ตอนที่ 1482: จิตวิญญาณหอคอยตกตะลึง

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1482: จิตวิญญาณหอคอยตกตะลึง

โลกของชั้นสองนั้นสมบูรณ์กว่ามาก แม้ว่าขอบของชั้นสองจะมีกระบี่ทั้งสี่ของจอมปราชย์อมตะสวรรค์ซึ่งกำลังบินโฉบอยู่ในที่มืด แต่โลกที่เหลือยังคงมีภูเขาและแม่น้ำอยู่บ้าง เจี้ยนเฉินยังพบทะเลอีกด้วย

ภูเขาโล้นเตียนและแม่น้ำก็แห้งแล้ง แม้แต่ทะเลก็ถูกลดขนาดลงเป็นแอ่งน้ำขนาดเล็ก

เจี้ยนเฉินยังเจอเมืองต่าง ๆ แต่ละเมืองใหญ่กว่าเมืองหลวงในทวีปเทียนหยวนมากมาย กำแพงเมืองที่เสียหายตั้งสูงหลายพันเมตรขึ้นไปถึงท้องฟ้า ในขณะที่เมืองนั้นเต็มไปด้วยโครงกระดูกมนุษย์ โครงกระดูกบางชิ้นมีรอยฉีกขาดจากชีวิตในอดีต เจี้ยนเฉินกระโดดด้วยความตกใจทันทีเมื่อเขาสัมผัส แต่ไม่ว่าเจ้าของเดิมจะทรงพลังเพียงใด โครงกระดูกก็ผุกร่อนไปตามกาลเวลา รวมถึงทุกสิ่งที่พวกเขาเคยครอบครอง

ไม่ใช่ว่าสิ่งของในที่นี้ไม่สามารถทนต่อการผุกร่อนของเวลาได้ แต่หอคอยอนัตตาได้รับความเสียหาย พวกมันได้รับความทุกข์ทรมานจากผลกระทบและได้รับความเสียหายในสงครามครั้งใหญ่

เมื่อเจี้ยนเฉินมาถึงเมืองใหญ่อีกเมืองหนึ่ง กระบี่ม่วงฟ้าก็มีชีวิตชีวาขึ้นมา เสียงของจือหยิงดังขึ้นในหัวของเขา

เจอแล้วนายท่าน จิตวิญญาณซ่อนตัวอยู่ในเมืองข้างหน้า”

ขณะจือหยิงพูด พื้นดินก็เริ่มสั่นไหว กำแพงเมืองที่เสียหายพังทลายลงทันที ทำให้เกิดฝุ่นตลบอบอวลในอากาศ

“กระบี่แห่งหยินและหยาง เจ้าช่างน่าเวทนาเหลือเกิน ข้าจะจัดการเจ้าเอง ! ” เสียงคำรามโกรธก้องกังวานจากเมืองข้างหน้า เด็กชายชุดแดงบินออกมาจากเมืองอย่างดุเดือด มีประกายเรืองรองในดวงตาของเขา เขาดูดุร้าย

เด็กชายรับรู้ได้ว่าจิตวิญญาณกระบี่ค้นพบว่าเขาอยู่ที่ไหน แม้ว่าเขาจะอ่อนแอมาก เจี้ยนเฉินก็จะไม่สามารถพบเขาได้ในหอคอยอนัตตาหากเขาซ่อนตัวอย่างดี อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถซ่อนจากจิตวิญญาณกระบี่ได้ ตำแหน่งของเขาถูกจิตวิญญาณกระบี่ค้นพบทั้งชั้นหนึ่งและชั้นสอง ดังนั้นเขาจึงเกลียดชังจิตวิญญาณกระบี่อย่างมาก

เมื่อเด็กชายทะยานเข้ามา พลังในหอคอยอนัตตาก็พุ่งขึ้นทันที คราวนี้,เจี้ยนเฉินรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของเด็กชายอย่างชัดเจน จริง ๆ แล้วเขาแข็งแกร่งกว่าเด็กชายในชั้นหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินก็ไม่รู้สึกกลัว เขาเฉือนออกไปและซัดการโจมตีด้วยความเข้าใจเส้นทางแห่งกระบี่ เศษพลังงานจากเส้นทางที่พุ่งทะยานเข้าใส่หัวของเด็กชาย

