ตอนที่ 2049 บุปผาแห่งเต๋

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 2049 บุปผาแห่งเต๋า

 

แน่นอนว่าหลิงฮันไม่รู้ว่าหลังจากที่เขาจากไปแล้วมีอะไรเกิดขึ้น

 

เขาเดินอยู่ท่ามกลางสะพานมังกรสีดํา ที่รอบด้านยังคงล้อมรอบไปด้วยสะพานมังกรนับพัน แต่ยิ่งเขาเดินลึกเข้าไปเท่าไหร่ สะพานมังกรรอบๆ ก็ค่อยๆ หายไป จนสุดท้ายปลายทางของสะพานมังกรสีดําก็ค่อยๆ กว้างขึ้น และภาพรอบด้านได้เหลือเพียงสะพานมังกรสีดําเพียงอย่างเดียว

 

พื้นผิวของสะพานมังกรสีดําถูกปูด้วยเกล็ดมังกร และให้ความรู้สึกไม่สม่ําเสมอทุกครั้งที่เหยียบย่ํา ต่อให้ใช้อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ปกคลุมร่างกายเอาไว้ ก็ยังรู้สึกเหมือนถูกพลังงานบางอย่างที่มแทง

 

โชคดีที่นั่นเป็นความรู้สึกที่ถูกทิ่มแทงอย่างเดียว และไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดเกิดขึ้น

 

“ฮึ่ม” จู่ๆ ออร่าแห่งเต๋าก็ลอยขึ้นมาจากสะพานด้านหน้าเขาและรวมตัวกันเป็นมังกรร่างยาวสีเขียวมรกต เมื่อสายลมของหุบเหวพัดผ่านไปมา ออร่าสีเขียวก็ดูราวกับว่าจะถูกพัดปลิวได้ตลอดเวลา

 

แต่ยิ่งหลิงฮันเดินเข้าไปใกล้ มังกรเขียวมรกตก็แปรสภาพมาอยู่ในร่างของมนุษย์ใบหน้าหล่อเหลาที่สวมชุดสีเขียว

 

นี่มันอะไรกัน?

 

ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในหัวของหลิงฮันเพียงชั่วครู่ จู่ๆ รุ่นเยาว์ตรงหน้าก็ทําการโจมตีใส่เขาอย่างโผงผาง อีกฝายปล่อยหมัดออกมา “พรีบ พรึบ” ตราประทับมากมายส่องสว่างขึ้นทีละอัน และ ควบแน่นปกคลุมไปทั่วหมัด

 

แม้หมัดนี้จะดูธรรมาดาไม่พิเศษ แต่อํานาจของมันกลับน่าเกรงขาม จนดูราวกับจะสามารถบดขยี้สวรรค์และปฐพีได้

 

หลิงฮันเค้นเสียง และปล่อยหมัดขวาเข้าตอบโต้รุ่นเยาว์ชุดเขียว

 

ปัง!

 

เมื่อหมัดของทั้งคู่เข้าปะทะกัน ร่างของหลิงฮันก็ลอยกระเด็นถอยหลังราวกับกระสุนปืนใหญ่

 

ในแง่ของพลังต่อสู้ หลิงฮันด้อยกว่ารุ่นเยาว์ชุดเขียวมากมายหลายเท่า จนไม่สามารถรับการโจมตีได้แม้เพียงหนึ่งหมัด

 

รุ่นเยาว์ชุดเขียวยังคงไล่ตามมาโจมตีต่อ “ปัง ปัง ปัง” เขากวัดแกว่งหมัดกระหน่ําโจมตีใส่หลิงฮันอย่างบ้าคลั่ง

 

หลิงฮันกลายเป็นกระสอบทราบมนุษย์ที่ถูกทุบตีไม่หยุด

 

แต่ถึงแม้พลังต่อสู้ของรุ่นเยาว์ชุดเขียวจะน่าสะพรึงกลัวแค่ไหน ก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะสามารถทําลายกายหยาบของหลิงฮันได้

 

“พอกันที่!” หลิงฮันคําราม ถึงแม้เขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่การถูกซัดไม่หยุดอยู่ฝ่ายเดียว เช่นนี้ก็เป็นสิ่งที่เขาไม่อาจทําใจยอมรับได้ ครืนน” คลื่นแสงอันทรงพลังระเบิดออกมาจากร่างกายของเขา และระเบิดกว้างไปทั่วสารทิศ

 

แก่นพลังมหาพินาศ!

