ตอนที่ 1464: พลังวิญญาณนักรบ (1)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1464: พลังวิญญาณนักรบ (1)

เจี้ยนเฉินเอายุทธภัณฑ์ผู้คุมกฎและยุทธภัณพ์ราชาบางชิ้นออกจากแหวนมิติของเขาและให้พวกมันกับผู้อาวุโสสูงสุดและประธาน เขายังบอกกับพวกเขาถึงวิธีในการคืนชีพอาวุธเซียนอีกด้วย เช่นเดียวกับประสบการณ์ที่เขาได้รับจากความพยายามหลายต่อหลายครั้ง

ตอนนี้ทั้งประธานและผู้อาวุโสสูงสุดได้ไปถึงระดับ 8 แล้ว พวกเขามีความสามารถในการคืนชีพอาวุธเซียน แรงกดดันต่อเจี้ยนเฉินจะลดลงเมื่อได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขา

สิ่งที่พวกเขาขาดมากที่สุดคือเวลา เมื่อเห็นว่าคลื่นลูกต่อไปของการบุกรุกจากโลกอื่นสามารถมาเมื่อไหร่ก็ได้

ประธานและผู้อาวุโสสูงสุดยอมรับหนังสัตว์อสูรที่บันทึกทักษะลับในการคืนชีพเหมือนกับมันเป็นสมบัติล้ำค่า พวกเขาถือมันอย่างทะนุถนอมในมือของพวกเขาด้วยความปิติที่เต็มไปทั่วใจของพวกเขา

กวานหยูไค่และคาราลี่เว่ยยืนอยู่อีกฝั่งอย่างอิจฉา พวกเขารู้สึกที่อยากจะเป็นระดับ 8 เช่นกัน

หลังจากลังเลเพราะว่าเจี้ยนเฉินกำลังทำให้ผู้อาวุโสและประธานตื่นเต้นมาก เขาก็เผยความลับของหุ่นเชิดต่อพวกเขา เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้เตรียมใจไว้

ปฏิกิริยาตอบกลับของพวกเขาเหมือนกับที่เจี้ยนเฉินคาดไว้ พวกเขาตะลึง เจี้ยนเฉินไม่ให้พวกเขาเสียเวลา เขาออกจากวัตถุมิติด้วยจากการโบกมือ พวกเขาทั้ง 4 ถูกส่งออกไปเช่นกัน

เมื่อประธาน ผู้อาวุโสสูงสุด คาราลี่เว่ย และกวานหยูไค่ กลับไปที่สำนักงานใหญ่ของสมาคม เจี้ยนเฉินก็จากไปเรียบร้อยแล้ว เขาเป็นคนแรกที่ออกไป คาราลี่เว่ยและกวานหยูไค่รู้สึกผิดหวังเนื่องจากพวกเขาต้องการจะขอบคุณเจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินไปที่เมืองลอร์ที่แรกและส่งแม่ของเขาเข้าไปในวัตถุมิติ วัตถุทรงกลมสีขาวยังไม่ถูกดูดกลืนไปจนหมด มันมีขนาดเท่ากับไข่แล้วตอนนี้

“ท่านแม่ ฝึกฝนได้เลยในนี้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องใด ๆ นี่เป็นลูกกลมที่ถูกบีบอัดจากพลังงานดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสง ถ้าท่านสามารถดูดกลืนทั้งหมดนี้ได้ละก็ ท่านอาจจะไปไม่ถึงระดับ 8 แต่มันจะมากพอที่จะไปถึงระดับ 7″ เจี้ยนเฉินพูดอย่างอ่อนโยนกับไป๋หยุนเทียน ก่อนที่จะส่งลูกกลมให้กับนาง

ไป๋หยุนเทียนอายุกว่า 50 ปีแต่นางดูเหมือนอายุ 20-30 ปี นางสวมชุดสีขาวหรูหราและผ้าคลุมสีขาวหิมะที่หลังของนาง นางดูสง่างามและใจดี

