระตุ้นเตือนพวกมันเลย เพราะไม่เพียงแต่พวกมันจะเพิกเฉยคำพูดของเจ้า ยังจะคิดว่เจ้าจงใจบิดเบือนความจริง เพื่อไม่ให้พวกมันได้รับผลประโยชน์จากโลกใบเล็กแห่งนั้น”
ชายหนุ่มในชุดคลุมสีขาวกล่าวสืบต่อ “ในสายตาของพวกมัน นั่นคือโลกใบเล็กที่ตัวตนขอบเขตราชาอมตะเหลือทิ้งไว้ ด้านในสมควรมีสมบัติเลิศล้ำมากมาย จนทำให้พวกมันน้ำลายสอเท่านั้น”
ต้วนหลิงเทียนถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
ความโลภนั้นเป็นบ่อเกิดแห่งหายนะจริงๆ
“สำหรับสิ่งของที่ข้ากำลังมองหานั้น…”
ขณะกล่าวถึงจุดนี้ ในมือของชายหนุ่มชุดคลุมขาวก็ปรากฏบางสิ่งขึ้นมาถือไว้ มันเป็นแหวนวงหนึ่ง!
แหวนวงนี้แตกต่าจากคำว่าเรียบง่ายอยู่มาก มันมีเพชรหรือมณีอะไรบางอย่างจำนวน 9 เม็ด ฝังไว้รอบวง เพชรแต่ละเม็ดยังมีรูปทรงที่แตกต่างกันไป
ตลอดตัวแหวนมีสีแดงเพลิง ไม่ใช่สีที่เคลือบมา หากแต่เป็นสีของวัตถุดิบที่ใช้หลอมสร้างแหวน
“นี่คืยอดสมบัติสวรรค์ของข้า แหวน 9 วิญญาณหยางลี้ลับ…แหวน 9 หยางวิญญาณลี้ลับวงนี้เป็นยอดสมบัติสวรรค์ที่มีคู่ของมันอยู่ เรียกว่า แหวน 9วิญญาณหยินลี้ลับ และแหวน 9 วิญญาณหยินลี้ลับก็อยู่ในโลกใบเล็กใบนั้น ยังเป็นสิ่งที่ข้าอยากให้เจ้านำกลับมา”
ขณะกล่าวถึงุจดนี้ ชายชุดคลุมขาวก็ยื่นส่งแหวนในมือให้ต้วนหลิงเทียน “เจ้าเอาแหวน 9 วิญญาณหยางลี้ลับนี้ไป เมื่อเจ้าเข้ไปในโลกใบเล็กแห่งนั้นแล้วให้นำมันออกมาสวมไว้ เมื่อไหร่ก็ตามที่มันอยู่ใกล้กับแหวนคู่ของมัน มันจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง และนำเจ้าไปหาแหวน 9 วิญญาณหยินลี้ลับจนเจอ”
ได้ยินคำอธิบายดังกล่าว ต้วนหลิงเทียนก็ยื่นมือไปรับแหวน 9 วิญญาณหยางลี้ลับมา ขณะเดียวกันก็เริ่มแผ่สำนึกเทวะออกไปตรวจสอบมันโดยไม่รู้ตัว
ทันใดนั้นลูกตาต้วนหลิงเทียนพลันหรี่ลง
นั่นเพราะเขาพบว่า แหวนที่พี่ใหญ่เผยยื่นส่งมาให้นั้น มันมีกลิ่นอายไม่ต่างอะไรจากยอดสมบัติสวรรค์ที่เขาเคยใช้ อย่างกระบี่นิลสวรรค์ ง้าวเทวะสะท้าน และบรรทัดจักรวาลเลย กลิ่นอายเช่นนี้ชั่วชีวิตเขาไม่มีวันลืมแน่
‘ยอดสมบัติสวรรค์ชิ้นนี้…ต่อให้เป็นไม้ปัดฝุ่นกวาดโลกา ยอดสมบัติสวรรค์ประจำนิกายอมตะสือหัง ที่มู่หรงปิงพบเจอตอนนั้น ยังมีระดับสูงกว่า’
ต้วนหลิงเทียนลอบกล่าว
“พี่ใหญ่เผย…ข้าขอถามท่านได้หรือไม่ ว่านี่เป็นยอดสมบัติสวรรค์ระดับใด?”