“แช่แข็ง โลก ! ” เด็กชายตะโกนออกมา ทันทีที่เขาพูดจบ เวลาในโลกที่เจี้ยนเฉินยืนดูเหมือนจะหยุด แม้แต่อากาศก็ดูเหมือนจะหยุดเคลื่อนไหวเช่นกัน ทุกสิ่งทุกอย่างหยุดนิ่งในขณะนั้น

เจี้ยนเฉินหยุดชะงัก เขาถูกแช่แข็งในขณะที่แกว่งกระบี่ เขาไม่สามารถขยับได้เลย กระบี่ม่วงฟ้าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เช่นกัน แสงรุ่งโรจน์ที่มันปล่อยออกมานั้นก็แข็งตัวเช่นกัน

นอกจากนี้มันยังแช่แข็งมิติ แต่ความสามารถของเด็กชายชุดแดงไม่สามารถเทียบได้กับเซียนราชาหรือเซียนจักรพรรดิ มิติที่แช่แข็งทำให้เจี้ยนเฉินติดกับและ ยังสามารถดักจับปราณกระบี่ได้ด้วย

กระบี่ทั้งสี่ที่อยู่ในขอบเขตของชั้นที่สองสั่นสะเทือนเบา ๆ มิติแช่แข็งรอบ ๆ เจี้ยนเฉินกลับมาเหมือนเดิม ทันทีที่เขาฟื้นพลังในการเคลื่อนไหว เขาก็เห็นแสงสีแดงไหลลงมาจากท้องฟ้าสร้างกรงรอบตัวเขาและกระบี่ม่วงฟ้า

พลังลึกลับแทรกซึมอยู่ในกรง มันจำกัดพลังของเจี้ยนเฉิน ทำให้เขารู้สึกว่าการใช้พลังเต็มร้อยนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ พลังบรรพกาลภายในตัวเขาไหลเวียนช้าผิดปกติเช่นกัน

“กระบี่แห่งหยินและหยาง ข้าไม่สามารถฆ่าเจ้าได้ แต่ข้าก็สามารถยับยั้งเจ้าได้” เด็กชายชุดแดงคำราม จารึกลึกลับลอยอยู่เบื้องหน้าเขา. จากนั้นเขาก็ส่งมันไปยังกระบี่จือหยิงและกระบี่ฉิงโซวด้วยความเร็วเหมือนสายฟ้าในความพยายามที่จะบังคับให้จารึกเข้าไปในกระบี่

กระบี่ทั้งสองสว่างขึ้นและต่อต้านด้วยพลังเต็มที่ แต่สำหรับความประหลาดใจของเจี้ยนเฉิน เขาสูญเสียการควบคุมกระบี่ทั้งสอง เขาจึงใช้นิ้วรวมปราณกระบี่ส่วนหนึ่งและแทงเข้าไปที่เด็กชาย

“ให้ตายสิ ! ” เด็กชายกำลังยุ่งอยู่กับการปราบปรามกระบีนภา ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการใช้เวลามากเกินไปในการจัดการกับเจี้ยนเฉิน เขาปะทะการโจมตีของเจี้ยนเฉิน เขาไม่ได้พยายามหลีกเลี่ยงเลย เขายกกำปั้นขวาขึ้นมาแล้วเหวี่ยงมันเข้าใส่เจี้ยนเฉิน

ปราณกระบี่ของเจี้ยนเฉินกระจัดกระจายไปเพราะหมัดของเด็กชาย ถึงอย่างนั้นกำปั้นก็ไม่ได้ช้าลงเท่าไหร่ มันกระแทกลงบนหน้าอกของเจี้ยนเฉิน และหลังจากเสียงดังอึกทึก เจี้ยนเฉินก็ปลิวไปจากกรงแห่งแสงสว่าง มือขวาของเด็กชายก็หายไปเช่นกัน

วินาทีต่อมา แขนใหม่ก็งอกออกมาจากร่างของเด็กชาย เด็กชายคนนั้นหมองลงอย่างชัดเจนเมื่อแขนใหม่ปรากฏขึ้น

เจี้ยนเฉินพ้นจากการกักขังทันทีที่เขาออกจากขอบเขตของแสงสีแดง เขารวบรวมปราณกระบี่ด้วยนิ้วและโจมตีกรงแสงสีแดงจากด้านนอก มันสั่นอยู่ตลอดเวลาภายใต้การโจมตีของเขา