ไป๋หยุนเทียนมองไปที่ลูกกลมขนาดเท่าไข่ที่ปลดปล่อยพลังงานดั้งเดิมออกมาอย่างต่อเนื่อง ความสงสัยอยู่ในดวงตาของนางก่อนที่นางจะรับมันมาอย่างระวัง นางตรวจสอบมันอย่างใกล้ ๆ และถาม ” เซียงเอ๋อ นี่ใช่พลังงานดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสงหรือไม่ ? ”

พลังงานดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสงเป็นพลังที่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 สามารถครอบครองได้ แม้ว่า ไป๋หยุนเทียน จะเห็นมันมาก่อนเนื่องจากสถานะที่พิเศษของนาง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่นางสามารถรับรู้ความพิศวงของพลังนี้ได้ในระยะใกล้เช่นนี้

“ถูกต้องแล้ว นี่เป็นพลังงานดั้งเดิมของพลังเซียนธาตุแสง แต่มันบริสุทธิ์กว่าพลังดั้งเดิมธรรมดา ๆ เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 6 เพียงแค่ต้องหลอมรวมพลังของมันเข้าไปในดวงวิญญาณของพวกเขาและดวงวิญญาณของพวกเขาจะแปรเปลี่ยน ทำให้พวกเขาก้าวไปเป็นระดับ 7 วิญญาณของพวกเขาจะบีบอัดและถูกคลายจากร่างกาย เหมือนกับเซียนผู้คุมกฎ ท่านอาจจะไม่ถึงขั้นสูงสุดของระดับ 6 และไม่สามารถหลอมรวมกลุ่มพลังงานดั้งเดิมได้ แต่พลังเซียนธาตุแสงในวัตถุมิตินี้หนาแน่นกว่าข้างนอกโลกหลายเท่า ถ้าท่านเก็บวัตถุกลมนี้ไว้ใกล้ ๆ ท่าน ท่านจะสามารถฝึกฝนได้เร็วขึ้น ท่านจะสามารถไปถึงขั้นสูงสุดของระดับ 6 ได้อย่างรวดเร็ว และในตอนนั้น ท่านจะสามารถดูดกลืนพลังดั้งเดิมภายในวัตถุนี้เพื่อไปถึงระดับ 7 ได้” เจี้ยนเฉินพูด

“ระดับ 7 ” ไป๋หยุนเทียน พึมพำ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตื่นเต็นและคาดหวัง แต่นางสงบสติลง นางมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความรักและพูดอย่างอ่อนโยน ” เซียงเอ๋อ ข้าพอใจมากและภูมิใจในตัวเจ้าที่ได้ไปถึงขั้นสูงเช่นนี้ การกลายเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 ไม่สำคัญกับข้าอีกต่อไป เจ้าควรเก็บวัตถุกลมนี้ไว้กับเจ้า เจ้าต้องการมันมากกว่าข้า ” ไป๋หยุนเทียนส่งวัตถุกลมคืนให้กับ เจี้ยนเฉิน

เจี้ยนเฉินพยักหน้าและยิ้ม ” ท่านแม่ ข้าได้ไปถึงระดับ 9 แล้ว วัตถุกลมนี้ไม่มีประโยชน์อะไรกับข้าอีกต่อไป รับมันไว้และฝึกฝนที่นี่อย่างสบายใจเถิดเพื่อที่ท่านจะได้กลายเป็นระดับ 7 ได้อย่างรวดเร็ว ”

“อะไรนะ ! เจ้าได้กลายเป็นระดับ 9 แล้วงั้นเหรอ .. ” ไป๋หยุนเทียนตะลึงทันทีเมื่อนางได้ยินว่าเจี้ยนเฉินได้ไปถึงระดับ 9 แล้ว นางมองไปที่เขาด้วยความแปลกใจ ความไม่เชื่อเขียนลงบนใบหน้าของนาง

เมื่อเป็นเช่นนั้น ไป๋หยุนเทียนจึงอยู่ในวัตถุมิติไปชั่วครู่ นางทำในสิ่งที่เจี้ยนเฉินบอกให้นางทำ ฝึกฝนและพยายามกลายเป็นระดับ 7

เจี้ยนเฉินออกจากวัตถุมิติหลังจากนั้น วัตถุเซียนรูปร่างเหมือนกับหอคอยได้ยิงเข้าไปที่หน้าผากของเจี้ยนเฉินทันทีและหายไป

