ภาค 11 คุนหลุนกลาง กว่างเฉิงบูรพา บทที่ 1154 ดาบกฎเกณฑ์ พริบตาฟ้าสลาย!

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เยี่ยนตี๋กางดาบ สายฟ้าบนคมดาบสั่นไหวออกไปด้านนอก ทำให้มิติด้านนอกสั่นสะเทือนตาม

แสงสายฟ้าที่เหมือนกับระลอกน้ำกระจายออกไป มิติเหมือนกับผนึกค้างโดยสมบูรณ์

ด้วยพลังฝึกปรือของเฉินเฉียนหัว การเคลื่อนไหวยังถูกจำกัด ความเร็วช้าลง

“สายฟ้าอนัตตา?” เฉินเฉียนหัวพลันมีปฏิกิริยา

ครั้งกระโน้นในนพยมโลก เยี่ยนจ้าวเกอเคยนำเมฆสายฟ้าอนัตตาส่วนหนึ่งกลับโลกซ้อนโลก เยี่ยนตี๋ฝึกวิชาสายฟ้าอนัตตาสำเร็จสืบเนื่องจากสาเหตุนี้เอง

“แต่เยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้บอกท่านหรือ” เฉินเฉียนหัวไม่นำพา “ข้าเองก็เก็บสายฟ้าอนัตตานั่นมาได้เช่นกัน”

ขณะที่พูด บนร่างของเขาก็มีแสงสายฟ้าปรากฏ กอปรกันเป็นวัตถุที่ดูเหมือนฟองอากาศ

ฟองอากาศนี้พอปรากฏ การเคลื่อนไหวของเฉินเฉียนหัวก็กลับเป็นปกติ

เยี่ยนตี๋เหมือนไม่สนใจ

เขาเพียงมองเฉินเฉียนหัว สายตาเย็นเยียบสุดเปรียบปาน

จิตกระบี่ที่ยิ่งใหญ่เทียมฟ้านั้นยิ่งมายิ่งโชติช่วง!

“หือ?” เฉินเฉียนหัวตาเป็นประกายเล็กน้อย เป็นเพราะเมฆแปลงกำเนิด แต่กลับมองเจตนาของเยี่ยนตี๋ไม่ออก

อีกด้านหนึ่ง หวังเจิ้งเฉิงที่อยู่อีกด้านเกิดลางสังหรณ์อัปมงคล

หลัวจากเฉินเฉียนหัวสู้กับเยี่ยนตี๋ หวังเจิ้งเฉิงก็ถอยไปอยู่ด้านข้าง

สำหรับเขาแล้ว การต่อสู้นี้ไม่จำเป็นต้องเอาชนะเยี่ยนตี๋ ขอแค่ถ่วงเวลาเยี่ยนตี๋ไว้ที่นี่ได้ก็พอ

ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นเยี่ยนตี๋สะกดให้เฉินเฉียนหัวเสียเปรียบมาโดยตลอด ทำให้หวังเจิ้งเฉิงไม่กล้าประมาท ความจริงหวังเจิ้งเฉิงอยากไปหยุดเยี่ยนจ้าวเกอที่สะกดจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำ หรือว่าไปตามหาเสวี่ยชูฉิงโดยตรงมากกว่า

การเคลื่อนไหวของเยี่ยนตี๋ที่อยู่ตรงหน้า ทำให้เขาเกิดความรู้สึกตะลึงพรึงเพริด

เห็นแต่เพียงแสงสายฟ้าหลายชั้น และมิติที่ทับซ้อนกัน ผนึกรวมบนคมดาบของเยี่ยนตี๋ ถึงกับกลายเป็นดาบยาวที่ดูน่ากลัวกว่าเดิมเล่มหนึ่ง

จากนั้นเยี่ยนตี๋ก็ชักดาบมังกรทะยานฟ้าออกมาจากด้านในดาบสายฟ้าอนัตตานั้น

ต่อมาก็เก็บไป

การเคลื่อนไหวของเยี่ยนตี๋ เหมือนกับชักดาบออกจากฝัก

แต่ว่าพอประมุขทิศบนและทิศล่างมองเห็นเหตุการณ์นี้ กลับเกิดความรู้สึกประหลาดขึ้น

เหมือนกับดาบสวรรค์มังกรทะยานจึงเป็นฝักดาบ

ส่วนคมดาบไร้รูปร่างที่จับตัวกันในมิติ จึงเป็นดาบที่แท้จริง!

