เมื่อคิดอย่างรอบคอบแล้ว ลู่โจวที่อายุสามสิบปี

ตามที่กล่าวไว้ว่า ‘ในวัยเยาว์เราเรียนรู้ ในตอนโตเราจะเข้าใจ’

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือถึงเวลาแล้วที่จะต้องพิจารณาสร้างครอบครัวแล้ว

แม้ว่าพ่อและแม่ของเขาจะหยุดบอกให้เขาแต่งงาน แต่ลู่โจวก็ยังรู้สึกว่าพวกเขากังวลมากกว่าที่เห็น เหตุผลที่พวกเขาไม่พูดอะไรระหว่างคุยโทรศัพท์ก็เพราะพวกเขากังวลว่าจะส่งผลต่ออาชีพของเขา

เขาเห็นความกระตือรือร้นและความเต็มใจในดวงตาที่น่ารักของเธอ

ลู่โจวจ้องไปที่ตาใสๆ ของเธอและกระซิบคำว่า “เธอจะแต่งงานกับฉันไหม?”

ดูเหมือนว่าเวลาจะหยุดลงไปทันที

แก้มขาวไร้ที่ติของเธอถูกย้อมด้วยชั้นของสีแดงร่า

ดวงตาของเธอเริ่มน้ำตาไหลเมื่อเธอเริ่มตื่นตระหนกจากความสุขที่ไม่เคยมีมาก่อน เฉินยู่ซานหลบตาลู่โจวไปและกระซิบด้วยเสียงเบาๆ “… นั่นไม่เร็วไปหน่อยเหรอ? เราพึ่งคบกันตอนเดือนธันวาคม มันยังไม่ถึงครึ่งปีด้วยซ้ำ”

“แต่เรารู้จักกันมาเกือบเก้าปีแล้วนะ”

“แต่… ถ้าฉันรับปากกับนายเร็วเกิน นายจะ… จะไม่หวงฉันเหรอ?”

เมื่อเห็นว่าแฟนสาวน่ารักแค่ไหนเขาก็อดยิ้มไม่ได้ในขณะที่เขาพูดติดตลกว่า “ฉันดูเหมือนคนไม่ดีงั้นเหรอ?”

“ไม่ใช่…” เฉินยู่ซานส่ายหัวทันที แต่ในไม่ช้า แก้มของเธอก็แดงอีกครั้ง เธอพูดว่า “ก็มีบางครั้ง”

หมายความว่าไง?

ลู่โจวแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินประโยคครึ่งหลัง เขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “แล้วเธอจะกังวลเรื่องอะไรอีกล่ะ?”

“ไม่ใช่ว่าฉันเป็นห่วง… แต่นั่นแหละ เราควรจะเป็นเหมือนคู่อื่นๆ เราควรไปพบพ่อแม่ของเราก่อนและทิ้งความทรงจำดีๆ ไว้ แล้วสุดท้ายก็เดินเข้าไปในวังแห่งการแต่งงานด้วยกัน” เฉินยู่ซานก้มศีรษะลงอย่างอายๆ และพูดอย่างเขินอาย “แล้วนายจะรักฉันมากกว่าเดิมมั้ย?”

มีจำนวนความรักที่แตกต่างกันด้วยเหรอ?

ลู่โจวไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี

สำหรับเขาแล้วเฉินยู่ซานคือรักแรกของเขา ก่อนหน้านี้เขาไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้เลย และไม่ได้สนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ทำการวิจัยใดๆ เกี่ยวกับมัน

แต่เขาสามารถเข้าใจความรู้สึกวิตกกังวลและความสุขในใจของเธอได้ เช่นเดียวกับปัญหาและความสูญเสียจากการเปลี่ยนแปลงของตัวตน เมื่อคู่บ่าวสาวเข้าสู่การแต่งงาน หลายสิ่งหลายอย่างจะเปลี่ยนไป

บางทีก็อย่างที่เธอพูด ความรักสามารถเชื่อมประสานกับกาลเวลาได้เท่านั้น

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ลู่โจวก็ยิ้มเบาๆ ให้เธอขณะที่เขามองดูใบหน้าที่สวยงาม

“แล้วนี่ล่ะ…”

“ถ้าเธอยังไม่พร้อม เรามาหมั้นกันก่อนก็ได้”

“ภายในวันที่สิบเดือนธันวาคมปีนี้ เราจะอยู่ด้วยกันหนึ่งปีเต็ม”

เธอมีใบหน้าที่อ่อนหวานและขี้อายขณะที่เธอถามอย่างเงียบๆ “หมั้นเหรอ?”

