ตอนที่ 2492 เจ้ากลัวอะไรเล่า

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“ชิๆ น่าซาบซึ้งใจเสียจริง! พี่น้องของเจ้านั้นอุตส่าห์เสี่ยงชีวิตไปเอาหยาดชีวามาได้ แต่สุดท้ายนั้นมันกลับถูกข้าแย่งชิงมา เจ้าคงไม่พอใจมากแล้ว?”

หลินเฉาเถียนนั้นยิ้มขึ้นมาด้วยความเย้ยหยันอย่างถึงที่สุด

แต่ในเวลานั้นเองมันก็ได้ปรากฏอีกเงาร่างหนึ่งค่อยๆ ก้าวออกมาจากม่านหมอกมองดูเย่หยวนด้วยสีหน้าเยาะเย้ย

“หึๆ ท่านนักบุยฟ้าคราม ท่านพอใจกับของขวัญชิ้นใหญ่นี้หรือไม่?”

ผู้ที่กล่าวอยู่นี้มันมิใช่ใครอื่นนอกจากจางเจิ้น!

เย่หยวนขมวดคิ้วมองดูด้วยความขุ่นข้องในใจ

หลินเฉาเถียนนั้นใช้ทุกวิถีทางอย่างแท้จริง!

จางเจิ้นนั้นยิ้มตอบกลับไป “หึๆ ข้านั้นรู้ดีว่าท่านนักบุญฟ้าครามไม่คิดเชื่อข้าแต่แรก แต่ข้านั้นก็ไม่ต้องการความเชื่อใจใดๆ จากท่านนักบุญฟ้าครามอยู่แล้ว ตราบเท่าที่พี่น้องคนอื่นๆ ของท่านเชื่อข้าก็เป็นพอ!”

หลินเฉาเถียนนั้นยิ้มตอบกลับขึ้นมา “นอกจากจางเจิ้นแล้วเจ้าฟ้าดินทั้งหลายภายใต้ข้าต่างล้วนแปรพักตร์ไปอยู่กับเจ้าจริงๆ! หึ การผสานความจริงและคำหลอกเข้าด้วยกันนั้นมันทำให้เรื่องราวดูแยบยลขึ้นมาก! ที่สำคัญไปกว่านั้นดูเหมือนเจ้าจะลืมไปว่าข้านั้นเคยขึ้นมาในเส้นทางนี้ของเขาแห่งถงเทียนมาก่อน! ก่อนนั้นบรรพกาลผู้นี้สู้เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกว่าจะเอาตำแหน่งเต๋าบรรพกาลมาครองได้! มันไม่มีใครที่จะคุ้นเคยกับเขาแห่งถงเทียนไปมากกว่าข้าแล้ว! เพราะฉะนั้นพี่น้องทั้งหลายของเจ้านั้นอยู่ที่ใดข้าย่อมจะรู้ได้สิ้น!”

เย่หยวนนั้นเป็นตัวตนที่เป็นภัยร้ายต่อหลินเฉาเถียน

มันแป็นภัยที่ร้ายแรงกว่าเผาเทวาเสียด้วยซ้ำ!

เพราะฉะนั้นหลายต่อหลายปีที่รอการกำเนิดแห่งเต๋าสวรรค์นี้หลินเฉาเถียนต่างได้คิดหาทางต่างๆ มากมายเพื่อที่จะชำระแค้นกับเย่หยวน มิใช่เพื่อจะหาทางครองตำแหน่งเต๋าบรรพกาลใดๆ!

หลินเฉาเถียนนั้นเป็นคนฉลาด เขาย่อมรู้ดีว่าความแค้นของตัวเขาและเย่หยวนนั้นมันลึกล้ำจนไม่อาจเลี่ยงการปะทะได้

เพราะฉะนั้นเขาจึงได้เค้นสมองมาหลายปีเพื่อที่จะวางแผนร้ายจัดการเย่หยวนลง

แต่สุดท้ายเขาก็ได้พบว่าปัญหานี้มันไม่มีทางจะจัดการลงได้!

