ตอนที่ 2024 บทสนทนาที่น่าตกใจ

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 2024 บทสนทนาที่น่าตกใจ

 

ชายวัยกลางคนดูไม่ต่างอะไรจากคนธรรมดา เขาไม่มีทั้งกลิ่นอายที่น่าเกรงขามหรือน่าหวาดกลัว หากจะมีอะไรที่ดูแตกต่างก็คงจะมีเพียงสัญลักษณ์ดอกบัวที่อยู่บนหน้าผาก

 

สัญลักษณ์ของดอกบัวมีดอกทั้งเก้ากลีบ ซึ่งสีของมันช่างดําทมิฬจนทําให้จิตใจของใครหวาดผวาได้

 

คนผู้นี้คือเจ้าของเกาะงั้นรึ?

 

หลิงฮันมองดูจากภายในหอคอยทมิฬ และไม่ทําอะไรผลีผลาม

 

ทองหยกกําเนิด

 

หน้าแล้ว ต่อให้จะเป็นจากด้านในหอคอยทมิฬ เขาก็สามารถสัมผัสถึงอํานาจอันไร้ที่สิ้นสุดของมันได้

 

พลังของทองคํา คือพลังอันคมกริบและรุนแรงที่จะบดขยี้ทุกสรรพสิ่ง

 

หลิงฮันขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ ต่อให้ทองหยกกําเนิดดาราจะอยู่ตรงหน้า แต่เขาจะครอบครองมันได้อย่างไร?

 

ออกไปงั้นรึ? นั่นไม่ต่างอะไรจากรนหาที่ตาย

 

โชคดีที่ดูเหมือนชายวัยกลางคน จะยังไม่ต้องการครอบครองทองหยกกําเนิดดารา ณ เวลานี้

 

“ตุบ” ทันใดนั้นเอง ร่างของจอมยุทธผู้หนึ่งก็ลอยลงมาจากด้านบนหลุม เขาหลบหลีกปราณพิฆาตมากมาย และเคลื่อนที่เข้าใกล้ชายวัยกลางคน

 

ทั้งสองคนมีสัญลักษร์ดอกบัวสีดําทมิฬบนหน้าผากเก้ากลีบทั้งคู่

 

“น้องเชอ!” ชายวัยกลางคนพยักหน้าให้กับจอมยุทธที่เพิ่งปรากฏตัว

 

จอมยุทธที่ปรากฏเองก็พยักหน้าให้กับชายวัยกลางคน ดวงตาของเขาจดจ้องไปยังทองหยกกําเนิดดารา “พี่ชายหลัน พวกเรารอคอยมาเป็นเวลาล้านปีแล้ว ในที่สุดก็ถึงเวลาเสียที่”

 

“ฮ่าๆ แต่พวกเราก็ไม่ได้รอคอยอย่างสูญเปล่า พวกเราใช้ที่แห่งนี้เป็นฐานที่มั่น และส่งคนมากมายไปยังแผ่นดินใหญ่ เพื่อเผยแพร่ทักษะของข้า” ชายวัยกลางคนหัวเราะ

เขาคือเจ้าของเกาะแห่งนี้ และมีชื่อว่าหลันเทียนหยาง

 

ส่วนชายคนที่สองที่แซ่เชอ มีชื่อว่าเชอหยวนหวา เขาเองก็หัวเราะและกล่าว “ในโลกนี้มีคนโง่งมอยู่มากมายจริงๆ ทั้งๆ ที่ทักษะที่เราต้องการสอนนั้นยอดเยี่ยมกว่าแท้ๆ แต่หลายคนก็ยังยืนกรานปฏิเสธจะฝึกฝน แทบยังตั้งตนเป็นศัตรูกับเรา จนเราต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ อยู่แบบนี้”

 

“วันวานเช่นนี้กําลังจะสิ้นสุดลงในไม่ช้า และผู้ที่จะได้เขียนประวัติศาสตร์ก็คือพวกเรา”

 

ทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยแววตาตื่นเต้น

 

“หลังจากได้แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีตนนี้ไป ท่านประมุขจะต้องมอบรางวัลให้พวกเราอย่างยิ่งใหญ่แน่ๆ และพวกเราก็จะมีหวังที่จะบรรลุระดับสิบบัวบาน!”

 

หลิงฮันที่ฟังอยู่ในหอคอยทมิฬจิตใจสั่นสะท้าน

 

สิบบัวบานงั้นรึ?

