บทที่ 1740 โชคดีจริงๆ + ตอนที่ 1741 เรือที่ไม่น่าไว้ใจ

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1740 โชคดีจริงๆ

หมอกู้อธิบายที่มาของชื่อไห่เทียนชื่อให้เหมยเหมยฟัง ความรู้สึกเดียวที่เหมยเหมยก็คือชีวิตที่น่าเหลือเชื่อยิ่งกว่านิยาย อีกทั้งความโชคดีของอาจารย์ลุงของเธอคนนี้

ลอยอยู่ในทะเลเป็นเวลานานแต่ไม่โดนฉลามกินและยังได้พบสาวงามช่วยชีวิตไว้อีก แถมยังได้แต่งงานกับสาวงามอีกด้วย!

ช่างโชคดีอะไรเช่นนี้!

“อันที่จริงผมเป็นคนกระโดดลงไปช่วยไห่เทียนชื่อขึ้นมาเองแหละ” จินป๋อเหวินรู้สึกว่าเขาต้องบอกความจริงให้กระจ่างเสียที

เหมยเหมยมุ่นคิ้ว กลิ่นไม่ชอบมาพากลในอากาศชัดเจนเกินไป แม้ว่าเธอจะไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ตอนนั้นด้วยตัวเองแต่ก็พอจะเดาได้บ้างว่า

มันไม่น่ามีอะไรมากไปกว่ารักสามเส้า

“ขอบคุณคุณจินสำหรับบุญคุณที่ช่วยชีวิตอาจารย์ลุงของฉันไว้ พรุ่งนี้ฉันจะไปหาเพื่อขอบคุณอีกครั้ง!” เหมยเหมยลุกขึ้นและโค้งคำนับ ทำเอาจินป๋อเหวินตระหนกเลยทีเดียว รู้สึกกระดากใจขึ้นมา

“อันที่จริงก็ไม่นับว่าเป็นฉันคนเดียวที่ช่วยหรอก ตอนนั้นยังมีคนอื่น ๆช่วยด้วย”

“ก็ยังต้องขอบคุณคุณจินอยู่ดี” เหมยเหมยยิ้มบางด้วยท่าทีจริงใจเป็นอย่างมาก ในใจของจินป๋อเหวินก็ยิ่งรู้สึกดีขึ้นไปใหญ่ เขารู้สึกเพียงแค่ว่าศิษย์หลานของเซี่ยทิงเทาน่ารักกว่าเขาตั้งหลายร้อยเท่า

ริมชายหาดดูคึกคัก มีเรือสปีดโบ๊ทและเรือสำราญเรียงรายเต็มไปหมด จินป๋อเหวินเช่าเรือสปีดโบ๊ทแล้วเรียกให้พวกเหมยเหมยขึ้นไป ขับมุ่งหน้าไปทางทะเลหลวงอย่างชำนาญ

รถคันหนึ่งจอด หลังจากยืนยันทิศทางเรือของพวกเหมยเหมยแล้ว พวกเขาก็ขึ้นรถและเคลื่อนตัวออกไป

หนึ่งชั่วโมงกว่า ๆผ่านไปพวกเหมยเหมยก็มาถึง เซี่ยทิงเทาและลี่ลี่อันรอพวกเขาอยู่ที่ดาดฟ้า เซี่ยทิงเทาจำเหมยเหมยได้ทันทีที่เห็นเธอ เด็กหญิงตัวเล็ก ๆคนนี้เหมือนกับศิษย์น้องในตอนนั้นหยั่งกับแกะ โดยเฉพาะไฝสีแดงชาดตรงหว่างคิ้ว

“ฉัน…ฉันเป็น…อาจารย์ลุงของเธอ” เสียงของเซี่ยทิงเทาสั่นเทา น้ำตาคลอเบ้า

“สวัสดีค่ะอาจารย์ลุง หนูคือจ้าวเหมย เรียกหนูว่าเหมยเหมยก็พอแล้วค่ะ” เหมยเหมยก้มคำนับอย่างจริงจัง เธอเคยเห็นรูปถ่ายของเซี่ยทิงเทาเมื่อเธอยังเด็ก หน้าตาหล่อเหลาเป็นอย่างมาก แม้ว่าตอนนี้จะอยู่ในวัยกลางคน ผมที่เคยดกดำกลับมีผมขาวบ้างประปราย แต่มันก็เป็นเสน่ห์ของชายวัยกลางคน