เพราะเย่หยวนนั้นเป็นอมตะ!

ตราบเท่าที่เขาฆ่าสังหารเย่หยวนลงไม่ได้ เย่หยวนก็จะต้องพัฒนาตนเองต่อไปเรื่อยๆ จนก้าวข้ามเขาไปสักวัน

หลินเฉาเถียนนั้นเคยลองคิดว่าหากขึ้นไปครองตำแหน่งเต๋าบรรพกาลอีกครั้งแล้วมันจะพอไหวหรือไม่แต่ไม่ว่าจะมองอย่างไรแค่พลังของเต๋าบรรพกาลมันก็ไม่อาจจะสร้างความมั่นใจให้แก่เขาได้เลย

เย่หยวนนั้นมีความเป็นไปได้ที่ไร้จำกัด!

เช่นนั้นแล้วจุดอ่อนของเย่หยวนเล่า?

เพื่อนๆ ของเขา!

ครั้งก่อนนั้นเขาเตรียมการไว้ไม่ดีพอ

แต่ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมพลาดอีก!

บนพื้นดินนั้นผางเจิ้นกระอักเลือดฝืนกล่าวสวนไป “จางเจิ้น เจ้ามารร้าย! ข้าจะไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่!”

จางเจิ้นนั้นตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม “หึๆ เจ้าเองก็คิดมากไปแล้ว! เขานั้นมีผลึกแห่งกฎแค่สองชิ้น เจ้าไม่รู้หรือว่าเขาจะเลือกใคร? ตามที่ข้ารู้มานั้นความสนิทสนมใดๆ ของเจ้ากับเขามันไม่อาจเทียบกับคนทั้งสองนี้ได้เลยมิใช่หรือ?”

ผางเจิ้นนั้นหรี่ตาลงพร้อมกัดฟันแน่น “ว่านเจิ้น ท่านเฉียนจี้ หลังจากข้าตายแล้วขอฝากพวกท่านสังหารเจ้างูพิษนี้ด้วย!”

ว่านเจิ้นนั้นหรี่ตาลงร้องตอบ “นายท่าน ช่วยท่านเฉียนจี้กับผางเจิ้นเถอะ!”

ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เฉียนจี้นั้นจึงใช้แรงสุดท้ายหัวเราะตอบกลับไป “เด็กน้อยทั้งสองอย่างเจ้ากลับคิดจะให้คนเฒ่าอย่างข้าอยู่ทรมานต่อหรือ! เฒ่าผู้นี้อยู่มานับหมื่นๆ ล้านปีมันมากจนเกินพอแล้ว! เย่หยวน แม้ว่าข้านั้นไม่อาจจะทำสิ่งที่ท่านพ่อหวังได้สำเร็จ ทำได้แค่นั่งตัวสั่นมานับยุคสมัยแต่ข้านั้นก็ยังไม่ได้ตกต่ำถึงขั้นนั้น! เจ้าช่วยเด็กทั้งสองคนนี้เถอะ!”

เย่หยวนนั้นขมวดคิ้วแน่นอย่างไม่อาจจะตอบกลับใดๆ ไปได้

เขานั้นสัมผัสได้ว่าหลินเฉาเถียนแฝงพลังบางอย่างไว้ในร่างของพวกเขา

หากเย่หยวนทำอะไรลงไปแล้ววินาทีเดียวกันนั้นคนทั้งสามคงได้ตายลงสิ้น

แต่คนทั้งสามนี้ตัวเย่หยวนไม่คิดจะยอมเสียใครไปทั้งสิ้น!

“ชิๆ ซาบซึ้งจนน้ำตาข้าจะไหลแล้ว! เวลานี้เจ้ายังจะคิดช่วยเหลือคนอื่นนอกจากตนอีก! หึๆ แต่เจ้าไม่คิดหรือว่าทำเช่นนี้มันมีแต่จะทำให้เขาเลือกยากขึ้น?”

