ตอนที่ 2490 สองขั้ว

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

เมื่อเต๋าบรรพกาลน้ำได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ย่อมจะหัวเราะลั่นขึ้นมาด้วยความสะใจ “ฮ่าๆๆ… เจ้าเห็นหรือไม่เย่หยวน? นี่แหละมันคือพลังของเต๋าบรรพกาล! ความตายนั้นมันจะรอเจ้าอยู่หากคิดท้าทายเต๋าบรรพกาล!”

“เย่หยวน เจ้ามันจะดูถูกบรรพบุรุษทั้งแปดเรามากเกินไปแล้ว! เจ้าลืมไปแล้วหรือว่ามหาบรรพกาลทั้งหลายนั้นมันก็ตายลงด้วยวรยุทธแท้เต๋าสวรรค์ของเรานี้?” อี้เฟิงยิ้มเย้ยขึ้น

เพราะในความเป็นจริงกำลังของคนทั้งห้านั้น ฝั่งบรรพบุรุษทั้งสองมันดูจะแข็งแกร่งกว่าเต๋าบรรพกาลทั้งสามไปเสียด้วยซ้ำ

วินาทีที่พวกเขาปล่อยกำลังออกมาจนสุดตัวนั้นมันย่อมจะเป็นอะไรที่สุดแสนรุนแรง

เป็นเวลานี้เองที่เต๋าบรรพกาลทั้งหลายได้รู้ว่าก่อนหน้านี้พวกอี้เฟิงทั้งสองนั้นไม่ได้ใช้พลังฝีมือออกมาอย่างเต็มที่เลย

โชคยังดีที่เย่หยวนนั้นสามารถบีบให้คนทั้งสองนี้ใช้พลังฝีมือที่เก็บซ่อนไว้ออกมาได้จนหมด

เมื่อเหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งหลายที่ดูอยู่ห่างๆ ได้เห็นพวกเขาต่างก็ต้องถอนใจยาว

“เฮ้อ! ท่านนักบุญฟ้าครามมั่นใจเกินไปแล้ว!”

“คนพวกนั้นแต่ละคนต่างเป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าที่อยู่มานับหมื่นๆ ล้านปี มีหรือที่จะไม่มีไม้ตายใดๆ เก็บไว้เลย?”

“ท่านนักบุญฟ้าครามนั้นเล่นใหญ่เกินไปแล้วครั้งนี้ เวลานี้มิใช่แค่ท่านจะพลาดโอกาสชิงผลึกแห่งกฎธาตุไฟไปแต่แม้ผลึกแห่งกฎธาตุน้ำนั้นมันก็คงไม่อาจปกป้องได้แล้ว!”

เรื่องราวสถานการณ์ในตอนนี้คนทั้งหลายก็อดไม่ได้ที่จะสงสารเขาขึ้น

เย่หยวนนั้นมีฝีมือแค่ไหนมันคงไม่ต้องสงสัยกัน

เพียงแค่ว่าการต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกหล้าถึงห้าคนนั้นมันก็คงอาจจะยังมากเกินไป

แต่ตัวเย่หยวนที่อยู่ภายในเอกภพนั้นกลับทำหน้านิ่งไม่กังวลใดๆ มากมาย

ได้ยินคำว่าของเต๋าบรรพกาลน้ำและอี้เฟิงเช่นนั้นตัวเย่หยวนจึงตอบกลับไป “ดูพวกเจ้าจะพอใจกันมากมายนัก! พวกเจ้าทำได้แค่นี้หรือ? แต่ข้านั้นยังไม่ได้ใช้พลังออกมาจนถึงที่สุดเลย!”

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวออกมาสีหน้าของยอดฝีมือทั้งห้าก็ต้องเปลี่ยนสีไป

แต่ไม่นานเต๋าบรรพกาลน้ำก็ตั้งสติตอบกลับมา “หึๆ เจ้าคิดว่าจะขู่พวกเราได้ผลหรือ? วิชานี้ของเจ้ามันใช้เต๋าดาบได้จนถึงขั้นสุดแล้ว ทำลายได้แม้แต่การร่วมมือของเต๋าบรรพกาลชีวิตและเต๋าบรรพกาลไฟ! เจ้าคิดว่าบรรพกาลผู้นี้ไม่คิดเชื่อว่าเจ้ายังมีอะไรที่มันเหนือกว่านี้อยู่!”

