ตอนที่ 2092

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ตอนที่ 2092 หวีไห่หรงมาถึง

 

เมื่อปรมาจารย์ระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้สองคนปะทะกัน คนที่สามารถหยุดดูการต่อสู้ได้นั้นมีเพียงหยิบมือในขณะที่คนอื่นๆ รีบล่าถอยกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

 

เสี่ยวตอบโต้เพื่อป้องกันตัวเท่านั้น มันไม่เผยจิตสังหารต่อใครนอกจากจอมยุทธที่ฝึกฝนรูปแบบบ่มเพาะพลังที่แตกต่าง

 

แต่ถึงจะเอาแต่ป้องกันพลังของมันก็ไม่อ่อนแอ ไม่ว่ายวี่เหวินซินจะโจมตีอย่างไรก็ไร้ความหมาย

 

ซึ่งท่ามกลางการต่อสู้อันรุนแรงนี้ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวอีกสองก็ปรากฏขึ้น

 

เหนือท้องฟ้าบุรุษและสตรีอู่หมิงได้ปรากฏตัว ถึงแม้ทั้งคู่จะโผล่หน้ามาพร้อมกันแต่ไม่ใช่พวกพ้องกันแน่นอน เพราะทั้งสองเว้นระยะห่างระหว่างกันเอาไว้เผื่อว่าหากอีกฝ่ายโจมตึกะทันหันจะได้ตอบโต้ได้ทันท่วงที

 

“สื่อเพิ่งจากนิกายอีกาทองคํา”

 

“อ้ายอวจากหุบเขาเมฆาสลาย”

 

บุรุษและสตรีสองคนเอ่ยชื่อแซ่ของตนด้วยท่าทีภาคภูมิใจ

 

ทั้งสองคนปรมาจารย์ระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท่!

 

แม้จะเป็นในดินแดนแห่งเซียนฝั่งตะวันตก ตัวตนระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ก็ยังเรียกได้ว่าเป็นตัวตนที่ไร้เทียมทาน เพราะปรมาจารย์ที่เหนือไปกว่าพวกเขาคือราชานิรันดร์ที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

“พี่ชายสื่อ ธิดาอ้าย” เฟยเฉียงผสานมือทักทาย เมื่อได้ยินชื่อขุมอํานาจของทั้งสองคนเขาก็รับรู้ในทันทีว่า ทั้งสองมาเพราะยี่หวานิ่งและขี่ยหยิน

 

“ผู้สืบทอดของข้าถูกสังหารข้าจึงได้รับคําสั่งให้มาตามล่าคนร้าย” อ้ายอวี่กล่าวพร้อมกับแพร่กระจายสัมผัส สวรรค์ปกคลุมไปทั่วเมืองร้อยมังกร “คนหนึ่งมีชื่อว่าจ่อหมิง เขาใช้คันธนูเล่มเล็กเป็นอาวุธ ส่วนอีกคนคือหลิงฮันที่มีร่างกายสูงเจ็ดฟุตและมีอวัยวะเพศแข็งแกร่งดั่งหินผา”

 

…ประโยคนี้อีกแล้ว?

 

ปากของหลิงฮันกระตุกไปมา อย่าบอกนะว่าในอนาคตหากใครเอ่ยถึงชื่อเขา ทุกคนก็จะกล่าวว่าอวัยวะเพศของเขาแข็งแกร่งดั่งหิน?

 

สื่อเหิงไม่ได้กล่าวอะไรเพราะเขากับอํายอรี่ได้พบเจอกันระหว่างทางแล้ว ซึ่งเป้าหมายของเขากับนางก็คือ จับกุมจ่อหมิงกับหลิงฮันเหมือนกัน เพราะงั้นในเมื่ออวอรี่กล่าวจุดประสงค์ออกไปแล้วเขาก็ไม่จําเป็นต้องพูดอะไร

 

เฟยเฉียงชี้ไปยังหลิงฮัน “เป็นเขา”

 

เจ้าหนูนี้ช่างกล้าจริงๆ ที่สังหารพวกเทียนชิงเยู่แล้วยังไม่รีบหนีไป แต่เลือกที่จะมาเข้าร่วมการประลองศาสตร์ปรุงยาต่อ ยิ่งกว่านั้นคือเจ้าหนูนี่ยังชนะอันดับหนึ่งอีกด้วย!

 

อ้ายยวมองไปยังหลิงฮันและกล่าว “แล้วจีอู่หมิงอยู่ไหน?”