หลินเฉาเถียนนั้นยิ้มเย้ยหันไปมองเย่หยวน “ทำไมเล่า? เลือกไม่ได้หรือ? เช่นนั้น… ให้ข้าช่วยเลือกให้ไหม?”

ตูม!

หลินเฉาเถียนชี้นิ้วออกมาทำลายขาทั้งสองของผางเจิ้นทิ้งลง

“อึก…” ผางเจิ้นนั้นเจ็บปวดอย่างสาหัสได้แต่ต้องสูดหายใจลึก

แต่เขานั้นกลับไม่คิดจะร้องขึ้น

แม้ว่าแผลเช่นนี้จะไม่ถึงตายแต่มันก็เจ็บปวดอย่างสาหัส

เย่หยวนนั้นหรี่ตาลงก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยเสียงเย็นเยือก “หลินเฉาเถียน เจ้ารนหาที่ตายแล้ว!”

หลินเฉาเถียนนั้นกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม “อ่า? เช่นนั้นหรือ?”

ฟุบ!

เขาขยับตัวพุ่งเข้าใส่เย่หยวนทันที

เย่หยวนหรี่ตาลงมองพร้อมเปิดใช้งานเอกภพ!

“เจ้ากล้าปัดป้อง?” หลินเฉาเถียนนั้นยิ้มกล่าวขึ้น

สีหน้าของเย่หยวนเปลี่ยนสีไปก่อนจะรีบเก็บเอกภพลง

ปัง!

ฝ่ามือของหลินเฉาเถียนนั้นกระแทกใส่กลางอกของเย่หยวน

เย่หยวนกระอักเลือดขึ้นพร้อมลอยลิ่วไป

เย่หยวนนั้นได้แต่ต้องจำใจดึงเอกภพกลับมารับฝ่ามือนี้ไว้ เพราะฉะนั้นมันจึงกระแทกเข้าร่างเขาอย่างจัง

ฝ่ามือนี้มันถูกหลินเฉาเถียนซัดออกมา มันต้องรุนแรงล้ำปานใด?

ชื่อเต๋าบรรพกาลอันดับหนึ่งของเขานั้นไม่ได้มาเพราะโชค!

กำลังของเขานั้นมันเหมือนล้ำเสียยิ่งกว่าคนทั้งห้าที่เย่หยวนได้ปะทะมาก่อนหน้า!

“ท่านนักบุญฟ้าคราม เจ้ามันก็แค่เท่านี้!”

หลินเฉาเถียนมองดูเย่หยวนที่นอนกองกับพื้นด้วยเสียงหัวเราะ “ฮ่าๆๆ… เย่หยวน เจ้าโอหังมากมิใช่หรือ? เจ้าดูถูกบรรพกาลผูนี้มากมิใช่หรือ? ลุกสิ! สู้สิ!”

ปัง!

พูดไปหลินเฉาเถียนก็ขยับร่างกระแทกอีกฝ่ายมือลงกลางอกเย่หยวน

เย่หยวนปลิวลิ่วออกไปอีกกครั้ง!

สองฝ่ามือที่กระแทกลงต่อเนื่องกันนี้ต่อให้เย่หยวนจะมีกายเนื้อที่แข็งแกร่งปานใดมันก็ไม่อาจจะเลี่ยงที่จะรับบาดเจ็บภายในไปไม่น้อย

เพราะจะอย่างไรเสียเขานั้นก็ไม่ได้ตั้งรับใดๆ ออกมาแม้แต่น้อย เขาใช้เพียงแค่พลังของกายเนื้อตนเองเท่านั้นที่รับสองฝ่ามือนี้ไว้!

หากเป็นคนอื่นๆ แล้วหากถูกสองฝ่ามือของหลินเฉาเถียนลงเช่นนี้มันคงไม่เหลือแม้แต่ซากร่าง

“ฮ่าๆๆ… สมชื่อเป็นนักบุญฟ้าคราม ทนมือทนเท้าดีจริงๆ! จิตศักดิ์สิทธิ์ของเจ้านั้นมันไม่อาจถูกทำลายลงแต่หากบรรพกาลผู้นี้ทำลายร่างกายของเจ้าลงแล้วข้ายังอยากรู้ว่าเจ้าจะหลุดพ้นโซ่ตรวนสวรรค์ได้หรือไม่?”