ผิวของดาบสวรรค์มังกรทะยานที่ถูกเยี่ยนตี๋เก็บ ตอนนี้ถึงกับกระจายไปด้วยรอยแตกเล็กละเอียดหลายสาย

‘การโจมตีของเฉินทิศบนไม่ได้โดนคมดาบของเขา…’ หวังเจิ้งเฉิงจิตใจสั่นไหว ‘รอยร้าวเหล่านี้ ล้วนเป็นเจตจำนงดาบของตัวเขาสร้างขึ้นกระมัง’

‘รอเดี๋ยว หรือว่า…’ หวังเจิ้งเฉิงตะลึงลาน

เฉินเฉียนหัวสองตาสาดประกาย จับจ้องเยี่ยนตี๋ “นี่จึงเป็นดาบที่แท้จริงของท่านกระมัง”

เยี่ยนตี๋ไม่ตอบ มือที่ว่างเปล่ากำจับดาบไร้รูปร่างที่เกิดจากสายฟ้าอนัตตาเล่มนั้นไว้

พริบตาเดียว บนคมดามที่ไร้รูปร่างไร้สถานะก็สาดแสงไร้สิ้นสุดออกมา ส่องสะท้อนมิติที่ดำมืดรอบๆ

จากนั้น เยี่ยนตี๋ก็ยกดาบแสงขึ้น ก่อนจะฟันลง!

คมดาบที่เหมือนภัยพิบัติฟ้าฟันเข้าหาเฉินเฉียนหัว

เฉินเฉียนหัวรู้สึกว่าไม่ว่าตนจะเคลื่อนไหวอย่างไรล้วนหลบไม่พ้นดาบนี้

กระนั้นเขาไม่คิดจะหลบอยู่แล้ว กลับเข้าไปรับด้วยตัวเอง สองฝ่ามือม้วนพัดเปลวเพลิงสีทองขึ้นมา ฟาดใส่เยี่ยนตี๋พร้อมกัน

ฝ่ามือเทพหลีหั่วก่อนกำเนิดกระทบถูกเมฆแปลงกำเนิด สุดท้ายทำให้เมฆแปลงกำเนิดเกิดความปรวนแปร ถึงขั้นที่ถูกลบเลือนไป แต่ท้ายสุดแล้วก็เจาะเมฆแปลงกำเนิดไม่ได้

ขณะนี้ดาบแสงนั้นได้บรรลุถึงศีรษะของเฉินเฉียนหัวแล้ว!

สภาวะดาบไม่อาจต้านทานเหมือนกับสภาวะฟ้าดินที่เคลื่อนที่ไปด้านหน้าไม่หยุดยั้ง มิหนำซ้ำยังแตกต่างจากเจตจำนงดาบเมื่อก่อนหน้าของเยี่ยนตี๋

ธรรมชาติเปลี่ยนจากการสร้างสู่ความสิ้นสูญ การเปลี่ยนแปลงไหลเวียน สภาวะไม่อาจต้านทาน เป็นกระบวนการที่ไม่อาจแข็งขืน

ขณะที่เยี่ยนตี๋ใช้ดาบแสดงถึงกระบวนการนี้ เขาถึงกับผลักดันอย่างต่อเนื่อง เพิ่มความเร็วให้แก่กระบวนการนี้ไม่หยุดยั้ง!

ทำให้มันเร็วขึ้น รุนแรงขึ้น เกรี้ยวกราดขึ้น ไม่อาจต้านทานได้มากกว่าเดิม!

ดาบกฎเกณฑ์ พริบตาฟ้าสลาย!

เฉินเฉียนหัวสูดหายใจลึก ใช้ร่างไร้ประมาณสสารกำเนิดกับร่างกาลอวกาศจุดกำเนิดพร้อมกันเพื่อช่วงชิงเวลา

มือซ้ายแสดงความลี้ลับของคัมภีร์นภาความว่างเปล่า มือขวาแสดงความลี้ลับของคัมภีร์นภากาลเวลา

สายฟ้าอนัตตาโอบล้อมตัวเขา พยายามเป็นครั้งสุดท้าย ในที่สุดทำให้เขาเคลื่อนย้ายมิติ ฝืนหลบจุดอันตรายได้

ทว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ดาบแสงของเยี่ยนตี๋ก็ยังคงฟันใส่ร่างของเขาอย่างรุนแรง

ชั่วพริบตานั้นโลหิตสาดกระจาย

เฉินเฉียนหัวคนกระเด็นออกไป ตั้งแต่แขนขวาไปจนถึงบนเอวซ้ายเป็นปากแผลสายหนึ่ง เอียงพาดลำตัวเขา เลือดเนื้อเลอะเลือน!

“วิชาดาบและเจตจำนงดาบเช่นนี้…” หวังเจิ้งเฉิงมองเหตุการณ์นี้อย่างตะลึงงัน

“เหอะๆๆ…เหอะๆ…ไม่ใช่ครอบครัวเดียวกัน ไม่เข้าประตูเดียวกันจริงๆ…” เฉินเฉียนหัวกลับหัวเราะขึ้น สีหน้าถึงขั้นปีติยินดี “ในการต่อสู้กับคนที่อยู่ในระดับใกล้ๆ กัน มีแต่ตอนสู้กับเยี่ยนจ้าวเกอครั้งก่อนที่ถูกถูกเล่นงานหนักกว่าวันนี้ เหอะๆ…”