อี้เฟิงกล่าวเสริมขึ้น “เจ้าเองก็จะดูถูกพวกเราเกินไปแล้ว! หึๆ หากเจ้ายังมีไม้ตายใดก็ลองใช้มันออกมาให้เห็นสิ!”

มันมิใช่ว่าพวกเขาไม่คิดเชื่อแต่ว่าวิชาเอกภพของเย่หยวนมันแข็งแกร่งจนเกินไป!

พวกเขานั้นไม่อาจจะนึกภาพว่ามันจะยังมีอะไรที่สร้างจากเต๋าดาบและเหนือล้ำกว่านี้ไปได้อีก

เย่หยวนพยักหน้ารับ “วางใจเถอะ พวกเจ้าจะได้เห็นแน่!”

จากนั้นเอกภพของเย่หยวนมันก็ค่อยๆ หมุนวนขึ้นมา

เวลานี้เอกภพที่เดิมทีมีสภาพเหมือนเกราะคุ้มตัวเย่หยวนไว้มันค่อยๆ เผยให้เห็นช่องว่างใหญ่หลังมันเริ่มหมุนได้ไม่นาน

เมื่อยอดฝีมือทั้งห้าเห็นรูนั้นร่างกายของเขาก็ต้องสั่นสะท้านขึ้นมา!

รนหาที่ตาย!

พวกเขานั้นพุ่งเขาไปอย่างไม่คิดชีวิต

เมื่อได้เห็นช่องว่างในเกราะเหล็กแล้วมีหรือที่พวกเขาจะปล่อยมันไปง่ายๆ?

วินาทีเดียวนั้นมันได้มีพลังโจมตีรุนแรงพุ่งผ่านช่องว่างนั้นเข้าไป

แต่ในขณะเดียวกันทางด้านเย่หยวนเองก็ได้เปล่งประกายแสงสีทองออกมาจากร่าง!

คลื่นพลังสายเลือดมังกรหนาแน่นปะทุขึ้นมา!

เกราะมายามังกรฟ้า!

ร่างกายของเย่หยวนนั้นมันกลับค่อยๆ ปรากฏเกร็ดมังกรหนาขึ้นมาคลุมกาย

เกร็ดมังกรทั้งหลายนี้มันเกิดขึ้นมาด้วยพลังเลือดของเย่หยวน

ตูม!

การโจมตีของยอดฝีมือทั้งห้านั้นพุ่งเข้ามาปะทะเกราะมายามังกรฟ้าอย่างรุนแรง

เย่หยวนนั้นรู้สึกได้ถึงรสหวานๆ ในลำคอดูท่าอวัยวะภายในของเขามันคงได้รับบาดเจ็บไม่น้อย

แต่เขานั้นกลับกดอาการนั้นไว้

ปราณเทวะในร่างของเขานั้นมันพลุ่งพล่านทะยานเข้าใส่เอกภพอย่างรุนแรง!

ระหว่างที่เย่หยวนทนรับการโจมตีไปเอกภพนั้นมันก็ค่อยๆ เปลี่ยนรูปกลายเป็นเหมือนดาบยักษ์ยาวสองเล่ม

และดาบทั้งสองนั้นมันก็ค่อยๆ หมุนไปในทิศตรงข้ามกันเป็นวงกลม

ความคมของมันนั้นตัดแม้แต่หมอกหนาจนจางหายสิ้น

กลิ่นอายแห่งความตายมันลอยฉุนขึ้นในอากาศ

เดิมทียอดฝีมือทั้งห้านั้นยังยิ้มร่าเป็นช่องว่างโจมตีเย่หยวนอย่างไม่ยั้งมือ

แต่ไม่นานสีหน้าของพวกเขามันก็ต้องซีดขาว!

นี่มันคือกลิ่นอายเห็นความตาย!

เย่หยวนนั้นยังมีไม้ตายอยู่จริง!

