มันยิ่งกว่าพอใช้ได้…
มันดูเหมือนป้อมปราการ!
หลังจากพลิกดูเอกสารไปจำนวนหนึ่ง ผู้อำนวยการหลี่ไม่สามารถบรรยายความรู้สึกของตัวเองได้เลย เขารู้สึกช็อก
จากมิติและขนาดของแต่ละหมุดย้ำไปสู่วัสดุและสลักเกลียว อุปกรณ์ที่จำเป็นต่อแต่ละโมดูลฟังก์ชันและจำนวนผู้คนที่ต้องใช้ ความต้องการเกือบทั้งหมดถูกร่างรายการไว้ที่พิมพ์เขียวนี้
หลายสิ่งในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศไม่สามารถเป็นไปได้ อย่างเช่น ‘โมดูลัสของยังที่ 2.07TPa และความแกร่งพังทลายที่ 79N/m’ หรือ ’ความหนาแน่น ρ≤ 3.7g/cm3 โลหะผสมไทเทเนียมพร้อมโมดูลัส ≥ 1333MPa และความแข็งกล้า ≥ HB400…” เป็นต้น
แต่ว่าจากเทรนด์การพัฒนาปัจจุบัน ตราบใดที่มีเงินลงทุนเพียงพอในทิศทางการวิจัยเหล่านี้ มันยังเป็นไปได้ที่จะสร้างวัสดุที่ตรงตามมาตรฐานได้สักวันหนึ่งในอนาคต
ดังนั้นสิ่งนี้ไม่ใช่แค่แนวคิดแต่มันเป็นคู่มือที่เข้มข้น!
แผนที่นำร่องทั่วไปได้กำหนดทิศทางการวิจัยของอุตสาหกรรมการบินและอวกาศไปอีก 100 ปี!
“สิ่งนี้… คุณไปเอามาจากไหน?”
ผู้อำนวยการหลี่พบว่าเขาไม่เข้าใจคำอธิบายของลู่โจวอยู่ดี
ถึงแม้ว่าลู่โจวอธิบายให้เขาฟังมันก็เปล่าประโยชน์
“ผมเอาพิมพ์เขียวนี้ไปก่อน ผมจะกลับปักกิ่งคืนนี้!”
ผู้อำนวยการหลี่หยิบพิมพ์เขียวใส่กระเป๋าเอกสารและม้วนปิดมันด้วยเส้นด้าย ผู้อำนวยการหลี่มองดูลู่โจวและพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ถ้ามันโอเคผมอยากโชว์มันให้ผู้เชี่ยวชาญที่องค์การเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์การบินและอวกาศแห่งประเทศจีนแล้วเอามันไปที่ถนนฉางอาน คุณติดอะไรไหม?”
“ไม่มีปัญหาครับ” ลู่โจวพูดพร้อมรอยยิ้ม “ผมแนะนำให้คุณเอามันให้นักวิชาการหยวนฮวานมินดู เขาจะเข้าใจ”
ถึงนักวิชาการวัยชราคนนี้ดื้อเป็นบางครั้ง แต่ทักษะของเขานั้นไร้ข้อกังขา ลู่โจวเชื่อว่าหลังจากเขาเห็นพิมพ์เขียวนี้ เขาจะสามารถเข้าใจความหมายเบื้องหลังพิมพ์เขียวนี้ได้
“ผมวางแผนจะทำแบบนั้น” ผู้อำนวยการหลี่พูดว่า “ถ้านักวิชาการหยวนรู้สึกว่ามันไม่มีปัญหา มันน่าจะโน้มน้าวได้มากกว่าเมื่อหารือกันในที่ประชุม โอเคเลย ผมยังต้องขับรถไปอีก ผมคงไม่อยู่ทานมื้อเย็น”
ลู่โจวถามว่า “ทำไมไม่รอไปพรุ่งนี้ล่ะ? มันน่าจะมีงานเลี้ยงฉลองคืนพรุ่งนี้”
“ไม่ได้ครับ!”
ผู้อำนวยการหลี่ลุกขึ้นจากโซฟาและพูดว่า “งานเลี้ยงฉลองจัดเมื่อไหร่ก็ได้ ผมมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ!”
