ตอนที่ 2546 มุกนี้มันตลกนัก

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“อาจารย์!”

ได้เห็นผู้มาถึงนั้นเซี่ยหัวก็ร้องเรียกขึ้นทันที

เวลานี้มันคงมีแต่หลินหลานเท่านั้นที่จะกดดันหลู่หยุนไว้ได้

แต่ว่าสีหน้าของหลู่หยุนและพวกนั้นมันกลับเปลี่ยนสีไปทันที

เพราะแม้แต่ตัวหลู่หยุนเองก็ไม่นึกฝันว่าคนระดับหลินหลานกลับจะลดตัวลงมาเพื่อจัดการกับตระกูลถังน้อยๆ นี้!

ดูท่าแล้วความต้องการที่จะทำลายเย่หยวนของเขานั้นมันคงหนักหนาอย่างมาก

หลู่หยุนขมวดคิ้วแน่นขึ้นมา “ราชครูกลับลงมาเพื่อจัดการเรื่องราวของตระกูลถังด้วยตัวเอง มันทำเอาหลู่คนนี้ตะลึงเสียจริง!”

หลินหลานยิ้มตอบกลับไป “น้องหลู่เองก็ออกมาเพื่อช่วยเหลือตระกูลถังมิใช่หรือ? ตระกูลถังนั้นมันได้สร้างความวุ่นวายในวงการโอสถจนทำให้บรรยากาศภายในเมืองจักรพรรดินี้มันขุ่นหมองไปทั่ว การที่ราชครูผู้นี้จะออกมาจัดการมันเองก็คงมิใช่เรื่องใหญ่โตใดๆ มิใช่หรือ? หรือว่าเจ้าคิดว่าผู้บรรลุสวรรค์ที่มีความเข้ากันได้แค่หนึ่งนั้นจะหลอมโอสถได้จริง?”

มุมปากของหลู่หยุนต้องกระตุกขึ้นมาทันทีที่ได้ยินเพราะว่าตัวเขาเองก็ไม่เคยจะเห็นเย่หยวนหลอมโอสถต่อหน้ามาก่อน

คนที่เคยเห็นนั้นมันมีเพียงแค่ตัวเจียงยู่เท่านั้น

บางครั้งความขุ่นเคืองของผู้คนมันก็เผาไหม้ได้แม้แต่เหล็กกล้า

เมื่อทั้งวงการโอสถปฏิเสธคนผู้หนึ่งไปแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะพูดกล่าวเช่นใดมันก็ไร้ประโยชน์

หลู่หยุนและองค์ชายรองนั้นไม่มีความมั่นใจมากมายว่าเย่หยวนจะสามารถหลอมโอสถสวรรค์ขึ้นได้จริงๆ

เพราะจะอย่างไรเสียเรื่องนั้นมันก็คือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้มาแต่แรก

“เรื่องนั้น… จะได้หรือไม่ รอดูความจริงก่อนค่อยตัดสินมันก็ยังไม่สายมิใช่หรือ!” หลู่หยุนเถียงกลับไป

หลินหลานที่ได้ยินก็ยิ้มรับ “ใช่ มันต้องดูกันให้เห็นกับตาจริงๆ เพียงแค่ว่า… ราชครูผู้นี้รู้สึกว่าเจ้าเด็กคนนั้นคงหนีไปไกลแล้ว! เวลานี้มันจะยังอยู่ในห้องพักหรือไม่ก็คงไม่มีใครบอกได้ ไม่เช่นนั้นแล้วทำไมมันจึงต้องเลือกเข้าเก็บตัวยาวในเวลานี้ด้วย?”

หลู่หยุนผงะไปด้วยใบหน้าเหยเก

แน่นอนว่าหากเย่หยวนไม่อาจจะหลอมโอสถสวรรค์ได้จริงๆ เขาก็อาจจะหนีหายไปแล้วจริงๆ

ใครจะยังมาเก็บตัวทั้งๆ ที่เกิดเรื่องเช่นนี้ที่ด้านนอกได้?

