บทที่ 1698 อย่าไปยุ่งเรื่องคนอื่น + ตอนที่ 1699 แก้แค้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1698 อย่าไปยุ่งเรื่องคนอื่น

 

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนที่กำลังทานปลาผัดซอสแดงอยู่เกือบโดนก้างปลาติดคอ หันมองเหมยเหมยอย่างแปลกใจก่อนจะแสดงความไม่พอใจของเธอออกไปเล็กน้อย “ตอนทานข้าวช่วยอย่าถามคำถามอ่อนไหวแบบนี้ได้ไหม?”

 

หากเปลี่ยนเป็นฉีฉีเก๋อเธอคงเอาเท้ายันไปตั้งแต่แรกแล้ว

 

เนื้อปลาผัดซอสแดงมีแต่พริกแดงซึ่งมีสีคล้ายประจำเดือน มาถามเรื่องประจำเดือนในตอนที่เธอกำลังทานอย่างเอร็ดอร่อยแบบนี้ จงใจทำให้เธอรู้สึกสะอิดสะเอียนสินะ?

 

แต่อีกฝ่ายเป็นจ้าวเหมยเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนจึงทำได้แค่แสดงความไม่พอใจทางอ้อม แล้วจะทำอย่างไรได้อีก?

 

เหมยเหมยรู้นิสัยแปลก ๆของเธอดี ทั้งที่มีข้อห้ามในการกินตั้งมากมายแต่ดันมีไขมันทั่วทั้งร่างแบบนี้ก็ถือว่าเป็นคนเก่งใช้ได้!

 

เธอหัวเราะเก้ออย่างรู้สึกผิดก่อนจะเอ่ย “เดี๋ยวฉันเลี้ยงปลาย่างเธอเอง เธอตอบคำถามฉันก่อน”

 

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนได้ยินว่ามีปลาย่างเลยรีบปิดฝากล่องข้าว เช็ดปากเสร็จก็ตอบ “เพิ่งหมดไปเมื่อไม่กี่วันก่อน เธอถามเรื่องนี้ทำไม?”

 

เหมยเหมยถามอีก “สวีจื่อเซวียนคงมาใกล้ ๆเวลาเดียวกับเธอสินะ?”

 

เมื่อก่อนเธอเคยได้ยินเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพูดถึงว่าวันที่ประจำเดือนของสวีจื่อเซวียนมาไม่ห่างจากเธอสักเท่าไรนัก

 

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพยักหน้า “ใช่ ช้ากว่าฉันสามวัน เป็นแบบนี้ทุกทีเลย แม่นยำมาก…ไม่สิ…” สีหน้าเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วเบิกตากว้างมองเหมยเหมยอย่างตกใจ เห็นทีจะคิดไปถึงเรื่องเดียวกันกับเธอแล้ว

 

สวีจื่อเซวียนชอบสีขาวมากจึงทำให้นอกจากช่วงที่ประจำเดือนมาแล้วเวลาอื่นเธอจะสวมแต่กระโปรงขาวหรือกางเกงสีขาว ก็ยิ่งขับให้เธอดูสดใสบริสุทธิ์มากกว่าเดิม

 

แต่ประเด็นของเรื่องคือสองเดือนมานี้สวีจื่อเซวียนไม่ใส่เสื้อผ้าสีอื่นเลยใส่แต่โทนสีขาวมาโดยตลอด บ่งบอกว่าสวีจื่อเซวียนประจำเดือนไม่มาเป็นเวลาสองเดือนแล้ว ผู้หญิงคนหนึ่งประจำเดือนไม่มาหมายความว่าอย่างไร?

 

ไม่ใช่วัยทองก็คือตั้งท้องไงล่ะ!

 

สวีจื่อเซวียนย่อมไม่ใช่กรณีแรกอยู่แล้ว!

