หยางเฉินเหลือบมองเย่ชงจางๆ แม้ว่าเขาจะไม่รู้เจตนาของอีกฝ่าย แต่เขาก็ยังยื่นมือออกมาและทักทายอีกฝ่าย
“ไม่ทราบว่าองค์ชายเย่ตามหาผม มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
หยางเฉินถามอย่างเฉยเมย
เมื่อกี้ หวางจ้านได้แนะนำให้เขารู้จักบุคคลสำคัญทุกคนในราชวงศ์ทั้งสี่
เย่ชงเป็นรุ่นที่สามของราชวงศ์เย่ ซึ่งเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านบูโดที่แข็งแกร่งที่สุด และพ่อของเย่ชง มีพรสวรรค์ด้านบูโดมากกว่านั้ นอายุเพียงห้าสิบปี ก็มีความแข็งแกร่งแดนเทพชั้นปลายแล้ว และได้รับการสถาปนาเป็นทายาทที่จะสืบทอดคนต่อไปของราชวงศ์เย่
รู้ได้เลยว่า สถานะของเย่ชงในราชวงศ์เย่นั้นสูงแค่ไหน
เขาอายุยี่สิบแปดปี อายุเท่ากับหยางเฉิน และมีความแข็งแกร่งกึ่งแดนเทพ
ก่อนอายุ 30 ปี เขามีความแข็งแกร่งกึ่งแดนเทพ แม้แต่หยางเฉิน ก็ไม่ได้เห็นแบบนี้มากนัก
“เชื่อว่าคุณหยางน่าจะรู้สึกได้แล้วว่า การแข่งขันชิงตำแหน่งในวันนี้นั้นผิดปกติมาก”
เย่ชงกล่าวอย่างสงบ “ผมมีความรู้สึกว่า นี่เป็นเหมือนการแข่งขันเพื่อให้คนอื่นเลือกผู้แข็งแกร่ง”
เมื่อได้ยินคำพูดของเย่ชง หยางเฉินรู้สึกประหลาดใจมาก แต่สีหน้าของเขายังคงสงบและถามว่า “ให้คนอื่นเลือก?ความหมายขององค์ชายเย่คือ มีคนใช้ข้ออ้างในการแข่งขันชิงตำแหน่งคิงแห่งเยี่ยนตู อันที่จริง พยายามรวมผู้แข็งแกร่งทั้งหมดมารวมกันที่นี่ เพื่อคัดเลือกผู้ที่มีพรสวรรค์ด้านบูโดที่โดดเด่นที่สุด?”
เย่ชงพยักหน้า สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมมาก มองไปที่หยางเฉินและกล่าว “แน่นอน นี่เป็นเพียงการเดาของผม ผมก็ไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร”
“ไม่ทราบว่าคุณหยาง คุณรู้อะไรบ้างไหม?”
เย่ชงคนนี้ เป็นถึงลูกหลานรุ่นที่สามของราชวงศ์เย่นั้น เป็นคนเข้าถึงง่าย อ่อนน้อม ทำให้ผู้อื่นรู้สึกว่าคุ้นเคยกับเขา
หยางเฉินกล่าว “ผมได้ยินคนอื่นบอกมาว่า นี่คือเกม”
“เกม?”
เย่ชงขมวดคิ้ว “ดูเหมือนว่านี่เป็นเกมจริงๆ แต่ใครล่ะที่กล้าหลอกใช้คนของราชวงศ์เพื่อเข้าสู่เกม”
เห็นได้ชัดว่า เขาก็ไม่รู้อะไรมากนัก แค่เดาว่า มีคนต้องการเลือกผู้มีพรสวรรค์ด้านบูโดที่แข็งแกร่งผ่านการแข่งขันในครั้งนี้
แต่การเดานี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หยางเฉินตกใจ
ในเวลานี้ เขารู้สึกว่าเหมือนกับที่เย่ชงกล่าว มีคนต้องการเลือกคนที่มีพรสวรรค์ด้านบูโดที่โดดเด่นในจิ่วโจว
เช่นเดียวกับเย่ชง หยางเฉินก็สงสัยมากเช่นกัน ใครหรือกองกำลังแบบไหนกันที่กล้าใช้ผู้แข็งแกร่งของทั้งจิ่วโจวจึงสร้างเกมแบบนี้มา?
“ไม่ทราวว่า คุณหยางสนใจร่วมเล่นเกมด้วยกันไหม?”
