ตอนที่ 1744 หาวิธีการรับมือ
เสี่ยวอวิ๋นกับเสียวหลี่แทบจะผลัดกันยิงคนละนัดและทุกนัดก็เล็งยิงไปที่หัว ผ่านไปเพียงไม่กี่นาทีฝ่ายตรงข้ามก็ล้มตายไปหลายคน แต่เสี่ยวอวิ๋นและคนอื่น ๆกลับไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด จินป๋อเหวินได้เห็นก็ยิ่งตกใจเข้าไปใหญ่
ในฐานะทนายชื่อดังชั้นนำ จินป๋อเหวินไม่ใช่คนโง่เขลาเบาปัญญา เมื่อก่อนเขาเคยติดต่อกับคนในฮวาเซี่ยจึงค่อนข้างเข้าใจถึงสถานการณ์ภายในฮวาเซี่ยพอสมคร ฝีมือของเสี่ยวอวิ๋นกับเสียวหลี่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่แค่บอดี้การ์ดธรรมดา หากไม่ใช่พวกทหารรับจ้างก็คงต้องเป็นทหารประจำการ
การควบคุมในฮวาเซี่ยเข้มงวดมากจึงไม่สามารถใช้ทหารรับจ้างได้ งั้นก็เหลือความเป็นไปได้อยู่แค่อย่างเดียว เสี่ยวอวิ๋นกับเสียวหลี่คือทหารประจำการและเป็นถึงหน่วยรบพิเศษลึกลับในตำนาน
จินป๋อเหวินหันมามองเหมยเหมยที่นั่งอยู่ข้าง ๆด้วยท่าทีสงบ ในใจราวกับถูกคลื่นโหมซัดอย่างบ้าคลั่ง ผู้หญิงที่มีหน่วยรบพิเศษปกป้องอยู่ใกล้ตัว นี่เป็นจุดบ่งชี้อย่างชัดเจนเลยว่าฐานะในประเทศของคุณหนูผู้นี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
ไม่แปลกใจเลยที่คุณหนูจ้าวผู้นี้จะกล้าหยิ่งผยองในฮ่องกง หนำซ้ำยังลงมือได้อย่างเปิดเผย!
“คุณหนูจ้าว อีกฝ่ายคนมากกำลังเยอะ ถึงบอดี้การ์ดทั้งสองคนของคุณหนูจะเก่งกาจแต่เกรงว่าน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ เราคิดหาวิธีอื่นไว้จะดีกว่านะ” จินป๋อเหวินพูดกระซิบ
เหมยเหมยเข้าใจเหตุผลของเขา ทีมช่วยเหลือภายนอกก็ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไหร่ บาดแผลของเสี่ยวอวิ๋นกับเสียวหลี่ยังไม่หายสนิท ลูกน้องของลี่ลี่อันคงไม่สนต่อความเป็นความตายของเธอ ต้องคิดหาวิธีอื่นแล้วล่ะ
“เป้าหมายของเฉินกั๋วเปียวมีแค่อาจารย์ป้าลี่ลี่อันใช่ไหมคะ?” เหมยเหมยถาม
“ใช่ครับ”
จินป๋อเหวินพยักหน้าเหงื่อซึมออกกลางหน้าผาก ตอนนี้เขานึกเสียใจที่ออกทะเลมา เดือนหน้าก็จะเป็นวันบรรลุนิติภาวะของลูกสาวคนโตแล้ว เขาต้องปกป้องลูกสาวของเขาเพื่อไม่ให้พวกหมาป่าคาบไปได้ และเขาก็รับปากกับลูกสาวไว้ว่าจะไปดิสนีย์แลนด์ด้วยกัน ซึ่งไม่เคยเป็นจริงเลยสักที
ยังมีลูกในท้องของภรรยาอีก ไม่รู้ว่าเป็นชายหรือหญิง อีกแค่สามเดือนก็จะคลอดแล้ว…
ถ้าเขาตายไป แล้วภรรยากับลูกสาวจะทำอย่างไร?