เจี้ยนเฉินกลับไปที่เมืองอัคนี เมื่อเขากำลังจะเข้าไปที่ห้องลับเพื่อที่จะคืนชีพยุทธภัณพ์จักรพรรดิ เขาก็ได้ยินเสียงของนางฟ้าเฮายู่ “เจี้ยนเฉิน เข้ามาหาข้าที่โถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มด้วย ”

เจี้ยนเฉินกลับไป แต่เขาไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว เขาเข้าไปที่สวนของจวนเจ้าเมืองอย่างรวดเร็ว เขาไปถึงที่หน้าทางเข้าของโถงศักดิ์สิทธิ์

ทางเข้าเปิดออกอัตโนมัติและเจี้ยนเฉินก้าวเข้าไป เขาหายไปอย่างรวดเร็วภายในโถงศักดิ์สิทธิ์

เขาพบนางฟ้าเฮายู่ในโถงศักดิ์สิทธิ์เดียวกับที่เขาเจอนางก่อนหน้านี้ นางนั่งอยู่บนบัลลังก์สูง เป็นร่างกายพร่มัว มองลงมาที่เจี้ยนเฉินซึ่งนั่งอยู่ข้างล่าง การจ้องมองนางเหมือนกับสามารถแทงทะลุทุกสิ่งทุกอย่างได้ นางมองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างใกล้ ๆ ราวกับว่านางสามารถเห็นทุกสิ่งทุกอย่างภายในและภายนอกของเขาได้

นางฟ้าเฮายู่ถอนหายใจด้วยความแปลกใจ นางพูด ” ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่าเจ้าจะกลายเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 9 ได้รวดเร็วเช่นนี้ นี่เป็นสิ่งที่ข้าต้องเฉลิมฉลองที่เจ้าสำเร็จ ถ้าเจ้าไม่ก้าวหน้าเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง วิญญาณของเจ้าก็จะยังคงอยู่ในระดับเซียนจักรพรรดิ แก่นวิญญาณที่สมบูรณ์ ณ ระดับ 9 เกิดในระดับเดียวกับวิญญาณของเจ้า ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมทั้งสองจึงสามารถหลอมรวมได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้วิญญาณเจ้าไปถึงขั้นสูงสุดเซียนจักรพรรดิเพื่อไปถึงพลังปัจจุบันของมัน เจ้าต้องสามารถกลั่นพลังวิญญาณนักรบได้แน่ ๆตอนนี้ ”

เจี้ยนเฉินตะลึงหลังจากได้ฟังนาง เพียงแค่ตอนนี้ที่เขาเข้าใจว่าทำไมแก่นวิญญาณและวิญญาณของเขาหลอมรวมอย่างสมบูรณ์ จากผลที่เกิดขึ้น มันเป็นเพราะว่าแก่นวิญญาณขั้นที่ 9 ของเขาอยู่ระดับเดียวกับวิญญาณเซียนจักรพรรดิของเขา พวกมันทั้งสองสามารถหลอมรวมกันได้อย่างสมบูรณเมื่อมันอยู่ระดับเดียวกัน

วิญญาณของเขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตดั้งเดิมเมื่อเขาได้ไปถึงระดับ 8 ทั้งหมดเพราะว่าความไม่สมบูรณ์ของแก่นวิญญาณของเขา ถ้าเขาไม่สร้างแก่นวิญญาณละก็ วิญญาณของเขาจะยังคงอยู่ขั้นสูงสุดของเซียนจักรพรรดิอยู่ พวกมันทั้งสองจะไม่หลอมรวมกัน

“นางฟ้าเฮายู่ ข้าขอถามเกี่ยวกับพลังวิญญาณนักรบได้มั้ยว่ามันคืออะไร ? ” เจี้ยนเฉินถามขณะที่เขาป้องมืออย่างสำรวม แม้ว่านางฟ้าเฮายู่จะไม่ใช่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง แต่นางก็เข้าใจเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงมากพอที่จะแนะเขา เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 9 ได้