บทที่ 1449 สำหรับเขาแล้วพิมแสงเป็นเพียงแค่น้องสาว

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1449 สำหรับเขาแล้วพิมแสงเป็นเพียงแค่น้องสาว

เป็นภาพที่แสนจะอบอุ่นอย่างมาก

เพราะว่าโดนบลูลี่ที่ตระกูลโรแกน ผู้ชายที่อารมณ์ไม่ดีจึงดื่มเหล้าไปเล็กน้อยที่ชั้นล่างหลังจากที่กลับมาแล้ว เด็กสาวเห็นเข้า เธอจึงวิ่งเข้าไปอยู่ข้างๆเขา

“ที่รัก พี่จะทานโยเกิร์ตด้วยไหมคะ ฉันเพิ่งทำ อร่อยมากเลยนะ”

“ไม่ทาน”

คณาธิปอารมณ์ไม่ค่อยดีจริงๆนั่นเเหละ พอได้ยินสิ่งนี้ จึงปฎิเสธไปตรงๆ

แต่เด็กสาวกลับไม่แคร์ หลังจากที่เธอถาม ก็วิ่งไปห้องครัว หลังจากนั้นก็หยิบโยเกิร์ตที่ตัวเองทำกับมือออกมาจากในตู้เย็น

“ที่รัก ฉันจะบอกอะไรให้นะ ความโกรธน่ะ เป็นเพราะว่าในร่างกายของคนเราหลั่งสารโดปามีนมากไป ส่วนโยเกิร์ต สามารถปรับสมดุลกันได้ โดยเฉพาะโยเกิร์ตแบรนด์ของภรรยานี่ ทานแล้วก็จะดียิ่งขึ้นอีกด้วยน่า”

เอ่ยจบ เด็กสาวที่หน้ารักสวยแฉล้มคนนี้ก็หยิบช้อนเล็กๆเปิดโยเกิร์ต หลังจากนั้นก็ปีนขึ้นมากระเถิบไปข้างๆสามี และยิ้มกริ่มตักไปหนึ่งช้อนป้อนให้เขาแล้ว

พิมแสงแทบจะไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวอยู่ชั้นบนในเวลานี้

เพราะว่า เธอไม่เคยเห็นภาพแบบนี้มาก่อน

ในสิ่งที่เธอจำได้ ผู้ชายคนนี้ที่อยู่ตรงหน้า ดูเหมือนว่าหลงใหลความหัวรั้นกับเส้นหมี่ เเบบนี้เองจึงทำให้ไม่มีผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้เขาได้ มาเป็นเวลาหลายปีนี้

ดังนั้น เธอจึงไม่เคยเห็นภาพแบบนี้ และยิ่งไม่เคยคาดดิดมาก่อนว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้ด้วย

“แต่ว่าตอนนี้……”

“อ๋อเหรอ”

ภายใต้แสงไฟปรับเป็นสีโทนอุ่น เธอตกตะลึงจนตาค้างเมื่อเห็นผู้ชายคนนี้ชั้นล่าง อ้าปากทานโยเกิร์ตที่เด็กสาวตักให้

ทานหมดแล้ว ข้างมุมปากยังแฝงด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพะเน้าพะนอเล็กน้อยอีกด้วย

พิมแสงตกใจราวกับถูกสายฟ้าฟาด!

เธอยืนเหม่อลอยอยู่ตรงทางขึ้นบันไดนี้ ในมือยังถือผ้าขนหนูผืนใหญ่ผืนหนึ่งไว้ และคนก็ไม่ขยับเขยื้อน อยู่นานกว่าหนึ่งนาที

จนกระทั้งเด็กสาวที่ชั้นล่างรับรู้ถึงสายตาจากชั้นบนได้ ดังนั้นเธอก็เลยหันกลับมา

“เอ๊ะ? พี่พิมแสง พี่อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ จะดื่มโยเกิร์ตด้วยไหมคะ? น้องจะไปหยิบมาให้”

เธอยิ้มเเย้มสดใส และกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก

คณาธิปก็มองมาแล้ว

หลังจากที่เห็นคนท้องโตคนนี้ยืนอยู่ด้านบนราวกับคนโง่งมคนหนึ่ง เขาจึงวางแก้วในมือลง และลงมาจากเก้าอี้สูงแล้ว

“จริงด้วย จะทานอะไรสักหน่อยไหม? ตอนนี้อากาศหนาวมาก ต้องสวมเสื้อผ้าให้อุ่นๆนะ เธอกำลังท้องกำลังไส้อยู่ด้วย”

เขามองเสื้อคลุมอาบน้ำบางๆบนตัวของเธอ ก็ขมวดคิ้วกำชับด้วยความเป็นห่วงเป็นใยมาประโยคหนึ่ง

พิมแสง : “……”

เพียงครู่เดียว ระหว่างหน้าอกของเธอ ที่ๆกำลังจะหลุดออกมานั้น จู่ๆเสมือนว่ามีบางสิ่งกระแทกเข้ามาอย่างแรง เธอเจ็บปวดเสียจนเอามือกุมขมับโน้มตัวของตนเองลงมาตรงสถานที่นั้น

“พี่พิมแสง?”

