ตอนที่ 1419: นูบิสผู้ที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1419: นูบิสผู้ที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ

เมื่อมองไปที่รูปแบบพิเศษที่มีลวดลายคล้ายเกล็ดบนแขน นูบิสก็ยิ้มบาง ๆ เขาค่อนข้างตื่นเต้นในขณะที่เขาพึมพำว่า “แก่นของอสรพิษแก่นี้รุนแรงยิ่งกว่าของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 4 ที่ข้าได้ดูดซับก่อนหน้านี้เสียอีก ข้ารู้สึกเหมือนว่าตัวเองได้กินโอสถที่มีประสิทธิภาพอย่างยิ่งซึ่งทำให้ข้ามีพลังอีกครั้ง ทำให้ร่างกายของข้าเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ความแข็งแกร่งของข้าอาจจะยังคงเหมือนเดิม แต่ข้ารู้สึกว่าความกล้าหาญในการต่อสู้ยิ่งมากกว่าเดิม อสรพิษแก่ต้องเคยกลืนกินแก่นของเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ในชีวิตของเขา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้แก่นของเขานั้นทรงพลังมาก”

นูบิสม้วนแขนเสื้อของเขาลงและแขนสีทองเล็กของเขาถูกปกปิดทันที เขาเงยหน้าขึ้นมองทวีปที่เขาเคยใฝ่ฝันและกลัว เขาพึมพำว่า “ทวีปสัตว์เทวะเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ มันเป็นที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมสำหรับสัตว์อสูร มีสัตว์อสูรมากมายในดินแดนเหล่านี้มากกว่าในทวีปเทียนหยวน แต่น่าเสียดายที่มันไม่น่าดึงดูดใจสำหรับข้าเท่ากับเหมือนก่อน”

“อสรพิษแก่ตัวนั้นคงอยู่ที่นี่มาหลายพันปีแล้ว เขาอาจไม่สามารถควบคุมที่ดินทุก ๆ ตารางนิ้วได้อย่างเต็มที่ แต่ด้วยความแข็งแกร่งของเขา การขยายมุมมองของเขาไปทั่วทั้งทวีปไม่น่าจะยากเกินไป เมื่ออสรพิษทองริ้วเงินปรากฏขึ้นในทวีป พวกเขาจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการสัมผัสของเขาได้ น่าจะเป็นไปได้ว่าอสรพิษทองริ้วเงินทั้งหมดในทวีปนี้ได้ถูกอสรพิษแก่ตัวนั้นฆ่าตาย ดังนั้นข้าไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ต่อไป ช่างเถอะ ข้าจะไปหาเจี้ยนเฉินที่เกาะสามเซียน”

หลังจากนั้นนูบิสก็พุ่งออกไปเป็นระยะทางเหมือนแสงสีทอง เขาไม่ได้ใช้ประตูมิติ เขาเลือกที่จะบินแทน เขาสนุกสนานไปกับทิวทัศน์ระหว่างทางขณะเดินทางไปยังเกาะสามเซียน

เมื่อสัตว์อสูรทั้งแปดกลับมาสู่เผ่าของตัวเอง พวกเขาค้นพบว่ามันเป็นจริงตามที่นูบิสได้อธิบายไว้ กลุ่มของพวกเขาไม่ได้รับอันตรายเลย เพียงแต่ถูกละอองพิษที่เขาพ่นออกมาทำให้มึนงง ไม่มีการคุกคามชีวิตของพวกเขาแต่อย่างใด พวกที่แข็งแรงกว่าและได้รับผลกระทบจากพิษเคลื่อนไหวได้ตามปกติ มีเพียงกลุ่มผู้อ่อนแอเพียงไม่มากเท่านั้นที่ยังไม่ฟื้นตัวและใบหน้าก็ยังคงขาวซีดเซียว

อย่างไรก็ตามป่ารอบเผ่าของพวกเขาได้รับผลกระทบอย่างมาก มันกลายฝุ่นละอองด้วยละอองพิษของนูบิส เหลือเพียงต้นไม้โบราณต้นใหญ่ไม่กี่ต้นซึ่งก็เหี่ยวเฉาและสูญเสียสัญญาณของชีวิต

