ตอนที่ 1411: อุบายของนูบิส

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1411: อุบายของนูบิส

“วิญญาณของเสี่ยวเป่าแตกต่างจากข้า แต่ข้ารู้สึกว่าวิญญาณของเขามีพลังมากกว่าคนธรรมดา แม้แต่พลังของข้าก็ไม่สามารถเปรียบเทียบกับเขาได้” เจี้ยนเฉินคิด เจี้ยนเฉินสงสัยว่ามันเป็นความแตกต่างอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างร่างบรรพกาลแต่กำเนิดและร่างบรรพกาลทั่วไปหรือไม่

ร่างบรรพกาลทั่วไปบ่มเพาะพลังบรรพกาลเช่นกัน แต่ก็มีหลายแง่มุมที่ไม่สามารถเปรียบเทียบได้กับร่างบรรพกาลแต่กำเนิด ความได้เปรียบเพียงอย่างเดียวของร่างบรรพกาลทั่วไปก็คือมีคนไม่กี่คนที่สามารถฝึกบ่มเพาะได้ มีผู้ฝึกหัดร่างบรรพกาลทั่วไปในโลกอมตะมาโดยตลอด

ร่างบรรพกาลทั่วไปต้องการเพียงพลังบรรพกาลในการปรับเปลี่ยนและดัดแปลงมัน ร่างบรรพกาลแต่กำเนิดไม่เคยปรากฏมาก่อนเลย

แม้ว่าการสร้างร่างบรรพกาลทั่วไปจะดูง่าย แต่ก็มีไม่กี่คนที่สามารถประสบความสำเร็จได้ มีอัจฉริยะมากมายนับไม่ถ้วนที่ต้องเสียเวลาไปในเส้นทางของการบ่มเพาะ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่สามารถใช้พลังบรรพกาลเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองได้

เจี้ยนเฉินเรียนรู้ทั้งหมดนี้จากจิตวิญญาณกระบี่

“ยาทำให้เปลวไฟลุกโชติช่วงอย่างต่อเนื่อง ท่านพ่อ ข้าทำได้ ข้าก้าวเข้าสู่เส้นทางแห่งการบ่มเพาะอย่างถูกต้องหรือไม่ ? ” เสี่ยวเป่าลืมตาขึ้นมาจากการบ่มเพาะและดวงตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

ในที่สุดเจี้ยนเฉินก็ยิ้มเมื่อเห็นว่าเสี่ยวเป่าเป็นอย่างไร ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโล่งอก เสี่ยวเป่าเริ่มต้นการบ่มเพาะร่างบรรพกาลอย่างแท้จริง ความแข็งแกร่งของเขาเทียบเท่ากับร่างบรรพกาลขั้นแรกของเจี้ยนเฉิน ทำให้เขาสามารถต่อสู้กับเซียนผู้คุมกฎได้

ในเวลาเดียวกันเขาก็ควบแน่นวิญญาณของเขา วิญญาณที่ควบแน่นเป็นตัวแทนของเซียนผู้คุมกฎ แม้ว่าเขาจะเดินไปในหนทางอื่นในการบ่มเพาะและไม่เข้าใจความลึกลับของโลก แต่พลังที่แท้จริงของเขานั้นแข็งแกร่งกว่าของเจี้ยนเฉินตอนที่อยู่ที่ชั้นแรกเล็กน้อย

ทั้งหมดนี้เป็นเพราะร่างบรรพกาลแต่กำเนิดของเขา !

เสี่ยวเป่ายังอายุไม่ถึงสิบปีเลย หากข่าวที่ว่าเขาครอบครองพลังของเซียนผู้คุมกฎแพร่ออกไป มันจะสั่นสะเทือนไปทั่วโลกอย่างแน่นอน

นี่เป็นเพราะคนจำนวนมากเพิ่งเริ่มบ่มเพาะในวัยนี้ พวกเขาจะฝึกฝนอย่างหนักเพื่อควบแน่นอาวุธเซียนให้ตัวเองกลายเป็นเซียนให้ได้

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เดินเข้ามาในถ้ำ นางไม่ได้เหลียวมองเจี้ยนเฉินด้วยซ้ำ นางสนใจเพียงเสี่ยวเป่าคนเดียว ประกายแห่งความสุขส่องประกายแวววาวผ่านดวงตาของนางเมื่อนางสัมผัสได้ว่าพลังแห่งการมีอยู่ของเสี่ยวเป่ากลายเป็นพลังที่นับไม่ถ้วนมากกว่าก่อน แต่ความสุขนั้นถูกซ่อนไว้ในไม่ช้า