“ท่านพี่ยังอยู่ข้างใน!” ถังหยูนั้นร้องขึ้นมาด้วยปากที่มีแต่เลือดอาบ

หลังจากถูกกระทืบอยู่นานเวลานี้สภาพของถังหยูนั้นมันอาบไปด้วยเลือดพร้อมด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยว เป็นสภาพที่สุดแสนน่าเวทนา

เมื่อหลินหลานได้ยินเช่นนั้นเขาก็ยิ้มตอบกลับไป “เด็กน้อย หากมันคิดหนีไปจริงคนอย่างเจ้าจะรับรู้ถึงได้หรือ?”

ถังหยูนั้นสำลักออกมาเมื่อได้ยินแต่ก็ยังเถียงกลับไป “ท่านพี่ไม่มีทางจะหนีไปไหนแน่!”

หลินหลานนั้นยิ้มตอบกลับไป “มันจะหนีหรือไม่ทำลายประตูนี้ลงแล้วเราก็คงได้รู้กัน หากมันไม่อยู่ตระกูลถังเจ้าก็คงไม่มีอะไรจะอ้างอีกแล้วใช่หรือไม่?”

ถังหยูร้องกลับไป “หากเขาไม่อยู่จริงๆ ท่านจะเอาตระกูลถังไปต้มยำทำแกงที่ไหนก็เชิญตามสะดวก!”

เมื่อก่อนนั้นเขาไม่อาจจะเข้าใจเย่หยวนได้

แต่ยิ่งเวลาผ่านไปเขานั้นก็เริ่มจะเข้าใจเย่หยวนได้มากขึ้นเรื่อยๆ จนได้รู้ว่าเย่หยวนนั้นเป็นคนที่ให้ค่าสายสัมพันธ์อย่างมากล้นเกินกว่าที่คนทั้งหลายจะเข้าใจ

จะบอกว่าเย่หยวนหนีไปแล้ว? ให้ตายเขาก็ไม่เชื่อ!

หลินหลานนั้นยิ้มและเดินมาหยุดลงตรงหน้าประตู

คลื่นพลังของยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศใหญ่ปะทุขึ้นมาก่อนที่หลินหลานจะง้างมือขึ้นเตรียมกระแทก

แต่ในเวลาเดียวกันนั้นเองที่ประตูมันกลับเปิดออกมาเผยให้เห็นใบหน้าของเย่หยวนแก่สายตาทุกผู้คน

“เอ๋? คนมากมายแท้? คึกคักกันดีจริงๆ! พี่ชายท่านนี้ เย่ผู้นี้ไม่ได้มีความแค้นใดกับท่าน ทำไมต้องคิดมาทำลายประตูห้องข้าด้วย?” เย่หยวนถามขึ้นมาด้วยใบหน้ามึนงง

หลินหลานนั้นผงะไปทันที ไม่นึกไม่ฝันว่าเย่หยวนจะออกจากการเก็บตัวมาในเวลานี้

ไหนจะยังเรื่องที่เขาไม่ได้คิดว่าเย่หยวนจะยังเก็บตัวอยู่ในห้องแต่แรกอีก

ในความคิดของเขานั้นที่เย่หยวนลากเรื่องยาวออกมานั้นมันก็เพราะว่าเขารู้สึกผิดไม่กล้าจะแสดงตัวต่อหน้าผู้คน

มีหรือที่คนเช่นนี้จะมาหลอมโอสถสวรรค์ใดได้?

แต่หลู่หยุนนั้นกลับกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด “เย่หยวน เจ้าอย่าได้เสียมารยาท! นี่คือราชครูแห่งอาณาจักรตะวันออก หลินหลาน เป็นยอดนักหลอมโอสถสวรรค์อันดับหนึ่งในอาณาจักรเรา!”

เย่หยวนนั้นเพิ่งออกมาจากการเก็บตัวและย่อมจะยังไม่เข้าใจเรื่องราวมากมาย

แต่เขานั้นได้เห็นสภาพของสองพ่อลูกถังที่เลือดอาบทั้งกาย มีหรือที่เขาจะยังไม่เข้าใจว่าคนทั้งหลายไม่ได้มาดี?

