บทที่ 1201 สงครามแดนเหนือมนุษย์

The king of War

ซ่างกวนโหรวก็มองหยางเฉินเป็นครั้งสุดท้ายด้วยแววตาที่เหลือเพียงความเสียดาย จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป

เพียงครู่เดียวภายในโรงเรียนศิลปะการต่อสู้เยี่ยนตูก็เหลือเพียงหยางเฉินและหวางจ้านสองคน

ในเวลานี้พลังอันพลุ่งพล่านได้ปกคลุมไปทั่วร่างกายของหยางเฉิน มีเพียงความเยือกเย็นสุดขีดภายในดวงตาสีแดงก่ำ

สีหน้าท่าทางโหดเหี้ยมอำมหิตของเขาเหมือนปีศาจร้ายที่มาจากนรก

นัยน์ตาสีแดงเข้มของเขาจับจ้องไปที่หวางจ้าน พร้อมกับเดินเข้าไปทีละก้าว

ทุกย่างก้าวทำให้โรงเรียนศิลปะการต่อสู้สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง พื้นใต้ฝ่าเท้าของเขาแทบกลายเป็นผุยผงในชั่วพริบตา

“ไป!”

หลังจากหยางเฉินเดินไปไม่กี่ก้าวก็หยุดลงในที่สุด ดวงตาสีแดงก่ำจับจ้องไปที่หวางจ้าน คำรามด้วยความโกรธ

ตอนนี้เขารู้สึกได้ว่ากำลังอันเข้มแข็งของตัวเองได้แผ่วลงจนเหมือนลูกธนูตอนปลายแล้ว และกำลังจะแตกสลายลงได้ภายในชั่วพริบตา

ตอนนี้เขากระหายเลือดมาก ต้องการฆ่าทุกคนให้หมด

ถ้าหวางจ้านไม่ออกไป เขาอาจจะสูญเสียการควบคุมและฆ่าหวางจ้านได้ในวินาทีถัดไป

หวางจ้านไม่ไปไหน เวลาที่มองไปทางหยางเฉิน สายตานั้นสงบนิ่ง เขามองหยางเฉินอย่างเงียบๆ และทันใดนั้นก็พูดขึ้นว่า “เสียวหว่าน เธอเป็นคนดีจริงๆ ในใจผม เธอเป็นเหมือนหลานสาว”

“เธอมีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม เมื่อทักษะทางการแพทย์ของเธอถูกเปิดเผย ผมเกรงว่าเธอจะถูกกองกำลังระดับสูงจำนวนมากเพ่งเล็ง”

“ผมหวังว่า คุณจะสามารถปกป้องเธอได้เป็นอย่างดี อย่าปล่อยให้เธอได้รับบาดเจ็บเด็ดขาด”

คำพูดที่ถ่ายทอดออกมาอย่างกะทันหันของหวางจ้าน เหมือนเป็นคำสั่งเสีย

หยางเฉินผู้ที่กำลังจะคลุ้มคลั่งเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้นมา

“ไป!”

“ได้โปรดออกไปซะ!”

หยางเฉินตะโกนด้วยสีหน้าเจ็บปวด

เขาไม่รู้ว่าหวางจ้านคิดจะทำอะไร แต่ก็รู้ว่าหวางจ้านกำลังสั่งเสียอยู่

“ใจเย็น! ใจเย็นก่อน!”

หยางเฉินเอามือกุมศีรษะ ตะโกนดังลั่นด้วยความเจ็บปวดอย่างที่สุด

เขาพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อทำให้ตัวเองสงบลง แต่ฤทธิ์ยาสมบูรณ์แบบที่ยังหลงเหลืออยู่ในร่างกายของเขานั้นรุนแรงเกินกว่าจะสงบลงได้

ไม่เพียงเท่านั้น ลมปราณที่รุนแรงภายในร่างกายของเขายังกลับทวีความรุนแรงขึ้นอีกด้วย

“อา…”

ทันใดนั้นเขาก็คำรามและกระทืบเท้าลงบนพื้น

“ตึง!”