แน่นอนว่าลี่ลี่อันก็ไม่เลว บุคลิกดูสง่างาม หน้าตาสะสวย แต่งตัวดูดีมาก พอยืนอยู่กับเซี่ยทิงเทาก็สมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก เหมือนสวรรค์สร้างพวกเขาสองคนขึ้นมา

“เหมยเหมย นี่คือภรรยาของลุงเองชื่อลี่ลี่อัน” เซี่ยทิงเทาแนะนำภรรยา

“สวัสดีค่ะป้าสะใภ้” เหมยเหมยก้มลงคำนับอีกครั้ง ลี่ลี่รีบตรงปรี่เข้าไปประคองแล้วยื่นกล่องเหล็กสีแดงให้เธอ พูดอมยิ้มว่า “ของขวัญเล็ก ๆน้อย ๆ เหมยเหมวเอาไว้พกติดตัวนะ”

เหมยเหมยเปิดกล่องดูก็เห็นแสงสีขาวเปล่งประกายเจิดจ้า นี่เป็นสร้อยข้อมือหยกมรกตที่สวยงามจนแทบจะทำให้คนหายใจไม่ออก อีกทั้งยังเป็นหยกมรกตที่ดีที่สุด——มรกตจักรพรรดิเขียว

ต่อให้จะมีเงินก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะหาซื้อหยกมรกตสีเขียวที่ดูดีเช่นนี้ได้ มูลค่าไม่สามารถประเมินค่าได้เลย

“มันล้ำค่าเกินไป!” เหมยเหมยรู้สึกเกรงใจอยู่บ้าง คิดจะคืนสร้อยข้อมือให้กับลี่ลี่อันแต่กลับโดนมือของเธอปรามไว้

“พ่อแม่ของฉันมีเหมืองแร่มากมาย สำหรับที่อื่นอาจเป็นของหายาก แต่สำหรับบ้านฉันก็เหมือนก้อนหิน เธอแค่พกไว้เล่น ๆก็พอ” ลี่ลี่อันพูดอย่างสบาย ๆ สมบัติหายากในสายตาของผู้อื่น ในสายตาของเธอมันกลับกลายเป็นแค่หินเท่านั้น

เหมยเหมยมุมปากกระตุก นี่สิถึงจะเรียกว่ารวยของจริง!

พวกผู้หญิงที่เที่ยวโอ้อวดกระเป๋าน้ำหอมและเครื่องประดับพวกนั้น ต่อหน้าป้าสะใภ้ของเธอคนนี้คงถือว่าไร้ระดับทั้งนั้น!

“ขอบคุณค่ะป้าสะใภ้!”

ในเมื่อลี่ลี่อันพูดขนาดนี้แล้ว ถ้าเธอยังปฏิเสธอีกก็คงไม่ดีเลยรับไว้แล้วกัน

มีคนมาเสริฟน้ำชาและของหวาน ลี่ลี่อันเรียกให้เหมยเหมยมากิน เซี่ยทิงเทาถามอย่างร้อนใจว่า “เหมยเหมย แม่ของเธอสบายดีไหม?”

“แม่สบายดีค่ะ เพียงแต่มีแค่เธอคนเดียวมันยุ่งเกินไปจริง ๆ แม่ของหนูอยากตามตัวอาจารย์ลุงให้กลับไปช่วยพัฒนาฟื้นฟูสำนักตานชิงให้รุ่งโรจน์ เพราะแม่บอกว่าอาจารย์ลุงสิถึงจะเป็นทายาทของคุณตา เธอได้เรียนแค่ผิวเผินเท่านั้นเอง” เหมยเหมยพูดอย่างจริงใจ

เซี่ยทิงเทากลับหน้าถอดสี ความเศร้าปรากฎขึ้นมาแวบหนึ่งแล้วก็หายไป

…………………………………………..