เวลานี้เอกภพที่เดิมทีเคยสุดแสนมั่นคงหนักแน่นมันได้กลายเป็นดาบที่เฉียบคมพร้อมจิตสังหารที่ลอยแน่นในอากาศ!

คลื่นพลังดาบอันรุนแรงนั้นมันพัดหมุนมาอย่างไม่ทันให้ใครตั้งรับทัน!

เมื่อก้าวขึ้นมาถึงระดับของเย่หยวนแล้วมันย่อมเป็นระดับที่ดาบนั้นอยู่ในอก ไม่จำเป็นต้องใช้วัตถุใดๆ มาแทนดาบเลย

เพียงแค่ปราณเทวะของเขามันก็เฉียบคมราวกับดาบแล้ว!

“สองขั้ว! สังหาร! เย่หยวนกล่าวสั่งขึ้นมา

ดาบทั้งสองนั้นพัดหมุนผ่านอากาศด้วยความเฉียบคมที่ตัดทุกสิ่งอย่างลงได้

ในวินาทีนี้ความคมของมันแทบจะตัดเขาแห่งถงเทียนลงไปเสียด้วยซ้ำ!

และเป้าหมายของดาบนี้มันก็คือตัวเต๋าบรรพกาลน้ำ

เต๋าบรรพกาลน้ำนั้นใจสั่นรัวเพราะกลิ่นอายความตายที่มาเยือนตรงหน้า

นานแค่ไหนแล้วกัน?

นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้สัมผัสถึงภัยความตายตรงหน้าเช่นนี้?

ตั้งแต่ที่เขาบรรลุเต๋าและกลายเป็นเต๋าบรรพกาลมา คำว่าความตายนั้นมันก็ไม่มีอยู่ในตัวเขาอีกแล้ว

แต่ในเวลานี้เขากลับได้พบเจอมันอีกครั้ง!

เวลานี้เขายังจะกล้าลังเลใดๆ? เต๋าบรรพกาลน้ำนั้นรีบใช้ปราณเทวะปล่อยพลังแห่งกฎออกมาพยายามขว้างกั้นสองขั้วไว้

คลื่นพลิกกลับ!

หมุนวนอย่างไร้สิ้นสุด!

ฟู่!

ฟู่!

ไม่ว่าเขานั้นจะป้องกันมันไปเท่าใดแต่สองขั้วนั้นมันก็เหมือนสิ่งที่นิยามความคมกริบ ตัดผ่านทุกอย่างเข้ามาอย่างไม่ช้าลงแม้แต่น้อย!

สองขั้วนั้นมันค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นจนใกล้ถึงตัวเขาเต็มที!

จนสุดท้าย ฉัวะ!

สองขั้วนั้นตัดผ่านพลังโลกของเขาและทะลุพลังป้องกันชั้นสุดท้ายจนทำลายร่างของเต๋าบรรพกาลน้ำให้หายไปจากโลก!

ที่ใดที่ดาบนี้ตัดผ่านนั้นมันจะไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่ ไม่มีแม้แต่เลือดสักหยด!

เต๋าบรรพกาลน้ำ ตาย!

“อั่ก!”

เมื่อเสร็จเรื่องแล้วเย่หยวนจึงได้ปล่อยเลือดที่คั่งอยู่ในอกออกมา

แต่เขานั้นก็ไม่ได้สนใจอาการนี้มากมายและหันไปกล่าว “ทีนี้ข้าจะเก็บผลึกแห่งกฎธาตุไฟแล้ว ใครยังมีข้อโต้แย้งหรือไม่?”

ยอดฝีมือทั้งสี่ที่เหลือนั้นต้องอ้าปากค้างด้วยใบหน้าซีดขาว

พวกเขานั้นหวาดกลัวกับภาพที่เกิดขึ้นอย่างมาก!

เย่หยวนนั้นกลับสังหารเต๋าบรรพกาลคนหนึ่งระหว่างที่รับการโจมตีของพวกเขาทั้งห้า!

ก่อนนี้ระหว่างที่พวกเขาโจมตีกันอย่างบ้าคลั่งนั้นเย่หยวนฝืนรับสุดยอดไม้ตายของพวกเขาทั้งห้าไว้ได้และโจมตีสวนกลับมาด้วยวิชาที่สุดแสนรุนแรงล้ำอย่างสองขั้ว!

