บทที่ 1658 พูดดีๆ + ตอนที่ 1659 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1658 พูดดีๆ + ตอนที่ 1659 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1658 พูดดีๆ

เหยียนหมิงซุ่นก้มมองหญิงสาวที่นอนอ่อนแรงปนง่วงในอ้อมแขนแวบหนึ่ง จึงยิ้มที่มุมปากอย่างอ่อนโยนแล้วก้มจูบหน้าผากเธอแผ่วเบาก่อนวางเหมยเหมยลงเพื่อเอาเสื้อกันหนาวคลุมตัวเธอ จากนั้นตนค่อยลุกมาสวมเสื้อให้ดี

บนพื้นถูกปูเต็มไปด้วยกลีบดอกไม้สวยงามจนเหยียนหมิงซุ่นเคลิบเคลิ้มตาม จากนั้นจึงเก็บรวบมากำหนึ่งพร้อมดอกหญ้าหนึ่งเส้นก่อนจะค่อย ๆร้อยเรียงเป็นพวงทีละกลีบ ๆ ไม่นานก็ร้อยเป็นมงกุฎดอกไม้ เขายิ้มอย่างพึงพอใจแล้วสวมมงกุฎดอกไม้ไว้บนศีรษะเหมยเหมย

ดอกหญ้าสีเขียวคู่กับกลีบดอกท้อสีชมพู รวมถึงสีแดงระเรื่อที่ยังไม่จางหายไปจากพวงแก้มของหญิงสาวสวยเสียกว่ามงกุฎอีก คนกับดอกไม้แข่งกันสวยแต่กลับกลายเป็นว่าคนสวยกว่าดอกไม้เสียอย่างนั้น

เหมยเหมยไม่ได้หลับไปจริง ๆจึงรู้สึกคันยุบยิบตรงบริเวณศีรษะเลยขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ ส่งเสียงท้วงน้อย ๆยื่นมือขึ้นหมายจะปัดสิ่งที่เกะกะศีรษะตัวเอง

เหยียนหมิงซุ่นตะครุบมือเล็ก ๆไว้แล้วพูดเสียงเบา “อย่าขยับ…ไม่งั้นพี่จะ…”

เหมยเหมยรีบชักมือกลับด้วยความตกใจ หลับตาปี๋พึมพำเสียงเบา “ฉันหลับแล้วนะ!”

พระเจ้า ถ้ามาอีกรอบต้องถึงตายแน่ ๆ!

เหยียนหมิงซุ่นแค่หลอกให้เธอตกใจเท่านั้นเพราะหากคิดเอาจริงก็ต้องรอตกดึกเสียก่อน เขารู้ดีว่าควรค่อยเป็นค่อยไป

เห็นเหมยเหมยสวมมงกุฎดอกไม้แล้วงดงามเพียงนี้ก็เกิดนึกสนุกเป็นเด็ก ๆขึ้นมาฉับพลันเลยถอนดอกหญ้าอีกหลายเส้นเริ่มร้อยเป็นกำไลแล้วสวมไว้ตรงข้อมือคนรัก แขนขาวเนียนดุจหิมะช่างเหมาะสมกับดอกท้อสุดเย้ายวนนี้เสียจริง

ข้างกายกลับเป็นผืนหญ้าเขียวขจีและต้นท้อแสนเย้ายวน เหมยเหมยราวกับเจ้าหญิงนิทราที่เสมือนว่าพร้อมจะลอยตามสายลมตลอดเวลา ไม่เหมือนคนที่ใช้ชีวิตอยู่โลกมนุษย์เลย

เหยียนหมิงซุ่นเองก็จ้องจนตาค้าง แม้เขารู้ดีว่าคนรักตนเองสวยมาตลอดแต่กลับไม่เคยอึ้งเท่าวันนี้มาก่อน หวังเพียงว่าเวลาจะหยุดเวลานี้ไว้ เพื่อที่ภาพอันแสนงดงามจะได้ถูกสะกดไว้ตลอดไป

เหมยเหมยรู้สึกได้ว่าบรรยากาศเงียบผิดปกติเลยลืมตาขึ้นด้วยความแปลกใจ จึงขัดจินตนาการของเหยียนหมิงซุ่นไปด้วย

“โอ้ มงกุฎดอกไม้นี้สวยจัง พี่หมิงซุ่นดีสุด ๆไปเลย!”