เฉินเฉียนหัวที่มีแค่ฐานโลกเสริมพลัง ค้นพบว่าบาดแผลของตัวเองหายช้ากว่าที่คาดไว้

เจตจำนงดาบจากดาบกฎเกณฑ์ของเยี่ยนตี๋ซึ่งทิ้งรอยแผลไว้ให้เขา สะกดฐานโลกของเขาได้ในระดับหนึ่ง

หลังจากกระตุ้นวรยุทธ์ก่อนกำเนิดมากมาย ก่อนกำเนิดกับหลังกำเนิดประสานกัน ฐานโลกจึงค่อยแสดงผล ทำให้อาการบาดเจ็บของเฉินเฉียนหัวฟื้นฟู่ด้วยความเร็วที่ตาเนื้อเห็นได้

“ยังคงไม่อาจเจาะเมฆแปลงกำเนิดของท่าน…” เรื่องที่เฉินเฉียนหัวเสียดายในตอนนี้กลับเป็นอีกเรื่อง “ครั้งนี้ข้าเสียดายจริงๆ ที่ตัวเองใช้คัมภีร์เบิกนภาไม่ได้”

หวังเจิ้งเฉิงไม่กล้าลังเล รีบร้อนเข้าไปขวางระหว่างคนทั้งสอง

เฉินเฉียนหัวมีฐานโลก หนึ่งกระบวนท่าไม่ตาย มีความหวังฟื้นฟู แต่ไม่อาจสำเร็จได้ง่ายๆ

เพียงแต่พอเผชิญกับดาบเมื่อครู่ของเยี่ยนตี๋ ในตอนนี้หวังเจิ้งเฉิงไม่มีความเชื่อมั่นแม้แต่น้อย

ดาบแสงในมือเยี่ยนตี๋สลายไป กลายเป็นไร้รูปร่างอีกครั้ง

เยี่ยนตี๋มองเฉินเฉียนหัวและหวังเจิ้งเฉิงอย่างเย็นชา ไม่ได้หยุดยั้ง มุ่งหน้าไปทางตะวันตก

สุดท้ายแล้วเขาก็นึกถึงทางด้านเสวี่ยชูฉิง ชีวิตคนสำคัญดุจฟากฟ้า จำเป็นต้องแข่งกับเวลา

นอกจากหวังเจิ้งเฉิง เฉินเฉียนหัว จักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำ และจักรพรรดิเอกภพแล้ว อีกฝ่ายต้องมีคนลงมือกับเสวี่ยชูฉิง

ขณะมองแผ่นหลังของเยี่ยนตี๋ที่ห่างออกไป หวังเจิ้งเฉิงสูดลมหายใจลึกๆ เตรียมจะติดตามไป

ถึงทางเยี่ยนตี๋จะทำให้เขาตื่นตระหนกถึงขีดสุด แต่เทียบกับเป้าหมายที่วางแผนไว้แล้ว หวังเจิ้งเฉิงจะต้องพยายามหยุดยั้งย่างก้าวของเยี่ยนตี๋ไว้ให้จงได้ ต่อให้จะมีอันตรายถึงชีวิตก็ตาม

“ตามไปได้ เขาไม่น่าใช้ดาบเมื่อครู่ติดต่อกันได้” เฉินเฉียนหัวหัวเราะฮาๆ “แต่จำเป็นต้องเว้นช่วงนานเท่าไร ข้าบอกไม่ได้เช่นกัน”

หวังเจิ้งเฉิงมองเฉินเฉียนหัว “ประมุขทิศบนท่าน…”

“วันนี้ข้าสะใจแล้ว พ่อลูกตระกูลเยี่ยนไม่เหมือนกับคนอื่นๆ จริงๆ ด้วย” ไม่รออีกฝ่ายพูดจบ เฉินเฉียนหัวก็หัวเราะฮ่าๆ ร่างกายลอยออกไปไกล

หวังเจิ้งเฉิงเงยหน้าถอนใจ ในตอนนั้นเองจิตใจก็สัมผัสอะไรบางอย่างได้

เขาหันไปมองอีกด้านหนึ่ง เห็นในมิติทางด้านนั้นพลันมีแสงสว่างเจิดจ้าปรากฏขึ้น เงาร่างสองสายต่อสู้กันในแสงสว่าง เข้าใกล้สนามรบทางด้านนี้…เป็นเยี่ยนจ้าวเกอและจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำ

แม้จะสลัดหลุดจากจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำไม่ได้ แต่สุดท้ายจักรพรรดิแพรอาภรณ์ดำก็ขัดขวางเยี่ยนจ้าวเกอไม่ได้ ได้แต่ถ่วงความเร็วของอีกฝ่าย สองคนสู้ไปพลาง เคลื่อนที่ไปพลาง เขาใบชาหมอกอยู่ห่างจากเขตมหานภากลางไม่ไกล ขณะต่อสู้กันก็มาถึงบริเวณนี้

พอเห็นเหตุการณ์นี้ จิตใจของหวังเจิ้งเฉิงก็หนักอึ้งกว่าเดิม

………………..