เด็กชายชุดแดงใช้พลังทั้งหมดสู้กับกระบี่ม่วงฟ้าภายในกรงแสงสีแดง เขาพูดด้วยใบหน้าที่ดุร้ายว่า “กระบี่แห่งหยินและหยาง เมื่อข้าปราบปรามเจ้าได้สำเร็จ ข้าจะโยนเจ้าลงไปในมิติที่ถูกกระบี่ทั้งสี่จากเจ้านิพพานบัดซบนั่น ข้าอยากจะดูว่าเจ้าจะกลับมาอย่างไร หากเจ้ามดนั่นไม่ได้ความช่วยเหลือจากเจ้า ข้าคงจะไม่ต้องใช้ความพยายามใด ๆ ในการฆ่ามัน ยังไงซะนี่คืออาณาเขตของข้า ข้าคือปกครองสูงสุดภายในอาณาเขตของข้า”

“จิตวิญญาณหอคอย ระดับพลังของเจ้าไม่สามารถฆ่านายท่านได้หรอก หอคอยอนัตตานี้จะช่วยนายท่านได้อย่างดีเยี่ยม และเขาก็มาด้วยความตั้งใจที่เอามันไปให้ได้ วิธีเดียวที่เจ้าจะอยู่รอดได้คือยอมจำนนต่อนายท่าน” จือหยิงพูดเกลี้ยกล่อม นางใช้ทุกสิ่งที่มีต่อต้านการปราบปรามของเด็กชาย

” ฮ่าฮ่าฮ่า,กระบี่แห่งหยินและหยางเจ้าบ้าไปแล้วเหรอ? เจ้าต้องการให้ฉันยอมแพ้ต่อมด,” เด็กชายหัวเราะดัง.เสียงของเขาเต็มไปด้วยความรังเกียจและถากถาง.

จิตวิญญาณหอคอย ฉิงโซวและข้าเกิดในจักรวาลและเปลี่ยนร่างจากปราณหยินและหยาง เจ้าก็เกิดมาจากจักรวาลและแปลงร่างเป็นเส้นทางในโลก เราไม่ต้องการเห็นเจ้าตายที่นี่เช่นกัน นายท่านอาจยังอ่อนแอ แต่เขาไม่ได้ง่ายอย่างที่เจ้าจินตนาการไว้ จิตวิญญาณหอคอย เจ้าต้องรู้ว่าไม่ว่าเจ้าจะแข็งแกร่งขนาดไหนถึงแม้ว่าเจ้าจะถึงจุดสูงสุดของอัครสูงสุดหรืออมตะเที่ยงแท้ เจ้าก็จะไม่สามารถตรวจพบได้ มีแต่จิตวิญญาณของเราเท่านั้นที่เกิดมาจากจักรวาล ใช้ความสามารถนั้นและมองเจ้านายของเรา ข้าเชื่อว่าเจ้าจะสามารถมองเห็นอนาคตได้” จือหยิงกล่าวอย่างจริงใจ

“หืมม มดยังไงก็เป็นมดอยู่วันยังค่ำ ดังนั้นถ้าเขาไม่ธรรมดา ? เขาจะกลายเป็นจอมปราชญ์สูงสุดของโลกอมตะและดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับจอมปราชญ์สูงสุดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกอมตะ เจ้านิพพานบัดซบนั่น เขาก็ตายไปในตอนท้ายเช่นกัน” เด็กชายหัวเราะเยาะ เขาไม่ได้สนใจเจี้ยนเฉินเลย แต่เขาก็ยังอยากที่จะเหลียวมองไปที่เจี้ยนเฉิน

การจ้องมองครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการสังเกต เขาใช้ความสามารถพิเศษของเขาในฐานะจิตวิญญาณในการมองเห็นอนาคตของใครบางคน

ใบหน้าของเด็กชายเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดหลังจากนั้น ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกใจและไม่เชื่อ

” ไม่..เป็นไปไม่ได้..สิ่งนี้เป็นไปไม่ได้..มันถูกห้าม โลกไม่สามารถอนุญาตให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ มันไม่ควรเกิดขึ้น … “