“ใช่ ไม่อยากเหรอ”

“ไม่! แค่ในอนาคต… หมายความว่าฉันเป็นคู่หมั้นน่ะเหรอ?”

“ใช่แล้ว”

“คู่หมั้นเหรอ…” ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยเข้าใจคำนี้ รอยยิ้มงี่เง่าปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอขณะที่เธอพูดว่า “ฮ่าๆ ชื่อนี้… ทำให้ฉันรู้สึกดี”

“งั้นก็ตกลงสิ” ลู่โจวมองดูใบหน้าที่มีเสน่ห์และน่ารักของเธอ เขายิ้มและเหยียดนิ้วก้อยขวาออกมาในขณะที่เขาพูดว่า “เอาเถอะน่า”

“มา… เกี่ยวก้อยสัญญากัน”

“พรืด… เด็กน่ารักอะไรขนาดนี้”

แต่เฉินยู่ซานก็ยืดนิ้วก้อยขวาของเธอออกมาอย่างมีความสุขและเกี่ยวก้อยกันแน่น

“สัญญานะ! ใครก็ตามที่ผิดสัญญาต้องตัดนิ้วไปนะ”

ลู่โจวยิ้มให้และพยักหน้า

“สัญญาเลย!”

เขาไม่เคยผิดหรือเสียใจในคำสัญญามาก่อน

ไม่ว่าจะเป็นอาชีพหรือชีวิตส่วนตัว

ในห้องทำงานที่ว่างเปล่านี้ ในที่สุดทั้งสองก็ได้ตัดสินใจไปด้วยกันตลอดชีวิต พวกเขาไม่ได้สังเกตว่ามีตาสองคู่ซ่อนอยู่นอกสำนักงานเฝ้าดูสิ่งที่เกิดขึ้นภายในนั้น

พวกเขาไม่ได้ซ่อนตัวเลย

แต่บรรยากาศภายในห้องก็น่ารักจนไม่อยากรบกวนคู่รักนั้น

จ้าวหวนและขงเจี่ย ผู้ช่วยทั้งสองยืนอยู่ข้างหน้าต่างนอกออฟฟิศและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายขึ้นมา

โอ้ นักวิชาการลู่ไม่โสดแล้วเหรอ?

ไม่น่าแปลกใจที่เขามาที่ออฟฟิศในมหาวิทยาลัยของเขา!

นี่จะต้องเป็นข่าวที่บ้ามากแน่ๆ!

เมื่อขงเจี่ยเห็นทั้งสองจูบกัน เธอจึงรีบดึงจ้าวหวนออก และกระซิบอย่างเงียบๆ ว่า “อย่าบอกเรื่องนี้กับใครเชียวนะ นักวิชาการลู่ไม่ได้บอกเราเกี่ยวกับเธอด้วยซ้ำ ฉันเดาว่าเขาคงไม่อยากให้คนอื่นรบกวนพวกเขา”

“อือ!” จ้าวหวนพยักหน้าอย่างจริงจังขณะที่เธอกล่าวว่า “เราไม่ควรซุบซิบกันเรื่องนี้! เพราะเรายังก็ไม่ได้รับการยินยอมจากเขา”

ขณะที่ลู่โจวและเฉินยู่ซานแลกเปลี่ยนคำสาบาน คนสองคนที่อยู่นอกหน้าต่างก็สาบานด้วยว่าเว้นแต่นักวิชาการลู่หรือคู่หมั้นของเขาจะเปิดเผยความลับ พวกเขาจะไม่พูดเรื่องนี้กับคนอื่น

ถ้าใครผิดสัญญาก็ต้องตกนรกทั้งเป็น

หลังจากนั้นผู้ช่วยไปห้องสมุด ในขณะที่ทั้งคู่กลับบ้านไป

และ…

ทุกคนรู้ว่าผู้หญิงชอบนินทาแค่ไหน

วันรุ่งขึ้นทั่วทั้งมหาวิทยาลัยจินหลิงได้มีข่าวลือว่านักวิชาการลู่ไม่โสดอีกต่อไปแล้ว…

“ได้ยินมายัง? นักวิชาการลู่ไม่โสดแล้วนะ!”

