ตอนที่ 2073 นักพรตบรรพกาลจิวเตง

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 2073 นักพรตบรรพกาลจิวเตง

 

การโจมตีไม่ได้ผล… พวกเทียนชิงเย่ทั้งสามคนแทบจะไม่เชื่อสายตาตนเอง

 

พวกเขาถึงขนาดใช้ทักษะลับกันหีบออกมา เพื่อทําให้พลังต่อสู้ยกระดับขึ้นหลายสิบเท่าแท้ๆ

 

“กะ… กายาทองคําแห่งพระพุทธองค์!”

 

“นี่มันทักษะเฉพาะตัวของนักพรตบรรพกาลจิ่วเติง!”

 

สุดยอดจักรพรรดิทั้งสามมองไปยังจี่อู๋หมิงด้วยแววตาตกตะลึง และกล่าวออกมาเป็นเสียงเดียวกัน “เจ้าเป็นผู้สืบทอดของนิกายผู้บ่าเพ็ญพรด!”

 

นักพรตบรรพกาลจิ่วเติงคือตํานาน เขาเป็นราชานิรันดร์ไร้เทียมทานที่ก่อตั้งนิกายผู้บําเพ็ญพรตขึ้นมา ด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการชําระล้างความทุกข์ให้สรรพสิ่งมีชีวิต และชี้นําเส้นทางที่ถูกต้องแก่ผู้คน ตํานานกล่าวว่าราชานิรันดร์ผู้นี้มีจิตใจที่อ่อนโยนเป็นอย่างมาก แต่เมื่อใดที่เขาโกรธ แม้แต่ราชานิรันดร์ระดับเก้าก็ต้องถูกเขาสังหาร

 

ด้วยเหตุนี้นิกายผู้บําเพ็ญพรตจึงเป็นมหาอานาจที่ทรงพลังมาก และถูกจัดอยู่ในแนวหน้าของขุมอำนาจราชานิรันดร์ระดับเก้า

 

ถ้าจี่อู๋หมิงมาจากนิกายผู้บําเพ็ญพรต สถานะของเขาย่อมน่าอัศจรรย์ไม่น้อย ใครก็ตามที่จะสังหารเขา ไม่คิดเกรงกลัวนิกายผู้บําเพ็ญพรตงั้นรึ?

 

มีคํากล่าวว่านักพรตบรรพกาลจิ่วเติงนั้นได้หายสาบสูญไปเป็นเวลานานแล้ว แต่ใครกันจะเชื่อว่าราชานิรันดร์ที่ทรงพลังขนาดนั้นจะดับสูญได้? มีข่าวลือหนาหูว่านักพรตบรรพกาลจิ่วเติงก่าลังเก็บตัวฝึกฝนอยู่ และเมื่อใดก็ตามที่เขาปรากฏตัวสู่ดินแดนแห่งเซียนอีกครั้ง พลังต่อสู้จะยกระดับสูงขึ้นไปอีกขั้น

 

นอกจากนักพรตบรรพกาลจิ่วเติงแล้ว ศิษย์สองในสามคนของเขาก็บรรลุเป็นราชานิรันดร์ระดับเก้า ในขณะที่ศิษย์คนสุดท้ายบรรลุเป็นราชานิรันดร์ระดับแปด เกรงว่าเพียงแค่ตัวตนทั้งสามนี้ลงมือก็สามารถทําให้ผู้คนหวาดกลัวจนหัวใจวายตายได้

 

จี่อู๋หมิงเผยรอยยิ้มแปลกประหลาด ผู้สืบทอดของนิกายผู้บําเพ็ญพรตงั้นรึ?

 

นิกายผู้บําเพ็ญพรตคือสิ่งที่เขาสร้างขึ้นต่างหาก แต่เพราะระยะเวลาที่อยู่ในชายแดนเพื่อต่อกรกับพายุมืดนั้นยาวนานเกินไป จิตใจของเขาจึงเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก และในตอนที่เขาตัดสินใจละทิ้งร่างกายที่แข็งแกร่งไร้เทียนทานของตนเองเพื่อกําเนิดใหม่ จิตใจอ่อนโยนที่มีความเมตตาต่อสรรพสิ่งของเขาก็ได้ถูกละทิ้งไปพร้ อมๆ กันด้วย

 

เพียงแต่เรื่องนี้ไม่มีความจําเป็นอันใดต้องบอกให้ใครฟัง

 

“ผู้สืบทอดของนิกายผู้บําเพ็ญพรตแล้วอย่างไร สังหารเขาซะ!” เทียนชิงเย่กล่าวอย่างเย็นชา ในตอนนี้มีทางเลือกอยู่อย่างเดียวคือ “ไม่ข้าก็เจ้าที่ต้องตาย” ยิ่งกว่านั้นเมื่อใดที่เข้าไปยังเขตแดนลี้ลับ ชีวิตความเป็นตายก็ถือว่าแขวนอยู่บนเส้นด้ายแล้ว เพราะงั้นนิกายผู้บําเพ็ญพรตคงไม่คิดจะทําตัวไร้เหตุผลหรอกจริงไหม?