อย่างไรก็ตามสัตว์อสูรทั้งแปดก็ไม่ได้สนใจพืชพันธุ์ที่ถูกทำลายโดยรอบ พวกเขาต่างก็ดีใจที่ได้เห็นพวกพ้องของตนปลอดภัยดี พวกเขาขอบคุณนูบิสในใจเกี่ยวกับ ‘ความเมตตา’ ของเขาก่อนที่จะสั่งให้พวกพ้องไปรวบรวมทองคำในทันที ในท้ายที่สุด พวกเขาก็สร้างรูปปั้นทองคำในใจกลางของชนเผ่าโดยใช้ทองคำจำนวนมาก

เห็นได้ชัดว่ารูปปั้นได้พรรณาถึงนูบิส เขายืนสูง 300 เมตรและถูกแกะสลักโดยสัตว์อสูรระดับ 8 ทำให้มันดูเหมือนจริงมาก

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เจี้ยนเฉินได้พักอยู่บนเกาะสามเซียนถึงครึ่งเดือน เขาใช้เวลามากกว่าครึ่งไปกับเสี่ยวเป่า ชี้นำเขาผ่านกระบวนการบ่มเพาะ ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับทุกสิ่งรวมถึงทักษะการต่อสู้และอื่น ๆ พูดได้ว่าเขาสอนเสี่ยวเป่าถึงทุกสิ่งที่เขารู้

เสี่ยวเป่ายังเด็ก แต่เขาเป็นเด็กที่มีเหตุผล ดูเหมือนเขาจะรู้ว่าเจี้ยนเฉินจะจากไปในไม่ช้า ดังนั้นเขาจึงให้ความสำคัญกับเวลาที่เขาใช้กับเจี้ยนเฉินเป็นอย่างมาก เขาจะใจจดใจจ่อกับทุกอย่างที่เจี้ยนเฉินบอก เขาตั้งใจเรียนอย่างขยันขันแข็ง เขายังฝึกฝนบ่มเพาะอย่างหนัก เนื่องจากมีทรัพยากรจำนวนมากและเพราะเขาไม่จำเป็นต้องเข้าใจบัญญัติของโลกสำหรับร่างบรรพกาลชั้นแรก เสี่ยวเป่าจึงพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทุก ๆ วันที่ผ่านไป เขามาถึงระดับเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 5

ระดับชั้นของร่างบรรพกาลแต่กำเนิดนั้นแตกต่างอย่างมากจากระดับชั้นของร่างบรรพกาลทั่วไป. ร่างบรรพกาลแต่กำเนิดนั้นมีเพียงสี่ขอบเขตหลัก ซึ่งก็คือความสำเร็จขั้นต้น, ความสำเร็จบางส่วน, ความสำเร็จขั้นกลาง, สมบูรณ์แบบ มันแตกต่างจากร่างบรรพกาลของเจี้ยนเฉิน ซึ่งจำเป็นให้เม็ดพลังบรรพกาลของเขาแตกเป็นเสี่ยง ๆ ทั้งหมด 18 ครั้งและความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นในหลายระดับการบ่มเพาะเฉพาะเมื่อเกิดการแตกแต่ละครั้ง เป็นผลให้มันชัดเจนมากเมื่อใดก็ตามที่พลังของเสี่ยวเป่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

เจี้ยนเฉินและหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์จะสนทนากันบ้างเล็กน้อยเป็นครั้งคราว หัวข้อของการสนทนามักจะเกี่ยวกับเสี่ยวเป่า เป็นผลให้ความสัมพันธ์ของเขากับนางดีขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์จะยังคงมีท่าทีเย็นชาต่อเจี้ยนเฉิน อย่างน้อยที่สุดนางก็ยังพูดคุยกับเขา

หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ได้ใช้ลูกท้อเมฆม่วงระดับ 5 และใบชาหยั่งรู้ซึ่งเขาได้มอบให้นาง เขาสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่านางมีพลังมากกว่าเดิม แต่เนื่องจากความจริงที่ว่านางเดินตามเส้นทางบ่มเพาะที่แตกต่างกัน เขาจึงไม่สามารถบอกระดับพลังของนางได้จนกว่าพวกเขาจะต่อสู้กัน

นอกจากนั้นเสี่ยวเหยียน, เสี่ยวเยี่ยและฉินฉินก็สนิทสนมกับเจี้ยนเฉินมากขึ้น พวกเขาจึงได้รับความช่วยเหลือจากเขาเช่นกัน เขามอบลูกท้อเมฆม่วงระดับ 5 และใบชาหยั่งรู้ให้แก่พวกเขา ทำให้พลังของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของพวกเขาไม่ได้ทำให้เกิดเมฆรุ้งเจ็ดสี แต่ทั้งสามรวมถึงฉินฉินก็กลายเป็นเซียนราชา พวกเขายังมีความสามารถในการเปิดประตูมิติอีกด้วย