แล้วเหมยเหมยก็ยื่นแขนขึ้นมาชื่นชมกำไลดอกไม้ตรงข้อมือใต้แสงอาทิตย์ด้วยความรู้สึกหวานชื่นปานหยดน้ำผึ้ง

พี่หมิงซุ่นของเธอเวลาโรแมนติกก็อบอุ่นสุด ๆไปเลย!

เหยียนหมิงซุ่นยกยิ้มมุมปากน้อย ๆ แค่มงกุฎดอกไม้ธรรมดาก็ดีใจขนาดนี้ ช่างเอาใจง่ายเสียจริง!

แววตาเขาเข้มขึ้นเรื่อย ๆ เดินไปดึงเสื้อกันหนาวบนตัวเหมยเหมยขึ้นเล็กน้อยเพื่อบดบังภาพสวยงามเอาไว้ ทั้งคู่หยอกเอินอีกสักพักก็เตรียมกลับบ้าน

เหมยเหมยดันไม่อยากกลับเลยบิดตัวออดอ้อน “เล่นอีกแป๊บหนึ่งสิ พี่…ได้ไหม?”

เสียงที่ทำเอาคนฟังเสียวซ่านถึงใจ เหยียนหมิงซุ่นแคะหูหน่อย ๆถึงจะระงับไฟที่เริ่มสุมขึ้นในท้องได้ก่อนพูดสีหน้าเรียบตึง “พูดดี ๆ จริงจังหน่อยสิ!”

เหมยเหมยกลอกตาใส่เขาที “เมื่อกี้ยังมีคนให้ฉันพูดแบบนี้อยู่เลย!”

เหยียนหมิงซุ่นสะอึกหน้าแดง ก่อนหน้านี้เหมือนจะให้ยัยตัวแสบนี่เรียกว่าสามีนี่นา เหมยเหมยแค่นหัวเราะอย่างได้ใจทีหนึ่ง ทีนี้เถียงไม่ออกแล้วสินะ?

“ตอนนั้นก็ส่วนตอนนั้น ตอนนี้ก็ส่วนตอนนี้ ถ้าไม่กลับไปอีกก็ต้องค้างคืนที่นี่แล้ว เสื้อก็ไม่ต้องใส่ละ!” เสียงของเหยียนหมิงซุ่นฟังดูอันตรายมากขึ้นและแฝงความข่มขู่เอาไว้

 “คนนิสัยไม่ดี…”

เหมยเหมยยู่ปากถลึงตาจ้องเขาอย่างไม่พอใจ อาศัยความร่างโตกว่ารังแกเธอ เป็นแบบนี้เสียทุกครั้งเลย!

เหยียนหมิงซุ่นใจอ่อนอีกแล้วเลยก้มเก็บเสื้อผ้าบนพื้นช่วยสวมให้เธอพร้อมพูดเกลี้ยกล่อมอย่างใจเย็นไปด้วย “เด็กดี คุณยายต้องทำกับข้าวเสร็จแล้วแน่ ๆ จะให้คนตั้งมากมายรอเราไม่ได้ วันหลังเราค่อยมาใหม่”

“แต่กลับปักกิ่งก็ไม่เห็นอีกแล้ว”

“งั้นฉันซื้อที่นี่ไว้ ถ้าเธออยากมาดูฉันก็จะขับเครื่องบินพาเธอมาดู” เพื่อรอยยิ้มของสาวงามสักครั้งยอมลงทุนซื้อภูเขาเพื่อเอาใจเลยอ่ะ

“พี่ใจดีจัง!” คนงามยิ้มร่า

เหยียนหมิงซุ่นแค่นเสียงเบา ๆ แต่กลับจุดยิ้มมุมปากตลอดเวลา ชอบดูท่าทางของยัยตัวแสบหลังตัวเองเอาใจเช่นนี้แหละ มันทำให้รู้สึกประสบความสำเร็จมาก

…………………………….