 

“ข้าไม่ใช่พี่เลี้ยงของเขา ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่าเขาอยู่ที่ไหน?” หลิงฮันสะบัดมือกล่าวออกไป อีกฝ่ายมีท่าทีเป็นปฏิปักษ์เช่นนี้ต่อให้เขาทําตัวนอบน้อมไปก็ไม่มีความหมายอะไร

 

“ช่างเป็นดั่งเยี่ยงสัตว์เดรัจฉานที่ไม่รู้จักกฎของธรรมชาติ กล้าดีอย่างไรมาพูดจากับข้าด้วยท่าทีเช่นนั้น!” ใบหน้าของอ้ายยวเปลี่ยนเป็นเย็นชาและระเบิดจิตสังหาร

 

“เลิกพล่ามไร้สาระแล้วจัมกุมตัวเขาได้แล้ว” สื่อเหิงกล่าวอย่างหมดความอดทน

 

อ้ายยวจ้องมองไปที่เขาด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์แต่ก็ไม่ตอบโตใดๆ นางรู้ดีว่าอีกฝ่ายมีพลังบ่มเพาะอยู่ในระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้สูงสุด ในขณะที่พลังของนางอยู่ในระดับสูงเท่านั้น ความต่างเพียงหนึ่งระดับย่อยนี้ ส่งผลให้พลังต่อสู้ของนางกับอีกฝ่ายห่างชั้นกันอย่างสิ้นเชิง

 

นางเองก็คร้านที่จะกล่าวอะไรกับจอมยุทธตัวจ้อยจึงได้ทําการยื่นมือออกไปคว้าลองของหลังชั้นในทันที

 

ปัง!

 

แต่ก่อนที่มือของนางจะเอื้อมออกไปมือปราณก่อเกิดขนาดใหญ่ ก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าและซัดเข้าใส่นางอย่างรุนแรง จนร่างลอยกระเด็นไปด้านหลัง

 

ออร่าที่น่าสะพรึงกลัวโหมกระหนาเข้ามาพร้อมกับร่างของสตรีที่ก้าวเดินมาจากระยะที่ห่างไกล เห็นได้ชัดว่า ย่างก้าวของนางนั้นไม่เร็วหรือช้า แต่เพียงแค่การก้าวเท้าหนึ่งก้าวก็ทําให้ร่างของนางเคลื่อนไหวเข้ามาใกล้ได้ อย่างรวดเร็ว

 

“อํานาจแห่งกฎเกณฑ์ห้วงมิติ!” ทุกคนอุทานออกมาก่อนจะยกมือกุมหัวด้วยสีหน้าตกตะลึง “ราชานิรันดร์!” 

 

การที่สามารถซัดปรมาจารย์ระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแทําได้อย่างง่ายดายในหนึ่งกระบวนท่านั้น ในยุทธภพนี้ นอกจากราชานิรันดร์ก็ไม่มีใครอื่นแล้ว นอกจากนั้นรอบกายของสตรีผู้นี้ก็ยังปรากฏคลื่นแสงแห่งเต๋าทั้งสี่สีซึ่งเป็นตัวบ่งบอกว่านางคือราชานิรันดร์ระดับสี

 

“หญิงชราอัปลักษณ์ ในที่สุดเจ้าก็มาสักที!” ฮูหนิวเค้นเสียง

 

ราชานิรันดร์ที่ปรากฏตัวคือหวไห่หรง

 

นางได้ยินเรื่องราวที่หลิงฮันกับจอหมิงสังหารพวกเทียนชิงเต่จึงได้รีบมาที่นี่ อันที่จริงสําหรับนางแล้วการจะมาที่นี่ได้ไม่จําเป็นต้องใช้เวลานาน แต่ที่นางมาช้าก็เพราะข่าวเพิ่งถึงหูนางเมื่อวันก่อนนี้

 

“คารวะผู้อาวุโส” หลิงฮันผสานมือเคารพ

 

หวไห่หรงอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว หลิงฮันสร้างปัญหาได้เก่งจริงๆ ที่ไปล่วงเกินขุมอานาจยักษ์ใหญ่ถึงสุขุมอํานาจพร้อมกัน ถึงแม้ขุมอํานาจเหล่านี้จะเป็นขุมอํานาจราชานิรันดร์ระดับแปดที่ไม่สามารถเทียบกับตําหนักมัจฉาวายุภักษ์ได้ แต่ตําหนักมัจฉาวายุภักษ์ในตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่สู้ดีเท่าไหร่จึงไม่อาจเป็นศัตรูกับขุมอ่านาจมากมายได้

 

“คารวะผู้อาวุโส!” ทันใดนั้นทุกคนรอบด้านก็โค้งตัวคารวะ

 

“ผู้อาวุโส!” สื่อเหิงลบท่าที่หยิ่งยโสและคารวะหรี่ไร่หรง “เจ้าหนูนั่นสังหารผู้สืบทอดของข้า ไม่ทราบว่าท่านกับเขามีความเกี่ยวข้องกันแบบใด?”

 

คําพูดของเขามีความหมายว่าหากหวไห่หรงกับหลิงฮันมีความสัมพันธ์ที่สนิทชิดเชื้อ อีกฝ่ายก็ไม่สมควรเข้ามายุ่มย่าม

 

ทําไมสื่อเหิงถึงกล้ามีทัศนคติเช่นนี้น่ะรี?

