ตอนที่ 1300 นาฬิกาตามแผน

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

ในสถานที่ที่มืดมิด…

ยานอวกาศสีดำเคลื่อนตัวมาอย่างช้าๆ จากบริเวณขอบดวงดาว วิทยุไร้เสียงก้องกังวานในท้องฟ้ากว้างใหญ่ ซึ่งติดต่อกับศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินที่ห่างไกลออกไปหลายสิบล้านกิโลเมตรนั้นล่าช้าเป็นเวลาหลายร้อยวินาที

“นี่คือ ‘แมสเซนเจอร์’ เราอยู่ใกล้กับ ‘นิวแลนด์’

“เข้าใกล้อีก”

“รับทราบ”

สตาร์ไลท์เป็นโมเดลต้นแบบ

‘แมสเซนเจอร์’ เป็นชื่อทางการของยานอวกาศ

อุตสาหกรรมการบินและอวกาศได้พัฒนาไปอย่างมาก โมเดลแรกของสกายโกลว์ได้ค่อยๆ ถูกเลิกใช้งาน มันมีสกายโกลว์ลำใหม่มากกว่าห้าลำบนท้องฟ้า สะพานนกกางเขนก็เช่นกัน

การเรียกชื่อยานอวกาศโดยชื่อโมเดลจึงทำให้สับสนได้ง่าย ดังนั้นยานลำนี้จึงได้รับการตั้งชื่อ

สวี่เจิ้งฮงนั่งอยู่ตรงที่นั่งนักบินหลัก เขายื่นมือไปจับคันบังคับที่ด้านขวามือ จากนั้นเขากดปุ่มเพื่อล็อกวงโคจร

ด้วยความช่วยเหลือจากอุปกรณ์นำทางอัตโนมัติ นักบินผู้ช่วยหลิวเปี่ยวสังเกตความเร็วและพารามิเตอร์ระยะทางอย่างระมัดระวัง เขาร่วมมือกับสวี่เจิ้งฮงเพื่อขับสตาร์ไลท์ไปวงโคจรขนย้ายของดาวอังคาร ซึ่งใกล้กับทางแยกของวงโคจร MOI3

“เปิดเสาคุมทิศทางและเครื่องปรับตำแหน่งเลเซอร์”

“รับทราบ”

นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด

มีเพียงโอกาสเดียว สามพารามิเตอร์หลัก ได้แก่ ความเร็ว องศา และระยะทาง ต้องตรงอย่างแม่นยำ เพื่อให้ยานอวกาศเข้าวงโคจรได้

ถ้าพวกเขาพลาดโอกาสนี้ พวกเขาต้องบินรอบดาวอังคารอีกหนึ่งสัปดาห์เพื่อปรับตามวงโคจร

เวลาหนึ่งนาทีให้ความรู้สึกนานเป็นศตวรรษ

ในท้ายที่สุดเมื่อคำว่า ‘อยู่ในวงโคจร’ ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ สวี่เจิ้งฮงและหลิวเปี่ยวที่ยังตื่นเต้นอยู่ก็ถอนหายใจพร้อมกันด้วยความโล่งอก

“นี่คือแมสเซนเจอร์ เราได้เข้าวงโคจร MOI3 แล้ว”

“นี่คือศูนย์บัญชาการภาคพื้นดิน เราได้รับข่าวแล้ว การนำทางภาคพื้นดินเสร็จสิ้น ส่วนที่เหลือขึ้นอยู่กับพวกคุณ”

“รับทราบ อวยพรให้เราโชคดีด้วย”

การสื่อสารสิ้นสุดลง

เนื่องจากความล่าช้าหลายร้อยวินาที มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพึ่งศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินเพื่อนำทางสตาร์ไลท์ไปตลอดการย้ายวงโคจรที่ซับซ้อน

ขั้นตอนต่อไปเป็นหน้าที่ของพวกเขา

ถึงแม้ว่าจะไม่มีการช่วยเหลือนำทางจากศูนย์บัญชาการภาคพื้นดิน สวี่เจิ้งฮงและหลิวเปี่ยวก็โล่งใจ