พลังฝีมือของเขานั้นมันทำให้คนทั้งหลายแทบล้มทั้งยืน!

เย่หยวนในเวลานี้เป็นเหมือนดั่งเทพสงคราม คนทั้งหลายนั้นรู้สึกว่าเขาจะไม่มีทางพ่ายแพ้แก่ใครอีก

ยอดคนทั้งสี่นั้นต่างถอยหลังไปพร้อมๆ กันอย่างไม่ได้นัดหมาย

“ดีมาก ดูท่าจะไม่มีใครโต้แย้งแล้ว!”

เย่หยวนยิ้มขึ้นมาก่อนจะเดินไปหยิบเอาลึกแห่งกฎธาตุไฟมาไว้

ตั้งแต่ต้นจนจบนั้นไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่กล้าจะก้าวขึ้นมาห้ามตัวเขา

เมื่อเก็บผลึกลงเสร็จสิ้นแล้วเย่หยวนก็กล่าวขึ้นมา “พวกเจ้าจะต่อหรือ… จะไสหัวไป?”

เย่หยวนกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสดใส

แม้ว่าคลื่นพลังของเขานั้นจะดูไม่ค่อยเสถียรนักแต่ก็ไม่ได้ดูบาดเจ็บมากมาย

พวกอี้เฟิงนั้นได้แต่ทำหน้าเหยเก

แม้ว่าพวกเขานั้นจะเป็นบรรพบุรุษเผ่าเทวาผู้มีพลังเหนือฟ้าดินแต่มันก็ไม่อาจจะสังหารเต๋าบรรพกาลลงได้ง่ายๆ

การเอาชนะและการสังหารนั้นมันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!

เต๋าบรรพกาลทั้งหลายนั้นคือคนที่เคยได้รับพลังของผลึกแห่งกฎมาก่อน กำลังฝีมือของพวกเขามันย่อมจะเหนือล้ำกว่าเหล่ามหาบรรพกาลทั้งหลายไปอีกระดับ

“เจ้า… เจ้ามันสัตว์ประหลาดจริงๆ!” อี้เฟิงกัดฟันร้องก่อนจะพุ่งตัวหายไป

บรรพบุรุษอีกคนก็หายตามๆ อี้เฟิงไปด้วย

ส่วนทางด้านเต๋าบรรพกาลสายฟ้านั้นได้แต่ยืนนิ่ง “พวกเราทั้งห้าโจมตีกันสุดตัวแต่เจ้า… เจ้ากลับบาดเจ็บแค่เล็กน้อย! จ-จำเรื่องนี้เองไว้เถอะ! วันหน้าบรรพกาลผู้นี้จะไม่ขอยุ่งเกี่ยวใดๆ กับเจ้าอีกแล้ว!”

พูดจบเขาก็พุ่งตัวหายเข้าไปในม่านหมอกหนาเช่นกัน

เมื่อเต๋าบรรพกาลทำลายล้างได้เห็นเต๋าบรรพกาลสายฟ้าพุ่งตัวหายไปเขาก็ไม่คิดพูดอะไรให้มากความ เดินหันหน้าหนีหายไปเช่นกัน

ความรู้สึกที่พวกเขาได้รับจากตัวเย่หยวนนั้นมันเกินกว่าคำว่าสัตว์ประหลาดไปมากนัก

การบรรลุเต๋าและขึ้นเป็นเต๋าบรรพกาลนั้นมันคือการได้ชีวิตอมตะ!

สำหรับพวกเขาทั้งเก้านั้นแม้จะเสียพลังไปแล้วแต่ความตายมันก็ยังมิใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้

แต่เวลานี้เย่หยวนกลับสังหารเต๋าบรรพกาลลงด้วยกระบวนท่าเดียว

ที่สำคัญไปกว่านั้นเต๋าบรรพกาลน้ำนั้นยังตายลงทั้งๆ ที่มียอดฝีมืออีกถึงสี่คนกำลังรุมโจมตีเย่หยวน!

มีหรือที่พวกเขาจะทำใจรับเรื่องนี้ได้ง่ายๆ?

….