มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1340

หลัวซิวรู้สึกใจกระตุกกะทันหัน ราวกับว่าความลับทั้งหมดของเขาไม่สามารถซ่อนไว้ได้ภายใต้การจ้องมองของเทพมังกรดำตัวนี้

อย่างไรก็ตาม เทพมังกรดำไม่สนใจเขา เพียงเหลือบมองเขาด้วยสายตาราบเรียบแล้วนอนหลับต่อ

“ฮ่าฮ่า พี่ชายนี้มาฐานหยินหยางเป็นครั้งแรกหรือเปล่า?”

ทันใดนั้นก็มีเสียงดังมาจากด้านหลังหลัวซิว เขาเดินตามเสียงนั้นไปและเห็นชายหนุ่มในเสื้อสีขาวบินมา

“ฐานหยินหยางเป็นสถานที่หลักของสำนักหยินหยางของเรา เจ้าต้องมี บัญชาหยินหยางถึงจะเข้าไปได้ ไม่เช่นนั้นเจ้าจะถูกสังหารโดยผู้คุมกฎเทพมังกร!”

ชายหนุ่มเสื้อสีขาวบินมาตรงหน้าหลัวซิวขณะที่เขาพูด “ข้าชื่อสวีชิงซานไม่ทราบรู้ว่าน้องชายชื่ออะไร?”

“หลัวซิว” หลัวซิวกำกำปั้นคำนับและพูดโดยไม่ปกปิดตัวตนที่แท้จริงของเขา

“เป็นพี่งหลัวนี่เอง ยินดีที่ได้รู้จัก!”

ชายหนุ่มชุดขาวดูกระตือรือร้นมาก แล้วถามด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่รู้ว่าพี่หลัวเป็นศิษย์ของผู้อาวุโสท่านใดหรือ?”

หลัวซิวส่ายหัว “ข้าไม่ใช่ศิษย์ของสำนักหยินหยาง”

“งั้นไม่ทราบว่าพี่หลัวเป็นศิษย์ของสำนักใด?” สวีชิงซานถามอีกครั้ง

แม้ว่า ฐานหยินหยางจะเป็นสถานที่สำคัญของสำนักหยินหยางแต่บางครั้งสำนักอื่น ๆ จะส่งศิษย์ที่โดดเด่นของพวกเขาผ่านช่องทางต่างๆมาฝึกฝน

“ไม่มีสำนักและไม่อยู่ฝ่ายใด” หลัวซิวพูดตามความจริง

แม้ว่าเขาจะพูดความจริง แต่ สวีชิงซานไม่ได้คิดอย่างนั้น เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

สวีชิงซานคนนี้เป็นศิษย์ของผู้อาวุโสสำนักหยินหยางท่านหนึ่ง เขารู้ดีเกี่ยวกับเรื่องของ ฐานหยินหยาง ใน สำนักหยินหยางเฉพาะศิษย์ของอาวุโสเท่านั้นที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเข้าสู่การทดสอบที่นี่ ศิษย์ธรรมดานั้นจะบรรลุระดับความสำเร็จที่ระดับหนึ่งถึงจะได้รับสิทธิ

ชายหนุ่มที่ไร้สำนักไร้กองกำลังใดๆ จะมีคุณสมบัติที่จะเข้าสู่ ฐานหยินหยางได้อย่างไร?

สวีชิงซานสังเกตเห็น บัญชาหยินหยางที่อยู่ในมือของอีกฝ่าย ป้ายบัญชาการนี้ไม่สามารถปลอมแปลงได้ มิฉะนั้นผู้คุมกฎเทพมังกรจะดูออกและจะสังหารทันที

หลัวซิวเองก็ขี้เกียจที่จะอธิบายเรื่องนี้ ไม่นานนัก เขาก็เข้าไปในระหว่างภูเขาหลายลูกที่สูงหลายหมื่นเมตร

ทันใดนั้น หลัวซิวหยุดเดิน มองขึ้นไปบนท้องฟ้า เห็นเมฆห้าสีสันจำนวนนับไม่ถ้วนพลุ่งพล่านอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งบางครั้งก็กลายเป็นลวดลายอันวิจิตรงดงาม หรือแม้แต่ภาพที่แปลกตา

เขามองไปรอบ ๆ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะพื้นที่ระหว่างภูเขาสูงหลายหมื่นเมตรเหล่านี้ถูกจัดวางด้วยค่ายกลขนาดใหญ่

ภายใต้ค่ายกลขนาดมหึมานี้ พื้นที่นี้เต็มไปด้วยปราณทิพย์ฟ้าดินที่อุดมสมบูรณ์อย่างยิ่ง ซึ่งแข็งแกร่งกว่าปราณทิพย์ที่เขารู้สึกเมื่อมาถึงพื้นที่นี้สามหรือสี่เท่า!

และสิ่งที่มีค่าที่สุดคือกฎเบญจธาตุที่มีความลึกลับซ่อนอยู่ หากฝึกฝนในสถานที่แบบนี้จะเป็นเรื่องยากที่ไม่อยากจะบรรลุพันลี้ในหนึ่งวัน!

“ต่อให้หมูตัวหนึ่งถูกโยนทิ้งไว้ที่นี่ เวลาผ่านไปหลายสิบปีมันก็จะกลายเป็นภูตแล้ว!” หลัวซิวพดในใจ สามารถอนุมานได้จากพื้นผิวว่าสภาพการฝึกฝนของกองกำลังใหญ่ในโลกาชั้นฟ้านั้นเหนือกว่าเพียงใด

เมื่อเห็นสีหน้าของหลัวซิวสวีชิงซานที่อยู่ด้านข้างก็เบะปาก เขาเป็นชายหนุ่มรูปงามที่เกิดในสรรพมหาโลกา ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกของ หลัวซิว

ใน ฐานหยินหยางนี้ไม่มีทูตนำทาง หลัวซิวพึ่งพาทิศทางด้วย บัญชาหยินหยางทั้งหมด มาถึงด้านหน้าของตำหนักสีทอง

ทั่วตำหนักนี้เปรียบเหมือนการสร้างด้วยทองคำ เหนือตำหนักมีแสงทองห้อยระยิบระยับ มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่าสิบเมตรราวกับดวงตะวันสีทอง

นี่คือวังไท่หยาง!

หลัวซิวเห็นว่า สวีชิงซานนำบัญชาหยินหยางที่เหมือนกับของเขาออกมาแล้วเดินเข้าไปในวังไท่หยาง ทันที

ดังนั้นเขาจึงเดินเข้าไปโดยไม่ลังเล