 ตอนที่ 1741 เรือที่ไม่น่าไว้ใจ

เหมยเหมยเกิดความสงสัยในใจ หรือเซี่ยทิงเทาไม่อยากกลับประเทศ?

แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่สามารถเข้าใจได้ ดูก็รู้ว่าลี่ลี่อันเป็นผู้หญิงที่ใช้ชีวิตในต่างประเทศมาตั้งแต่เด็ก และเป็นไปได้ว่าช่วงหลายปีมานี้เซี่ยทิงเทาเองก็อาศัยอยู่ในต่างประเทศ ไม่แปลกเลยที่เหยียนหมิงซุ่นและจ้าวอิงหัวตามตัวเขาในฮ่องกงมาตั้งนานแต่ก็ไม่มีข่าวคราวอะไรเลย

อาศัยอยู่ต่างประเทศมานานหลายปี ลูกชายลูกสาวก็อยู่ที่นั่น แล้วจะให้เซี่ยทิงเทาละทิ้งทุกอย่างกลับประเทศก็ดูจะเป็นเรื่องที่ฝืนใจเกินไปจริง ๆ

“อาจารย์ลุงไม่กลับประเทศก็ไม่เป็นไรค่ะ ในประเทศยังมีหนูกับแม่หนูอยู่ อาจารย์ลุงมาเข้าร่วมกิจกรรมบางส่วนบ้างก็พอค่ะ แม่หนูจะได้ไม่ต้องไปทุกครั้ง คนพวกนั้นชอบเยาะเย้ยแม่ว่าเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆประจำเลยค่ะ” เหมยเหมยเอ่ยขึ้น

เซี่ยทิงเทาพูดด้วยโทสะ “แม่เธอมีความสามารถสูงส่ง อาจารย์มักจะยกยอแม่ของเธอว่าเป็นผู้มีจิตวิญญาณ คนพวกนั้นต่างหากที่มีตาหามีแววไม่”

แต่เขาก็ยิ่งกังวลมากกว่าเดิม หากเป็นไปได้เขาก็อยากจะกลับประเทศโดยเร็ว ไปยืนยันต่อหน้าคนทั้งโลกว่าเขาเซี่ยทิงเทาคือศิษย์ของอาจารย์ แต่เขาทำไม่ได้ไงล่ะ!

ลี่ลี่อันมองสามีด้วยความละอายใจ รู้สึกลำบากใจเหลือเกิน

ทั้งหมดเป็นเพราะเธอ ทำให้สามีต้องพลอยติดร่างแหไปด้วยจนเขาทำตามปณิธานของตัวเองไม่ได้!

“ไม่งั้นคุณกลับไปเถอะ…” ลี่ลี่อันพูดด้วยความลังเล

จินป๋อเหวินหลุดปากคัดค้านเธอ “ถ้าเขากลับไปแล้วเธอกับลูก ๆจะทำอย่างไร? จะต้องโดดเดี่ยวอยู่อเมริกาเหรอ?”

เซี่ยทิงเทาลูบมือภรรยาพร้อมพูดปลอบใจเธอว่า “ผมไม่ทิ้งคุณกับลูก ๆไปหรอก ครอบครัวเราจะไม่แยกจากกัน”

ลี่ลี่อันแอบนึกโล่งใจถือว่าเธอเห็นแก่ตัวก็แล้วกัน เธอไม่อยากให้ครอบครัวต้องแยกจากกันเลยจริง ๆ!

เซี่ยทิงเทามองเหมยเหมยด้วยแววตาขอโทษ “เซี่ยทิงเทาตายไปแล้ว ตอนนี้มีแค่ไห่เทียนชื่อ เป็นฉันที่ทำผิดต่ออาจารย์เอง”

เหมยเหมยกระพริบตาปริบ ๆอย่างฉงน หมายความว่ายังไง?

แล้วตรงหน้าเธอนี่คือซอมบี้งั้นเหรอ?