มันแทบไม่มีการดำเนินการที่ต้องควบคุมเอง นอกเหนือจากการพุ่งชนของดาวหางหรือเกิดอุบัติเหตุอื่น

ถ้าทุกอย่างราบรื่นดี พวกเขาเพียงต้องกดปุ่มเพื่อเปิดประตูหลังจากไปถึงวงโคจรเป้าหมาย จากนั้นเขาจะนำนาฬิกาอนุภาคซีออกมาจากช่องเก็บของแล้วสำเร็จภารกิจ

“เราควรดื่มฉลองกันไหม?”

“ไม่ ขอบคุณ”

“งั้นผมจะดื่มเองคนเดียว” หลิวเปี่ยวฉีกยิ้มและปลดล็อกอุปกรณ์กันภัย จากนั้นเขาเคลื่อนตัวออกจากที่นั่งผู้ช่วยนักบิน เขาลอยไปที่ถังแช่แข็งในพื้นที่พักผ่อนและหยิบกาแฟเย็นกระป๋องออกมา

ในความเป็นจริงเขาอยากดื่มเบียร์ แต่เนื่องจากว่ายังทำภารกิจอยู่ เขาจึงไม่ได้รับอนุญาตให้ดื่มแอลกอฮอล์

หลิวเปี่ยวลอยกลับไปที่ห้องนักบินพร้อมกับกาแฟ เขานั่งลงตรงที่นั่งตัวเอง เปิดกระป๋องกาแฟสกัดเย็น แล้วหยิบหลอดออกมา

ในสภาพแวดล้อมไร้แรงโน้มถ่วง ความรู้สึกที่ของเหลวสัมผัสปากเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ของเหลวทุกชนิดมีคุณสมบัติคงตัวคล้ายเยลลี่ และความรู้สึกที่ของเหลวเย็นไหลลงลำคอเป็นความรู้สึกแปลก

โชคดีที่กาแฟยังมีรสชาติเหมือนเดิม

หลิวเปี่ยวมองดูดาวเคราะห์สีแดงนอกหน้าต่าง เขาหรี่ตามองในระหว่างที่ดูดกาแฟจากหลอด เขาเจ้ามองภาพทิวทัศน์งดงามเป็นเวลานานก่อนที่จะพูดขึ้นอย่างเปี่ยมอารมณ์

“มันน่าทึ่งมากเลย”

สวี่เจิ้งฮงซึ่งนั่งอยู่เงียบๆ ในที่นั่งคนขับพยักหน้าเห็นด้วย

“อืม”

หลังจากพูดคุยกันเล็กน้อยทั้งสองก็นิ่งเงียบลง พวกเขารู้สึกตราตรึงจากทิวทัศน์สวยงามที่ทั้งสองไม่มีเวลาได้ชื่นชมมาก่อน

ไม่ว่าเขาจะมองดูทิวทัศน์สักกี่ครั้ง วิวไม่เคยน่าเบื่อเลย

มันยากที่จะบรรยายความรู้สึกนี้

ราวกับว่า…

โลกใบใหม่อยู่ตรงหน้าพวกเขา

ผ่านไปสองชั่วโมงหลิวเปี่ยวเหลือบมองข้อมูลวงโคจรบนแผงอุปกรณ์ในห้องนักบิน เขากะประมาณว่าใกล้ถึงเวลาแล้ว เขาเอื้อมมือไปเปิดเซนเซอร์ออปติคัลนำทางในอวกาศ และปรับมันไปชี้ที่ศูนย์กลางดาวอังคาร

หลังจากการเปลี่ยนวงโคจรครั้งต่อไป พวกเขาจะเข้าวงโคจรที่อยู่ต่ำสุด

ถ้าพวกเขาโชคดี พวกเขาอาจจะเห็นแคปซูลขากลับของยานอวกาศ BFS ที่นั่น

“ไม่ช้าก็เร็วเราจะขยายพรมแดนที่นี่”

