ตอนที่ 2527 เจรจา

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

ในสายตาของคนทั้งหลายนั้นเย่หยวนย่อมจะเป็นแค่ลูกแกะที่รอวันเชือด

แต่ใครจะไปคิดว่าที่แท้แกะน้อยตัวนี้มันกลับเป็นเสือร้าย!

ผู้บรรลุสวรรค์นั้นกลับหักขาของยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นกลางได้ มีหรือที่คนทั้งหลายจะไม่ตกตะลึง?

ถังหยูนั้นได้แต่ต้องเบิกตากว้างขึ้นมาอย่างตื่นตะลึงไม่ต่างจากคนทั้งหลาย

เพียงแค่ว่ามันเป็นแค่ความตื่นตะลึงเท่านั้น ไร้ความเกรงกลัวใด

เพราะการโจมตีก่อนหน้านี้มันใช้ความสามารถด้านการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วโจมตีจังหวะศัตรูไม่ทันตั้งตัว

ที่สำคัญถังหยูนั้นยังมีฝีมือต่างจากหลี่เจิ้งชิวสิ้นเชิง

แม้จะอยู่ในชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นกลางเหมือนๆ กันแต่เขานั้นแข็งแกร่งกว่าหลี่เจิ้งชิวไปมากมายนัก

“ตอนที่เจ้าสั่งให้ไสหัวไปนั้น มันหมายรวมถึงนายน้อยคนนี้ด้วยหรือไม่?” ถังหยูถามขึ้นมาด้วยเสียงเย็นเยือก

เย่หยวนหันไปตอบกลับ “ย่อมไม่รวมเจ้า!”

มุมปากของถังหยูนั้นเผยอขึ้นมาเป็นรอยยิ้ม “อย่างน้อยเจ้าก็ยังพอรู้ขีดจำกัดของตนเอง!”

คนทั้งหลายนั้นพยักหน้าขึ้นมาตาม คิดว่าอย่างน้อยๆ เจ้าเด็กคนนี้มันก็ยังรู้ว่านายน้อยหยูนั้นมิใช่คนที่จะยอมใครง่ายๆ

แต่เย่หยวนนั้นกลับตอบกลับไป “เจ้าอยู่ก่อน ข้ามีเรื่องจะคุยเจรจากับเจ้า”

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวคนทั้งหลายย่อมจะหัวเราะลั่นขึ้นมา

“เจรจาหรือ! ฮ่าๆๆ เจ้าผู้บรรลุสวรรค์นี้มันตลกเสียจริง มันกลับคิดจะเจรจาต่อรองใดๆ อีก!”

“ชิๆ วิธีการของมันนี่ดีจริงๆ ไม่ต้องเสียอะไรแต่ก็มานั่งเจรจาต่อรองได้”

“ยังจะมาว่างท่าใหญ่โตปกปิดความฉิบหาย! คิดอยากจะวางท่าแต่ก็ไม่อยากจะลบหลู่นายน้อยหยู เรื่องดีๆ เช่นนั้นมันจะมีได้อย่างไรกัน?”

คนทั้งหลายนั้นหัวเราะลั่นขึ้นมาตามๆ กันบอกว่าเย่หยวนนั้นรู้จักแต่รังแกคนอ่อนแอแต่เกรงกลัวคนที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง

ถังหยูนั้นเองก็หัวเราะขึ้นมาก่อนจะกล่าว “เจรจา? หึๆ มันช่างเป็นวิธีที่สดใหม่นัก! ลองบอกข้ามาหน่อยสิว่าเจ้าคิดจะเจรจาอะไรกับนายน้อยผู้นี้?”

เย่หยวนจึงยิ้มตอบกลับไป “เจ้าแน่ใจหรือว่าอยากจะพูดต่อหน้าคนทั้งหลายนี้?”

ถังหยูยิ้มตอบกลับไป “การเจรจานั้นมันย่อมต้องมีพยาน ให้คนทั้งหลายได้ยินกันไปเลย!”