ต้วนหลิงเทียนหันไปมองถามชายหนุ่มชุดคลุมขาวด้วยความสงสัย
“ยอดสมบัติสวรรค์? มันเป็นอุปกรณ์อมตะระดับจอมราชัน…”
ชายหนุ่มชุดคลุมขาวกล่าวตอบ
“ระดับจอมราชัน!?”
ต้วนหลิงเทียนเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย เร่งถามสืบต่อ “เท่าที่ข้ารู้มายอดสมบัติสวรรค์…อุปกรณ์อมตะไม่ใช่แบ่งออกเป็นระดับต่ำ ระดับกลาง ระดับสูง และระดับสูงสุดหรอกหรือ?”
“แบ่งเช่นนั้นก็ถูกแล้ว”
ชายหนุ่มชุดคลุมขาวพยักหน้ารับ ค่อยกล่าวสืบต่อออกมาว่า “แต่เจ้ารู้หรือไม่…ว่าในบรรดาอุปกรณ์อมตะระดับสูงสุด ก็ยังมีแบ่งแยกย่อยได้อีก?”
“หืม? อุปกรณ์อมตะระดับสูงสุดยังแบ่งแยกย่อยได้อีกงั้นหรือ?”
ต้วนหลิงเทียนแปลกใจไม่น้อย จากนั้นค่อยมองชายหนุ่มชุดคลุมขาวพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “พี่ใหญ่เผย ช่วยกล่าวรายละเอียดของพวกมันให้ข้าฟังได้หรือไม่?”
“อุปกรณ์อมตะระดับสูงสุดนั้น ยังแบ่งแยกย่อยได้อีกเป็น ระดับขุนนาง ระดับราชา ระดับจอมราชัน และระดับจักรพรรดิ…ส่วนแหวน 9 วิญญาณหยางลี้ลับของข้า ก็คืออุปกรณ์อมตะระดับจอมราชัน และแหวน 9 วิญญาณหยินลี้ลับก็เป็นอุปกรณ์อมตะระดับจอมราชันเช่นกัน”
ชายหนุ่มชุดคลุมขาวค่อยๆกล่าวอธิบายออกมา
และวาจาอธิบายครานี้ ก็เสมือนขยายขอบเขตความรู้ให้ต้วนหลิงเทียนครั้งใหญ่
ต้วนหลิงเทียนก็พึ่งได้รู้วันนี้ว่าในบรรดาอุปกรณ์อมตะระดับสูงสุดยังมีแบ่งแยกย่อยอะไรแบบนี้ด้วย
‘แหวน 9 วิญญาณหยางลี้ลับ มีระดับเทียบได้กับ กระบี่นิลสวรรค์ ง้าวเทวะสะท้านกับบรรทัดจักรวาลที่ข้าเคยมีไม่ผิดแน่…เช่นนั้นหมายความว่าอุปกรณ์อมตะอย่างกระบี่นิลสวรรค์ รวมถึงอาวุธชิ้นอื่นๆประจำเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ ก็ล้วนเป็นอุปกรณ์อมตะระดับจอมราชันทั้งสิ้น!’
‘ส่วนไม้ปัดฝุ่นกวาดโลกา ที่เป็นอุปกรณ์อมตะประจำนิกายอมตะสือหังของมู่หรงปิง สมควรเป็นอุปกกรณ์อมตะระดับราชาเท่านั้น…’
ต้วนหลิงเทียนคาดเดาในใจ
ในขณะที่เดาถึงจุดนี้ ต้วนหลิงเทียนก็อดหันไปมองถามชายหนุ่มชุดคลุมขาวเพื่อยืนยันไม่ได้ “พี่ใหญ่เผย…ท่านเคยได้ยินชื่ออุปกรณ์อมตะอย่างไม้ปัดฝุ่นชำระโลกา ที่เป็นอาวุธประจำนิกายอมตะสือหังหรือไม่?”