“ผมไม่รู้ว่าผมจะประจักษ์วันนั้นในชั่วชีวิตนี้ได้หรือไม่”

“การที่ไม่เห็นกับตาไม่สำคัญหรอก จะมีคนในอนาคตประจักษ์แทนเรา… ทำงานต่อกันเถอะ”

“รับทราบ”

ยานอวกาศเข้าสู่วงโคจรต่ำสุดสำเร็จหลังจากการลดความเร็วครั้งล่าสุด

หลิวเปี่ยวฟังเสียงนับถอยหลังในหูอย่างเงียบๆ เขามองดูสัญญาณจำลองบนหน้าจอเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ เขาวางนิ้วโป้งบนปุ่มเซฟตี้สีเขียวที่แกนบังคับ

การนับถอยหลังเสร็จสิ้น

เขากดปุ่มด้วยนิ้วโป้ง

ทั้งสองได้ยินเสียงหึ่งจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ลูกบอลโลหะถูกปล่อยออกจากคาร์โกเก็บของ มันเข้าสู่วงโคจรดาวอังคารสำเร็จ

หลังจากสวี่เจิ้งฮงตรวจดูพารามิเตอร์การโคจรของนาฬิกาอนุภาคซี เขาเปลี่ยนช่องทางการสื่อสารไปเชื่อมกับศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินและพูดด้วยเสียงสงบนิ่ง

“แพ็คเกจถูกวางไว้ที่วงโคจรสำเร็จ ภารกิจเฟสแรกเสร็จสิ้น!”

ศูนย์บัญชาการภาคพื้นดินใช้เวลาประมาณสี่นาทีในการตอบกลับ ระหว่างนั้นงานของพวกเขาคือการรักษาเส้นการบินในตอนนี้และรอฟังคำสั่งเงียบๆ

สวี่เจิ้งฮงมีสีหน้าผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อยในที่สุด เขาปลดล็อกระบบเซฟตี้และขยับไหล่ที่เมื่อยล้า

จู่ๆ หลิวเปี่ยวยิ้มขึ้นระหว่างที่เขามองดูจุดสีดำบนกล้องหลังเลือนหายไป

“…เหมือนได้สวมแหวนให้เจ้าสาวเลย”

สวี่เจิ้งฮงพูดพร้อมรอยยิ้ม “เปรียบเทียบได้โรแมนติกมาก”

“ผมรู้สึกมาตลอดว่าการท่องอวกาศเองเป็นเรื่องโรแมนติก…จะว่าไปแล้วภารกิจที่เหลือล่ะ?”

“เราจะรอข่าวจากศูนย์บัญชาการภาคพื้นดิน หลังจากนั้นเราจะกลับไปที่วงโคจร MOI3 และรอเงียบๆ ที่นั่น” สวี่เจิ้งฮงมองดูลูกบอลโลหะที่ลับหายไป เขาหรี่ตามองและพูดว่า “เราจะรอจนการทดลองจบลงแล้วเช็คสภาพของนาฬิกาอนุภาคซี

จากนั้นเราก็กลับบ้านได้”

พวกเขาได้รับการยืนยันจากศูนย์บัญชาการภาคพื้นดิน

ชายสองคนที่นั่งอยู่ในห้องนักบินตื่นเต้นทันที

ในอีกฟากหนึ่งที่ศูนย์บัญชาการภาคพื้นดิน ซึ่งห่างออกไปหลายสิบล้านกิโลเมตร…

ลู่โจวยืนอยู่ในห้องบัญชาการ เขาค่อยๆ ยกมือซ้ายขึ้นแล้วเหลือบมองดูนาฬิกาข้อมือสีเงิน

มันถึงเวลาแล้ว

ลู่โจวรู้ว่าการเตรียมพร้อมเกือบเสร็จสิ้นแล้ว เขาเงยหน้ามองผู้คนที่หนาแน่นข้างในศูนย์บัญชาการภาคพื้นดิน

จากนั้นเขามองหน้าจอใหญ่ตรงหน้าก่อนที่จะพูดเสียงดังออกมา “ถึงตาของเราแล้ว”