หลินเฉาเถียนหัวเราะลั่นขึ้นมาก่อนจะกระแทกฝ่ามือใส่เย่หยวนอีกครั้ง

กระดูกในร่างของเย่หยวนนั้นมันถูกทำลายลงอย่างป่นปี้ อวัยวะภายในเกิดความเสียดายอย่างหนัก

“อ่า! อ่า! อ่า! ท่านนักบุญฟ้าคราม ช่างพวกเราเถอะ! ต่อสู้กับมันให้รู้แล้วรู้รอดไป!” ผางเจิ้นร้องลั่นขึ้นมาด้วยเหงื่อที่ไหลเต็มหน้าเพราะความเจ็บปวด

ว่านเจิ้นเองก็กัดฟันแน่นร้องขึ้น “ท่านนักบุญฟ้าคราม ความตายของเรานั้นมันไม่มีค่าใด! สู้มันเถอะ! สังหารเจ้าหมาเฒ่านี้ลงเพื่อเผ่าพันธุ์เราเสีย!”

พวกเขานั้นเข้าใจดีว่ากำลังของเย่หยวนมันพอจะเทียบเคียงหลินเฉาเถียนได้

แต่เพื่อชีวิตของพวกเขาทั้งหลายนั้นเย่หยวนจึงได้แต่ต้องรับการโจมตีของหลินเฉาเถียนไปตรงๆ

เป็นเช่นนี้ต่อไปร่างกายของเย่หยวนคงได้ป่นปี้แน่!

แม้ร่างกายจะถูกทำลายลงเย่หยวนก็คงไม่ตายเป็นแน่

แต่การจะกลับขึ้นไปถึงจุดสูงสุดอีกครั้งนั้นมันคงใช้เวลาและความพยายามอีกมากมาย

แล้วมีหรือหลินเฉาเถียนจะให้โอกาสนั้นกับเขา!

เมื่อหลินเฉาเถียนได้ยินเช่นนั้นเขาก็หัวเราะลั่นขึ้น “ใช่ สู้กลับมาสิ! ทำไมเจ้าไม่ตอบโต้มาเลยเล่าท่านนักบุญฟ้าคราม? สู้กลับมาสิ!”

ฟุบ!

หลินเฉาเถียนนั้นขยับร่างอีกครั้งก่อนจะกระแทกฝ่ามือใส่เย่หยวน

การได้เล่นงานเย่หยวนเช่นนี้มันเป็นอะไรที่สะใจเขามาก!

แต่ในเวลานั้นเองที่เย่หยวนกลับเงยหน้าสวนขึ้นมาด้วยสายตาเย็นเยือก

ความอันตรายรุนแรงปะทะเข้ากับร่างกายของเขา!

หลินเฉาเถียนหน้าซีดลงก่อนจะดีดตัวกลับออกมาทันที!

เขานั้นกลัว!

เย่หยวนค่อยๆ ลุกยืนขึ้นก่อนจะหันไปหาหลินเฉาเถียน “มาสิ! เจ้ากลัวอะไรของเจ้า?”

เป็นเวลานี้เองที่หลินเฉาเถียนได้รู้ว่าตนถูกหลอกแล้ว!

เย่หยวนนั้นไม่กล้าจะขัดขืนใดๆ เขาเพียงแค่ขู่เท่านั้น

และตัวหลินเฉาเถียนกลับกลัวจริงๆ!

“ไอ้เด็กนรก! รนหาที่ตายแล้ว!” หลินเฉาเถียนนั้นอับอายจนกลายเป็นความคับแค้นพุ่งเข้าใส่เย่หยวนอีกครั้ง!

…………………………