เวลานี้มันจึงเกิดประกายไฟลุกขึ้นมาในจิตใจของเขา

“ยอดฝีมือนักหลอมโอสถสวรรค์อันดับหนึ่งของอาณาจักรตะวันออกหรือ? หึๆ เช่นนั้นคนทั้งหลายนี้คงเป็นคนที่เจ้าพามาแล้ว?” เย่หยวนกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้ม

แต่น้ำเสียงของเขานั้นมันกลับเย็นเยือกจับใจ

หลินหลานพยักหน้ารับ “ใช่แล้ว เจ้าจะเรียกว่าราชครูผู้นี้พาพวกมันมาก็ไม่ผิด ตระกูลถังนั้นมันสร้างความเดือดร้อนแพร่ข่าวลือมั่วๆ ไปทั่ววงการโอสถ ราชครูผู้นี้จึงมาเพื่อบุกค้นและยึดทรัพย์สินของตระกูลถัง ทำไมเล่า? มันผิดด้วยหรือ?”

เย่หยวนจึงตอบกลับไป “แพร่ข่าวลือ? ข่าวลือใดเล่า? หรือจะเป็นเรื่องที่ข้านั้นหลอมโอสถได้?”

เรื่องราวเช่นนี้ต่อให้ไม่ต้องใช้สมองมันก็ยังคิดหาคำตอบได้ไม่ยาก

หลินหลานยิ้มตอบกลับไป “ทำไมเล่า? เจ้าคงไม่คิดจะมาบอกว่าเจ้าหลอมโอสถสวรรค์เป็นต่อหน้าราชครูผู้นี้หรอกนะ?”

เย่หยวนตอบกลับไปด้วยใบหน้าเรียบเฉย “ทำไมเล่า? ข้าบอกไม่ได้หรือ?”

“ฮ่าๆๆ… แมลงที่มีความเข้ากันได้แค่หนึ่งนั้นต่อให้เจ้าจะคิดอวดอ้างตัวอย่างไรเจ้าก็ต้องเลือกคนที่เจ้าจะอวดอ้างด้วยเข้าใจหรือไม่? มาวางท่าต่อหน้าอาจารย์ข้านี้ เจ้าคงคิดจะก่อเรื่องแล้ว?” เซี่ยหัวหัวเราะลั่นขึ้นมา

เมื่อคนทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็หัวเราะขึ้นตาม

“โอหังเสียจริง ท่านราชครูก็บอกไปแล้วว่าท่านนั้นคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งการโอสถในอาณาจักรนี้ แต่มันกลับยังคิดจะหาเรื่องใส่ตัวอีก!”

“มันนั้นซ่อนตัวอยู่ยาวนานอย่างไม่กล้าจะออกมาพบเจอใคร หากจะมาบอกตอนนี้ว่ามันหลอมโอสถสวรรค์ได้จะอย่างไรข้าก็ไม่มีทางเชื่อถือ!”

“ตระกูลถังนั้นถูกด่าว่าจากคนทั่วสารทิศแต่เจ้าหมอนี่มันกลับไม่โผล่หน้าออกไปแก้ไขเรื่องราวแม้สักครั้ง ดูอย่างไรมันก็ผิด! คิดหลอมโอสถสวรรค์? มุกนี้มันน่าขันเสียจริง!”

เวลานี้มันย่อมจะไม่มีใครเชื่อว่าเย่หยวนจะหลอมโอสถได้อีกต่อไป

สิ่งที่เดิมทีก็ไม่มีทางเป็นไปได้ การเก็บตัวหายเงียบไปนานหกเดือนนั้นมันก็ย่อมจะมากพอที่จะช่วยอธิบายทุกสิ่ง

เพราะฉะนั้นท่าทางหยิ่งยโสของเย่หยวนในเวลานี้มันจึงได้ถูกคนทั้งหลายด่าว่าอย่างไม่มีชิ้นดี

ตระกูลถังนั้นคงต้องพังทลายลงแน่แล้ว

เย่หยวนเองก็คงต้องตายลงแน่แล้ว

หลินหลานที่ได้ยินนั้นต้องหัวเราะขึ้นมา “ข้าได้ยินมาว่าเจ้านั้นมีพรสวรรค์ไม่น้อย แต่จะอย่างไรความเข้ากันได้แค่หนึ่งมันก็ไม่มีทางจะหลอมโอสถสวรรค์ได้!”