 

“ตูม” ร่างของรุ่นเยาว์ชุดเขียวบิดเบี้ยวและแตกสลายเป็นก้อนแสงเศษเล็กเศษน้อย

 

“แก่นพลังมหาพินาศคือการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของข้าในตอนนี้จริงๆ” หลิงฮันยิ้ม ถึงแม้อํานาจเมื่อระเบิดพลังของแก่นกําเนิดนิรันดร์เปลวเพลิงจะรุนแรงมากเช่นกัน แต่เมื่อทําแบบนั้นพลังของหลิงฮันก็ถูกเผาผลาญทั้งหมด ซึ่งไม่ค่อยมีประสิทธิภาพในการต่อสู้ระยะยาวเท่าไหร่

 

“อะไรกัน!”

 

เขาเผยสีหน้าประหลาดใจ รุ่นเยาว์ชุดเขียวเมื่อครูไม่ใช้สิ่งมีชีวิตจริงๆ แต่เป็นการควบแน่นของปราณมังกร เพราะงั้นเมื่อถูกทําให้แหลกสลายแล้ว ร่างมนุษย์ก็กลับไปเป็นปราณมังกรอีกครั้ง และลอยมาพัวพันรอบด้านตัวเขา

 

เมื่อเศษเสี้ยวปราณสัมผัสโดนร่าง หลิงฮันก็รู้สึกราวกับโลหิตในร่างเดือดพล่านขึ้นมาทันที

 

ท่าทีของเขากลายเป็นกระตือรือร้นและรีบเปิดรูขุมขนตามร่างกาย “พรึบ” ปราณมังกรถูกดูดซับเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างสม่ําเสมอ ทําให้ร่างกายของเขาค่อยๆ ถูกขัดเกลา

 

มังกรคือสัตว์อสูรนิรันดร์แห่งสวรรค์และปฐพีระดับแนวหน้า เพราะงั้นปราณมังกรที่มีแก่นพลังของมังกรผสานอยู่ จึงนับว่าเป็นวาสนาที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก

 

สะพานมังกรเป็นเส้นทางที่ไม่เคยถูกเปิดมาก่อน หลังจากระยะเวลาที่ผ่านมายาวนาน คิดว่าแก่นพลังที่ถูกควบแน่นกลายเป็นปราณมังกรอยู่ภายในนี้จะน่าอัศจรรย์ขนาดไหนกัน?

 

หลิงฮันหัวเราะและก้าวเดินต่อ หลังจากผ่านไปอีกพักหนึ่ง ปราณมังกรก็ลอยขึ้นมาอีกครั้ง และรวมตัวกันเป็นมังกรสีชาด พร้อมกับแปรสภาพกลายมาเป็นสตรีสวมชุดแดง

 

หลิงฮันไม่ใช้แก่นพลังมหาพินาศในทันที แต่เลือกที่จะโคจรทักษะนิรันดร์อื่นๆ ตอบโต้อีกฝ่ายดูก่อน

 

แต่ยังไงก็เอาชนะไม่ได้อยู่ดี

 

ตัวเขาในตอนนี้เป็นเพียงจอมยุทธระดับตัดวิญญาณหยางเท่านั้น ต่อให้เขาจะมีศักยภาพเป็นจักรพรรดิระดับแนวหน้า อย่างมากเขาก็สามารถต่อกรกับจอมยุทธระดับตัดวิญญาณสวรรค์ทั่วไปได้เท่านั้น แต่สตรีชุดแดงผู้นี้เป็นจักรพรรดิในระดับตัดวิญญาณปฐพี ที่มีพลังต่อสู้ไร้เทียมทานในระดับตัดวิญญาณสวรรค์

 

“ปัง ปัง ปัง” หลิงฮันตกเป็นกระสอบทรายมนุษย์อีกครั้ง ไม่ว่าเขาจะใช้ทักษะนิรันดร์ทักษะใด อีกฝ่ายก็สามารถสลายทิ้งได้อย่างง่ายดาย

 

หากหลิงฮันต้องการเอาชนะคู่ต่อสู้ตรงหน้า เขามีทางเหลืออยู่หลายทาง

 

หนึ่งคือใช้แก่นพลังมหาพินาศ สองคือระเบิดพลังของแก่นกําเนิดนิรันดร์ออกมา และ สามคือใช้พลังของหอคอยทมิฬ ตราบใดที่กระแสเวลาถูกหยุดเอาไว้ เขาก็สามารถจัดการอีกฝ่ายได้ในพริบตา

 

เพียงแต่นอกจากแก่นพลังมหาพินาศ วิธีการอีกสองวิธีสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น

 

หลังจากรับรู้ถึงความต่างในพลังของตนเองกับอีกฝ่ายแล้ว หลิงฮันก็ไม่เสียเวลาอีกต่อไป “ตูม” คลื่นพลังที่น่าสะพรึงกลัวพรั่งพรูออกมาจากร่างของเขา และระเบิดไปทั่วทิศทาง