คนทั้งโรงเรียนศิลปะการต่อสู้เยี่ยนตูล้วนตกตะลึง

พลังอันแข็งแกร่งทำให้ภายในโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ทั้งหลังกลายเป็นฝุ่นผง

ในขณะนี้เอง ยาที่บรรจุในขวดแก้วก็ปรากฏขึ้นในมือของหวางจ้าน เขากลืนมันลงไปในอึกเดียว

ลมปราณแห่งวิถีบู๊ของเขาก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าในทันใด

แดนเทพชั้นกลาง!

แดนเทพขั้นปลาย!

แดนเทพชั้นยอด!

กึ่งแดนเหนือมนุษย์!

แดนเหนือมนุษย์ขั้นต้น!

หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ ลมปราณแห่งวิถีบู๊ของหวางจ้านก็พุ่งสูงขึ้นในชั่วพริบตา จากแดนเทพชั้นกลางผ่านสี่ระดับติดต่อกันจนถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นต้น

ไม่มีใครรู้ว่าร่างกายของหวางจ้านได้รับความเจ็บปวดและกดดันมากเพียงใดในเวลานี้

“เข้ามาสิ!”

เมื่อรู้สึกถึงพลังที่มีอยู่เต็มร่างกาย หวางจ้านก็คำรามเสียงลั่น

แม้ว่าชั่วชีวิตนี้เขาจะไม่มีโอกาสทะลวงสู่แดนเหนือมนุษย์ แต่ก่อนตายก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของแดนเหนือมนุษย์ ยิ่งไปกว่านั้นยังได้ตายเพื่อหยางเฉิน ก็สามารถนอนตายตาหลับได้แล้ว

ย้อนเวลากลับไปเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อน ก่อนที่เขาจะมาที่โรงเรียนศิลปะการต่อสู้

หวางจ้านมาคลินิกอ้ายหมินเร็วเหมือนเช่นเคย

แต่ก่อนที่เขาจะเข้าไปในคลินิกอ้ายหมิน เงาร่างชายวัยกลางคนก็ปรากฏขึ้นข้างหลังเขา “คุณหวัง เดี๋ยวก่อน!”

เสียงที่โพล่งออกมาอย่างกะทันหัน ทำให้หวางจ้านเหงื่อออกด้วยความตกใจ

เมื่อหันกลับไปก็เห็นชายวัยกลางคนสวมเสื้อผ้าเรียบๆ สวมแว่นตากรอบดำหนาเตอะ มองมาที่เขาด้วยรอยยิ้ม

“คุณเป็นใคร?”

หวางจ้านดูระมัดระวัง

เขาไม่รู้สึกถึงลมปราณแห่งวิถีบู๊ใดๆ จากชายวัยกลางคนผู้นี้เลย แต่อีกฝ่ายสามารถปรากฏกายขึ้นข้างหลังเขาอย่างเงียบๆ นี่คือสิ่งที่คาดไม่ถึง

ต่อให้เป็นคนธรรมดาที่ไม่มีลมปราณแห่งวิถีบู๊ หากปรากฏกายขึ้นข้างหลังเขา ไม่มีทางที่เขาจะไม่รู้สึก

แต่การปรากฏกายชายวัยกลางคนผู้นี้ เขาสัมผัสไม่ได้เลยจริงๆ

หวางจ้านยังสัมผัสได้ถึงภยันตรายที่รุนแรงจากชายคนนี้เช่นกัน

“คุณเรียกผมว่าดอกเตอร์แบล็กก็ได้!”

ชายวัยกลางคนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ดอกเตอร์แบล็ก!”

หวางจ้านหน้าถอดสีทันที

แน่นอนว่าเขาย่อมรู้จักชื่อนี้ เคยได้ยินหยางเฉินพูดถึงดอกเตอร์แบล็กตั้งแต่ตอนที่หยางเฉินช่วยหม่าชาวมาจากสนามรบต่างแดนแล้ว

อาจกล่าวได้ว่าเหตุผลที่ทำให้หยางเฉินเกิดบ้าคลั่งเช่นนี้ก็เพราะดอกเตอร์แบล็กได้ให้ยาสมบูรณ์แบบแก่เขา แม้แต่เฝิงเสียวหว่านก็ไม่สามารถกำจัดยาสมบูรณ์แบบในร่างกายของหยางเฉินได้

“ไอ้สารเลว! แกกล้าดียังไงที่มาที่นี่!”