เย่ชงจ้องไปที่หยางเฉินด้วยรอยยิ้มและถาม
“โอ้? องค์ชายเย่หมายความว่า จะเข้าเกมตอนนี้หรือ?”
หยางเฉินหัวเราะ
เย่ชงพยักหน้า “มีทั้งหมด 10 เวที ผมวางแผนที่จะร่วมมือกับอีกสามราชวงศ์ แต่ละราชวงศ์ ครองเวทีการต่อสู้ไว้หนึ่งเวที รวมทั้งสมาคมบูโดและคุณหยาง ทั้งหมดก็คือหกเวที”
“ขอเพียงผู้แข็งแกร่งที่สุดในกองกำลังทั้งเก้าของเรา เข้าสู่เกมด้วยกัน เราน่าจะสามารถล่อผู้ที่อยู่เบื้องหลังงานนี้ออกมาได้ใช่ไหม?”
หลังจากที่หยางเฉินเงียบไปครู่หนึ่ง เขาพยักหน้าและกล่าวว่า “ขอเพียงองค์ชายเย่สามารถโน้มน้าวให้กองกำลังอื่นๆเข้าสู่เกม ผมก็ยินดีที่จะเข้าสู่เกมเช่นกัน”
“โอเค งั้นก็ตามนี้นะ ผมจะติดต่อกับกองกำลังอื่นๆดู”
หลังจากที่เย่ชงพูดจบ เขาก็หันหลังออกไป
หลังจากที่เขาจากไป หวางจ้านก็พูดอย่างเคร่งขรึมว่า “คุณหยาง เย่ชงคนนี้ ไม่ธรรมดาเลย”
หยางเฉินพยักหน้า “ไม่ธรรมดาจริงๆ การที่จะคาดเดาอย่างกล้าหาญเช่นนี้นั้น ไม่ใช่คนธรรมดา และการที่ต้องการร่วมมือกับกองกำลังระดับสูงในจิ่วโจวพื่อเข้าสู่เกม ความกล้าหาญนี้ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน”
“ถ้าทั้งหมดนี้ เป็นกับดักของราชวงศ์เย่ล่ะ?”
หวางจ้านก็ถามอย่างกังวล
หยางเฉินส่ายหัว “ไม่น่าใช่ หากเป็นเกมที่สร้างโดยราชวงศ์เย่จริงๆ เว้นแต่พวกเขาจะแน่ใจว่าจะสามารถรับมือกับความโกรธของผู้แข็งแกร่งบูโดของทั้งจิ่วโจวในเวลาเดียวกัน ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สร้างเกมนี้ขึ้นมา”
ก่อนหน้านี้ เมื่อหยางเฉินได้รับการร์ดเชิญ เดิมทีเขาคิดว่าเป็นราชวงศ์ที่ทำเรื่องเหล่านี้ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไม่ใช่
คนที่จัดการแข่งขันชิงตำแหน่งคิงแห่งเยี่ยนตู เป็นคนอื่น!
“ทุกท่าน ถ้าเรายังสู้แบบนี้ต่อไป ทั้งวันทั้งคืน เราอาจจะตัดสินผลสุดท้ายไม่ได้ ทำไมเราไม่ลงเกมด้วยกันตอนนี้ล่ะ?”
ทันใดนั้น สายตาของเย่ชงก็กวาดไปทั่วราชวงศ์ทั้งสี่ในจิ่วโจว รวมถึงทิศทางของสมาคมบูโดและหยางเฉิน จากนั้นจึงถาม
กองกำลังเหล่านี้ ล้วนนั่งในที่นั่ง VIP ที่ด้านหน้า คำพูดของเย่ชงมุ่งเป้าไปที่กองกำลังเหล่านี้อย่างชัดเจน
“ไม่ทราบว่าองค์ชายเย่ อยากจะเข้าเกมอย่างไร?”
ทิศทางของราชวงศ์หลง หลงเคอถามด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ
หัวหน้าคนอื่นๆของราชวงศ์ รวมถึงหัวยินเจ๋หัวหน้าสมาคมบูโด ต่างก็มองไปที่เย่ชง
เย่ชงยิ้มเล็กน้อย“ในสิบเวทีนี้ ราชวงศ์ทั้งสี่ ครอบครองราชวงศ์ละหนึ่งเวที สมาคมบูโดครอบครองอีกหนึ่งเวที และคุณหยางจากเยี่ยนเฉินกรุ๊ปครอบครองอีกเวที ด้วยวิธีนี้ ก็มีหกเวทีที่ถูกครอบครองโดยหกกองกำลังของเรา ”
“เราส่งผู้แข็งแกร่งแดนเทพขึ้นเวทีต่อสู้โดยตรง กำจัดตัวละครเล็กๆเหล่านั้นออกไปให้หมดก่อน แล้วเราค่อยกลับมาสู้กันอีกครั้ง เป็นไง?”