 

“ฆ่า!” จู้ฮุ่ยหยินกับยี่หวาฉิงเผยสีหน้าเย็นชา ในเมื่อต่างฝ่ายต่างเป็นศัตรูกัน พวกเขาก็ไม่คิดที่จะปรานี

 

จี่อู๋หมิงท่องนามของพระพุทธเจ้าต่อไป และสัญลักษณ์ “” บนศีรษะของเขาก็ส่องประกายเจิดจ้ายิ่งกว่าเดิม

 

“ปัง ปัง ปัง” ไม่ว่าการโจมตีแบบใดที่พุ่งเข้ามาก็ไร้ผล พวกโจมตีทั้งหมดไม่สามารถทะลวงผ่านการป้องกันของเขาเข้ามาได้

 

เพล้ง!

 

ในจังหวะนั้นเอง เสียงแตกที่ดังก้องก็ดังขึ้นมาและรูขนาดไหนก็ปรากฏขึ้นบนขวดสมบัติ ร่างของหลิงฮันปรากฏขึ้นอีกครั้งและก้าวเดินออกมาจากด้านใน

 

“ข้าคงไม่ได้พลาดอะไรไปหรอกนะ?” เขายิ้ม

 

“เจ้ามาได้จังหวะพอดี” จี่อู๋หมิงกล่าวและสลายกายาผลึกทองค่าของตนเอง ในอนาคตเขากับหลิงฮันจะต้องเป็นศัตรูกัน เพราะงั้นเขาจึงยอมให้หลิงฮันรู้ไพ่ลับบางส่วนของเขาไม่ได้

 

กายาผลึกทองคําเป็นทักษะที่เขาบ่มเพาะใหม่ หากทักษะถูกโคจรพลังอย่างเต็มที่ พลังป้องกันของเขาจะทัดเทียมได้กับกายหยาบของหลิงฮัน

 

แต่ที่แตกต่างกันก็คือกายหยาบของหลิงฮันนั้นจะคงสภาพอยู่ได้ตลอด ไม่จําเป็นต้องโคจรพลังปราณ

 

ใบหน้าของพวกเทียนชิงเย่ทั้งสามคนกลายเป็นน่าเกลียด พวกเขาคิดว่าตราบใดที่แยกหลิงฮันออกไปก็จะสังหารจี่อู๋หมิงได้ แต่กลับกลายเป็นว่าหากจี่อู๋หมิงมุ่งเน้นพลังของตนเองไปการป้องกัน อีกฝ่ายก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าหลิงฮันเลย

 

“ถึงคราวของพวกเจ้าแล้ว!” จี่อู๋หมิงแสยะยิ้ม สัญลักษณ์ “” บนหน้าผากของเขาส่องประกายยิ่งกว่าเดิม ทําให้ดูราวกับเป็นพระพุทธเจ้า แต่ทว่าภาพลักษณ์ของเขาที่ถือดาบพิฆาตห้วงจิตอยู่ในมือกลับทําให้ดูขัดกันราวกับเป็นเทพอสูรที่โหดเหี้ยม

 

เขาพุ่งทะยานและสะบันดาบตัดผ่านหมู่เมฆด้วยดาบเดียว

 

หลิงฮันไล่ตามไป เขาไม่ต้องทําการโจมตีใดๆ และคอยทําหน้าที่ป้องกันการโจมตีอย่างเดียว

 

ครั้งนี้สุดยอดจักรพรรดิทั้งสามไม่ได้หลบหนีเพราะสถานที่แห่งนี้มีพื้นที่ที่จํากัด แทนที่จะแยกย้ายกันไปถูกสังหารทีละคน พวกเขาช่วยกันรับมือจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ตราบใดที่สิ้นสุดระยะเวลาสิบวัน พวกเขาก็จะมองเห็นแสงสว่าง

 

ตูม! ตูม! ตูม!

 

จักรพรรดิทั้งห้าเข้าน้ํานั่นกันอย่างดุเดือด ถึงแม้หลิงฮันกับจี่อู๋หมิงจะมีพลังต่อสู้ที่ด้อยกว่า แต่พวกเขาก็สามารถไล่ต้อนพวกเทียนชิงเต่ทั้งสามคนได้ นอกจากนั้นก็ยังมีร่างมนุษย์ทมิฬที่เข้าร่วมการต่อสู้ด้วย ต่อให้พลังของพวกมันจะอยู่ในระดับตัดวิญญาณปฐพี แต่ด้วยการที่พวกมันไม่มีวันตาย ความลำบากที่พวกเทียนชิงเย่ทั้ สามพบเจอก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

 

ประเด็นคือจํานวนของร่างมนุษย์ทมิฬนั้นค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่หยุด

 

นี่หมายความว่าอย่างไรน่ะ?