ในห้วงเวลาสั้น ๆแค่ไม่กี่วินาที ในหัวสมองของจินป๋อเหวินเหมือนกับฉายภาพยนตร์อยู่ ปรากฏภาพเหตุการณ์จนนับครั้งไม่ถ้วน เขานึกเสียใจจะแย่อยู่แล้ว
“คุณหนูจ้าว ทีมช่วยเหลือภายนอกของคุณหนูจะมาเมื่อไหร่?” จินป๋อเหวินถามเสียงสั่นจนฟันกระทบกัน
เหมยเหมยเหลือบมองเขาแวบเดียว “ไม่รู้ ฉันไม่ใช่จูกัดเหลียง[1]นะคะ”
เธอคร้านที่จะมองหน้าจินป๋อเหวินจอมซื่อบื่อนี่เหลือเกิน เสียดายชื่อเสียงทนายชื่อดังระดับแถวหน้าจริง ๆ รู้ทั้งรู้ว่าสถานะของลี่ลี่อันมีปัญหาแล้วยังกล้าพาเธอมาทะเลหลวงโดยไม่สนความเป็นความตายอีกเหรอ?
คงพูดได้แค่ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงหากได้ตกหลุมรักใครสักคน ไอคิวก็จะติดลบทันที!
เห็นได้ชัดว่าคนโง่อย่างจินป๋อเหวินมีสายใยรักต่อลี่ลี่อัน ต้องไว้อาลัยแทนภรรยาของเขาแล้วล่ะ!
เหมยเหมยไม่สนใจจินป๋อเหวินอีก เดินไปหลังห้องเครื่อง ลูกน้องของลี่ลี่อันทุกคนอยู่ที่นั่นและมีคนได้รับบาดเจ็บแต่ดีที่อาการไม่หนัก ซึ่งนี่นับว่าไม่ใช่ข่าวดีนักเพราะเป็นการบ่งบอกว่าคนของลี่ลี่อันรับมือกับลูกน้องของเฉินกั๋วเปียวไม่ได้
และอาจพูดได้ว่าเฉินกั๋วเปียวคงไม่มีทางปล่อยลี่ลี่อันไปแน่ ไม่แม้แต่จะเมตตาเห็นใจเด็ดขาด
ส่วนคนที่เป็นแค่ทางผ่านอย่างเธอ เกรงว่าเฉินกั๋วเปียวอาจจะฆ่าแล้วป้อนให้ปลาฉลามกิน ซึ่งนี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการ
“อาจารย์ป้าคะ ตอนนี้สถานการณ์ไม่ค่อยดี ฉันมีอยู่วิธีหนึ่งที่จะทำให้เรารอดออกไปได้ แต่ต้องได้รับความร่วมมือจากคนของอาจารย์ป้า” เหมยเหมยพูด
ลี่ลี่อันกัดฟัน “ได้สิ เหมยเหมยพูดมาเลย”
“คุณและคุณลุงไปหาที่ลับเพื่อซ่อนตัว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ห้ามปรากฏตัวออกมาและคุณป้าต้องบอกให้ลูกน้องของคุณป้าแสร้งทำเหมือนเป็นคนของหนู แต่ห้ามพูดเด็ดขาด เลี่ยงไม่ให้เฉินกั๋วเปียวเกิดความสงสัย…”
เหมยเหมยพูดความคิดของเธอออกมา เฉินกั๋วเปียวแค่สงสัยความเคลื่อนไหวของจินป๋อเหวินจนคิดว่าลี่ลี่อันอาจอยู่บนเรือลำนี้แต่ก็ยังไม่แน่ชัด ดังนั้นขอแค่ลี่ลี่อันไม่ปรากฏตัว เธอก็ยังพอจะหาวิธีรับมือกับเฉินกั๋วเปียวได้บ้าง
[1] หรือเป็นที่รู้จักกันดีในนามขงเบ้ง เขาเป็นผู้ฉลาดปราดเปรื่อง รอบรู้วิชาอย่างแตกฉาน
…………………………………………………………….