“บ้าเอ๊ย! นักวิชาการลู่เจอคนสำคัญแล้วเหรอ? จริงเหรอ?!”

“แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องจริง! คู่หมั้นของเขาคือเพื่อนร่วมชั้นเก่า… และทั้งสองอยู่ในห้องทำงาน มันมีสิ่งแปลกประหลาดบางอย่างเกิดขึ้น… แม้กระทั่งวันแต่งงานของพวกเขาก็ถูกกำหนดไว้แล้วด้วยนะ!”

“มีอะไรแปลกเหรอ? อธิบายให้ชัดเจนหน่อยสิ!”

“ก็ตั้งแต่ใส่ชุดนักเรียนไปจนถึงชุดแต่งงาน มันโรแมนติกมากจริงๆ”

“เรื่องจริงใช่ไหมเนี่ย! ท่านเทพลู่มีแฟนแล้ว!”

บ่ายวันถัดมาที่โรงอาหารในมหาวิทยาลัยจินหลิง…

ลู่โจวยืนอยู่ตรงหน้าหน้าต่างบริการ ในขณะที่เขาฟังเสียงพูดคุยด้านหลัง เขาไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่าเขาสั่งหมูแทนเนื้อ

คนพวกนี้…

พวกเขาไม่ดูอะไรตอนนินทาเลยเหรอ?

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ ลู่โจวกำลังจะโทรหาเฉินยู่ซานและถามว่าเกิดอะไรขึ้น แต่โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นก่อน

เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาและเห็นว่า ‘คู่หมั้น’ ของเขาโทรมา

ลู่โจวรับสายทันทีโดยไม่ลังเล

ทันทีที่เขาวางโทรศัพท์แนบหู เขาก็ได้ยินเสียงของแฟนตัวเอง

“นายได้โพสต์อะไรในเว่ยป๋อหรือเปล่า?”

“ไม่เลย” ลู่โจวพูดอย่างตกตะลึง “ฉันกำลังจะถามว่าเธอโพสต์บนวีแชทเหรอ?”

เฉินยู่ซานหน้าแดงกว่าเดิม

“ฉันอายเกินไปที่จะโพสต์ในวีแชทน่ะ”

เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ชอบแสดงความรักต่อสาธารณชน เธอค่อนข้างที่จะเป็นพวกอนุรักษ์นิยมและขี้อายในแง่ของความสัมพันธ์ เธอไม่ชอบแสดงความรักต่อกลุ่มเพื่อนของเธอ

“ว่าไปแล้วมีใครอยู่ข้างๆ เธอบ้าง?”

“เพื่อนร่วมห้องของฉันที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียเป็นเพื่อนที่ดีของฉัน เธอเพิ่งจะโทรมาแสดงความยินดีกับฉันโดยบอกว่าเธอคิดว่าเราเข้ากันได้ดี…”

เสียงของเธอเงียบลงและเงียบลง ลู่โจวแทบจะไม่ได้ยินเธอ

“รูมเมทที่มหาลัยเหรอ? นี่มันแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วขนาดนี้ได้ไง!”

แค่วันเดียวเท่านั้น!

ยังไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงด้วยซ้ำ! มันแพร่กระจายไปทั่วมหาสมุทรแปซิฟิกได้อย่างไร?

จู่ๆ เฉินยู่ซานก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ขณะที่เธอพูด

“เดี๋ยวก่อน นายยังไม่ได้เล่นเว่ยป๋อใช่ไหม?”

“เว่ยป๋อเหรอ?”

“ใช่” เฉินยู่ซานที่กำลังถือโทรศัพท์มือถือของเธอ พยักหน้าและพูดอย่างประหม่า “ไปอ่านหน้าเทรนด์กันเถอะ”

ด้วยสีหน้าสับสน ลู่โจวจึงเปิดแอปเว่ยป๋อขึ้นมาดู

ทันทีที่เขาเห็นหน้าที่กำลังมาแรง เขาก็หยุดนิ่งไป