“นิกายอมตะสือหังงั้นเหรอ? ข้าเคยได้ยินมาบ้าง…แต่อุปกรณ์อมตะประจำนิกายของพวกมันมีอะไรบ้างข้าไม่รู้รายละเอียดแน่ชัด แต่เอาเป็นว่าข้าเคยได้ยินมาว่านิกายอมตะสือหังมีอุปกรณ์อมตะประจำนิกาย 3 ชิ้น และทั้งหมดมีระดับราชา”
ชายหนุ่มชุดคลุมขาวกล่าว
‘ใช่จริงๆ’
คำตอบของชายหนุ่มชุดคลุมขาวก็ช่วยยืนยันให้รู้ ว่าการคาดเดาของต้วนหลิงเทียนถูกต้อง ไม้ปัดฝุ่นกวาดโลกาที่มู่หรงปิงพบเจอในโลกเล็กของยอดฝีมือนิกายสราญรมณ์วันนั้น เป็นอุปกรณ์อมตะระดับราชาจริงๆ
‘ในอดีตข้าเคยได้ยินผู้เฒ่าหั่วบอก ว่าเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติเป็นอุปกรณ์อมตะที่เหนือกว่า อุปกรณ์อมตะประจำชั้นอย่างพวกกระบี่นิลสวรรค์…ตอนนั้นข้าไม่อาจแยกสูงต่ำได้ชัดเจน มาวันนี้จึงได้รู้ ที่แท้เจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติก็เป็นอุปกรณ์อมตะระดับจักรพรรดิ’
พอนึกถึงเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติขึ้นมา ต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงผู้เฒ่าหั่ว และแววตาของเขาก็เริ่มฉายยแววเศร้าหมองออกมาทันที
‘หากผู้เฒ่าหั่วยังอยู่ ข้าคงไม่ต้องเป็นเหมือนแมลงวันไร้หัวแบบนี้…’
ต้วนหลิงเทียนได้แต่ลอบทอดถอนอยู่ในใจ
“พี่ใหญ่เผย”
ครู่ต่อมาต้วนหลิงเทียนก็ดึงสติให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว มองไปยังชายหนุ่มชุดคลุมขาวพลางกล่าว “ข้าตกลงกระทำตามเงื่อนไขของท่าน…ข้าจะเข้าไปตามหาแหวน 9 วิญญาณหยินลี้ลับในโลกใบเล็กของราชาอมตะนั่นให้ท่าน ”
หลังกล่าวจบประโยคนี้ ต้วนหลิงเทียนก็หยุดลงเล็กน้อย ค่อยมองกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง “แต่แน่นอนว่าทั้งนี้ทั้งนั้น…แหวน 9 วิญญาณหยินลี้ลับต้องอยู่ในโลกใบเล็กนั่นจริงๆ”
“ไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ข้ามั่นใจ”
ชายหนุ่มในชุดคลุมสีขาวกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ
ขณะเดียวกันมันก็ลอบประหลาดใจไม่น้อย เมื่อพบว่าต้วนหลิงเทียนยังคงสงบอยู่ได้ แม้จะรู้แล้วว่าแหวนในมือเป็นถึงอุปกรณ์อมตะระดับจอมราชัน!
‘เจ้าหนูน้อยนี่…มีความเป็นมาอย่างไรกันแน่นะ?’