 

“แย่แล้ว…ทำไงล่ะทีนี้?” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตบต้นขาฉีฉีเก๋อไปทีหนึ่ง ด้วยความที่เนื้อแท้เป็นคนใจดีกระตือรือร้นอย่างเธอทำให้เธอเริ่มเป็นห่วงสวีจื่อเซวียนอีกครั้ง

 

ตั้งท้องในช่วงมหาวิทยาลัย หากเรื่องนี้ถูกแพร่งพรายออกไปสวีจื่อเซวียนไม่มีทางอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยได้ต่อไปแน่ ๆ อีกอย่างต้องเสื่อมเสียชื่อเสียงกลายเป็นขี้ปากชาวบ้านไปทั่วด้วย!

 

“ให้ไปตามสวีจื่อเซวียนกลับมาไหม?” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนถามเสียงเบา

 

สวีจื่อเซวียนต้องไปโรงพยาบาลประจำมหาวิทยาลัยแน่ ๆ หากเกิดตรวจขึ้นมาล่ะแย่เลย ต้องรู้กันทั้งมหาวิทยาลัยซึ่งต่อให้คิดจะปิดอย่างไรก็ปิดไม่อยู่

 

กระทั่งตอนนี้ฉีฉีเก๋อก็ยังฟังไม่เข้าใจทำเอาเธอเกาหูเกาหน้าอย่างร้อนใจแล้วหยิกต้นขาเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแรง ๆทีหนึ่งถึงดึงความสนใจจากคุณหนูใหญ่เหริ่นได้ พอได้คำตอบมาก็ตกใจไม่แพ้กัน

 

“เฮ้ย…แล้วแบบนี้…” ฉีฉีเก๋อเผลอตะเบ็งเสียงดัง เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนรีบเอามือปิดปากเธอแล้วเตะใส่แรง ๆไปทีหนึ่ง สีอันน่าเห็นท่าทางสนิทสนมของพวกเธอสามคนก็รู้สึกแย่จับใจ แค่นเสียงออกมาดัง ๆทีหนึ่งแล้วหันหนีคร้านจะมองอีก

 

พวกเธอเลยตัดสินใจออกมาจากหอพัก วิ่งมาถึงข้างนอกถึงจะกล้าปรึกษากันอย่างสบายใจ

 

ฉีฉีเก๋อเป็นห่วงอย่างมาก คิดจะไปตักเตือนสวีจื่อเซวียนที่โรงพยาบาล “ถ้าให้ทางมหาลัยรู้หล่อนต้องโดนไล่ออกแน่ ๆ เราควรเตือนหล่อน”

 

เหมยเหมยกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “เตือนตอนนี้ก็สายไปแล้ว ไม่แน่สวีจื่อเซวียนอาจจะรู้แล้วก็ได้ ถ้าพวกเธอไม่สบายใจจริง ๆก็โทรบอกอาจารย์เจียงสิ แต่อย่าบอกว่าท้องให้บอกว่าสวีจื่อเซวียนไม่สบายไปหาหมอ ให้เขาไปหาสวีจื่อเซวียนที่โรงพยาบาลเอง”

 

ฉีฉีเก๋อรีบวิ่งไปโทรศัพท์ทันที ละแวกนี้มีตู้โทรศัพท์สาธารณะพอดี ไม่นานเธอก็โทรติดก่อนจะทำตามที่เหมยเหมยบอก เจียงจื้อหรู่รีบมุ่งไปที่โรงพยาบาลอย่างร้อนรนใจตามคาด

 

“พอแล้ว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเรา พวกเธออย่าคิดจะยุ่งกับใคร ไปกว่างซีเที่ยวให้สนุกดีกว่า!”

 

เหมยเหมยพูดย้ำเตือนอีกประโยคหนึ่งแล้วแยกตัวกลับบ้านคนเดียว

 

เจียงจื้อหรู่ตามไปถึงโรงพยาบาลด้วยความกระวนกระวายใจ สวีจื่อเซวียนได้ทำการตรวจฉี่และรู้ผลเป็นที่เรียบร้อยแล้วเลยนั่งเหม่อลอยอยู่อย่างนั้น แพทย์หญิงมองเธออย่างหยามเหยียด เธอก็เป็นนักศึกษาหญิงที่ไม่รู้จักควบคุมตัวเองอีกคน หน้าไม่อายจริง ๆ!

