บทที่ 1718 ตาไม่มีแวว + ตอนที่ 1719 หลงระเริงความเป็นตะวันตก

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1718 ตาไม่มีแวว

 

หลินฮั่นเหวินได้รับสายจากเหมยเหมยก็รีบวิ่งแจ้นมาหาทั้งยังพาภรรยาของเขามาด้วย ซึ่งก็คือเซี่ยเข่ออิ๋งพิธีกรหลักช่องหนึ่งของฮ่องกงที่เพิ่งเลื่อนขั้นมาเป็นคุณนายหลินอย่างเป็นทางการเมื่อหลายเดือนก่อน

 

เซี่ยเข่ออิ๋งอายุไม่น้อยแล้วน่าจะราวๆ สามสิบห้าสามสิบหกปี เธอได้เลื่อนตำแหน่งเป็นพิธีกรหลักประจำช่องโทรทัศน์หลังผ่านการแก่งแย่งชิงดีอย่างดุเดือด สิ่งจำเป็นไม่เพียงแค่ความสามารถกับพรสวรรค์แต่ยิ่งกว่านั้นคือเวลา

 

พอไปได้ดีทั้งการงานและความรักจึงทำให้หลินฮั่นเหวินดูมีชีวิตชีวากว่าหลายปีก่อนมากโข ไหนจะย้อมผมเป็นสีดำและยืดหลังตรงก็ดูอายุแค่สามสิบกว่าเท่านั้น สองสามีภรรยายืนข้างกันก็ดูเหมาะสมเป็นกิ่งทองใบหยกและดูหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกันด้วย

 

เซี่ยเข่ออิ๋งตัดผมสั้นประบ่าเผยให้เห็นดวงหน้าอันโดดเด่น สาวเจ้ามาในชุดกระโปรงพิธีการสีเทาอ่อนที่ไม่อาจบดบังหุ่นเพรียวได้รูปของเธอได้เลยสักนิดกลับยิ่งทำให้ดูสวยงามตามประสาเวิร์คกิ้งวูแมนที่ทำงานพึ่งพาตัวเอง

 

“ฉันเรียกเธอว่าเหมยเหมยได้ไหม?” เซี่ยเข่ออิ๋งยิ้มยื่นมือออกมา ภาษาจีนกลางแน่นอนว่าสู้พิธีกรในประเทศจีนไม่ได้แต่ก็ถือว่าถูกต้องได้มาตรฐานแล้ว เพียงแค่ติดสำเนียงฮ่องกงไปสักหน่อยแต่มันน่าฟังมาก

 

เหมยเหมยรู้สึกประทับใจเซี่ยเข่ออิ๋งมากแค่ดูก็รู้ว่าเป็นคนนิสัยตรงไปตรงมาเรียบง่าย เธอยื่นมือไปอย่างใจกว้างก่อนจะยิ้มกล่าว “ได้อยู่แล้ว คุณเรียกฉันตามคุณอาเหวินก็ได้ค่ะ”

 

เหตุผลที่เซี่ยเข่ออิ๋งมาแน่นอนว่าเป็นเพราะเรื่องรายการ เมื่อก่อนน้อยคนนักที่จะมีคนดังจากจีนแผ่นดินใหญ่มาให้สัมภาษณ์ถึงฮ่องกง เนื่องจากเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในยุคนั้นเพราะตอนนี้ยังไม่ถึงปีเก้าเจ็ด จีนแผ่นดินใหญ่กับฮ่องกงไม่ได้มีความสัมพันธ์อันดีเท่าภายหลัง ถึงขั้นทำให้ภายในใจของชาวฮ่องกงจำนวนไม่น้อยรู้สึกว่าจีนแผ่นดินใหญ่คือคำนามใช้แทนความแร้นแค้นและล้าหลัง จึงดูถูกคนจีนแผ่นดินใหญ่แต่กำเนิด

 

แต่เซี่ยเข่ออิ๋งเหมือนหลินฮั่นเหวินที่ล้วนเป็นลูกหลานชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่อพยพมา ฉะนั้นเธอหวังว่าสองแผ่นดินจะรวมเป็นปึกแผ่นเดียวกันได้ในเร็ววัน และอยากให้วัยรุ่นชาวฮ่องกงได้รู้จักประเทศแม่ตัวเองให้มากกว่านี้ จึงไม่นับว่าเป็น ‘มนุษย์กล้วยหอม[1]’ ที่หลงลืมกำพืดตัวเอง

 