 

ภายในพริบตาเดียว ร่างของสตรีชุดแดงก็แหลกสลายและกลายสภาพกลับไปเป็นปราณมังกร

 

หลิงฮันดูดซับปราณมังกร และระดับพลังบ่มเพาะได้เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย

 

“ถ้าได้ดูดซับปราณมังกรนับร้อย พลังบ่มเพาะของข้าก็จะบรรลุเป็นระดับตัดวิญญาณหยางสูงสุด”

 

“นอกจากนั้นปราณมังกรก็ยังช่วยยกระดับกายหยาบของข้าด้วย ไม่เพียงแค่พลังบ่มเพาะที่เพิ่มขึ้น แต่พลังต่อสู้ก็แข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นกัน”

 

เขาบ่มเพาะทักษะคัมภีร์สวรรค์นิรันดร์ทําให้กายหยาบมีความทนทาน แต่การดูดซับปราณมังกรเข้ามาในร่าง จะทําให้เขาได้รับความแข็งแกร่งของมังกรสวรรค์ ที่เพียงแค่หมัดเดียวก็สามารถบดขยี้ดวงดาวบนท้องฟ้าได้

 

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงจินตนาการของหลิงฮัน เพราะมีเพียงราชานิรันดร์เท่านั้นที่สามารถบ ขยี้ดวงดาวบนท้องฟ้าได้

 

หลังจากดูดซับปราณมังกรเสร็จสิ้นเขาก็เดินหน้าต่อ

 

แต่ยังไม่ทันเดินไปไกลเท่าไหร่ จู่ๆ เขาก็มองเห็นดอกไม้ปรากฏอยู่ที่ด้านหน้า

 

พื้นผิวสะพานที่ถูกปูเอาไว้ด้วยเกล็ดมังกรเช่นนี้ สามารถมีดอกไม่งอกเงยขึ้นมาได้อย่างไร?

 

หลิงอันประหลาดใจและเร่งความเร็วในการเดินให้ไวขึ้น

 

เป็นดอกไม้จริง…. ดอกไม้ต้นนี้มีความสูงอยู่ที่สามฟุตและมีใบอยู่แค่ไม่กี่ใบ สีของดอกไม้นั้นโปร่งใสแวววาว และมีกลิ่นอายอันว่างเปล่าที่ไม่สามารถบรรยายเป็นคําพูดได้

 

หลิงฮันไม่รู้จักดอกไม้ต้นนี้ มันไม่ได้ถูกบันทึกเอาไว้ในตําราสมุนไพรนิรันดร์ใดๆที่เขาเคยศึกษา แต่ที่แน่ๆ คือเขาสัมผัสคลื่นกระเพื่อมของอํานาจแห่งเต๋จากภายในดอกไม้ต้นนี้ได้ ซึ่งนั่นทําให้เขาเกิดความรู้สึกตื่นเต้นและอยากจะเข้าเด็ดดอกไม้ตรงหน้าให้เร็วที่สุด

 

“สิ่งนี้คือบุปผาแห่งเต๋” จู่ๆ เสียงของหอคอยน้อยก็ดังขึ้น

 

“หืม เจ้าไม่เป็นใบ้แล้วงั้นรึ?” หลิงฮันยิ้ม

 

ตั้งแต่ที่เขาเริ่มฝึกฝนแก่นพลังมหาพินาศ หอคอยน้อยก็เอือมระอาและไม่คุยกับเขาแม้แต่คําเดียว

 

หอคอยน้อยเค้นเสียงและกล่าว “บุปผาแห่งเต๋นั้นอัดแน่นไปด้วยอํานาจแห่งเต๋า แม้มันจะไม่ใช่สมุนไพรนิรันดร์ แต่ก็มีสรรพคุณยอดเยี่ยมยิ่งกว่าสมุนไพรนิรันดร์เสียอีก ซึ่งมีเพียงสถานที่ที่มีราชานิรันดร์จํานวนมากถูกฝังเอาไว้เท่านั้น ถึงจะทําให้บุปผาแห่งเต๋งอกเงยขึ้นมาได้”

 

หลิงฮันอุทาน “โอ้” และกล่าว “ดูเหมือนตํานานเรื่องเล่าที่มีมังกรนิรันดร์นับร้อยถูกฝังอยู่ที่นี่จะเป็นความจริงสินะ”

 

“บุปผาแห่งเต๋าเป็นประโยชน์ต่อเส้นทางการบ่มเพาะพลังมาก เพราะงั้นรวบรวมมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทําได้” หอคอยน้อยกล่าวด้วยน้ําเสียงหนักแน่น