หวางจ้านกัดฟันกรอด

จากนั้นเขาก็สาวเท้าปรี่เข้าไปหาดอกเตอร์แบล็ก

แต่ทันทีที่เขาขยับตัว ก็พบว่าลำคอของเขาถูกคว้าไว้ ร่างของเขาถูกยกขึ้นไปในอากาศ

เขาตกใจมากที่พบว่าคนที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวตรงหน้า คว้าลำคอไว้ด้วยมือข้างหนึ่งแล้วยกเขาขึ้นไปในอากาศคือดอกเตอร์แบล็ก

“ผมมาหาคุณไม่ได้ต้องการจะฆ่าคุณ แค่จะมอบหมายภารกิจหนึ่งให้คุณเท่านั้น”

ดอกเตอร์แบล็กพูดอย่างใจเย็น “บอกตามตรง การแข่งขันศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองเยี่ยนตูเป็นเพียงแผนการหนึ่งที่ผมวางไว้ ทุกอย่างก็เพื่อหยางเฉิน”

“พอถึงเวลานั้น ผมจะกระตุ้นยาสมบูรณ์แบบในร่างกายของหยางเฉิน และในตอนนั้น เขาจะค่อยๆ สูญเสียสติสัมปชัญญะ ก่อนที่เขาจะเสียสติไปจนหมด มีเพียงคุณเท่านั้นที่มีโอกาสช่วยชีวิตเขาได้”

“นี่เป็นยาวิเศษที่ผมพัฒนาขึ้น เมื่อยอดฝีมือแดนเทพใช้มัน ระดับวิถีบู๊ก็จะพุ่งทะยานขึ้นสู่แดนเหนือมนุษย์ภายในไม่กี่วินาที”

“แต่เมื่อคุณกินยาวิเศษแล้ว คุณจะมีโอกาสช่วยชีวิตแค่สิบนาที”

“สิ่งที่ผมต้องการให้คุณทำก็คือ กินยานี้ในขณะที่หยางเฉินกำลังจะขาดสติ แล้วต่อสู้กับหยางเฉินด้วยความสามารถเหนือมนุษย์”

“เมื่อหยางเฉินปลดปล่อยพลังอันรุนแรงจากภายในร่างกายเท่านั้น เขาถึงจะสามารถฟื้นคืนสติได้ เข้าใจไหม?”

พูดจบดอกเตอร์แบล็กก็ปล่อยมือ หวางจ้านร่วงลงกับพื้น แววตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง

เมื่อเขาได้สติกลับมา ดอกเตอร์แบล็กก็หายตัวไป และขวดแก้วที่มียาวิเศษบรรจุอยู่ก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา

เดิมทีเขาคิดว่าจะไม่ได้ใช้ยานี้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้ใช้

หลังจากกินยาวิเศษเข้าไป ศักยภาพของเขาก็พุ่งทะยานสู่แดนเหนือมนุษย์ทันที ในเวลานี้ทั่วทั้งร่างของเขากลายเป็นสีแดงฉาน เส้นเลือดบนผิวหนังปูดโปน

ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นปีศาจที่มาจากนรกด้วย

“ฮึ่ม!”

หยางเฉินไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เป็นเวลานานแล้ว เมื่อสัมผัสถึงพลังที่น่าสะพรึงกลัวจากตัวหวางจ้าน เขาก็รีบวิ่งออกไป

ในขณะนี้หวางจ้านก็ไม่ลังเลใดๆ อีกแล้ว เขาเหวี่ยงหมัดออกไป

“โครม!”

ทั้งสองคนเข้าโจมตีปะทะกัน พลังทำลายล้างแผ่ขยายไปทั่วทุกทิศทาง

“ตูมๆๆ!”

สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงเรียนศิลปะการต่อสู้เยี่ยนตูถูกทำลายลงทันทีจากการปะทะกันอย่างรุนแรงของทั้งสองคน

และพื้นดินใต้ฝ่าเท้าของพวกเขาก็กลายเป็นฝุ่นผงในพริบตา