“พ-พี่ถัง ร-เราผิดแล้ว ให้อภัยเราด้วยเถอะ!”
เหล่าคนทั้งหลายนั้นต่างเดินลงมาคุกเข่าต่อหน้าพ่อลูกถัง
เหล่าทหารทั้งหลายนั้นได้กลายเป็นแค่คนแขนเดียวไปแล้วแต่ก็ยังต้องมาก้มลงกราบขอโทษในความผิดต่อพ่อลูกตระกูลถัง
ได้เห็นเหล่าทหารทั้งหลายก้มลงกราบขออภัยในความผิดนั้นฝั่งพ่อลูกถังเองก็รู้สึกสะใจขึ้นมาอย่างมาก
เพราะคนทั้งหลายนั้นตอนที่ลงมือก่อนหน้าไม่มีใครออมมือแม้แต่น้อย
หากมิใช่เพราะว่าองค์ชายรองและอาจารย์หยุนมาถึงแล้วพวกเขาอาจจะโดนกระทืบจนตายไปแล้วจริงๆ!
ความโกรธแค้นนั้นมันจึงกลายเป็นความสะใจ ถังจินหัวนั้นกำลังจะเปิดปากขึ้นกล่าวว่าแต่กลับได้ยินเสียงของเย่หยวนกล่าวขึ้นมาตรงหน้าเซี่ยหัวก่อน “เจ้าได้ลงมือหรือไม่?”
เซี่ยหัวสั่นสะท้านไปทั้งกายพร้อมหน้าที่ซีดขาวลง
เย่หยวนยิ้มขึ้นมา “ดูท่าเจ้าจะโจมตีด้วยเช่นกัน! ทำไม? หรือว่าเจ้านั้นมันพิเศษกว่าพวกมันนี้?”
เซี่ยหัวร้องขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว “ข-ข้านั้นคือศิษย์ของท่านราชครู! อาจารย์ ข้า…”
หลินหลานเองก็กล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าดำมืด “เย่หยวน ถือว่าเห็นแก่หน้าราชครูคนนี้และเว้นโทษตัดแขนให้เขาเถอะ ราชครูผู้นี้จะให้มันไปก้มหัวขอโทษต่อความผิดของตระกูลถังแน่นอนนอกจากนั้นข้ายังจะมอบสินน้ำใจให้ในความปรานีนี้ด้วย!”
สำหรับนักหลอมโอสถแล้วการแขนขาดนั้นมันเป็นเหมือนความตาย พวกเขาจะต้องสิ้นซึ่งเกียรติใดๆ ในวันหน้าแน่!
เหล่าทหารทั้งหลายนั้นยังมีพลังบ่มเพาะวิชายุทธอยู่
แต่สำหรับเซี่ยหัว หากแขนขาดไปเขาคงไม่อาจจะหลอมโอสถขึ้นได้อีก!
เย่หยวนแสยะยิ้มขึ้นมา “หน้าเจ้ามันมีค่ามากหรือ?”
หลินหลานผงะไปทันทีที่ได้ยิน
เวลานี้แม้แต่องค์ชายรองและหลู่หยุนเองก็ยังต้องปาดเหงื่อ
นี่มันคือการลบหลู่หาเรื่องราชครูไปจนถึงที่สุด!
แน่นอนว่าที่พวกเขาคิดเช่นนั้นเพราะพวกเขานั้นไม่เข้าใจเย่หยวนดีพอ
เขานั้นเป็นคนที่ไม่ถือตัวยอมคนอื่นไม่น้อย แต่อย่าได้ล้ำเส้นของเขาไป!
หากมีใครที่ล้ำเส้นของเขาไปแล้ว ต่อให้จะเป็นจักรพรรดิหยกเองก็ไม่อาจจะหยุดยั้งเขาลงได้!
พ่อลูกถังนั้นถูกทำร้ายอย่างไร้ความผิดใด นี่มันคือสิ่งที่เย่หยวนยอมไม่ได้!
หากใครที่ทำ ก็ต้องชดใช้ออกมา!
ไว้หน้า?
เย่หยวนไม่เคยทำเรื่องเช่นนั้น!
หลินหลานกล่าวขึ้นมา “เย่หยวน เจ้าคิดจะกลายเป็นศัตรูกับราชครูคนนี้อย่างเด็ดขาดเลยหรือ?”
เย่หยวนจึงตอบกลับไป “แล้วทำไมเล่า?”
หลินหลานนั้นกัดฟันหัวเราะขึ้น “ดี! ดีมาก! นานมาแล้วที่มันไม่มีใครกล้ามาเหยียบหน้าราชครูคนนี้ในอาณาจักรตะวันออก! เจ้ามันดีจริงๆ!”
เย่หยวนเองก็หัวเราะตอบกลับไป “เอา เลิกวางท่าเป็นคนเก่งกาจเสียทีเถอะ! เจ้านั้นยังจัดการพันธะของเราไม่จบสิ้นอย่าได้ลืม!”