ชุดการ์ตูน ‘เจ้าหญิงอัปลักษณ์’ ของเหมยเหมยขายดีเป็นเทน้ำเทท่าในฮ่องกงและยึดครองยอดขายอันดับหนึ่งยาวนานนับปี เอาชนะนักวาดการ์ตูนชื่อดังในพื้นที่รวมถึงผลงานจากประเทศญี่ปุ่นมากมาย ซึ่งเรียกความตกใจจากเซี่ยเข่ออิ๋งอย่างมากเลยอยากสัมภาษณ์จ้าวเหมยมานานแล้ว

 

จะว่าไปเหตุผลที่เธอยอมตกลงแต่งงานกับหลินฮั่นเหวินส่วนมากก็เห็นแก่ที่หลินฮั่นเหวินเป็นเพื่อนของจ้าวเหมยแหนะ!

 

“เหมยเหมย ฉันกับเจ้าอ้วนออกไปหาผู้จัดการส่วนตัวของฉันนะ รอเรากลับมาค่อยไปเที่ยวโอเชี่ยนปาร์คกัน” สยงมู่มู่กับอู่เชาเดินก้าวฉับออกมาจากห้อง พอเห็นว่ามีแขกอยู่ในห้องก็รีบหุบปากใช้สายตากวาดมองเชิงประเมินสถานการณ์

 

เหมยเหมยกำลังจะแนะนำแต่เซี่ยเข่ออิ๋งกลับมองสยงมู่มู่อย่างตกใจ แล้วถามเสียงระมัดระวัง “ไม่ทราบว่าคุณคือมู่มู่ที่ร้องเพลง ‘พเนจรทั่วทุกทิศ’ หรือเปล่าคะ?”

 

เธอมีข่าวจากวงในว่ามู่มู่นักร้องแต่งเพลงที่กำลังโด่งดังเป็นพลุแตกในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ถูกช่องโทรทัศน์ที่นี่เชิญมา ไม่คิดว่าสยงมู่มู่จะรู้จักกับจ้าวเหมย อีกทั้งดูท่าทางความสัมพันธ์สนิทสนมกันด้วย!

 

ช่างเป็นเรื่องดี ๆ เหนือความคาดหมายเสียจริง!

 

เหมยเหมยมองเซี่ยเข่ออิ๋งที่อายุปูนนี้แล้วแต่กลับทำท่าเขินอายราวกับสาววัยแรกแย้มอย่างแปลกใจ สองตาทอประกายความรักหวานอมชมพู…

 

หมดคำจะพูด…

 

“เขาคือลูกพี่ลูกน้องของฉันค่ะ ซึ่งก็คือมู่มู่ที่แต่งเพลงคนนั้นแหละค่ะ ชื่อสยงมู่มู่” เหมยเหมยแนะนำ

 

“พระเจ้า…มู่มู่ ฉันชอบฟังเพลงของคุณมาก…ฉันเก็บสะสมอัลบั้มเพลงของคุณทุกอัลบั้มเลยนะ…ช่วยเซ็นลายเซ็นต์ให้ฉันหน่อยได้ไหม…”

 

เซี่ยเข่ออิ๋งมือเท้าพันกันไปหมดและพูดไม่ออก หมดซึ่งเค้าพิธีกรหลักผู้หนักแน่นก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง เหลือเพียงท่าทางเขินอายราวกับหญิงสาวที่เพิ่งเคยเสียจูบแรกให้ผู้ชายไป…

 

เธอล้วงอัลบั้มเพลงจากกระเป๋าออกมาซึ่งเป็นอัลบั้มใหม่ล่าสุดของสยงมู่มู่พอดี แล้วยื่นไปตรงหน้าเขาอย่างระมัดระวัง ได้ยินว่าสยงมู่มู่เป็นคนเจ้าอารมณ์ เธอละลาบละล้วงแบบนี้เทพแห่งการร้องเพลงเสี่ยวสยงจะโกรธหรือเปล่านะ?

 

สยงมู่มู่ยืนแน่นิ่งไป นี่มันเรื่องอะไรกัน?

 

เหมยเหมยยกขาถีบทันทีพลางตวาดใส่ “รีบเซ็นให้น้าเหวินสิ!”

 

ตาไม่มีแววเลยสักนิด ลำพังอีคิวแบบนี้ทำไมถึงอยู่ในวงการบันเทิงได้นะ?

 

มิน่าชาติก่อนถึงได้มีชีวิตย่ำแย่ขนาดนั้น!

