ตอนที่ 2551 การค้าของเย่หยวน

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

“พ-พี่ถัง ร-เราผิดแล้ว ให้อภัยเราด้วยเถอะ!”

เหล่าคนทั้งหลายนั้นต่างเดินลงมาคุกเข่าต่อหน้าพ่อลูกถัง

เหล่าทหารทั้งหลายนั้นได้กลายเป็นแค่คนแขนเดียวไปแล้วแต่ก็ยังต้องมาก้มลงกราบขอโทษในความผิดต่อพ่อลูกตระกูลถัง

ได้เห็นเหล่าทหารทั้งหลายก้มลงกราบขออภัยในความผิดนั้นฝั่งพ่อลูกถังเองก็รู้สึกสะใจขึ้นมาอย่างมาก

เพราะคนทั้งหลายนั้นตอนที่ลงมือก่อนหน้าไม่มีใครออมมือแม้แต่น้อย

หากมิใช่เพราะว่าองค์ชายรองและอาจารย์หยุนมาถึงแล้วพวกเขาอาจจะโดนกระทืบจนตายไปแล้วจริงๆ!

ความโกรธแค้นนั้นมันจึงกลายเป็นความสะใจ ถังจินหัวนั้นกำลังจะเปิดปากขึ้นกล่าวว่าแต่กลับได้ยินเสียงของเย่หยวนกล่าวขึ้นมาตรงหน้าเซี่ยหัวก่อน “เจ้าได้ลงมือหรือไม่?”

เซี่ยหัวสั่นสะท้านไปทั้งกายพร้อมหน้าที่ซีดขาวลง

เย่หยวนยิ้มขึ้นมา “ดูท่าเจ้าจะโจมตีด้วยเช่นกัน! ทำไม? หรือว่าเจ้านั้นมันพิเศษกว่าพวกมันนี้?”

เซี่ยหัวร้องขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว “ข-ข้านั้นคือศิษย์ของท่านราชครู! อาจารย์ ข้า…”

หลินหลานเองก็กล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าดำมืด “เย่หยวน ถือว่าเห็นแก่หน้าราชครูคนนี้และเว้นโทษตัดแขนให้เขาเถอะ ราชครูผู้นี้จะให้มันไปก้มหัวขอโทษต่อความผิดของตระกูลถังแน่นอนนอกจากนั้นข้ายังจะมอบสินน้ำใจให้ในความปรานีนี้ด้วย!”

สำหรับนักหลอมโอสถแล้วการแขนขาดนั้นมันเป็นเหมือนความตาย พวกเขาจะต้องสิ้นซึ่งเกียรติใดๆ ในวันหน้าแน่!

เหล่าทหารทั้งหลายนั้นยังมีพลังบ่มเพาะวิชายุทธอยู่

แต่สำหรับเซี่ยหัว หากแขนขาดไปเขาคงไม่อาจจะหลอมโอสถขึ้นได้อีก!

เย่หยวนแสยะยิ้มขึ้นมา “หน้าเจ้ามันมีค่ามากหรือ?”

หลินหลานผงะไปทันทีที่ได้ยิน

เวลานี้แม้แต่องค์ชายรองและหลู่หยุนเองก็ยังต้องปาดเหงื่อ

นี่มันคือการลบหลู่หาเรื่องราชครูไปจนถึงที่สุด!

แน่นอนว่าที่พวกเขาคิดเช่นนั้นเพราะพวกเขานั้นไม่เข้าใจเย่หยวนดีพอ

เขานั้นเป็นคนที่ไม่ถือตัวยอมคนอื่นไม่น้อย แต่อย่าได้ล้ำเส้นของเขาไป!

หากมีใครที่ล้ำเส้นของเขาไปแล้ว ต่อให้จะเป็นจักรพรรดิหยกเองก็ไม่อาจจะหยุดยั้งเขาลงได้!

พ่อลูกถังนั้นถูกทำร้ายอย่างไร้ความผิดใด นี่มันคือสิ่งที่เย่หยวนยอมไม่ได้!

หากใครที่ทำ ก็ต้องชดใช้ออกมา!

ไว้หน้า?

เย่หยวนไม่เคยทำเรื่องเช่นนั้น!

หลินหลานกล่าวขึ้นมา “เย่หยวน เจ้าคิดจะกลายเป็นศัตรูกับราชครูคนนี้อย่างเด็ดขาดเลยหรือ?”

เย่หยวนจึงตอบกลับไป “แล้วทำไมเล่า?”

หลินหลานนั้นกัดฟันหัวเราะขึ้น “ดี! ดีมาก! นานมาแล้วที่มันไม่มีใครกล้ามาเหยียบหน้าราชครูคนนี้ในอาณาจักรตะวันออก! เจ้ามันดีจริงๆ!”

เย่หยวนเองก็หัวเราะตอบกลับไป “เอา เลิกวางท่าเป็นคนเก่งกาจเสียทีเถอะ! เจ้านั้นยังจัดการพันธะของเราไม่จบสิ้นอย่าได้ลืม!”