เชียนหยวนล๋ายเย่เห็นจากชั้นล่าง จึงกระโดดลงมาทันทีด้วยความตกใจ

แต่ว่า ผู้หญิงชั้นบน กลับปล่อยเสียงร้องไห้คร่ำครวญขึ้นมา

เธอจับราวบันไดไว้ แล้วนั่งยองๆอยู่ตรงนั้น หลังจากที่น้ำตาหยดใหญ่ไหลลงมาคดเคี้ยวผ่านง่ามนิ้วมือของเธอ ทั้งในวิลล่า จึงเป็นเสียงร้องไห้ปานจะขาดใจของเธอทั้งหมด

เชียนหยวนล๋ายเย่ : “……”

กำลังจะขึ้นไป กลับถูกผู้ชายที่อยู่ข้างๆดึงเอาไว้

“ที่รัก?”

“ปล่อยให้เธออยู่เงียบๆเพียงคนเดียวสักพักเถอะ ระยะนี้ เธออยู่ในบ้านนั้นที่ไม่มีความเป็นคนเลยสักนิดเดียว ใช้ชีวิตอย่างแสนยากลำบาก ปลดปล่อยสักหน่อยเดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง”

คณาธิปวิเคราะห์ให้เด็กสาวคนนี้ฟัง

เขาคิดเเบบนั้นจริงๆ

ผู้หญิงคนนึง สามารถเหยียบย่ำตัวเองได้จนถึงขั้นนี้ พูดตามตรง เมื่อตอนนั้นที่เขาเข้าไปตระกูลโรแกน เขาก็หายใจไม่ออกเหมือนกัน เมื่อเห็นฉากนั้นเข้า

เขาไม่อาจจินตนาการได้ด้วยซ้ำว่า ระยะนี้ เธอผ่านมันมาได้ยังไงกันแน่? เพื่อผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่รักตัวเอง ถึงกับต้องทำตัวเองจนกลายเป็นสภาพนี้เลยเหรอ?

สุดท้ายคณาธิปก็ไม่ได้ไปรบกวนเธอ

เพียงแค่ ปรับเครื่องให้ความร้อนฮีตเตอร์ในวิลล่าอีกสองสามองศา

จนกระทั่ง ผู้หญิงคนนี้ร้องไห้จนเหนื่อยอยู่ตรงนั้นแล้ว ในที่สุดก็นอนขดตัวหลับไป เขาถึงจะออกมาจากในห้องนอน

“ที่รัก งั้นฉันไปปูที่นอนให้พี่เขานะ”

เด็กสาวก็ติดตามออกมาด้วยแล้ว

คณาธิปพยักหน้า

ในขณะนั้น สองสามีภรรยาก็พาผู้หญิงคนนี้เข้าในห้องนอน หลังจากนั้นก็ดูแลเธอจนหลับ ส่วนคณาธิป ตอนที่กำลังจะจากไป ก็ยังยัดมุมผ้าห่มให้เธอเป็นพิเศษอีกด้วย

ปิดไฟเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองคนก็ออกไปกันแล้ว

คาดไม่ถึงว่า ในตอนนั้นที่ประตูปิดลง คนที่นอนอยู่บนเตียงนี้ ก็ลืมตาขึ้นแล้ว

ดวงตาของเธอยังคงเต็มไปด้วยน้ำตา เหม่อมองไปที่เพดานเหนือศรีษะในยามค่ำคืน หากว่ามีเเสงสว่าง ก็จะรู้ได้ว่า เวลานี้ สีหน้าของเธอซีดขาวเป็นอย่างมาก

แม้กระทั่ง ยังดูแย่กว่าที่ตระกูลโรแกนเสียอีก

ตกลงว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่กันแน่?

ฉันพลาดอะไรไปอีกบ้างนะ? ตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้

พิมแสงไม่ได้นอนทั้งคืน

วันรุ่งขึ้น

เพราะว่าเชียนหยวนล๋ายเย่คิดเผื่อหญิงตั้งครรภ์ในบ้าน จึงตื่นนอนแต่เช้าไปซื้อเนื้อหมูที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต เตรียมเคี่ยวโจ๊กหมูให้พิมแสงตอนกลับมา ให้เธอบำรุงดีๆสักหน่อย

คณาธิปก็ตื่นแล้วเช่นกัน

หลังจากที่เขาล้างหน้าบ้วนปากแล้ว ก็มองนาฬิกาบนข้อมือ และก็มาที่หน้าประตูห้องนอนชั้นสองแน่อยู่แล้ว

ความสัมพันธ์ของเขากับผู้หญิงคนนี้ ที่จริงแล้วก็สามารถพูดได้ว่าเป็นเสมือนดั่งน้องสาว เพราะว่าตัวเขาเองก็ไม่มีญาติพี่น้อง และที่เมืองเคลียร์ ทุกคนๆก็รู้จักกันมาหลายปีแล้วด้วย

และ ต่อมาภายหลังไม่ว่าเขาจะป่วย หรือว่าตอนอยู่ที่ญี่ปุ่นก็ตาม เขาจึงคุ้นชินกับการมีเธออยู่เคียงข้าง

สิ่งนี้ก็ยืนยันได้แล้วว่า เขามองเธอเป็นญาติพี่น้องคนหนึ่ง

“พิมแสง เธอตื่นแล้วหรือยัง?”

เขาเคาะประตูเธอ

“อืม……”

มีเสียงเเหบดังออกมาด้วย เพียงครู่เดียว หลังจากที่ได้ยินเสียงแผ่วเบาสักพักนึง เสียงแก๊ก ประตูก็เปิดออก ผู้หญิงท้องโตยังสวมชุดนอนอยู่ออกมาแล้ว