โดยปกติแล้วมันจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ฉินฉินจะกลายเป็นเซียนราชา แต่นางได้ดูดซับพลังงานจากลูกท้ออมตะมากกว่าเสี่ยวเหยียนและเสี่ยวเยี่ย ซึ่งเป็นสาเหตุที่นางตัดผ่านเป็นเซียนราชาในตอนท้าย

หลังจากตัดผ่านไม่นาน ฉินฉินก็กล่าวคำอำลาเจี้ยนเฉินและหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ นางคิดถึงครอบครัวและบ้านของนาง ดังนั้นนางจึงออกจากเกาะ เสี่ยวเหยี่ยนและเสี่ยวเยี่ยใช้ข้ออ้างในการไปเยี่ยมบ้านของของศิษย์น้องเพื่อออกเดินทางไปกับนาง ในท้ายที่สุดมีเพียงเจี้ยนเฉิน, หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์และซ่างกวนเอ๋อเจี้ยนที่เหลืออยู่บนภูเขา ภูเขากลายรกร้างมากขึ้นในทันทีแม้ว่าหลายคนจะไม่ได้อาศัยอยู่ที่นั่นตั้งแต่แรก

พระอาทิตย์ส่องแสงและทะเลก็สงบในวันนี้ แสงสีทองที่ส่องมาจากขอบฟ้าอันไกลโพ้นมุ่งตรงไปยังเกาะสามเซียนอย่างรวดเร็ว

“ในฐานะสัตว์อสูร ข้า นูบิสผู้ยิ่งใหญ่ ย่อมมีวิญญาณที่อ่อนแอกว่ามนุษย์ แม้ในฐานะสัตว์อสูรแห่งยุคสมัยโบราณก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงความจริงนั้น ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมข้าถึงหมดหนทางอย่างเต็มที่ในการต่อต้านการโจมตีวิญญาณของปีศาจ แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของข้าไม่สามารถเทียบได้กับอดีต ข้าไม่ใช่สัตว์อสูรระดับ 7 ที่กระจอกอีกต่อไป ข้าจะเหยียบย่ำนางปีศาจร้ายนี้และให้นางชดใช้กับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต” นูบิสบินขึ้นไปบนท้องฟ้าในขณะที่เขายิ้มอย่างชั่วร้าย

“ย้อนกลับไปเมื่อข้ายังเป็นเพียงสัตว์อสูรระดับ 7 นางปีศาจนั้นเป็นเพียงเซียนผู้คุมกฎเช่นกัน ตอนนี้ข้าได้มาถึงระดับ 9 ซึ่งเทียบเท่ากับเซียนจักรพรรดิในทวีปเทียนหยวน มันเป็นไปไม่ได้ที่นางปีศาจตัวนั้นจะเพิ่มความแข็งแกร่งของนางได้อย่างรวดเร็วเท่ากับข้า นางอาจจะยังอยู่ในระดับเดียวกับเมื่อก่อน เสียงเพลงจากพิณของนางจะไม่สามารถคุกคามข้าได้อีก ข้าสงสัยว่าใบหน้าของนางจะเป็นอย่างไรเมื่อนางเห็นพลังของข้า นางจะต้องตกใจมากแน่นอน ฮ่าฮ่าฮ่า..” เมื่อคิดไปถึงเรื่องนั้น นูบิสก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาดัง ๆ ในชีวิตของเขามีเพียง 2 คนเท่านั้นที่เขาหวาดกลัว อันดับแรกคืออสรพิษแก่จากทวีปสัตว์เทวะ ในขณะที่อันดับสองคือหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์

ย้อนกลับไปเมื่อเขาไปเที่ยวเกาะเป็นครั้งแรกพร้อมกับเจี้ยนเฉิน หญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์ทำให้เขาหวาดกลัวมากจนเขาไม่กล้าที่จะเหยียบเข้าไปบนเกาะอีกเลย เพราะพิณของหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์น่าสะพรึงกลัวมากเกินไป มันทำให้เขารู้สึกว่าร่างกายและจิตวิญญาณของเขาเกือบจะถูกเสียงดดนตรีพรากไป มันทำให้เขากลัวหญิงสาวเจ้าเสน่ห์แห่งสวรรค์

แต่ตอนนี้เมื่อเขามีพลังเพิ่มขึ้นความกลัวนี้ก็หายไป