บทที่ 1434 พูดออกมาอย่างหมดเปลือก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1434 พูดออกมาอย่างหมดเปลือก

ไม่นาน ไวน์ก็ถูกเสิร์ฟ คณาธิปรินให้เธอแก้วหนึ่ง แล้วรอเธอเริ่มพูดอย่างสงบ

“คุณอากิยามะ ฉันรู้ว่าเมื่อวานนี้ล๋ายเย่ได้ทำเรื่องรุนแรงในบ้านของคุณไป เมื่อคืนนี้เธอยังหนีไปอีก ดังนั้น ฉันมาหาคุณในวันนี้ ก็เพื่อมาคุยเรื่องนี้”

“เชิญคุณพูดได้เลยครับ”

คณาธิปจิบไวน์ไปคำหนึ่ง แล้วพยักหน้านิ่งๆ

คุณนายเชียนหยวนจึงเริ่มพูดอย่างตั้งใจ

“คุณอากิยามะ ไม่รู้ว่าคุณยังจำเรื่องในปีนั้นตอนที่คุณเพิ่งมาเจแปนได้หรือไม่?”

“หืม?”

คำถามนี้ช่างประหลาด แม้แต่คณาธิปเองยังเงยหน้ามองแม่ยายคนนี้

ในปีนั้น?

ทำไมจู่ๆถึงพูดถึงเรื่องนี้ล่ะ?

หน้าของเขาเริ่มหม่นหมองลง และก้มมองต่ำ แสดงสีหน้าที่ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องในตอนนั้นนัก

“ทำไมหรือ?”

“ต้องขอโทษด้วย ฉันเพียงแค่อยากให้คุณนึกย้อนไปสักหน่อย ตอนนั้นที่คุณเข้าไปในบ้านของพ่อบุญธรรม ไม่รู้ว่าคุณยังจำได้ไหมว่ามีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งได้ให้คุณทำเรื่องบางอย่าง? คุณอากิยามะ เด็กผู้หญิงคนนั้น คือล๋ายเย่”

ผู้หญิงคนนี้ เพื่อเห็นแก่ลูกสาวของเธอ ดูเหมือนจะไม่สามารถแบกรับความทุกข์ทรมานแบบนี้ได้อีกต่อไป ดังนั้นเธอจึงพูดออกไปตรงๆ

เป็นไปตามคาด เมื่อสิ้นเสียงลง ชายหนุ่มที่อ่อนโยนตรงหน้าก็เงยหน้าขึ้นมาทันที เขาจ้องมองเธอ หลายวินาที ดวงตาหลังแว่นตกตะลึง

คุณนายเชียนหยวนเห็นดังนั้น ใจก็ตกลงไปทันที

“ใช่แล้วล่ะ คุณอากิยามะ นี่คือความจริง ที่จริงแล้วหลายปีมานี้ล๋ายเย่น่ะ เฝ้ามองคุณมาตลอดเลย เธอรู้สึกผิดต่อสิ่งที่ทำให้คุณได้รับในตอนนั้น ดังนั้น ตอนนั้นที่พ่อบุญธรรมของคุณมาขอแต่งงาน ลูกสาวคนโตของฉันเห็นว่าคุณเป็นลูกบุญธรรม เธอจึงไม่ยอมตกลง ล๋ายเย่ก็เลยออกมารับแทนด้วยตนเอง”

คุณนายคนนี้ สุดท้ายแม้แต่ความจริงแบบนี้ก็พูดออกมาแล้ว

ที่จริงแล้วเธออยากขอความเห็นใจแทนลูกสาวของตนเองมาก เพราะว่า ตอนนั้นเธอเพิ่งจะแปดขวบ จะไปรู้เรื่องอะไร?

ตอนนั้น สองสามีภรรยาเป็นคนพาเธอไป ส่วนเธอที่ถูกปิดคลุมเอาไว้ เพราะทนไม่ไหวแล้ว จึงงอแงจะกลับบ้าน

และเมื่อเห็นว่าทุกคนในงานเลี้ยงไม่ยอมเลิกราเพราะชายหนุ่มคนนั้น เธอจึงให้คนรับใช้ในบ้านถอยไปก่อน แล้วตำหนิเขา ให้เขามาล้างเท้าคำนับตัวเธอเอง

หลังจากนั้น เมื่อเธอถูกพากลับมา ได้รับการอบรมสั่งสอนจากพ่อแม่ จึงรู้ว่า เธอได้กระทำความผิดใหญ่หลวงไป

คุณนายเชียนหยวนดวงตาเริ่มแดง “คุณอากิยามะ ฉันรู้ว่าในตอนนั้นเรื่องนี้มันสร้างความอับอายอย่างหามิได้ให้กับคุณ ฉันเองก็ไม่มีสิทธิ์จะมาขอความเห็นใจแทนล๋ายเย่ แต่ถ้าหาก……ถ้าหากคุณอากิยามะให้อภัยเธอได้ล่ะก็ ฉัน……ก็ซึ้งใจอย่างมากค่ะ!”