เย่หยวนจึงหัวเราะตอบกลับไป “หากข้าหลอมได้เล่า?”

หลินหลานส่ายหัวออกมา “ไม่มีทาง! ในสามสิบสามสวรรค์นี้มันไม่เคยจะมีนักหลอมโอสถสวรรค์ที่มีค่าความเข้ากันได้แค่หนึ่งมาก่อน!”

เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องหัวเราะขึ้นมา “พวกเขาว่าเจ้านั้นคือยอดนักหลอมโอสถสวรรค์แห่งอาณาจักรตะวันออก?”

หลินหลานยิ้มตอบกลับไป “อย่างน้อยๆ เท่าที่ข้ารู้มันก็ไม่มีใครในอาณาจักรตะวันออกที่มีวิชาโอสถเหนือล้ำกว่าข้า!”

ในดินแดนของอาณาจักรตะวันออกนี้มันมีนักหลอมโอสถอยู่เพียงน้อยนิดเป็นทุนเดิม

และนักหลอมโอสถสวรรค์แต่ละคนนั้นต่างมีตำแหน่งสถานะสูงล้ำฟ้า

แต่หลินหลานนั้นกลับเป็นคนที่สูงล้ำหัวคนทั้งหลายทั้งหมดขึ้นไป!

เพราะฉะนั้นเขาย่อมจะเปี่ยมล้นความมั่นใจ

เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็ตอบกลับไป “ในเมื่อเป็นเช่นนั้นเย่ผู้นี้จะขอท้าเจ้า ยอดฝีมือการโอสถสวรรค์อันดับหนึ่งแห่งอาณาจักรตะวันออกนี้! เจ้ากล้าจะรับคำท้าหรือไม่?”

เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวคนทั้งหลายต่างก็ต้องอ้าปากค้างลืมภาษาพูดไป

แต่หลังจากความตกตะลึงผ่านไป มันก็ย่อมจะเกิดเสียงหัวเราะลั่นฟ้าดินขึ้น

“นักหลอมโอสถสวรรค์หนึ่งแต้มมันกลับท้าทายท่านราชครู! นี่มันมุกที่ตลกที่สุดเท่าที่ข้าได้ยินในช่วงร้อยปีมานี้เลย!”

“ข้าจะท้องแข็งตายแล้ว! จะตายจริงๆ แล้ว! เจ้าผู้บรรลุสวรรค์นี้มันเสียสติตอนที่ขึ้นมาถึงหรือ?”

“แถมยังทำหน้าจริงจังคิดท้าทายท่านราชครูอีก! น่ากลัวแท้! ราชครู ท่านอย่าได้ไปรับคำมันนะ ข้ากลัวแทน!”

เสียงหัวเราะเย้ยหยันมันดังขึ้นลั่นทั้งเมือง

หากนักหลอมโอสถหนึ่งแต้มนั้นเป็นตัวตลกแล้ว เช่นนั้นการที่เย่หยวนคิดท้าทายราชครูเช่นนี้มันก็ยิ่งเหมือนตัวตลกที่อยู่บนเวทีแสดง!

เวลานี้แม้แต่ถังหยู หลู่หยุนและพวกคนในตระกูลถังต่างก็ยังต้องอ้าปากค้างขึ้นมาแทบหมดแรงกองลงกับพื้น

การท้าทายนี้มันเป็นอะไรที่สุดล้ำจินตนาการ!

ต่อให้เย่หยวนจะเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์หนึ่งแต้มจริงๆ มันก็ยังเป็นได้แค่เรื่องน่าขัน!

หลินหลานนั้นยิ้มตอบกลับมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย “เจ้าหนุ่ม ความกล้าของเจ้านี่มันช่างน่าชื่นชมนัก! เพียงแค่ว่าเจ้าก็น่าจะได้ยินคนทั้งหลายแล้ว มุกนี้ของเจ้ามันตลกดีเสียจริง!”

……………………