หลินหลานนั้นกัดฟันแน่นด้วยใบหน้าแดงก่ำแทบจะกระอักเลือดขึ้นมา

เย่หยวนนั้นกล่าวขึ้นมาต่อด้วยท่าทางเฉยชา “ทำไมเล่า? หรือว่าเจ้าจะฉีกพันธะวิญญาณดั้งเดิม? พันธะของเรามันระบุชัดเจนว่าทุกคนที่ลงมือต้องตัดแขนออก!”

หากเย่หยวนคิดจะทำจริงๆ แล้วเขาย่อมจะตัดแขนของเซี่ยหัวลงได้ไม่ยาก

แต่เขานั้นไม่อยากจะลงมือเอง เพราะหากปล่อยไปเช่นนี้มันจะเท่ากับว่าหลินหลานผิดพันธะและต้องรับผลที่ตามมาด้วยตัวเอง

หลินหลานนั้นสั่นสะท้านไปทั้งร่างก่อนจะกัดฟันกล่าวขึ้นสั่ง “เซี่ยหัว ตัดแขนออก!”

“อ-อาจารย์!” เซี่ยหัวนั้นร้องขึ้นด้วยน้ำตานองหน้า

“อาจารย์บอกให้เจ้าตัดแขน ไม่ได้ยินหรืออย่างไร?” หลินหลานนั้นร้องลั่นขึ้นมา

เซี่ยหัวนั้นได้แต่ทำหน้าสิ้นหวังแต่ก็ยังไม่คิดลงมือตัดแขนตนเอง

หลินหลานนั้นขมวดคิ้วแน่นก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปดึงแขนของเซี่ยหัวออกด้วยตัวเอง

ฉัวะ!

แขนของเซี่ยหัวนั้นหลุดออกจากร่างในทันที

หลินหลานหันกลับมามองเย่หยวนอย่างดุร้ายก่อนจะกล่าวขึ้น “เจ้าพอใจหรือยัง?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ไม่เกี่ยวหรอกว่าข้าจะพอใจหรือไม่ เพราะนี่คือสิ่งที่มันสมควรได้รับ!”

หลินหลานกล่าวขึ้นด้วยจิตสังหารหนักหน่วง “ไป! คุกเข่าขอขมาเสีย!”

เซี่ยหัวนั้นแทบจะสิ้นสติเพราะความเจ็บปวดแต่ก็ไม่กล้าจะขัดคำของหลินหลานและได้แต่ต้องก้าวลงมานั่งคุกเข่าขอโทษพ่อลูกถัง

พ่อลูกถังนั้นได้แต่หันมามองหน้ากันด้วยความรู้สึกเหมือนได้นั่งบนเก้าอี้หนาม

ความสะใจก่อนหน้ามันได้ถูกความกลัวเข้ามาแทนที่

เย่หยวนนั้นบ้าบิ่นจนเกินไป ทำเช่นนั้นเรื่องราวมันคงจะไม่อาจเจรจาต่อรองใดๆ ได้อีก!

“ไม่ต้องกังวลไป! หากเจ้าไม่สามารถรับได้แม้แต่เรื่องแค่นี้วันหน้าก็อย่าได้ติดตามข้าเลย! หากพวกเจ้าคิดว่าความแค้นยังไม่จางหายเจ้าจะสังหารผู้คนเสียก็ยังได้!” เย่หยวนกล่าวขึ้นมา

พ่อลูกถังนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายและใจ พวกเขานั้นเริ่มจะรู้สึกมั่นใจขึ้นมาไม่น้อย

เย่หยวนนั้นสูงล้ำหัวผู้คนจริง!

เพราะฉะนั้นพวกเขาจะมาเสียหน้าตรงนี้ไม่ได้!

ตระกูลถังนั้นไม่เหลือทางถอยใดแล้ว เวลานี้มันจึงมีแต่ต้องติดตามเย่หยวนไปจนถึงที่สุด

ที่สำคัญไปกว่านั้นการติดตามคนที่ให้ค่าแก่สายสัมพันธ์เช่นเย่หยวนนี้มันก็ดูไม่แย่มากมายนัก

เพียงแค่ว่าในสายตาของคนนอกนั้นเย่หยวนย่อมจะเป็นได้แค่คนบ้า!

หากความแค้นมันเอาแต่สะสมกันขึ้นแล้ว มันก็คงไม่จบไม่สิ้นกัน!

การลบหลู่ราชครูจนถึงแก่นเช่นนี้มันจะยังมีประโยชน์ใด?

เย่หยวนหันไปมองหลินหลานก่อนจะกล่าวขึ้น “ท่านราชครู ตาเจ้าแล้ว!”

เวลานี้จิตสังหารในใจของหลินหลานนั้นมันปะทุขึ้นอย่างรุนแรง เขานั้นแทบจะไม่อาจควบคุมความโกรธของตนเองได้

แต่เขานั้นถูกจำกัดไว้ด้วยพันธะวิญญาณดั้งเดิมจึงไม่กล้าจะลงมือใดๆ

สายตาของเขานั้นจ้องมองไปที่เย่หยวนก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ราชครูผู้นี้จะถามเข้าอีกครั้ง เจ้าคิดจะเป็นศัตรูกับข้าจนถึงที่สุดเลยใช่หรือไม่?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “หากเจ้าจะคิดเช่นนั้น ข้าก็จะตอบให้ว่า ใช่!”