“แน่นอน เพื่อแสดงความจริงใจของราชวงศ์เย่ของผม ราชวงศ์เย่วางแผนที่จะส่งผู้แข็งแกร่งแดนเทพที่ทรงพลังสองคนไปที่เวทีพร้อมกัน”
เมื่อเสียงนั้นหายไป ผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นต้นสองคน ต่างก็ก้าวไปข้างหน้า มุ่งหน้าไปยังสองเวทีการต่อสู้ตามลำดับ
“องค์ชายเย่เสียสละมาก!”
ซ่านกวนหรัวยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “ราชวงศ์ซ่านกวนก็ยินดีที่จะเข้าสู่เกม และเรายินดีที่จะส่งผู้แข็งแกร่งแดนเทพที่ทรงพลังสองคนไปพร้อมๆกัน”
เมื่อเสียงของซ่านกวนหรัวลดลง ผู้แข็งแกร่งแดนเทพผู้ทรงอำนาจทั้งสองของราชวงศ์ซ่านกวนก็ก้าวเข้าสู่เวที
“เนื่องจากราชวงศ์เย่และราชวงศ์ซ่านกวนได้แสดงความคิดเห็นแล้ว ดังนั้น ผม ราชวงศ์หลงย่อมต้องไป และเรายินดีที่จะส่งผู้แข็งแกร่งแดนเทพที่ทรงพลังสองคน”
หลงเคอก็พูดด้วยรอยยิ้ม
“ราชวงศ์ต้วน ไปสู้!”
ผู้ดูแลราชวงศ์ต้วนเ ป็นบุคคลวัยกลางคน โบกมือใหญ่ของเขา ผู้แข็งแกร่งแดนเทพสองคนก็ขึ้นเวทีโดยตรง
ณ ขณะนั้น แปดในสิบของเวที ถูกครอบครองโดยราชวงศ์ทั้งสี่ เหลือเพียงสองเวทีสุดท้าย
หัวยินเจ๋ที่หลับตาไว้ไม่ได้ลืมตาขึ้นเลย เพียงเรียกชื่อ”หัวหน้าหง!”
หัวหน้าหงก็ก้าวเข้าสู่เวทีการต่อสู้ที่เก้า ชั่วขณะหนึ่ง สายตาของทุกคนจ้องไปที่หยางเฉิน
“คุณหยาง งั้นผมไปแล้วนะ”
หวางจ้านถาม
หลังจากเห็นหยางเฉินพยักหน้า หวางจ้านก็ก้าวขึ้นไปในเวที
ณ ตอนนั้น ทั้งโรงยิมศิลปะการต่อสู้เยี่ยนตู เต็มไปด้วยแรงกดของเหล่าผู้แข็งแกร่งแดนเทพ
ผู้แข็งแกร่งอื่นๆซึ่งเดิมทีวางแผนที่จะแข่งขันกับผู้แข็งแกร่งแดนราชาของจิ่วโจว ต่างก็หน้าซีดไปหมด
สิบเวที ทั้งหมดถูกครอบครองโดยผู้แข็งแกร่งแดนเทพ พวกเขาจะมีโอกาสได้อย่างไร?
ถึงกระนั้น ก็ยังมีคนโง่เขลาที่ต้องการประลองกับผู้แข็งแกร่งแดนเทพ
หลังจากที่เหล่าผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเทพมองหน้ากัน พวกเขาก็ก้าวขึ้นไปบนเวทีพร้อมกัน
“เริ่ม!”
เมื่อคำสั่งของผู้ตัดสินดังขึ้น ผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเทพทั้งสิบ ก็พุ่งเข้าหาคู่ต่อสู้พร้อมกัน
ในเวลานี้ บรรยากาศในโรงยิมศิลปะการต่อสู้ก็มาถึงจุดสุดยอดในทันที ทุกคนต่างตั้งตารอ และกำหมัดอันวิตกกังวลไว้แน่น
อย่างไรก็ตาม ผู้แข็งแกร่งแดนเทพทั้งสิบ ไม่ได้ทำอะไรเลย พวกเขาทั้งหมดยืนนิ่งอยู่ที่เดิม กับการโจมตีของผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเทพ พวกเขาไม่รู้สึกกลัวเลย