 

 [1] มนุษย์กล้วยหอม หรือ ชาว ABC (American born Chinese)

 

…………………….

 

ตอนที่ 1719 หลงระเริงความเป็นตะวันตก

 

สยงมู่มู่ชะงักไปครู่หนึ่งแล้วรับอัลบั้มจากเซี่ยเข่ออิ๋งมาแต่โดยดี ขีดเขียนลายเซ็นลงไปอย่างรวดเร็วแล้วยังเรียกขานอย่างมีมารยาทอีกเสียง “น้าเหวิน!”

 

เพิ่มคำต่อท้ายอีกนิดแบบนี้สิถึงดูเป็นกันเอง!

 

ต่อหน้าคนแปลกหน้าเจ้าเด็กสยงมู่มู่วางตัวมีกิริยามารยาทมาโดยตลอด ทั้งเป็นเด็กดีทั้งหน้าตาดีจึงเป็นที่ชื่นชอบของผู้คน อย่างเช่นเซี่ยเข่ออิ๋งเป็นต้น

 

น่ารักเสียจนใจแทบละลาย!

 

แต่กลับไม่ค่อยพึงพอใจต่อคำเรียกว่าน้าเหวินสักเท่าไรนัก เรียกพี่เข่ออิ๋งดีกว่า แบบนี้เธอจะได้ดูอ่อนเยาว์ลงไงล่ะ!

 

เหมยเหมยแนะนำอู่เชากับเซี่ยวเซ่อให้รู้จักอีกด้วย ชื่อของอู่เชาเซี่ยเข่ออิ๋งไม่คุ้นหูเลยสักนิดแต่ถ้าชื่อคุณชายน่าหลันกลับเป็นที่คุ้นหูกันอย่างดี เรื่องที่จ้าวเหมยเป็นเพื่อนสนิทกับคุณชายน่าหลันเซี่ยเข่ออิ๋งเคยฟังหลินฮั่นเหวินพูดถึงมาก่อน ทำให้เธอไม่ตกใจเมื่อเจออู่เชา

 

เนื่องด้วยข้อจำกัดทางสถานะของเซียวเซ่อจึงไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังนัก ซึ่งเซี่ยเข่ออิ๋งไม่ได้สนใจอะไรพาลยังหลงคิดว่าเธอตามมาเพื่อเที่ยวเล่นสนุก ๆ ไม่ใช่คนในวงการ แต่พอภายหลังเธอรู้ถึงสถานะตัวตนของเซียวเซ่อก็ตกใจแทบแย่

 

หากเปรียบเทียบกันจริง ๆเซียวเซ่อต่างหากที่เป็นไม้เด็ดที่ไม่เปิดเผยตัวตนอย่างแท้จริงต่างหาก!

 

ฮ่องกงในยุคสมัยนี้ยังอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศอังกฤษ เซียวเซ่อเป็นหลานสาวเชื้อพระวงศ์แห่งอังกฤษและเป็นรัชทายาทอันดับหนึ่ง ก็พอจะรู้ได้ถึงสถานะของเธอในฮ่องกง ต่อให้เป็นท่านผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงก็ไม่กล้าเบ่งอำนาจต่อหน้าเซียวเซ่อ!

 

เซี่ยเข่ออิ๋งอธิบายลำดับตารางงานอย่างละเอียดและได้กำหนดขอบเขตบางเรื่องที่ไม่ควรถาม จากนั้นก็เป็นอันเสร็จสิ้นเรื่องงาน แต่เธอไม่ได้ขอตัวลากลับทันทีแต่ลังเลอยู่อึดใจก่อนจะเอ่ยถึงอีกเรื่อง

 

“ช่องทีวีเรามีรายการวาไรตี้หนึ่งดังมาก แขกรับเชิญส่วนมากเป็นนักศึกษาและมีนักศึกษาแลกเปลี่ยนบ้างบางส่วน ที่อายุยังน้อยแล้วยังมีความสามารถกันมาก…”

 

เซี่ยเข่ออิ๋งเริ่มพูดอย่างไร้ต้นสายปลายเหตุจนเหมยเหมยฟังแล้วก็แปลกใจจนเลิกคิ้วกล่าว “น้าเหวินพูดมาตรง ๆ เถอะ ไม่ต้องอ้อมค้อมหรอกค่ะ!”