หลินหลานนั้นแทบจะกระอักเลือดขึ้น

จากนั้นเขาก็หันหน้าไปหาสองพ่อลูกถังก่อนจะก้มหัวลงต่ำและกล่าว “ข้าขออภัยด้วย!”

พูดจบเขาก็ไม่รอคำตอบจากสองพ่อลูกถังใดๆ และหันหน้าเดินหนีไป “ไปเถอะ!”

“เดี๋ยว!” เย่หยวนร้องขึ้นมา

ครืน!

คลื่นพลังของหลินหลานนั้นปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรงก่อนจะหันมามองหน้าเย่หยวน “เด็กน้อย เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าราชครูผู้นี้จะไม่กล้าลงมือสังหารเจ้า?”

เย่หยวนหัวเราะตอบกลับไป “ราชครูคงแก่มากแล้วจริงๆ อารมณ์ของเจ้านี่มันช่างร้อนรุ่ม! เย่ผู้นี้อดไม่ได้จริงๆ ที่ต้องเห็นคนแขนขาดมากมาย ข้าจึงคิดอยากจะมอบข้อเสนอให้พวกเขา”

พูดจบเขาก็ยิ้มขึ้นมาก่อนจะหันไปหาเหล่าทหารที่แขนขาดนั้น “พวกเจ้าทั้งหลาย อีกห้าปีจากนี้ตระกูลถังจะวางจำหน่ายโอสถฟื้นฟูเทพ! หากพวกเจ้าอยากจะรักษาแขนที่ขาดของตนนั้นก็ขอให้มาใช้บริการของตระกูลถังในวันหน้าด้วย!”

เหล่าทหารทั้งหลายนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายหันมามองเย่หยวนอย่างมีหวัง

เพราะนามของโอสถฟื้นฟูเทพมันย่อมจะเป็นที่รู้จักทั่วไป

เพราะสูตรโอสถนี้ที่กู่เม่ามีมันก็ไม่ได้นับว่าเป็นโอสถหายากใดๆ

หรืออย่างน้อยๆ หลินหลานเองนั้นก็มีสูตรโอสถนี้เช่นกัน

แต่ในอาณาจักรตะวันออกนี้มันไม่มีใครที่หลอมโอสถฟื้นฟูเทพได้!

แม้แต่ราชครูก็ยังทำไม่ได้!

หากจะเทียบแล้ว การหลอมโอสถสวรรค์ปรับฐานนั้นมันก็เหมือนการหลอมโอสถสวรรค์ระดับมด แต่การหลอมโอสถฟื้นฟูเทพนั้นมันจะอยู่ในระดับจอมมาร

ความซับซ้อนยุ่งยากของมันนั้นเหนือล้ำกว่าจะจินตนาการได้

แม้จะเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสองเองก็มีแค่ไม่กี่คนจะหลอมมันได้

หลินหลานหัวเราะขึ้นมา “ไร้สาระ! แค่คนอย่างเจ้าจะหลอมโอสถฟื้นฟูเทพได้ภายในห้าปี?”

เย่หยวนหันไปมองหลินหลานด้วยรอยยิ้ม “ท่านราชครู ข้ารู้สึกว่าเจ้านั้นคงมีจิตวิญญาณนักพนันอยู่ไม่น้อย ทำไมเราไม่มาลองวางเดินพันกันอีกสักครั้งเล่า? ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้แก้มือ หากห้าปีจากนี้ข้าไม่อาจหลอมโอสถฟื้นฟูเทพได้จริง เจ้าจะทำอะไรกับข้าก็ได้ ว่าอย่างไร?”

“ข้า…” หลินหลานที่ได้ยินนั้นต้องผงะไม่อาจจะตอบกลับมาได้ทันที

ผู้บรรลุสวรรค์คนนี้มันแปลกประหลาดเกินกว่าที่เขาจะคาดเดา!

ไม่มีใครรู้ได้เลยว่าในห้าปีนั้นเขาจะหลอมโอสถฟื้นฟูเทพขึ้นมาได้จริงหรือไม่!

“เฮอะ หากไม่กล้าจะเดิมพันก็อย่าได้มาเห่าแถวนี้!” เย่หยวนยิ้มขึ้น

หลินหลานนั้นไม่อาจทนรับ!

เขานั้นร้องขึ้นลั่นด้วยใบหน้าแดงก่ำ “เด็กน้อย ราชครูผู้นี้จะเดิมพันกับเจ้าเอง! หากเจ้าหลอมโอสถฟื้นฟูเทพไม่ได้ภายในห้าปีแล้ว ราชครูผู้นี้จะทำให้เจ้าไม่ได้ตายดี!”

เมื่อเย่หยวนได้ยินเขาก็ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม “ได้สิ! แต่หากข้าหลอมได้เจ้าต้องมอบตำแหน่งราชครูให้ข้า? คิดว่าอย่างไรเล่า?”