เจี้ยนเฉินรู้ว่าหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์นั้นคอยเฝ้าดูเสี่ยวเป่าอยู่เสมอเพราะนางไม่สามารถหยุดกังวลเกี่ยวกับตัวเขาได้ นางแสดงความรักที่มีต่อเสี่ยวเป่าไม่บ่อยนัก แต่มันมาจากใจจริง

เจี้ยนเฉินนำสมบัติสวรรค์จำนวนมากออกมาซึ่งเป็นสิ่งที่เขาได้รับจากโลกจิ๋วหยานหวงและผลึกอสูรหยวนหวงระดับ 8 และ 9 เขามอบทั้งหมดให้แก่เสี่ยวเป่าเพื่อที่เขาจะได้ฝึกฝนบ่มเพาะต่อไป

เจี้ยนเฉินยังไม่พอใจกับความแข็งแกร่งของเสี่ยวเป่าในระดับเซียนผู้คุมกฎ เขาไม่ทราบว่าเมื่อใดโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งจะเข้ามาโจมตีอีกครั้ง แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจมากก็คือครั้งต่อไปที่พวกเขาโจมตี เหล่านักรบจากต่างแดนจะน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม สนามรบอาจกลืนไปทั้งโลก และเซียนจักรพรรดิอาจไม่สามารถปกป้องตนเองได้ ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงต้องทำทุกวิถีทางที่จะทำได้เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับเสี่ยวเป่าให้ทันเวลา

เจี้ยนเฉินหยิบน้ำศักดิ์สิทธิ์ของโลก, ลูกท้อเมฆม่วงระดับ 5, และใบชาหยั่งรู้บางส่วนออกมาและมอบให้กับหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ จากนั้นเขาก็อธิบายวิธีการใช้ให้นางฟัง

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เดินไปอีกเส้นทางแห่งการบ่มเพาะ นางไม่จำเป็นต้องเข้าใจความลึกลับของโลกในทวีปเทียนหยวน แต่หนทางแห่งพิณก็เป็นบัญญัติประเภทหนึ่งในหลายวิธี ดังนั้นสิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อนางอย่างเห็นได้ชัด

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ลังเลที่จะยอมรับสิ่งของของเจี้ยนเฉิน นางไม่ได้รับมันไปทันที ถ้าเจี้ยนเฉินฝากนางไว้ให้กับเสี่ยวเป่า นางจะไม่ลังเลเลยที่จะรับสิ่งของเหล่านั้น นางเชื่อว่าเขาจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้เสี่ยวเป่า อย่างไรก็ตามมันเป็นเรื่องที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงถ้าเขาให้นางเก็บไว้ใช้เอง

“อุโมงค์มิติยังไม่เสถียรอย่างมากในครั้งล่าสุดที่มีการโจมตีจากต่างแดน ดังนั้นจึงไม่มีจอมยุทธ์ขอบเขตดั้งเดิมลงมา มีเพียงร่างโคลนของผู้นำ จิตวิญญาณราชันที่ลงมาได้ อย่างไรก็ตาม อุโมงค์จะมีเสถียรภาพมากขึ้นในครั้งต่อไปที่พวกเขาโจมตี จอมยุทธ์ขอบเขตดั้งเดิมคงลงมาด้วยแน่ หากเจ้าไม่มีพลังมากพอ เจ้าจะปกป้องเสี่ยวเป่าได้อย่างไร เจ้าต้องการที่จะเห็นเสี่ยวเป่าตายต่อหน้าต่อตาโดยที่เจ้าเองก็ช่วยอะไรไม่ได้อย่างนั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินอธิบาย

ความกระอักกระอ่วมเกิดขึ้นภายในดวงตาของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์เมื่อนางได้ยินคำพูดของเขา แต่ท้ายที่สุดนางก็เห็นด้วยกับเขา นางยอมรับสิ่งของของเจี้ยนเฉินเพราะนางเข้าใจถึงพลังของโลกต่างแดนเป็นอย่างดี นางเข้าใจว่าในครั้งต่อไปที่พวกเขาจะบุกมาโจมตี มันจะเป็นเหมือนพายุและโลกทั้งใบจะกลายเป็นสนามรบ จะไม่มีที่ไหนปลอดภัย ดังนั้นวิธีเดียวที่จะอยู่รอดได้คือควรมีพลังมากพอ