ตอนที่ 1659 แขกที่ไม่ได้รับเชิญ

บ้านตระกูลโม่ในเวลานี้กลับมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญมาเยือน เป็นหญิงที่แต่งงานแล้วอายุราวสี่สิบกว่าปีที่คนเรียกกันว่าคุณป้าฮวา สามีเป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกันกับโม่เหวินต้ง เป็นคนสกุลโม่เช่นกันแต่แยกครอบครัวออกจากตระกูลไปแล้ว

คุณป้าฮวาสมัยสาว ๆก็สวยไม่เบาแต่ตอนนี้มีอายุแล้วก็สวยไม่เสื่อมคลาย เพียงแค่อ้วนกว่าเดิมหน่อยทำให้หน้าทรงไข่กลายเป็นทรงกลม บั้นท้ายงอนเด้งก็ขยายใหญ่ขึ้น เอวคอดกลายเป็นทรงกระบอกตรงที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากที่สุด

ผู้หญิงคนนี้เขากับคนในหมู่บ้านแห่งนี้ไม่ค่อยได้สักเท่าไรเพราะเป็นคนปากพล่อย มักติฉินนินทาผู้อื่นลับหลังเสมอแต่สามีของเธอโม่มู่เกินกลับเป็นคนที่ซื่อสัตย์ใสซื่อทั้งยังชอบช่วยเหลือผู้อื่นเลยค่อนข้างมีชื่อเสียงในทางที่ดี ทุกคนเลยไม่ถือสาคุณป้าฮวาเพราะเห็นแก่โม่มู่เกิน

ผู้ที่มาพร้อมกับคุณป้าฮวาคือหญิงสาวอีกคนซึ่งเป็นลูกสาวคนเล็กของเธอชื่อโม่ฉิ่วหลิง รูปลักษณ์หน้าตาเหมือนคุณแม่เธอสมัยสาว ๆไม่มีผิด หุ่นมีน้ำมีนวลอ้อนแอ้นถือว่าเป็นหญิงสาวหน้าตาสวยคนหนึ่งเลย

หนำซ้ำโม่ฉิ่วหลิงยังเป็นสาวยอดนิยมประจำหมู่บ้าน เธอกำลังร่ำเรียนอยู่มหาวิทยาลัยครูเมืองหลวงซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเดียวกับอู่เชา

“ฉิ่วหลิงสวยขึ้นทุกวันนะเนี่ย สวยกว่าตอนแม่เธอสาว ๆอีก” คุณยายโม่ต้อนรับสองแม่ลูกคู่นี้อย่างอบอุ่น เธอค่อนข้างชอบโม่ฉิ่วหลิงเพราะไม่ได้น่ารำคาญเท่าแม่ของเธอ

สิ่งสำคัญที่สุดเพราะเมื่อสิบกว่าปีก่อนโม่มู่เกินเคยช่วยชีวิตคุณตาโม่ไว้ เมื่อนั้นคุณตาโม่กำลังปล่อยวัวบนภูเขาแล้วถูกงูฉกเข้า หากไม่ได้โม่มู่เกินช่วยเอาพิษออกได้ทันเวลาก่อนส่งตัวไปยังโรงพยาบาลแล้วล่ะก็ คุณตาโม่คงไม่พ้นขีดอันตราย!

คุณป้าฮวายิ้มอย่างได้ใจ ลูกสาวเป็นความภาคภูมิใจมากที่สุดของเธอ ผู้ชายธรรมดาไม่มีวันถูกตาต้องใจเธอหรอก เธอจะต้องหาลูกเขยคนเก่งให้ลูกสาวตัวเองให้ได้

“พวกเธอสองคนแม่ลูกก็กินข้าวเที่ยงเสียที่นี่แหละ ตามมู่เกินมากินด้วยกัน สือโถวไปตามลุงมู่เกินของเธอมาสิ”

“มู่เกินไปทำงานที่บ้านคุณอาของเขาแล้ว วันนี้ลูกชายอาเขาแต่งงานน่ะ” คุณป้าฮวาห้ามสือโถ่วไว้

หวังเฟิ่งเจินเหลือบมองมาทางสองแม่ลูกคู่นี้แวบหนึ่งแล้วกัดฟันกรอด

พวกอีเห็นสวัสดีปีใหม่ไก่[1] ไม่มีความหวังดีกันทั้งนั้น!