เป็นครั้งแรกเลยจริงๆ ท่ชายหนุ่มในชุดคลุมสีขาวเริ่มบังเกิดความสนใจความเป็นมาของต้วนหลิงเทียน
‘ส่วนนังหนูน้อยข้างกายเจ้าหนุ่มนี่ ก็มีกลิ่นอายของเผ่าจิ้งจอกมายา…แต่ไม่ค่อยจะบริสุทธิ์สักเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามนางอายุไม่ถึงร้อยปีและสามารถบรรลุด่านพลังฝึกปรือยอดเซียนอมตะขั้นลี้ลับได้แบบนี้ ต่อให้เป็นในเผ่าจิ้งจอกมายา ก็ถือว่าเป็นชนชั้นอัจฉริยะระดับต้นๆคนหนึ่ง’
ชายหนุ่มชุดคลุมขาวลอบกล่าวในใจ
ยังดีที่ต้วนหลิงเทียนไม่ทราบว่าในใจของชายหนุ่มในชุดคลุมสีขาววคิดอะไรอยู่ ไม่งั้นเขาคงอดลอบขำในใจไม่ได้
ล้อกันเล่นหรือไร
ในตอนที่เขาอยู่ในระนาบกียะอย่างระนาบเซียน หรือดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า เขาเคยเป็นเจ้าของอุปกรณ์อมตะระดับจอมราชันตั้งมากมาย! กระทั่งยังเคยมีอุปกรณ์อมตะระดับจักรพรรดิอย่างเจดีย์หลิงหลง 7 สมบัติ!
อาศัยแค่อุปกรณ์อมตะระดับจอมราชันชิ้นสองชิ้นมาตั้งอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ ยังไม่มากพอให้เขาเสียอาการ!
ที่สำคัญที่สุดก็คือ ในมือเขาตอนนี้ยังมีอดีตอุปกรณ์เทพอย่างกระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยน ซึ่งมันมีระดับสูงกว่าอุปกรณ์อมตะระดับจักรพรรดิเสียอีก เพียงแค่อุปกรณ์เทพชิ้นนี้มันเสียจิตวิญญาณไปแล้วจึงไม่มีพลังอำนาจเลิศล้ำเท่าครั้งยังรุ่งโรจน์ ตอนนี้มันมีพลังแค่เทียบได้กับอุปกรณ์อมตะระดับสูงสุดเท่านั้น
“ในเมื่อเจ้าตกลงรับทำเรื่องนี้แล้ว…เช่นนั้น ‘เร้นกลิ่นอาย’ ชิ้นนี้ข้าจะมอบให้เจ้าไว้ก่อน”
ขณะกล่าวมือชายหนุ่มในชุดคลุมขาวก็หงายขึ้น ปรากฏจี้หยกสีเขียวชิ้นหนึ่งกลางฝ่ามือ
จี้หยกชิ้นนี้ไม่เพียงมีแสงสีเขียวเรืองรอง มองให้ดียังพบว่ามีเส้นสายสีดำดั่งอสรพิษตัวจิ๋ว กำลังพุ่งวนเวียนรอบจี้หยกตลอดเวลา
ต้วนหลิงเทียนรับจี้หยกดังกล่าวมา สำรวจดูเล็กน้อย
‘แต่ไม่รู้จริงๆ…ว่าตอนนี้พลังของกระบี่หลิงหลง 7เปลี่ยนมันเทียบได้กับอุปกรณ์อมตะระดับไหนกันแน่’
ในขณะที่เก็บ จี้หยกนาม ‘เร้นกลิ่นอาย’ พร้อมด้วยแหวน 9 วิญญาณลี้ลับไป ต้วนหลิงเทียนก็อดคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาไม่ได้
ก่อนหน้านี้เขาเพียงแค่รู้ว่ามันแค่มีพลังเทียบได้กับอุปกรณ์อมตะระดับสูงสุดเท่านั้น ซึ่งอาสามของเค่อเอ๋อ เซี่ยเจี๋ย จากดินแดนแห่งทวยเทพก็บอกเอาไวแค่นี้