ทวีปสัตว์เทวะนั้นเป็นดินแดนที่ไม่เล็กไปกว่าทวีปเทียนหยวน เก้าส่วนของพื้นผิวถูกปกคลุมไปด้วยป่าไม้เขียวชอุ่ม ในขณะที่ภูเขาโบราณขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ขนาดใหญ่เกือบครอบครองทั้งทวีป มันไม่ค่อยมีพื้นที่ราบ

ทวีปสัตว์เทวะเป็นที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับสัตว์อสูร มันเป็นเหมือนสวรรค์สำหรับพวกเขา ทวีปนี้ไม่เพียงแต่มีเทือกเขามากกว่าในทวีปเทียนหยวน แต่ยังมีพลังงานของโลกที่มีความหนาแน่นมากกว่า พวกเขาจะสามารถบ่มเพาะได้เร็วกว่ามาก

ทวีปสัตว์เทวะยังมีเมืองและชนเผ่าที่เป็นตัวแทนของผู้ปกครองของบางภูมิภาค สัตว์อสูรระดับ 7 ในรูปแบบของมนุษย์จะบินทะลุฟ้าเป็นครั้งคราว

ภายในเทือกเขาโบราณ ชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าสีทองนอนทอดกายอย่างเกียจคร้านบนกิ่งไม้ยาว 3 เมตร เขากำลังงุนงงขณะที่จ้องมองท้องฟ้าด้วยความเหนื่อยล้า

“เฮ้อ ทวีปสัตว์เทวะนั้นกว้างใหญ่เกินไป หลังจากเป็นเซียนราชาก็ยังไม่สะดวกที่จะหาคนที่เฉพาะเจาะจง ข้าอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว แต่ข้าก็ไม่เคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับงูแก่เลย มันไปมุดหัวอยู่ที่ไหน ? ” ชายหนุ่มบ่น ไม่น่าแปลกใจเลยชายหนุ่มคนนี้คือนูบิสที่เพิ่งตัดผ่าน

” มีงงูที่ถูกสังหารโดยผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทหารรับจ้างในทวีปเทียนหยวนหรือไม่ ? ” นูบิสย่นหน้าผากด้วยความคิดก่อนที่จะส่ายหัวอีกครั้ง “มันเป็นไปไม่ได้ แหล่งข้อมูลของข้าเชื่อถือได้ ควรมีงูอีกตัวที่ทรงพลังกว่าในทวีปสัตว์เทวะ แต่ข้าไม่พบสิ่งใดเกี่ยวกับเขาเลยหลังจากค้นหามาหลายวัน หรือว่างูตัวนั้นเก็บตัวเงียบ ซึ่งหมายความว่าเขาไม่ได้โด่งดัง ? หรือว่าไม่มีใครรู้ว่างูแก่นั้นอยู่ที่ไหน ? ”

นูบิสก็ตบเข่าของตัวเองหลังจากช่วงเวลาแห่งความเงียบงัน เขาลุกขึ้นนั่งทันทีและพูดว่า “เนื่องจากข้าหางูแก่ไม่เจอ ดังนั้นข้าต้องล่อเขาออกมา หืม ข้าไม่อยากเชื่อว่าหาเจ้าไม่เจอ ”

นูบิสห่อหุ้มด้วยแสงสีทองพราวทันที พลังแห่งการมีอยู่ของเขาลดลงอย่างรวดเร็วในขณะที่เขาอาบอยู่ในแสงสว่าง มันลดลงจากเซียนจักรพรรดิไปเป็นเซียนราชาอย่างรวดเร็ว มันไม่หยุดอยู่แค่นั้น มันกำลังลดลงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า ก่อนที่จะหยุดในระดับของเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 9 ในตอนท้าย

หลังจากนั้นนูบิสก็กลายเป็นงูทองคำยาวหลายพันเมตร ตัวหนาขนาดต้นไม้ เขาพุ่งขึ้นไปบนฟ้า,และจากระยะไกล เขาดูเหมือนริบบิ้นสีทอง