ตอนที่ 1745 ความต้องการที่แน่วแน่
ลี่ลี่อันลังเลเป็นอย่างมาก จริง ๆแล้วเม่าฉู่เป็นเด็กที่เธอรับมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า มีสถานะเป็นเจ้านายและผู้รับใช้ มีความสัมพันธ์ที่ดีจึงคู่ควรที่จะไว้วางใจ แต่เธอไม่รู้ว่าควรจะไว้วางใจเหมยเหมยดีไหม
เม่าฉู่ไม่ไว้ใจเลยสักนิด เขาพูดพึมพำขึ้นว่า “คุณหนูอย่าไปเชื่อพวกมัน ต่อให้ผมต้องพาพวกพ้องไปตายก็จะปกป้องคุณหนูให้รอดพ้นออกไปให้ได้”
สั่งไม่ให้พวกเขาคัดค้าน ก็เห็นได้ชัดว่าสมรู้ร่วมคิดกับเฉินกั๋วเปียวทำร้ายคุณหนู เหอะ!
นายพลพูดถูกทุกอย่าง คนฮวาเซี่ยเชื้อสายฮั่นเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวที่สุด มีนัยยะอย่างอื่นแอบแฝงมากกว่าคนอื่นหลายเท่า ถ้าเขาเชื่อก็บ้าแล้ว!
เสียงปืนด้านนอกเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆจนไม่อาจล่าช้าได้ เหมยเหมยไม่อยากเสียเวลารอ จึงพูดกับลี่ลี่อันว่า “ในเมื่ออาจารย์ป้าไม่ไว้ใจ งั้นหนูก็ไม่มีอะไรจะพูดคงต้องรอให้คนของหนูมาถึงแล้วล่ะ”
เซี่ยทิงเทารู้สึกเกรงใจเป็นอย่างมาก ปัญหาทั้งหมดเกิดจากเขาและภรรยา แต่กลับเป็นการทำร้ายศิษย์หลานเสียอย่างนั้น หากว่าเกิดเรื่องไม่คาดคิดกับเหมยเหมยเขาจะรับผิดต่ออาจารย์และศิษย์น้องหญิงอย่างไรล่ะ?
“ลี่ลี่อัน เหมยเหมยไม่มีทางทำร้ายพวกเราหรอก พวกเราควรไว้ใจเธอ!”
เม่าฉู่จ้องเซี่ยทิงเทาอย่างดุดัน ดวงตาฉายแววดุร้าย ชายคนนี้ไม่เหมาะสมกับคุณหนูเลย ตอนนี้ยังคิดจะทำร้ายคุณหนูอีก คนใจดำ!
ลี่ลี่อันกัดริมฝีปากล่างแน่น มีท่าทีลังเลเป็นอย่างมาก จนท้ายที่สุดก็ตัดสินใจ
“ได้ ฉันจะพูดกับเม่าฉู่และคนอื่น ๆทุกอย่างตามที่เหมยเหมยต้องการ”
“คุณหนู!” เม่าฉู่จ้องลี่ลี่อันอย่างไม่พอใจด้วยท่าทีโกรธเคือง
เหมยเหมยพลันโล่งอก “เวลากระชั้นชิด คุณป้าช่วยเกลี้ยกล่อมลูกน้องของคุณป้าให้เร็วที่สุด อย่าคิดกลับลำกลางคัน ไม่งั้นพวกเราทั้งหมดบนเรือนี้ไม่มีทางรอดแน่ค่ะ”
“วางใจเถอะ พวกเขาเชื่อฟังมาก” ลี่ลี่อันมั่นใจมาก ลูกน้องที่เธอพามาด้วยล้วนเป็นคนที่พ่อเลือกให้อย่างดี ซื่อสัตย์ภักดีต่อเธอมาก
ลี่ลี่อันเกลี้ยกล่อมลูกน้องได้อย่างรวดเร็ว แม้คนพวกนี้จะมีท่าทีไม่พอใจแต่ก็ถือว่าเชื่อฟังมาก เหมยเหมยจึงค่อยเบาใจลงมาบ้าง เธอให้ลี่ลี่อันกับเซี่ยทิงเทาไปหาที่ซ่อน เมื่อเห็นว่าไม่มีช่องโหว่อะไรแล้วถึงได้ออกมาจากห้องเครื่อง