 

หลันรั่วจื่อบอกว่าเจ้าของเกาะมีพลังบ่มเพาะเทียบเท่ากับระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ ซึ่งสัญลักษณ์ของเขาก็คือเก้าบัวบาน ถ้างั้นสิบบัวบานก็อาจจะหมายถึงระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ขั้นสูงสุด หรือไม่ก็ระดับราชานิรันดร์

 

ฟังจากบทสนทนาของทั้งสองคนแล้ว ดูเหมือนใครบางคนจะถูกส่งเข้าไปยังดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตกและตะวันออก เพื่อเผยแพร่ความเชื่อในดวงวิญญาณนิรันดร์ ซึ่งทักษะบ่มเพาะที่แตกต่างนี้อาจจะเป็นที่รู้จักกันในคนกลุ่มน้อย เพราะงั้นหลิงฮันจึงไม่เคยได้ยินมาก่อน

 

แต่ต้องรู้ก่อนว่าต่อให้ในสนามรบ ปรมาจารย์ที่ทรงพลังอย่างราชานิรันดร์จะเป็นคนกําหนดทิศทางของสงคราม แต่สําหรับสวรรค์และปฐพี สิ่งมีชีวิตทั้งหมดเบื้องล่างต่างหากที่เป็นสิ่งกําหนดรากฐานที่แท้จริง

 

หากสิ่งมีชีวิตทั้งหมดหันไปบ่มเพาะศาสตร์วรยุทธที่แตกต่าง คงอีกไม่นานที่จะถึงวันที่สวรรค์ และปฐพีพังพินาศ

 

หลิงฮันรู้สึกแปลกใจว่า หากสวรรค์และปฐพีเกิดพังพินาศขึ้นมา คนเหล่านี้จะได้ประโยชน์อะไรกัน?

 

หรือพวกเขาไม่รู้ถึงผลลัพธ์อันร้ายแรงที่จะตามมา และจดจ่ออยู่เพียงแค่ว่าจะได้ขัดเก ลาพลังของตนได้ให้แข็งแกร่งขึ้น?

 

ถ้าไม่ใช่แบบนั้น หรือว่าขุมอํานาจบางอย่างกําลังพยายามวางแผนทําลายดินแดนแห่งนี้?

 

เขาได้ยินมาจากหอคอยน้อยว่ามหาปราชญ์สวรรค์ สมควรเป็นตัวตนที่ทรงพลังที่สุดในดินแดงแห่งเซียน และเป็นตัวตนที่อยู่เหนือการควบคุมของโลกแห่งนี้อย่างแท้จริง ซึ่งเจ้าของคนก่อนของหอคอยทมิฬก็เป็นตัวตนระดับนั้น

 

แต่เขาก็ยังเสียชีวิตลงอยู่ดี

 

เขาถูกใครสังหารงั้นรึ?

 

หรือจะเป็นจอมยุทธที่เป็นผู้สร้างทักษะบ่มเพาะที่แตกต่างขึ้นมา?

 

ในชั่วพริบตา ความคิดมากมายก็ผุดขึ้นในหัวหลิงฮันและรู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงมือและเท้า ระดับของปัญหาที่เกิดขึ้นนี้อยู่เหนือพลังของเขาไปแล้วอย่างสิ้นเชิง เกรงว่าต่อให้เป็นราชานิรันดร์ระดับเก้าก็คงไม่มีคุณสมบัติจะแทรกแซง และเป็นได้เพียงหมากตัวหนึ่งเท่านั้น

 

จี่อู๋หมิงเป็นร่างกําเนิดใหม่ของราชานิรันดร์ ที่ดูราวกับว่าเป็นตัวแทนของความยุติธรรม หรือว่าอีกฝ่ายเองก็ตระหนักรู้ถึงภัยพิบัติที่ยิ่งใหญ่นี้ ถึงได้ตัดสินใจทําอะไรได้อย่างไม่ลังเล?

 

หลิงฮันถามตัวเองว่าหากดินแดนแห่งเซียนอยู่ในขอบเหวแห่งความเป็นความตาย เขาจะยอมเสียสละผู้คนมากพรสวรรค์ ญาติพี่น้อง สหายหรือคนรักของตนเองไม่?

 

คําตอบในเรื่องนี้ แม้แต่เขาเองก็ยากที่จะตัดสินใจเผชิญหน้า

 

เพื่อประโยชน์ส่วนรวมแล้ว การเสียสละบางอย่างไปเป็นสิ่งที่จําเป็น… คําพูดใครก็สามารถพูดได้ แต่ใครกันจะยอมเสียสละ?

 

ยกตัวอย่างหากใครบางคนบอกว่า ตราบใดที่หลิงฮันยอมสละชีวิต ดินแดนแห่งเซียนก็จะสงบสุขไปตลอดกาล แต่หากเขาไม่สละชีวิตดินแดนแห่งเซียนก็จะล่มสลาย คิดว่าหลิงฮันจะยอมสละชีวิตของตนเองรึเปล่า?

 

ในขณะที่ความคิดในหัวกําลังตีกันนั้นเอง หลิงฮันก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่มือทั้งสองข้าง จักรพรรดินีและซูหนิวกํามือของเขาเอาไว้ ซึ่งนั่นทําให้ความคิดที่สับสนของเขาสงบลง

 

จิตใจของเขาหนักแน่นขึ้น เพื่อคนที่รักแล้ว ต่อให้ต่อเป็นอสูรแล้วจะทําไม?