“หมิงซุ่นกับเหมยเหมยทำไมยังไม่กลับมานะ? ไข่ข้าวนี่จะเย็นอยู่แล้ว ฉันเอาไปต้มอีกสักหน่อย” คุณยายโม่พึงพำแล้วเอาไข่ลูกเจี๊ยบที่เย็นชืดเข้าไปต้มในหม้อใหม่

ไข่ข้าวอุดมไปด้วยสารอาหาร หากหลานชายได้ทานจะช่วยบำรุงร่างกายได้

“พี่สะใภ้สวยจัง เหมือนนางฟ้าเลย พี่สะใภ้นางฟ้า…” สือโถ่วปรบมือร้องเฮแล้วหัวเราะคิกคัก

เหยียนหมิงซุ่นจูงมือเหมยเหมยเดินเข้าบ้านมา หนุ่มหล่อสาวงามที่เหมาะสมกันราวกับคู่กิ่งทองใบหยก

เหมยเหมยสวมมงกุฎดอกไม้ไว้เหนือศีรษะเช่นเดียวกับตรงข้อมือราวกับเทพธิดาดอกไม้ มิน่าสือโถ่วถึงเรียกเธอว่านางฟ้า

โม่ฉิ่วหลิงดวงตาสีเข้มขึ้น เธอปกปิดความอิจฉาไว้อย่างดีเลยได้แต่ยิ้มแต้มอยู่อย่างนั้น ขณะมือเองก็เผลอกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว

ผู้หญิงคนนี้หน้าตาสวยกว่าเธออีก เสื้อผ้าบนตัวก็ดูดีมากเช่นกันล้วนเป็นยี่ห้อดังที่ซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าใหญ่ในเมืองเมืองหลวงเท่านั้น ไม่เหมือนเธอที่ทำได้แค่ซื้อเสื้อผ้าตามท้องตลาดราคาถูก

“คุณยาย มงกุฎดอกไม้อันนี้พี่หมิงซุ่นร้อยให้หนูค่ะ สวยใช่ไหมล่ะคะ?” เหมยเหมยเอ่ยอย่างร่าเริงเหมือนได้อวดของรักของหวง สายตาของเหยียนหมิงซุ่นเต็มไปด้วยความรักใคร่ที่แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

แต่คนรอบข้างกลับเห็นได้อย่างชัดเจน

คุณป้าฮวาเบะปาก ก็แค่ดอกหญ้าเท่านั้นไม่ใช่หรือ มีเต็มภูเขาจะวิเศษวิโสอะไรนักหนา?

ดูเหมือนเหยียนหมิงซุ่นก็ไม่ใส่ใจเด็กผู้หญิงคนนี้เท่าไรนี่นาถึงได้ใช้ดอกหญ้าไร้ค่าเอาใจแบบกำปั้นทุบดิน โง่เขลาเสียจริง

เหอะ แต่ยิ่งโง่ยิ่งดี เช่นนนี้ฉิ่วหลิงของเธอถึงจะมีโอกาสสิ!

จากหน้าตาและระดับการศึกษาของฉิ่วหลิงของเธอรวมถึงบุญคุณที่สามีเธอได้ช่วยชีวิตคุณตาโม่ไว้ ลูกเขยเหยียนหมิงซุ่นหนีไม่พ้นเธอแน่!

ขอแค่ลูกสาวแต่งงานกับเหยียนหมิงซุ่น เช่นนี้เธอจะได้ย้ายไปใช้ชีวิตสุขสบายในเมืองหลวงแล้ว!

ไม่ทนอยู่ในหมู่บ้านชนบททุรกันดารแบบนี้หรอก!

……………………….

[1] อีเห็นสวัสดีปีใหม่ไก่ เป็นสุภาษิตเปรียบเปรยคนที่เข้าหาอย่างมีเจตนาและไม่หวังดี