 

…………………….

 

ตอนที่ 1699 แก้แค้น

 

เจียงจื้อหรู่พอจะมีชื่อเสียงในมหาวิทยาลัยอยู่บ้าง ภายใต้การตกลงกันระหว่างเขากับแพทย์หญิงถึงได้ปิดเรื่องนี้ไว้ได้ จากนั้นพาสวีจื่อเซวียนที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเดินออกจากมหาวิทยาลัย เขาเองก็เกิดอารมณ์ซับซ้อนอย่างมากมีทั้งความปิติยินดีแต่มากกว่านั้นคือไม่ทันตั้งตัว

 

เขาแต่งงานกับภรรยามายี่สิบปีใช้เวลาอยู่ด้วยกันน้อยจึงไม่มีลูกสักที ไม่ใช่ภรรยามีลูกไม่ได้แต่เพราะเขาไม่อยากนอนบนเตียงเดียวกับผู้หญิงคนนั้นจริง ๆ แน่นอนว่าเขาโกหกภรรยาว่าเขาเกลียดเด็กทำให้ภรรยาหลงเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงเลยไม่มีลูกด้วยกันจริง ๆ

 

ความจริงเขาชอบเด็ก เขาชอบทั้งพวกหลานชายหลานสาวมาก ตอนนี้เขามีลูกเป็นของตัวเองเขาย่อมดีใจอยู่แล้ว

 

แต่ยังไม่ได้จัดการกับฝั่งภรรยาต่อให้เด็กคนนี้เกิดมาลืมตาดูโลกก็ไม่อาจใช้ชีวิตอย่างเปิดเผยได้ เขาไม่มีทางยอมให้ลูกตัวเองกลายเป็น ‘คนในที่มืด’ หรอก

 

“ฉัน…ฉันอยากเก็บเขาไว้ เขาเป็นผลผลิตความรักของเรา ฉันไม่อยากทำแท้ง…” สวีจื่อเซวียนรู้สึกดีใจมากกว่า ภรรยาของเจียงจื้อหรู่คือแม่ไก่ที่ฟักไข่ไม่ได้ ขอแค่เธอมีลูกตระกูลเจียงจะต้องยอมรับเธอแน่ ๆ

 

อีกอย่างเธอชอบเจียงจื้อหรู่จริง ๆ เธออยากมีลูกของเขา เธออยากเป็นคุณนายเจียง!

 

เจียงจื้อหรู่ปลอบเธออยู่นานถึงตัดสินใจได้

 

ครั้งนี้เขาจะต้องสารภาพกับภรรยาไปตรง ๆ เขาจะปล่อยให้ผู้หญิงของเขาลำบากไม่ได้!

 

เจียงจื้อหรู่กลับไม่รู้ว่าไม่ต้องรอให้เขาสารภาพคุณนายเจียงก็ได้รู้ข่าวที่สวีจื่อเซวียนท้องก่อนแล้ว หนำซ้ำยังรู้ถึงท่าทีของเจียงจื้อหรู่ด้วยจึงปวดใจราวกับโดนมีดปักกลางอกปล่อยให้เลือดไหลไปตามทาง

 

ที่แท้เขาไม่ได้ไม่ชอบเด็ก เพียงแค่ไม่อยากมีลูกกับเธอเท่านั้น!

 

เจียงจื้อหรู่ ทำไมคุณถึงจะได้ใจร้ายขนาดนี้?