 

“ พี่ชายหลัน ท่านพร้อมรึยัง?” เธอหยวนหวากล่าว

 

หลันเทียนหยางพยักหน้า “น้องเชอ พวกเรามาใช้ทักษะลับดวงวิญญาณมรณะพร้อมกัน”

 

“อืม!”

 

มือของทั้งสองผลักเข้าหากัน ‘พรึบ’ อํานาจอันลึกลับพรั่งพรูออกมา และแปรสภาพกลายเป็นมือขนาดใหญ่คว้าไปยังทองหยกกําเนิดดารา

 

“ครืนน” คลื่นพลังคมกริบถูกปลดปล่อยออกมาจากทองหยกกําเนิดดารา และเชือด เฉือนมือขนาดใหญ่เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

“อัน , มะ , หนี่ , ตัว , ลั่ว” พวกเชอหยวนหวาทั้งสองคนเปล่งเสียงท่องบททักษะลับ ‘ฟุบ’ รูปปั้นทั้งสองที่ตั้งอยู่หน้าปราสาทถูกกระตุ้นพร้อมกัน และส่งผ่านพลังอันลึกลับลอยเข้ามา

 

พลังลึกลับนี้เป็นพลังคู่ขนานของอํานาจแห่งเต๋ ทําให้สวรรค์และปฐพี่มีปฏิกิริยาตอบสนองทันที “ครืนนน” เมฆสายฟ้าสีดํารวมตัวกันเหนือน่านฟ้าของเกาะ และทัณฑ์สายฟ้าสวรรค์ได้ผ่าลงมาอย่างเกรี้ยวกราด

 

ทักษะบ่มเพาะพลังที่แตกต่าง เป็นสิ่งที่สวรรค์และปฐพีของดินแดนแห่งนี้ไม่ยินยอมให้มีอยู่

 

พวกเธอหยวนหวาเร่งความเร็วในการท่องทักษะขึ้น อักขระแต่ละตัวปรากฏออกมาและลอยเข้าหาทองหยกกําเนิดดารา ส่งผลให้แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีตนนี้สั่นเครือด้วยความหวาดกลัว และต้องการหลบหนีไปแต่ก็ไม่อาจทําได้

 

หลิงฮันตกตะลึง ทั้งสองคนเป็นตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ไม่ผิดแน่ ซึ่งตามปกติแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่จะครอบครองแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี แต่ทว่าทั้งสองกลับสามารถกําราบทองหยกกําเนิดดาราได้อย่างน่าอัศจรรย์

 

เขาสัมผัสได้ว่าพลังลึกลับนี้มาจากรูปปั้นที่อยู่ด้านหน้าปราสาท แต่ที่เขาตกตะลึงมากที่สุดก็คือ รูปปั้นทั้งสองคืออะไรกันแน่ เหตุใดมันถึงมีพลังที่สามารถกําราบแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี

 

ไม่สิ นี่ไม่ใช่การกําราบเพื่อครอบครองแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี แต่เป็นกําทําลาย!

 

หลิงฮันครอบครองแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่ถึงสามชนิด ย่อมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกกระอักกระอ่วนจากพลังลึกลับนี้ ราวกับว่ามันกับแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี เป็นดั่งน้ํากับไฟที่ไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ และฝ่ายไหนที่เหนือกว่าก็จะบดขยี้อีกฝ่ายให้พินาศ

 

“การทําลายแก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี เปรียบเสมือนการสร้างบาดแผลที่สาหัสให้กับสวรรค์และปฐพี” หอคอยน้อยกล่าวด้วยน้ําเสียงเลื่อยเฉื่อย

 

แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีเป็นเหมือนบุตรของสวรรค์และปฐพี เพราะงั้นการทําลาย แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพีย่อมทําให้สวรรค์และปฐพี่เจ็บปวดและเศร้าโศก

 

จะปล่อยให้ทั้งสองทําสําเร็จไม่ได้

 

หลิงฮันคิดจะกระตุ้นพลังของหอคอยทมิฬเพื่อแทรกแซง ต่อให้เขาไม่ได้ครอบครอง แก่นกําเนิดสวรรค์และปฐพี่ตรงหน้า อย่างน้อยเขาก็สร้างความวุ่นวายให้แก่พวกเธอหยวนหว่าได้ และทั้งสองก็จะไม่สามารถทําลายทองหยกกําเนิดดาราสําเร็จง่ายๆ

 

พลังของเขาไม่เพียงพอก็จริง แต่อํานาจของหอคอยทมิฬนั้นไม่อ่อนแอ เพราะมันคืออุปกรณ์ ในระดับมหาปราชญ์สวรรค์

 

ตูม!

 

เพียงแต่ทันใดนั้นเอง คลื่นแสงก็พุ่งทะยานลงมาจากด้านบน และร่างของใครบางคนได้ร่วงลงมาจากท้องฟ้า

 

“สะ… เสี่ยวกู่”