 

หลินฮั่นเหวินที่เงียบมาตลอดตบมือของภรรยาที่ทำท่าอึดอัดเล็กน้อยแล้วกล่าว “เข่ออิ๋งเธอแค่อยากเชิญเหมยเหมยไปร่วมรายการนั้นเพื่อเชิดชูเกียรติให้กับประเทศ และเป็นการสั่งสอนคนที่ยกยอเทิดทูนของตะวันตก”

 

เดิมทีผู้วางแผนรายการนี้ก็เป็นพิธีกรคิวทองอีกคนที่มีประสบการณ์มากกว่าเซี่ยเข่ออิ๋ง แต่หลายปีมานี้ถูกเซี่ยเข่ออิ๋งไล่บี้จนกลบกระแสได้ทำให้ผู้ครองอันดับหนึ่งคนนี้ไม่สบายใจถึงได้วางแผนสร้างรายการนี้ขึ้นมา

 

ความจริงรายการออกจะลอกเลียนแบบรายการวัยรุ่นอัจฉริยะที่พวกเหมยเหมยเคยเข้าร่วมมาก่อนหน้านี้ แต่รายการที่ออกใหม่นี้พลิกแพลงกว่าเดิมมากโดยรายการเลือกเดินสายตลกเป็นหลัก ทำให้ยอดผู้เข้าชมสูงลิ่วตั้งแต่เพิ่งฉายตอนแรก นี่จึงเป็นการจุดกระแสชีวิตการงานของพิธีกรคนนี้ใหม่อีกครั้ง จนสามารถดึงกระแสในวันวานกลับมาได้

 

เหตุผลที่เซี่ยเข่ออิ๋งไม่พอใจแน่นอนว่าไม่ใช่เพราะรายการนี้แย่งกระแสของเธอไปแต่เพราะพิธีกรอันดับหนึ่งคนนี้คือ GD[1] หยามเหยียดจีนแผ่นดินใหญ่อย่างมาก ฉะนั้นแขกรับเชิญที่เขาเชิญมาล้วนเป็นคนประเภทเดียวกันกับเขา เขามักจะพูดจาดูถูกเหยียดหยามจีนแผ่นดินใหญ่ในรายการเป็นประจำ

 

แน่นอนว่าไม่ได้เถรตรงขนาดนั้นแต่ความหมายที่แอบแฝงก็คือจีนแผ่นดินใหญ่ทั้งยากจนทั้งล้าหลัง ถึงขั้นดูถูกวัฒนธรรมที่ยาวนานถึงห้าพันปีของฮวาเซี่ย นี่เป็นสิ่งที่เซี่ยเข่ออิ๋งทนไม่ได้

 

เซี่ยเข่ออิ๋งอยากบั่นทอนความเหิมเกริมของคนกลุ่มนี้มาตลอดแต่แย่ตรงที่ไม่มีจังหวะดี ๆสักที วันนี้เห็นพวกเหมยเหมยกับสยงมู่มู่เธอจึงผุดความคิดนี้ขึ้นมา

 

จ้าวเหมยกับพวกสยงมู่มู่ต่างเป็นวัยรุ่นที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่วัยเยาว์และมีความรู้กว้างขวาง ทำไมไม่ให้พวกเขาไปสั่งสอนพวกคนไม่รู้ที่ต่ำที่สูงนั่นล่ะ?

 

ให้พวกเขาได้เห็นพื้นเพวัฒนธรรมของประเทศจีนสักหน่อย?

 

เหมยเหมยไม่ได้ตอบตกลงในทันทีเพราะนี่ได้อยู่นอกเหนือตารางงานของเธอแล้ว แต่ถ้าหากเป็นอย่างที่เซี่ยเข่ออิ๋งว่าจริง ๆมันก็น่าโมโหไม่น้อยเลย

 

“หนูขอดูคลิปอัดรายการพวกนี้ก่อนแล้วกัน พรุ่งนี้จะให้คำตอบนะคะ”

 

เธอไม่ได้ตอบกลับไปตรง ๆแต่พูดเชิงกลาง ๆไป เซี่ยเข่ออิ๋งเองก็ไม่ผิดหวังเพราะเธอคิดว่าจ้าวเหมยจะต้องรับปากอย่างแน่นอน

 

เพราะขอเพียงเป็นชาวจีน เมื่อเห็นวาจาคำวิพากษ์วิจารณ์อันน่ารังเกียจของคนพวกนั้นย่อมโกรธกันอยู่แล้ว!

 

………………………..

 

 

[1] เป็นคำเรียกแทนกลุ่มคนชาวฮ่องกงที่เรียกร้องแบ่งแยกดินแดนฮ่องกงออกจากจีนแผ่นดินใหญ่