เย่หยวนพยักหน้ารับ “ในเมื่อเจ้าขอ ข้าก็ย่อมไม่ขัด!”

พริบตาต่อมาเย่หจยวนก็ขยับตัว!

เย่หยวนนั้นมีวิชาการเคลื่อนไหวที่สุดแสนรวดเร็วพุ่งใส่ถังหยูทันที

ถังหยูนั้นเตรียมตัวรับมือมาตั้งแต่แรกจึงตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม “เจ้าโง่โอหัง! ฝ่ามือจักรพรรดิจันทร์สว่าง!”

เมื่อถังหยูลงมือนี้มันก็เหมือนดั่งมีจันทราลอยขึ้นมากลางโถงใหญ่ สาดส่องทุกมุมของห้องจนสว่างจ้า

เวลานี้ไม่ว่าเย่หยวนจะลอบเข้ามาจากมุมใดมันก็ไม่มีทางจะหลบพ้นฝ่ามือของถังหยูไปได้

รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏขึ้นบนหน้าของทุกผู้คน

ไม่ประเมินตนเองมันคงมีจุดจบเช่นนี้แล้ว?

การเคลื่อนไหวที่สุดแสนรวดเร็วนั้นมันแข็งแกร่ง แต่พลังเองก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน!

“หึ เจ้าโง่นี่มันช่างโอหังนัก! มันคงไม่ได้รู้เลยว่านายน้อยหยูนั้นได้รับการยอมรับให้เข้าทดสอบกับนิกายสวรรค์หยกแท้แล้ว! ไม่นานเขาคงได้กลายเป็นศิษย์นิกายนอกคนหนึ่งของนิกายสวรรค์หยกแท้! เจ้าหมอนี่มันคิดเอาไข่ไปตีหินชัดๆ!” กุ้ยเทียนหยูหัวเราะเย้ยขึ้นมา

“สองขั้ว!”

เย่หยวนใช้วิชาดาบสองขั้วออกมาอย่างเฉียบพลัน

คลื่นพลังปราณดาบที่รุนแรงนั้นมันทำให้คนทั้งหลายต้องหันมามองเป็นตาเดียว

ตูม!

ร่างของถังหยูกระเด็นไปติดฝาผนังห้องอย่างไม่อาจจะขัดขืนใดๆ ได้แม้แต่น้อย

คนทั้งหลายต่างอ้าปากค้างขึ้นมาตามๆ กัน

แข็งแกร่งปานนี้ได้อย่างไร?

ผู้บรรลุสวรรค์ที่เพิ่งอยู่ในชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นต้นนั้นกลับเอาชนะนายน้อยหยูได้อย่างขาดลอย?

“เด็กน้อย วันนี้เจ้าได้ตายแน่! ต่อให้จะเป็นจอมเทพที่ไหนมาก็ไม่มีทางช่วยเจ้าได้!” เมื่อกุ้ยเทียนหยูได้เห็นภาพนั้นเขาก็ยิ้มกว้างขึ้นด้วยความสะใจ

ตูม!

ถังหยูนั้นกระแทกตัวขึ้นมาจากซากปรักหักพังก่อนจะมองดูเย่หยวนด้วยความอับอาย

“เด็กน้อย เจ้ามันเก่ง! เจ้าเป็นคนแรกที่กล้าลงมือต่อนายน้อยคนนี้ในเมืองจักรพรรดินี้! หากวันนี้ข้าไม่ป่นร่างเจ้าให้เป็นผุยผงแล้วนายน้อยผู้นี้จะไม่ขอใช้นามถังอีกต่อไป! โจมตีมัน!” ถังหยูสั่งการออกมาด้วยเสียงลั่นฟ้า

เหล่าลูกน้องทั้งหลายของถังหยูนั้นไม่มีใครอ่อนแอ พวกเขาต่างเป็นถึงยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นกลางสิ้น

กุ้ยเทียนหยูและลู่หยวนเจี๋ยนั้นรู้ดีว่านี่เป็นโอกาสที่จะสร้างบุญคุณต่อถังหยูจึงได้สั่งคนของตัวเองให้เข้าร่วมสนามรบไปพร้อมๆ กัน

เย่หยวนหัวเราะเย้ยขึ้นมาก่อนจะใช้ค่ายกลดาบเอกภพออกมารับ!

บนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนี้พลังค่ายกลดาบของเย่หยวนมันย่อมจะถูกกดไว้อย่างมหาศาล กินระยะไปได้เพียงแค่ราวร้อยก้าวรอบๆ ตัว

แต่มันก็เพียงพอแล้ว!

วินาทีที่ค่ายกลดาบนั้นทำงานออกมาไม่ว่าจะมียอดฝีมืออยู่มากมายแค่ไหนเย่หยวนก็จะทำให้พวกเขาไม่ได้กลับออกไปครบสามสิบสอง!

ภายในปราณดาบอันบ้าคลั่งนั้นมันมีดาบแสงพุ่งผ่านไปมากอย่างคมกริบพร้อมด้วยเสียงกรีดร้องที่ดังออกมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกุ้ยเทียนหยูและลู่หยวนเจี๋ยนั้นที่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากเย่หยวน

ถังหยูนั้นอยู่นอกระยะของค่ายกลดาบออกไปแต่เขาก็ยังต้องเบิกตากว้างมองดูอย่างไม่อาจเชื่อ

เขานั้นไม่เคยนึกฝันว่ามดปลวกที่เกาะติดหยางเสว่เจินมานั้นกลับจะเป็นสุดยอดเจ้าฝีมือเช่นนี้!

เขาสามารถจะเอาชนะกลุ่มนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นกลางได้ด้วยกำลังของชั้นบรรยากาศสวรรค์ขั้นต้น!

หลังผ่านไปได้อีกหลายอึดใจในที่สุดเหล่าคนทั้งหลายก็ได้ร่วงตกถึงพื้นร้องโอดโอยขึ้นตามๆ กัน

เย่หยวนหันไปมองถังหยูจน่ทำให้อีกฝ่ายนั้นสั่นสะท้านไปทั้งร่างกาย

ท่าทางของนายน้อยผู้ยิ่งใหญ่ก่อนหน้านั้นมันหายไปจนสิ้นแล้ว!

“จ-เจ้าต้องการอะไรกันแน่? น-นายน้อยผู้นี้ขอเตือนไว้ก่อนเลยนะว่าข้านั้นคือคนตระกูลถัง หากเจ้าทำอะไรข้าแล้ว เจ้าจะไม่ได้ตายดีแน่!” ถังหยูร้องขึ้นมาพร้อมขู่ด้วยนามของตระกูลถัง

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ข้าไม่คิดทำอะไรหรอก ข้าแค่จะเจรจากับเจ้า”

ถังหยูถอนหายใจยาวออกมาคิดว่าอย่างน้อยๆ เจ้าหนุ่มคลั่งคนนี้มันก็ยังเกรงนามของตระกูลถังบ้าง

“ด-ได้สิ ข้าจะเจรจากับเจ้าเอง เจ้าว่ามาสิ!” ถังหยูตอบกลับมา

เย่หยวนยิ้มก่อนจะปล่อยคลื่นพลังปะทุขึ้นมาอีกครั้ง

ค่ายกลดาบสองขั้ว!

ดาบแสงพุ่งผ่านไปจัดแขนขวาของถังหยูออกจากร่างทันที

แขนของเขานั้นกลับขาดลง!

“อ้าก!” ถังหยูนั้นร้องลั่นขึ้นมาก่อนจะปรากฏเหงื่อเม็ดโตขึ้นบนหน้าผาก

“จ-เจ้ากล้า!” ถังหยูร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด

เย่หยวนย่อตัวลงมาตรงหน้าเขาก่อนจะยกมือขึ้นตบบ่า “หากไม่ยอมให้อภัยกันแล้วมันก็คงคิดแค้นกันไม่จบสิ้น! นี่มันแค่แขนเดียวเท่านั้น ทำไมเจ้าไม่คิดปล่อยมันผ่านๆ ไปเสียเล่า นายน้อยหยู ข้านั้นอยากนับถือเจ้าเป็นพี่น้องเจ้าว่าอย่างไร?”

รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเย่หยวน

ถังหยูนั้นผงะไปทันที เป็นเวลานี้เองที่เขาเข้าใจว่าเย่หยวนคิดเจรจาอะไรกับตัวเขากันแน่

พ่อของหยางเสว่เจินนั้นถูกตระกูลหลี่สังหารลงแต่เขานั้นกลับก้าวขึ้นมาเป็นตัวกลางคิดไกล่เกลี่ยบอกว่าให้อภัยกันไปเสีย หากคับแค้นกันไปมามันจะไม่มีวันจบสิ้นและยังคิดส่งหยางเสว่เจินให้แต่งงานเข้าตระกูลศัตรู

ความไร้ยางอายนี้มันทำให้เย่หยวนเดือดดาล

เพราะฉะนั้นเขาจึงได้ตัดแขนของถังหยูออกแล้วบอกให้มาเป็นพี่น้องกัน!

หยางเสว่เจินที่ได้เห็นเรื่องราวนั้นได้แต่ต้องนั่งแข็งค้างไปตั้งแต่แรก

นางนั้นคิดเสมอมาว่าตัวเองได้ช่วยเหลือเย่หยวนให้เขามีชีวิตรอดออกมาจากป่าหมึกเรืองได้

ด้วยกำลังของเย่หยวนนั้น หากไปเจอภูติแท้ในป่าหมึกเรืองเข้ามันคงถึงตายได้

ใครจะไปคิดฝันว่าเขานั้นไม่ต้องการให้นางช่วยเหลือใดๆ!

ด้วยกำลังที่เย่หยวนแสดงออกมานี้ มีหรือที่ภูติแท้ในป่าหมึกเรืองมันจะอันตรายใดๆ เขาได้?

เย่หยวนนั้นเดิมทีย่อมจะไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องราวน้แต่เขาก็ยังตามนางมาจนถึงอาณาจักรตะวันออกนี้

เป้าหมายของเขานั้นมันชัดเจน!

เขามาเพื่อช่วยเหลือนาง!

หยางเสว่เจินนั้นฉลาด มีหรือที่นางจะคาดเดาความคิดของเย่หยวนไม่ได้?

ในเวลานี้นางรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก

ตอนที่นางกำลังสิ้นหวังนั้น ชายคนนี้ได้ให้ความหวังแก่นาง!

แน่นอนว่าทั้งหมดมันย่อมจะเป็นแค่ความเข้าใจผิดของนาง

ต่อให้จะไม่มีเรื่องของนาง เย่หยวนก็ต้องมายังอาณาจักรตะวันออกอยู่แล้ว

อาณาจักรตะวันออกนั้นมันใกล้กับป่าหมึกเรืองที่สุด หากนิกายสวรรค์หยกแท้จะส่งคนมาตรวจสอบเรื่องราวมันก็คงต้องมาหยุดที่อาณาจักรตะวันออกก่อน

เย่หยวนนั้นอยู่ไกลจากป่าหมึกเรืองไม่น้อย เวลานี้เขาย่อมจะกังวลสุดใจ!

หากนิกายสวรรค์หยกแท้ตามร่องรอยไปจนเจอมหาพิภพถงเทียน มันคงเป็นวันสิ้นโลกแล้ว!

“อ่า? ดูสีหน้าเจ่าแล้วเหมือนจะไม่อยากเป็นพี่น้องกับข้าหรือ? ได้ๆ ไม่เป็นพี่น้องก็เป็นศัตรูแล้วกัน ข้าจะส่งเจ้าลงนรกให้เอง!” เย่หยวนผุดลุกขึ้นพร้อมก้มลงมองถังหยูด้วยสายตาดุร้าย