หลินหลานนั้นกัดฟันแน่นด้วยใบหน้าแดงก่ำแทบจะกระอักเลือดขึ้นมา
เย่หยวนนั้นกล่าวขึ้นมาต่อด้วยท่าทางเฉยชา “ทำไมเล่า? หรือว่าเจ้าจะฉีกพันธะวิญญาณดั้งเดิม? พันธะของเรามันระบุชัดเจนว่าทุกคนที่ลงมือต้องตัดแขนออก!”
หากเย่หยวนคิดจะทำจริงๆ แล้วเขาย่อมจะตัดแขนของเซี่ยหัวลงได้ไม่ยาก
แต่เขานั้นไม่อยากจะลงมือเอง เพราะหากปล่อยไปเช่นนี้มันจะเท่ากับว่าหลินหลานผิดพันธะและต้องรับผลที่ตามมาด้วยตัวเอง
หลินหลานนั้นสั่นสะท้านไปทั้งร่างก่อนจะกัดฟันกล่าวขึ้นสั่ง “เซี่ยหัว ตัดแขนออก!”
“อ-อาจารย์!” เซี่ยหัวนั้นร้องขึ้นด้วยน้ำตานองหน้า
“อาจารย์บอกให้เจ้าตัดแขน ไม่ได้ยินหรืออย่างไร?” หลินหลานนั้นร้องลั่นขึ้นมา
เซี่ยหัวนั้นได้แต่ทำหน้าสิ้นหวังแต่ก็ยังไม่คิดลงมือตัดแขนตนเอง
หลินหลานนั้นขมวดคิ้วแน่นก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปดึงแขนของเซี่ยหัวออกด้วยตัวเอง
ฉัวะ!
แขนของเซี่ยหัวนั้นหลุดออกจากร่างในทันที
หลินหลานหันกลับมามองเย่หยวนอย่างดุร้ายก่อนจะกล่าวขึ้น “เจ้าพอใจหรือยัง?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ไม่เกี่ยวหรอกว่าข้าจะพอใจหรือไม่ เพราะนี่คือสิ่งที่มันสมควรได้รับ!”
หลินหลานกล่าวขึ้นด้วยจิตสังหารหนักหน่วง “ไป! คุกเข่าขอขมาเสีย!”
เซี่ยหัวนั้นแทบจะสิ้นสติเพราะความเจ็บปวดแต่ก็ไม่กล้าจะขัดคำของหลินหลานและได้แต่ต้องก้าวลงมานั่งคุกเข่าขอโทษพ่อลูกถัง
พ่อลูกถังนั้นได้แต่หันมามองหน้ากันด้วยความรู้สึกเหมือนได้นั่งบนเก้าอี้หนาม
ความสะใจก่อนหน้ามันได้ถูกความกลัวเข้ามาแทนที่
เย่หยวนนั้นบ้าบิ่นจนเกินไป ทำเช่นนั้นเรื่องราวมันคงจะไม่อาจเจรจาต่อรองใดๆ ได้อีก!
“ไม่ต้องกังวลไป! หากเจ้าไม่สามารถรับได้แม้แต่เรื่องแค่นี้วันหน้าก็อย่าได้ติดตามข้าเลย! หากพวกเจ้าคิดว่าความแค้นยังไม่จางหายเจ้าจะสังหารผู้คนเสียก็ยังได้!” เย่หยวนกล่าวขึ้นมา
พ่อลูกถังนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายและใจ พวกเขานั้นเริ่มจะรู้สึกมั่นใจขึ้นมาไม่น้อย
เย่หยวนนั้นสูงล้ำหัวผู้คนจริง!
เพราะฉะนั้นพวกเขาจะมาเสียหน้าตรงนี้ไม่ได้!
ตระกูลถังนั้นไม่เหลือทางถอยใดแล้ว เวลานี้มันจึงมีแต่ต้องติดตามเย่หยวนไปจนถึงที่สุด
ที่สำคัญไปกว่านั้นการติดตามคนที่ให้ค่าแก่สายสัมพันธ์เช่นเย่หยวนนี้มันก็ดูไม่แย่มากมายนัก
เพียงแค่ว่าในสายตาของคนนอกนั้นเย่หยวนย่อมจะเป็นได้แค่คนบ้า!
หากความแค้นมันเอาแต่สะสมกันขึ้นแล้ว มันก็คงไม่จบไม่สิ้นกัน!
การลบหลู่ราชครูจนถึงแก่นเช่นนี้มันจะยังมีประโยชน์ใด?
เย่หยวนหันไปมองหลินหลานก่อนจะกล่าวขึ้น “ท่านราชครู ตาเจ้าแล้ว!”
เวลานี้จิตสังหารในใจของหลินหลานนั้นมันปะทุขึ้นอย่างรุนแรง เขานั้นแทบจะไม่อาจควบคุมความโกรธของตนเองได้
แต่เขานั้นถูกจำกัดไว้ด้วยพันธะวิญญาณดั้งเดิมจึงไม่กล้าจะลงมือใดๆ
สายตาของเขานั้นจ้องมองไปที่เย่หยวนก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ราชครูผู้นี้จะถามเข้าอีกครั้ง เจ้าคิดจะเป็นศัตรูกับข้าจนถึงที่สุดเลยใช่หรือไม่?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “หากเจ้าจะคิดเช่นนั้น ข้าก็จะตอบให้ว่า ใช่!”