 

คุณนายเจียงจิกเล็บเข้าฝ่ามือโดยไม่รู้สึกเจ็บสักนิด เจ็บแค่ไหนก็สู้หัวใจที่เจ็บปวดของเธอไม่ได้ ไม่นานเธอก็ใจเย็นลงและแสยะยิ้มอันเยือกเย็นบนใบหน้า

 

“ฉันต้องการคุยกับพี่หมิง” คุณนายเจียงกดโทรออกขณะที่มือสั่นเทาเล็กน้อยแต่เสียงกลับเย็นยะเยือกดุจน้ำแข็ง

 

“พี่หมิง ยังจำผู้หญิงที่ขายซิการ์ที่สโมสรเศรษฐีเมื่อครึ่งปีก่อนได้ไหม? รสชาติไม่เลวสินะ? ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นดูเย้ายวนกว่าเดิมเชียวล่ะ…ขอแค่พี่หมิงช่วยฉันจัดการเรื่องนี้ได้สำเร็จ โบนัสของสโมสรฉันจะเพิ่มให้อีกหนึ่งเท่า!”

 

คุณนายเจียงวางหูโทรศัพท์พร้อมกับสายตาร้ายกาจ

 

ช่วงปิดเทอมของมหาวิทยาลัยเหมยเหมยเก็บตัววาดต้นฉบับอยู่ที่บ้าน เดือนหน้าหลังจดทะเบียนสมรสจะต้องไปร่วมรายการที่ฮ่องกง ครั้งนี้จะผิดคำพูดอีกไม่ได้ไม่อย่างนั้นคงไม่มีข้ออ้างดี ๆให้กับหลินฮั่นเหวินแล้ว

 

ฉะนั้นเธอต้องรีบวาดเก็บไว้เสียตอนนี้ จะได้ไม่เป็นการกระทบต่อวันจำหน่ายของเล่มต่อไป

 

โทรศัพท์แผดเสียงดังสนั่น เสียงแหลมเสียดหู ตัดความคิดของเหมยเมหย

 

ป้าฟางจะรับสายแทนแต่เหมยเหมยโบกมือปัดก่อนจะรับสายเอง เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตะโกนดังเข้ามา “แย่แล้ว ฉีฉีเก๋อกับสวีจื่อเซวียนโดนเจ้าอ้วนคราวก่อนจับตัวไปแล้ว”

 

เหมยเหมยขมวดคิ้วแน่น ฉีฉีเก๋อทำไมถึงไปอยู่กับสวีจื่อเซวียนได้ อีกอย่างปกติเฉินหมิงไม่สนใจของมือสองเท่าไรทำไมจู่ ๆถึงย้อนกลับมากินของเก่าล่ะ?

 

คุยกันในสายก็ไม่รู้เรื่องเธอเลยถามที่อยู่กับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเพื่อเตรียมไปหาด้วยตัวเอง

 

ฉีฉีเก๋อเป็นเพื่อนของเธอ เธอไม่มีทางยอมเห็นฉีฉีเก๋อเป็นอะไรไปอยู่แล้ว

 

โทรศัพท์ดังขึ้นอีกรอบ ครั้งนี้เป็นสายจากเจียงจื้อหรู่ที่โทรมาเรื่องสวีจื่อเซวียนเช่นกัน “ฉันขอความช่วยเหลือจากคนอื่นไม่ได้แล้วจริง ๆ เลยต้องขอให้เธอช่วย ตอนนี้จื่อเซวียนสุขภาพไม่ดีเท่าไหร่ เธอจะได้รับความสะเทือน…”

 

เหมยเหมยพูดขัดเสียงของเขา เมื่อก่อนยังพอเคารพนับถือต่ออาจารย์ที่ปรึกษาคนนี้อยู่บ้างแต่ตอนนี้มีเพียงความรำคาญ

 

ฉีฉีเก๋อก็ถูกพาตัวไปเช่นกันแต่เจียงจื้อหรู่กลับไม่พูดถึงสักคำ เอาแต่ขอให้เธอช่วยสวีจื่อเซวียน หรือว่าฉีฉีเก๋อสามารถทนเรื่องสะเทือนใจได้หรืออย่างไร?

 

“อาจารย์เจียง ตอนนี้ฉีฉีเก๋อถูกพาตัวไปด้วยเพราะสวีจื่อเซวียน อาจารย์รู้ไหมคะ?”

 

……………………….