 

มันหมายความว่าจอมยุทธจากภายนอกได้ถูกสังหารไปแล้วจํานวนมาก ร่างมนุษย์ทมิฬจึงได้เปลี่ยนเป้าหมายมาโจมตีพวกเทียนชิงเต่ทั้งสามคนที่นี่

 

พวกเทียนชิงเย่กัดฟันดิ้นรน เพื่อที่จะมีชีวิตต่อพวกเขาต้องรอดไปให้ได้อีกสิบวัน

 

หนึ่งวัน… สามวัน… เจ็ดวัน!

 

ทั้งสามคนสมกับที่เป็นสุดยอดจักรพรรดิอย่างแท้จริง เมื่อร่วมมือช่วยกันป้องกันอย่างสุดความสามารถ พวกเขาก็สามารถยื่อชีวิตเอาไว้ได้นานถึงเจ็ดวัน แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ใกล้จะถึงขีดจํากัดเต็มที่แล้ว ทั่วร่างของพวกเขาเต็มไปด้วยบาดแผล ซึ่งส่งผลต่อพลังต่อสู้อย่างมาก

 

“อ้ากก!” ยี่หวาฉิงร้องโอดครวญและเป็นคนแรกที่ถูกจี่อู๋หมิงสังหาร

 

สีหน้าของเทียนชิงเย่กับจู้ฮุ่ยหยินกลายเป็นบูดบึง และมองเห็นจุดจบของตัวเอง

 

หลังจากเวลาผ่านไปอีกครึ่งวัน เทียนชิงเย่ก็โห่ร้องและถูกจี่อู๋หมิงสังหารด้วยธนูสวรรค์ไร้พรมแดน

 

ตอนนี้จู้ฮุ่ยหยินเหลือรอดเพียงคนเดียวเท่านั้น

 

หลิงฮันไม่คิดจะใจอ่อน และจี่อู๋หมิงก็ไม่รู้จักวิธีการใจอ่อนเช่นกัน ทั้งสองร่วมมือกันเมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน ศีรษะอันงดงามของฐ์ขี่ยหยินก็ถูกดาบตัดหลุดจากล่าคอ

 

จี่อู๋หมิงโคจรทักษะบ่มเพาะดูดกลืนร่างของสุดยอดจักรพรรดิทั้งสามเข้าไปในร่าง ในขณะที่หลิงฮันทําการเก็บรวบรวมอุปกรณ์มิติ

 

เมื่อทั้งสองกลับมายังจุดศูนย์กลางของหุบเขา จอมยุทธที่เหลือรอดก็มีอยู่เพียงสี่คน ซึ่งตู้เส่าจวิ้นกับหลงปู้เทียนก็เป็นสองในสี่คนนั้น

 

จิตสังหารพรั่งพรูออกมาจากดวงตาจี่อู๋หมิง และเตรียมจะใช้ธนูสวรรค์ไร้พรมแดนโจมตี

 

หลิงฮันยื่นมือออกไป “พอได้แค่นั้น พวกเราชนะแล้ว”

 

จี่อู๋หมิงจดจ้องหลิงฮันด้วยแววตาโหดเหี้ยม ราวกับจะส่งจิตสังหารเข้าไปยังร่างกายหลิงฮัน เพียงแต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ดึงสายตากลับ และสะบัดแขนเสื้อหันหลังจากไป

 

“ขอบคุณน้องชายหลิงมาก!” ตู้เส่าจวิ้นส่งเสียงตะโกน ตอนนี้เขาถูกห้อมล้อมด้วยร่างมนุษย์ทมิฬิกว่าสองร้อยร่างจนอยู่ในสภาพเข้าตาจนเต็มที่แล้ว ถ้าจี่อู๋หมิงยังลงมือโจมตีพวกเขาอีก เขาไม่มีทางหลบหนีความตายพ้นแน่นอน

 

หลิงฮันพยักหน้าและนําพวกจักรพรรดินออกมาจากหอคอยทมิฬ

 

ตอนนี้พวกตู้เส่าจวิ้นกับหลงปู้เทียนทั้งสี่คนไม่กล้าที่จะฝันถึงชัยชนะแม้แต่น้อย ขอแค่รอดพ้นสถานการณ์ เป็นตายครั้งนี้ไปได้ก็เป็นที่น่าพอใจอย่างหาที่สุดแล้ว

 

หลิงฮันช่วยแก้สถานการณ์อันยาดล่าบากให้ทั้งสี่คน ซึ่งทําให้ทั้งสี่คนรู้สึกซาบซึ้งมาก

 

โดยเฉพาะหลงปู้เทียน ตอนนี้เขารู้แล้วว่าในตอนนี้หลิงชั้นประมือกับเขานั้นอีกฝ่ายไม่ได้เอาจริงเลย เพราะไม่อย่างนั้นในการแลกเปลี่ยนหนึ่งร้อยกระบวนท่าเขาอาจจะถูกหลิงฮันสังหารไปแล้ว

 

เวลาผ่านไปอีกสามคน และการประลองเพื่อเผ่าทั้งเจ็ดก็มาถึงจุดสิ้นสุด

 

ทันใดนั้นเองลูกแก้วที่ส่องแสงเจิดจ้าก็ลอยลงมาจากท้องฟ้า