นั่นเพราะหวู่ไห่หรงเป็นเพียงราชานิรันดร์ระดับสี่ ในขณะที่นิกายอีกาทองค่านั้นเป็นขุมอํานาจราชานิรันดร์ระดับแปด

 

แน่นอนว่าหวีไฟหรงไม่ชอบให้หลั่งฮันถูกสังหารได้ เหตุผลแรกคือซูหนิวย่อมไม่ปล่อยให้นางนิ่งเฉยแน่ และ เหตุผลที่สองคือหลิงฮันเป็นผู้สืบทอดของผู้อาวุโสท่านนั้นซึ่งมีความใกล้ชิดกันกับตําหนักมัจฉาวายุภักษ์ นาง จึงไม่สามารถเมินเฉยปล่อยผ่านไปได้

 

นางกล่าวด้วยท่าที่เรียบเฉย “ข้ามีความเกี่ยวกับแบบใดกับเขาเจ้ามีคุณสมบัติตั้งค่าถามงั้นรี? ในเมื่อข้ายื่นมือเข้ามาแล้วเจ้าก็จงไสหัวไป!”

 

ราชานิรันดร์ไม่จําเป็นต้องอดทนต่อจอมยุทธระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ แต่เนื่องจากตําหนักมัจฉาวายุภักษ์ ในตอนนี้มีศัตรูที่ทรงพลังอยู่แล้วจึงไม่ควรแส่หาศัตรูมาเพิ่ม

 

สื่อเหิงดวงตาส่องประกาย การที่หวไห่หรงไม่ลงมือกับเขาตรงๆ แต่เลือกที่จะอดทนพูดตอบโต้เช่นนี้ หมายความว่าอีกฝ่ายกังวลผลที่จะตามมาจากการเป็นศัตรูกับนิกายอีกาทองค่าอยู่เหมือนกัน

 

เขากล่าวกลับไปอีกครั้ง “ผู้อาวุโส ผู้สืบทอดที่นิกายของข้าฟูมฟักมานั้นมีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมและเป็นที่โปรดปรานของท่านประมุขเป็นอย่างมาก ตอนนี้เมื่อเขาถูกใครบางคนสังหาร ผู้อาวุโสคิดว่าท่านประมุขของข้าจะยอมรับความไม่เป็นธรรมเช่นนั้นได้งั้นรี!”

 

ไม่ยุติธรรม?

 

ทั้งๆ ที่พวกเที่ยนชิงเต่ทั้งสี่คนร่วมมือกับรุมสังหารหลิงฮันกับอู่หมิงน่ะ? เพียงเพราะว่าหลิงฮันกับอู่หมิงนั้นแข็งแกร่งพอทั้งสองจึงได้พลิกสถานการณ์กลับมาชนะได้ก็เท่านั้น

 

หวีไห่หรงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่นางจะยอมรับคําขู่จากจอมยุทธระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้ ใบหน้าของนางกลายเป็นเย็นชาและกล่าวกลับไป “พูดพล่ามอะไรไร้สาระอยู่ได้?”

 

“โปรดคิดให้ดีอีกครั้ง!” สื่อเหิงผสานมือทําตัวให้ดูต่ําต้อยทําให้หวไห่หรงลงมือได้ยากล่ามากขึ้น

 

“หุบเขาเมฆาสลายของข้าก็มีความเห็นตรงกัน” อ้ายอวลอยกลับมา เส้นผมของนางในตอนนี้กระเซอะกระเซิงเป็นอย่างมากแถมมุมปากก็ยังปรากฏคราบโลหิตเล็กน้อย นางไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสใดจากฝ่ามือเมื่อครู่ แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะพลังของนางแข็งแกร่งแต่เพราะหวไห่หรงยั้งมือเอาไว้

 

จิตสังหารของหวู่ไห่หรงสั่นเครือเล็กน้อย จอมยุทธระดับข้ามผ่านต้นกําเนิดแท้สองคนนี้กล้าข่มขู่นางอย่างนั้นรึ? คิดว่านางไม่กล้าลงมือสังหารหรืออย่างไร?

 

ถึงแม้ตําหนักมัจฉาวายุภักษ์ในตอนนี้จะเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่อยู่แต่ก็ยังมีราชานิรันดร์ระดับเก้าคอยปกครอง ต่อให้ราชานิรันดร์ระดับเต๋าที่ว่าบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน การจะสังหาราชานิรันดร์ระดับแปดก็ยังเป็นไปได้อยู่ดี

 

“เหอๆ ข้าแนะนําว่าสหายควรคิดให้คิดให้ดีก่อนจะลงมือ” เสียงหัวเราะดังขึ้นพร้อมกับชายผู้หนึ่งได้ปรากฏตัว ร่างของคนผู้นี้ถูกห้อมล้อมไปด้วยคลื่นแสงแห่งเต๋สีคลื่นเช่นกัน

 

ราชานิรันดร์อีกคน!