หลินหลานนั้นแทบจะกระอักเลือดขึ้น
จากนั้นเขาก็หันหน้าไปหาสองพ่อลูกถังก่อนจะก้มหัวลงต่ำและกล่าว “ข้าขออภัยด้วย!”
พูดจบเขาก็ไม่รอคำตอบจากสองพ่อลูกถังใดๆ และหันหน้าเดินหนีไป “ไปเถอะ!”
“เดี๋ยว!” เย่หยวนร้องขึ้นมา
ครืน!
คลื่นพลังของหลินหลานนั้นปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรงก่อนจะหันมามองหน้าเย่หยวน “เด็กน้อย เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าราชครูผู้นี้จะไม่กล้าลงมือสังหารเจ้า?”
เย่หยวนหัวเราะตอบกลับไป “ราชครูคงแก่มากแล้วจริงๆ อารมณ์ของเจ้านี่มันช่างร้อนรุ่ม! เย่ผู้นี้อดไม่ได้จริงๆ ที่ต้องเห็นคนแขนขาดมากมาย ข้าจึงคิดอยากจะมอบข้อเสนอให้พวกเขา”
พูดจบเขาก็ยิ้มขึ้นมาก่อนจะหันไปหาเหล่าทหารที่แขนขาดนั้น “พวกเจ้าทั้งหลาย อีกห้าปีจากนี้ตระกูลถังจะวางจำหน่ายโอสถฟื้นฟูเทพ! หากพวกเจ้าอยากจะรักษาแขนที่ขาดของตนนั้นก็ขอให้มาใช้บริการของตระกูลถังในวันหน้าด้วย!”
เหล่าทหารทั้งหลายนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายหันมามองเย่หยวนอย่างมีหวัง
เพราะนามของโอสถฟื้นฟูเทพมันย่อมจะเป็นที่รู้จักทั่วไป
เพราะสูตรโอสถนี้ที่กู่เม่ามีมันก็ไม่ได้นับว่าเป็นโอสถหายากใดๆ
หรืออย่างน้อยๆ หลินหลานเองนั้นก็มีสูตรโอสถนี้เช่นกัน
แต่ในอาณาจักรตะวันออกนี้มันไม่มีใครที่หลอมโอสถฟื้นฟูเทพได้!
แม้แต่ราชครูก็ยังทำไม่ได้!
หากจะเทียบแล้ว การหลอมโอสถสวรรค์ปรับฐานนั้นมันก็เหมือนการหลอมโอสถสวรรค์ระดับมด แต่การหลอมโอสถฟื้นฟูเทพนั้นมันจะอยู่ในระดับจอมมาร
ความซับซ้อนยุ่งยากของมันนั้นเหนือล้ำกว่าจะจินตนาการได้
แม้จะเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสองเองก็มีแค่ไม่กี่คนจะหลอมมันได้
หลินหลานหัวเราะขึ้นมา “ไร้สาระ! แค่คนอย่างเจ้าจะหลอมโอสถฟื้นฟูเทพได้ภายในห้าปี?”
เย่หยวนหันไปมองหลินหลานด้วยรอยยิ้ม “ท่านราชครู ข้ารู้สึกว่าเจ้านั้นคงมีจิตวิญญาณนักพนันอยู่ไม่น้อย ทำไมเราไม่มาลองวางเดินพันกันอีกสักครั้งเล่า? ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้แก้มือ หากห้าปีจากนี้ข้าไม่อาจหลอมโอสถฟื้นฟูเทพได้จริง เจ้าจะทำอะไรกับข้าก็ได้ ว่าอย่างไร?”
“ข้า…” หลินหลานที่ได้ยินนั้นต้องผงะไม่อาจจะตอบกลับมาได้ทันที
ผู้บรรลุสวรรค์คนนี้มันแปลกประหลาดเกินกว่าที่เขาจะคาดเดา!
ไม่มีใครรู้ได้เลยว่าในห้าปีนั้นเขาจะหลอมโอสถฟื้นฟูเทพขึ้นมาได้จริงหรือไม่!
“เฮอะ หากไม่กล้าจะเดิมพันก็อย่าได้มาเห่าแถวนี้!” เย่หยวนยิ้มขึ้น
หลินหลานนั้นไม่อาจทนรับ!
เขานั้นร้องขึ้นลั่นด้วยใบหน้าแดงก่ำ “เด็กน้อย ราชครูผู้นี้จะเดิมพันกับเจ้าเอง! หากเจ้าหลอมโอสถฟื้นฟูเทพไม่ได้ภายในห้าปีแล้ว ราชครูผู้นี้จะทำให้เจ้าไม่ได้ตายดี!”
เมื่อเย่หยวนได้ยินเขาก็ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม “ได้สิ! แต่หากข้าหลอมได้เจ้าต้องมอบตำแหน่งราชครูให้ข้า? คิดว่าอย่างไรเล่า?”