ผู้อำนวยการหลี่ลุกขึ้นและเดินไปที่โถงทางเดิน ลู่โจวก็ลุกขึ้นจากโซฟาและไปส่งเขาที่ประตู
ลู่โจวอยากบอกเขาเรื่องสำคัญรอไปก่อนได้ แต่เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการหลี่เห็นว่าพิมพ์เขียวนี้สำคัญมากแค่ไหน เขาตัดสินใจว่าจะไม่โน้มน้าวต่อ
เมื่อเป็นแบบนี้พิมพ์เขียวของ ‘ที่อยู่วงโคจรสแตนฟอร์ดทอรัส’ และแผนการสำหรับสถานีอวกาศจุดลากรองจ์และด่านหน้าดาวอังคารถูกผู้อำนวยการหลี่พกไปและอยู่บนรถไฟแม็กเลฟที่มุ่งตรงไปปักกิ่ง
สำหรับเรื่องอื่นลู่โจวไม่อยากคิดกังวลถึงมันในช่วงนี้
ก่อนที่จะเริ่มวอยด์เมมโมรี่ชิ้นที่สามและภารกิจต่อไปของระบบ เขาแค่อยากพักผ่อนให้เต็มอิ่ม
ในอีกแง่หนึ่ง เขาอยากใช้เวลากับแฟนสาวบ้าง และในอีกมุม เขาก็อยากพักสมองและคิดว่าจะวิจัยในด้านไหนต่อไป…
เช้าวันต่อมา
หลังจากตอบรับการสัมภาษณ์ รถสื่อ CTV ขับมาที่แมนชั่นของลู่โจว
การสัมภาษณ์กลายเป็นแบบตัวต่อตัว จากการร้องขอของลู่โจว
ก่อนเดินทางมาที่นี่ ผู้อำนวยการของสื่อสำนักนี้ได้ย้ำคำสั่งกับอู๋ซินหรั่น ซึ่งเป็นพิธีกรที่รับผิดชอบงานนี้ ให้รักษาเวลาสัมภาษณ์อยู่ภายในสามสิบนาที นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขาไม่อยากรบกวนการพักผ่อนของลู่โจว
ด้วยเหตุนี้อู๋ซินหรั่นจึงรู้สึกกังวลเล็กน้อยก่อนจะมาที่นี่ เธอทำการบ้านล่วงหน้ามานาน ซึ่งเธอกลัวที่จะขัดใจนักวิชาการที่ ‘พิลึก’ คนนี้
แต่ผลลัพธ์ไม่ได้เป็นเหมือนที่เธอคาดคิดไว้ เมื่อลู่โจวเปิดประตูเชิญเธอเข้ามาในบ้าน เขาไม่ได้ดูอึดอัดใจแบบที่เธอคาดคิดไว้
ทั้งสองนั่งลงที่โซฟา อู๋ซินหรั่นมองดูหุ่นยนต์บ้านนำกาแฟมาให้ เธอมองดูลู่โจวและพูดว่า “คุณดูหนุ่มกว่าที่ฉันคิดไว้ คุณดูเหมือนยังอยู่วัยยี่สิบปีอยู่เลย”
ลู่โจวยิ้มให้และพยักหน้า
“ขอบคุณครับ”
“คุณมีเคล็ดลับอะไรในการรักษาความอ่อนวัยไหม?”
“เคล็ดลับรักษาความอ่อนวัย? ผมไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ” ลู่โจวพูดพร้อมรอยยิ้ม “บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าสภาพแวดล้อมบริสุทธิ์ของห้องแล็บ ผมรู้จักนักวิชาการหลายคนที่ดูอ่อนวัยมาก”
ตัวอย่างเช่น ศาสตราจารย์เทา
ถึงแม้ว่าเขาอยู่ในวัยห้าสิบปีแล้ว เขายังดูเหมือนคนอายุสามสิบต้นๆ เมื่อเขาอยู่ในวัยสามสิบปี เขาดูเหมือนอายุยี่สิบปีกว่าๆ เมื่อศาสตราจารย์เทาแต่งงาน เขาดูเหมือนคนเดินควงกับพี่สาว
“น่าอิจฉาจังเลยนะคะ” อู่ซินหรั่นฉีกยิ้มและพูดว่า “เราจะไม่ทำให้คุณเสียเวลา มาเริ่มกันไหมคะ? ฉันมีเวลากับคุณแค่ครึ่งชั่วโมง”
“ไม่ต้องกังวลขนาดนั้น ผมไม่ได้ยุ่งเท่าไหร่” ลู่โจวพูดพร้อมรอยยิ้ม “ถ้าเวลาไม่พอ เราสามารถต่อเวลาได้นะครับ นานได้จนถึงก่อนช่วงเย็น ผมต้องไปงานเลี้ยงในตอนเย็นนี้”
“วางใจได้เลยค่าว่าจะไม่นานเกินเที่ยง ฉันจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อคุมเวลาสัมภาษณ์ให้น้อยกว่าครึ่งชั่วโมง”
พิธีกรยิ้มให้ลู่โจว จากนั้นก็หันไปมองตากล้องซึ่งถือกล้องอยู่แล้วพยักหน้าให้เขา สิ่งนี้สื่อว่าเธอพร้อมเริ่มถ่ายแล้ว
เมื่อเตรียมการเสร็จทุกอย่าง การสัมภาษณ์เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
“อย่างแรกสุดเลยคำถามที่ทุกคนข้องใจ… คุณคิดว่าอนุภาคซีจะสร้างอะไรให้กับอนาคตของเรา?”