เมื่อเธอพูดจบแล้ว ก็โค้งตัวต่อหน้าลูกเขยคนนี้อย่างรู้สึกผิดมาก

คณาธิปไม่ได้ขยับอะไร

นาทีนี้ เหมือนว่าเขาจะตกตะลึงกับความจริงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้จริงๆ เขาคิดไม่ถึงว่า เด็กที่ซ่อนตัวอยู่หลังม่านในตอนนั้น คือผู้หญิงที่เขาแต่งงานด้วยในตอนนี้

ความโกรธหรือ?

แท้จริงแล้วมีอยู่

เพราะตอนนั้นหลังจากเขาถูกเนติบังคับให้มาที่เจแปน เขาไม่ได้อยากมาเป็นลูกบุญธรรมของเฮกังแต่แรกแล้ว มันไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะได้รับความอบอุ่นเป็นเวลาสิบปีจากตระกูลวชิรนันท์

เขาไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตที่ต้องมองสีหน้าคนอื่น และถูกชี้นิ้วสั่งอีกแล้ว

แต่ในวันนั้น เขาไม่เพียงแต่ถูกบังคับให้คุกเข่าที่บ้านตระกูลเฮกังเป็นเวลานานแล้ว สุดท้าย เขายังถูกให้บังคับให้ไปล้างเท้าคำนับให้เด็กคนหนึ่งอีกด้วย

นี่มันอะไรกัน?

ช่วงเวลานั้น ภาพเหล่านั้นมันเป็นหนามแทงใจของเขามาเป็นนานมาก ห้ามไปแตะต้อง และกลายเป็นจุดกำเนิดที่ก่อให้เกิดความชิงชัง

คุณนายเชียนหยวนรออยู่อย่างนั้น

เมื่อเห็นว่าตนเองโค้งตัว ผ่านไปเป็นเวลาราวสี่ห้านาทีแล้ว แต่ลูกเขยคนนี้ก็ไม่มีทีท่าอะไรเลย นั่งอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าที่น่ากลัวอย่างมาก

ในที่สุด เธอจึงเข้าใจ

ทันใดนั้น ดวงตาของเธอก็มืดมิดลงไป และไม่รบกวนอีก เธอลุกขึ้นยืนแล้วเดินจากไปอย่างมีมารยาท

นี่เป็นเรื่องที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้ ทำให้รู้สึกเสียใจจริงๆ

คุณนายเชียนหยวนมาถึงวัด

เป็นไปตามที่เธอคาดไว้ เด็กสาวที่บอกว่าจะปฏิบัติธรรมอยู่ในวัด แท้จริงแล้วกำลังรอเธออยู่อย่างกระวนกระวาย

เมื่อพบว่าเธอกลับมาแล้ว ก็รีบพลิกตัวขึ้นจากฟูกทันที

แต่ว่า เมื่อเธอเห็นว่าแม่กลับมาคนเดียวแล้ว เธอที่ฉลาดหลักแหลม ก็เข้าใจทันที จากนั้น ก็ละสายตาทิ้ง เธอหันหลังกลับไปอีกครั้ง ยังไม่ทันพูดอะไร น้ำตาก็ไหลรินลงมากระทบที่หลังมือของเธอแล้ว

“ล๋ายเย่…..”

เมื่อคุณนายเชียนหยวนเห็นดังนั้น ก็เจ็บปวดใจมาก

เธอนั่งลงข้างๆของเธอ ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี จึงพูดโน้มน้าวว่า “เขาอาจจะแค่ยังรับไม่ได้เพราะกะทันหันเกินไป รอให้ผ่านไปสักสองวัน เดี๋ยวเขาก็มา”

“ไม่เป็นไรค่ะ คุณแม่……”

เด็กสาวที่ยังมีน้ำตาเอ่อล้นอยู่ในดวงตา ฝืนยิ้มออกมา

“นี่เป็นความผิดของหนู ดังนั้น หนูควรสำนึกผิดอยู่ในวัด แม่คะ กลับไปเถอะ”

จากนั้น เธอก็หยิบคัมภีร์ที่เขียนด้วยลายมือที่อยู่ตรงหน้าเธอขึ้นมา และอ่านช้าๆ

คุณนายเชียนหยวน “……”

ทำไมเรื่องถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?

สุดท้ายคุณนายเชียนหยวนจึงทำได้เพียงแค่กลับไป

หลังจากนั้นสองวัน ก็เป็นไปตามที่เชียนหยวนล๋ายเย่บอกเอาไว้ ในวัดไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย ไม่มีคนมาที่นี่ และไม่มีโทรศัพท์และข้อความจากใครเลย