ขณะนี้บนดาดฟ้าเรือเหมือนอยู่ท่ามกลางสงคราม เรือของเฉินกั๋วเปียวก็ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ต่อให้เสี่ยวอวิ๋นกับเสียวหลี่จะเก่งกาจแค่ไหนก็ไม่อาจรับมือกับอีกฝ่ายที่คนมากอาวุธพร้อมได้หรอก
“ตู้ตาน ฉันรู้ว่าเธออยู่บนเรือ ฉันเป็นเพื่อนเก่าของพ่อเธอมานานหลายปี ทำไมมาถึงฮ่อองกงแล้วไม่แวะไปนั่งเล่นที่บ้านลุงเลยล่ะ?” น้ำเสียงหยาบกระด้างทรงพลังและยังติดสำเนียงกวนตง[1]ด้วย เหมยเหมยแอบคิดในใจว่าแย่แล้ว
นึกไม่ถึงเลยว่าเฉินกั๋วเปียวจะอยู่บนเรือด้วย เฉินกั๋วเปียวไม่ใช่คนฮ่องกงโดยกำเนิด เขาเป็นชาวตงกวนที่อพยพเข้ามารุ่นแรก ๆ แล้วตัวเขาก็ไม่เต็มใจที่จะเรียนภาษากวางตุ้งด้วยเอาแต่พูดภาษาบ้านเกิด กี่สิบปีก็พูดติดสำเนียงท้องถิ่นแบบนี้
เหมยเหมยส่งซิกให้เสี่ยวอวิ๋นหยิบโทรโข่งมา เธอตะโกนขึ้นเสียงดัง “ตู้ตานอะไรกัน? พวกแกเป็นลูกน้องของใคร? เฉินกั๋วเปียวหรือพันเย่าซิง? ถ้าเป็นอาหัวคงไม่ใช่แน่ เมื่อวานฉันยังนั่งดื่มชากับอาหัวอยู่เลย!”
เธอจงใจเอ่ยชื่อของสองคนนี้ขึ้นมาเพราะผู้มีอิทธิพลอีกคนชื่อว่าโจวจื่อหัว เป็นผู้มีอิทธิพลคนเดียวกับที่เหยียนหมิงซุ่นรู้จัก เขาเป็นมาเฟียด้านโลกมืดที่มีอิทธิพลมากที่สุด แม้แต่เฉินกั๋วเปียวและพันเหย้าซิงก็ไม่กล้ากำเริบเสิบสานต่อหน้าเขาด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าเธอโกหกเรื่องที่ไปดื่มน้ำชาด้วย โจวจื่อหัวกับเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันถึงขั้นนั้น เธอแค่ข่มขู่เฉินกั๋วเปียวเป็นการถ่วงเวลาเท่านั้นเอง
ไม่นึกเลยว่าจะข่มขู่เฉินกั๋วเปียวจนได้ผล เขาถามลูกน้องอย่างสงสัย “แม่ตู้ตานนั่นไปญาติดีกับพี่หัวตั้งแต่เมื่อไรกัน?”
ลูกน้องรีบอธิบาย “ลูกพี่ คนนี้ไม่ใช่ตู้ตาน เป็นนักเขียนที่มาจากฮวาเซี่ยชื่อว่าจ้าวเหมยที่พึ่งออกทีวีไป ลูกพี่ยังชมว่าเธอสวยอยู่เลย!”
เฉินกั๋วเปียวดวงตาเป็นประกาย เสียวเหม่ยเหมยในทีวีนั่นยังสวยกว่าดาราหญิงบางคนอีก ถึงวันนี้จะจับตัวตู้ตานไม่ได้แต่ได้ตัวคนสวยไปก็ไม่เลวนี่นา
ว่าแต่คนสวยรู้จักกับโจวจื่อหัวจริงหรือ?
……………………………………………………………………
[1] บริเวณด้านตะวันออกของซานไห่กวน ภาคเหนือ