ลู่โจวคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะตอบไป “อนาคตเป็นแนวคิดที่กว้างมาก การที่มันจะส่งผลต่ออนาคตของเราอย่างไรขึ้นอยู่กับว่าคุณหมายถึงอนาคตที่ยาวแค่ไหน ถ้าเป็นในห้าหรือสิบปีทฤษฎีไฮเปอร์สเปซยังเป็นเรื่องแปลกใหม่มากสำหรับคนทั่วไป บางทีมันอาจจะส่งผลต่อเส้นโค้งการพัฒนาของฟิสิกส์ แต่ผลกระทบต่อคนทั่วไปยังคงเล็กน้อยอยู่”
หลังจากหยุดนิ่งไปชั่วครู่ เขาพูดต่อ “อย่างไรก็ตามถ้าเราพูดถึงเวลาห้าสิบปีหรือหลายร้อยปี ผลกระทบของมันจะใหญ่มากให้จินตนาการโลดแล่นเต็มที่”
อู๋ซินหรั่นพูดขึ้น “จินตนาการโลดแล่น?”
“ครับ” ลู่โจวพยักหน้าและยิ้มในขณะที่เขาพูด “จริงๆ แล้ว พอลองคิดดีๆ แล้ว จากการใช้ชีวิตที่ฟาร์มไปใช้ชีวิตในตึกคอนกรีตหนาแน่นมันใช้เวลาแค่สามสิบปี อารยธรรมมนุษย์ทั้งมวลปรับตัวได้มากกว่าที่เราคิด”
“เมื่อร้อยปีก่อนผู้คนไม่สามารถจินตนาการได้ว่า วันหนึ่งในอนาคต คนจะนอนหลับในตึกสูงโดยมีเพื่อนบ้านรายล้อมทั่วทิศ”
“ด้วยเหตุผลนี้สิ่งที่ดูเหลือเชื่อในตอนนี้อาจจะเป็นแค่กิจวัตรปกติในอนาคตร้อยปีข้างหน้า บางทีในตอนนั้นคนส่วนใหญ่อาจจะอาศัยอยู่สถานีอวกาศ ทรัพยากรจะมาจากการขุดเหมืองดาวเคราะห์น้อย สกัดพลังงานจากดวงดาว และใช้พื้นที่อวกาศไร้ขีดจำกัดของจักรวาลนี้เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ จากการพัฒนาสังคม”
อู๋ซินหรั่นถามด้วยความสงสัย “สิ่งพวกนี้เกี่ยวข้องกับอนุภาคซีและทฤษฎีไฮเปอร์สเปซอย่างไรคะ”
“ทุกอย่างที่ผมพูดนั้นเกี่ยวกับอนุภาคซี” ลู่โจวนั่งเอนหลังที่โซฟา เขาวางมือไว้บนเข่าและพูดพร้อมรอยยิ้ม “อวกาศเคยเป็นแนวคิดที่กว้างใหญ่และห่างไกล แต่ตอนนี้มันถูกดึงเข้าใกล้เรามา”
“เนื่องจากการกำเนิดของทฤษฎีไฮเปอร์สเปซ เราจึงได้เจอทางลัดจากวงโคจรต่ำของโลกไปจักรวาลที่ห่างไกล จากเรื่องนี้สิ่งที่ผมพูดไปจะกลายเป็นความจริงในอนาคตอันใกล้”
“มันอาจจะดูเร็วไปที่จะพูดถึงเรื่องพวกนี้”
“แต่เวลาจะแสดงให้เห็นว่าผมไม่ได้ล้อเล่น”