“อาจารย์ลุงหมายความว่าไงคะ? หนูไม่เข้าใจ คุณลุงก็มีชีวิตปกติสุขดีไม่ใช่เหรอคะ?” เหมยเหมยไม่เข้าใจเอามาก ๆเธอรู้สึกว่าสองสามีภรรยาดูแปลก ๆแต่เธอก็พลันนึกถึงคำพูดของจินป๋อเหวินเมื่อวานขึ้นมาได้ ลี่ลี่อันมีสถานะพิเศษจึงไม่อาจปรากฏตัวในเมืองได้

หรือว่าอาจารย์ป้าคนนี้จะเป็นบุคคลที่เก่งกาจอย่างนั้นเหรอ?

หมอกู้หน่ายเต็มทีที่จะฟังคนพวกนี้ทะเลาะกัน ในจังหวะที่จะเปิดปากอธิบายให้ชัดเจน ฉับพลันก็มีชายหนุ่มร่างสูงกำยำผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาพูดกระซิบข้างหูลี่ลี่อันไม่กี่ประโยค เขาไม่ได้พูดภาษาฮวาเซี่ยแล้วก็ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ พูดพึมพำเสียงเบา เหมยเหมยฟังไม่ออกเลยสักประโยค

แต่เธอรู้สึกได้ สายตาของชายหนุ่มที่มองมาทางเธอนั้นไม่ประสงค์ดีนัก

ลี่ลี่อันมีท่าทีเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่ก็พลันส่ายหน้า เธอพึมพำพูดไม่กี่ประโยคชายหนุ่มก็มีท่าทีไม่พอใจ แต่ไม่นานก็ออกไป ผ่านไปสักพักเรือสำราญก็เริ่มเคลื่อนตัวห่างจากฮ่องกงออกไปไกลเรื่อย ๆ

“มีเรือที่ไม่น่าไว้ใจมุ่งหน้ามาทางนี้ ฉันให้คนสลัดพวกมันทิ้งก่อน!” ลี่ลี่อันฝืนยิ้มออกมา เห็นได้ชัดว่าเรือที่ไม่น่าไว้ใจลำนั้นก็คือผู้มาเยือนที่ไม่ประสงค์ดี

จินป๋อเหวินตำหนิตนเองไม่หยุดจึงพูดแนะนำว่า “ต้องเป็นเพราะความไม่ระวังของฉันถึงได้ตกเป็นเป้าสายตาพวกมัน ฉันว่าเอาแบบนี้ดีไหม พวกเธอแยกกัน ฉันกับคุณหนูจ้าวและคนอื่น ๆจะนั่งสปีดโบ๊ตกลับฮ่องกง”

“ไม่ได้หรอก ที่นี่เป็นทะเลหลวง คนพวกนั้นต้องจัดการพวกนายแน่ ๆ สลัดพวกมันทิ้งก่อนแล้วค่อยว่ากัน” ลี่ลี่อันปฏิเสธทันที เธอจะให้เพื่อนและศิษย์หลานของสามีตายไม่ได้ บนเรือสำราญมีลูกน้องฝีมือดีที่พ่อเธอส่งมาอยู่ด้วยคงไม่มีปัญหาอะไรหรอก

เสียวหลี่หยิบกล้องส่องทางไกลออกมา เขาดูท่าทีเคร่งขรึม พลันพูดกับเสี่ยวอวิ๋นว่า “เป็นคนของเฉินกั๋วเปียว รีบจุดพลุส่งสัญญาณ!”

เสี่ยวอวิ๋นก็มีท่าทีเคร่งขรึมขึ้นมาทันทีเช่นกัน หยิบพลุส่งสัญญาณออกมาเตรียมที่จะจุดปล่อย แต่ชายหนุ่มเมื่อครู่กลับปรากฏตัวขึ้นและพยายามจะหยุดไม่ให้เสี่ยวอวิ๋นจุดพลุส่งสัญญาณ

“คุณจะทำอะไร?” ภาษาฮวาเซี่ยของชายหนุ่มแข็งกระด้างมากและเขามีท่าทีโมโหสุด ๆ

……………………………………………………