ตอนนี้พอมารู้ว่าอุปกรณ์อมตะยังแบ่งออกเป็นระดับย่อยต่างๆได้อีก เขาก็เลยบังเกิดความอยากรู้ไม่น้อยว่ากระบี่หลิงหลง 7 เปลี่ยนตอนนี้มันมีระดับไหนกันแน่
‘แต่…อย่างดีจากอานุภาพของมันตอนนี้ ก็คงเทียบได้กับอุปกรณ์อมตะระดับขุนนาง’
ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะคาดเดาไปในทำนองนี้
เขาคาดโดยมองจากความสามารถในการยกระดับพลังของมันกับการใช้กระบี่นิลสวรรค์ก่อนหน้า จึงคำนวณออกมาได้เช่นนี้
‘อย่างไรก็ตามกระบี่หลิงหลง 7 สมบัติก็เคยเป็นถึงอุปกรณ์เทพ ต่อให้เสียจิตวิญญาณไปจนพลังถดถอยมาเป็นแค่อุปกรณ์อมตะระดับสูงสุด…แต่มันสมควรยังมีความลับอะไรซ่อนอยู่เป็นแน่ เพียงรอให้พลังข้าสูงพอจะค้นพบมันเท่านั้น’
‘เพราะสุดท้ายแล้วมันก็เป็นถึงอดีตอุปกรณ์เทพ ไหนเลยจะด้อยกว่าอุปกรณ์อมตะระดับจักรพรรดิได้’
คิดถึงจุดนี้ใจต้วนหลิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะเต้นรัวขึ้น
“จริงสิ พี่ใหญ่เผย”
ทันใดนั้น ต้วนหลิงเทียนที่เก็บแหวน 9 วิญญาณหยางลี้ลับกับเร้นกลิ่นอายไปแล้วคล้ายฉุกคิดอะไรได้ออก จึงหันไปมองกลาวกับชายหนุ่มในชุดคลุมสีขาวทันที “หากข้าได้แหวน 9 วิญญาณหยินลี้ลับมาแล้ว ท่านต้องรีบมานำมันไปให้เร็วที่สุด…ข้ากลัวว่าคนของนิกายอมตะหลงหวู่จะทำการตรวจวสอบแหวนพื้นที่ของข้า เพราะพวกมันไม่พ้นต้องการสมบัติที่ข้าได้รับมาจากโลกใบเล็กแน่นอน”
“ข้ารู้”
ชายหนุ่มชุดคลุมขาวพยักหน้า “เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลถึงเรื่องนี้หรอก…สิ่งที่เจ้าต้องทำก็มีแค่เข้าไปในโลกใบเล็กนั่นกับนังหนูผู้นั้น หาแหวน 9วิญญาณหยินลี้ลับให้พบแล้วนำออกมาจากโลกใบเล็กก็พอ เรื่องอื่นข้าจะจัดการเอง”
หลังจากกล่าวจบคำ ชายหนุ่มชุดคลุมขาวก็พลันยกมือขึ้นโบกเบาๆ ทันใดนั้นม่านพลังที่ครอบคลุมอยู่ก็สลายหายทันที
ต้วนหลิงเทียนจึงสัมผัสได้ถึงสายลมและกลิ่นหอมของบุปผานานาพรรณในสวนอีกครั้ง
“ข้าจะเฝ้ารอข่าวดีจากเจ้า”
ในสายตาขององค์ชาย 13 หลงเฟยอวิ๋นนั้น ต้วนหลิงเทียนเพียงนั่งสนทนาผ่านพลังกับชายหนุ่มชุดคลุมขาวนิ่งๆเท่านั้น แต่อยู่ๆทั้งสองคนก็เปลี่ยนท่าทางไปในฉับพลัน ซ้ำยังมีวาจาดังกล่าวของชายหนุ่มชุดคลุมขาว
‘หืม? ออกมากันแล้ว’
ทันใดนั้นหลงเฟยอวิ๋นก็ตระหนักได้ว่าทั้งสองคนดูเหมือนจะพึ่งออกมาจากค่ายกลอะไรบางอย่าง