“เช่นนั้นหรือ?”
เย่หยวนส่งแรงลงในมือจนทำให้หญิงสาวนางนี้ต้องกระอักเลือดออกมาอย่างรุนแรง
เมื่อองค์ชายรองและองค์จักรพรรดิได้เห็นเช่นนั้นสีหน้าของพวกเขาก็ขาวซีดลงทันที
ให้ตายสิ!
เย่หยวนคนนี้ไม่เคยจะยอมใครจริงๆ
เท่านี้มันก็คงเป็นการลบหลู่ท่านทูตจนถึงแก่นแล้ว
เฉิงฉงชานหน้าซีดขาวกล่าวขึ้นมา “ไอ้เด็กคนนี้ เจ้ากล้า?!”
เย่หยวนตอบกลับไป “กล่าว… ขอโทษ!”
เฉิงฉงชานหรี่ตาจ้องมองอย่างร้อนรุ่มแต่เขาก็กัดฟันหันไปหาหลินหลานทันที “ข้าจะขอโทษก็ได้ แต่เจ้าคิดว่าจะรับมันไว้ได้หรือ?”
หลินหลานค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นมาก่อนจะหันไปมองเย่หยวนด้วยสายตาหวาดกลัว “อาจารย์ ทำไมเรา…”
แต่เย่หยวนนั้นกลับพูดขึ้นมาขัดหลินหลาน “ศิษย์ของเย่หยวนคนนี้ไม่มีใครจะเหยียบย่ำได้! หากเจ้าคิดว่าตัวเองไม่อาจรับคำขอโทษนี้ไว้ได้ก็จงไปให้พ้นหน้าข้าเสีย!”
หลินหลานสั่นสะท้านไปทั้งกายก่อนจะนึกย้อนกลับไปถึงเรื่องของตระกูลถังขึ้น
อาจารย์ของเขานั้นไม่คิดเกรงกลัวใคร!
ต่อให้อีกฝ่ายจะเป็นจักรพรรดิหยกเองก็ไม่มีทางที่เขาจะยอมก้มหัวให้!
หลินหลานรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในจิตใจทันที
อาจารย์เช่นนี้ย่อมจะควรค่าติดตามไป!
เมื่อตัดสินใจได้เขาจึงหันหน้าไปตอบเฉิงฉงชาน “เจ้าขอโทษมาเถอะ เฒ่าคนนี้รับมันไว้ได้!”
เฉิงฉงชานกัดฟันแน่นก่อนจะกล่าวขึ้นมา “ดี! ดีมาก! ทูตผู้นี้อยากจะรู้ว่าขยะอย่างเจ้าจะแบกรับมันไว้ได้อย่างไร! ข้า ขอ โทษ!”
หลินหลานตอบกลับไป “ไม่ เป็น ไร! แล้วก็ข้านั้นมิใช่ราชครูแล้ว อาจารย์ของข้านั้นต่างหากคือราชครู! ข้าช่วยพวกเขาไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่าอาจารย์ของข้าจะช่วยไม่ได้!”
เฉิงฉงชานหรี่ตาลงหันไปมองหน้าเย่หยวนทันที
ตอนแรกที่เขาเห็นหลินหลานเขาย่อมจะลืมมองเย่หยวนที่เดินนำหน้ามาสิ้น
มีหรือที่นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นกลางคนหนึ่งจะมาเป็นราชครูได้?
“เหลวไหล! ข้าได้ยินมาว่าราชครูของอาณาจักรตะวันออกนั้นมันคือนักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสอง มีหรือที่มันจะกลายเป็นมันได้?” เฉิงฉงชานร้องขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดังลั่น
หลินหลานจึงตอบกลับไป “หลายปีก่อนนั้นเฒ่าคนนี้ได้วางเดิมพันกับท่านอาจารย์และพ่ายแพ้ลงในที่สุด ตั้งแต่วันนั้นมาข้าก็นับถือกราบท่านเป็นอาจารย์ ตำแหน่งราชครูใดๆ นี้เองก็ย่อมจะต้องตกเป็นของท่านด้วย!”
พวกเฉิงฉงชานทั้งสามนั้นเอาแต่สนใจกับสุสานโบราณนั้นจนไม่ได้สนใจเลยว่าโลกภายนอกมันเกิดเรื่องราวใหญ่โตใดๆ ขึ้นมาบ้าง
นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับสองนั้นกลับก้มหัวกราบนักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยขั้นกลางเป็นอาจารย์ ทั้งคนผู้นั้นยังเป็นแค่ผู้บรรลุสวรรค์!
ทางเฉิงฉงชานที่ได้ยินก็หัวเราะลั่นขึ้นมา “ขยะ เจ้าจะล้อข้าเล่นแล้ว? เจ้าเด็กคนนี้มันเป็นแค่ผู้บรรลุสวรรค์ มีหรือมันจะเป็นนักหลอมโอสถสวรรค์ไปได้? ข้าว่าคนอาณาจักรตะวันออกเจ้านี้คงเบื่อที่จะมีชีวิตกันเต็มที่แล้ว!”
เมื่อคำพูดเหล่านี้ถูกกล่าวทางองค์ชายรองก็หน้าซีดขาวลงทันที
ดูท่าตัวเฉิงฉงชานคงโกรธเคืองจนถึงที่สุดแล้ว!
“ข้าไม่รู้หรอกว่ามีใครเบื่อชีวิตบ้าง แต่เจ้านั้นคงเบื่อชีวิตแล้ว!” เย่หยวนกล่าวขึ้นมา
เฉิงฉงชานหัวเราะขึ้น “ผู้บรรลุสวรรค์ เจ้าคิดขู่ทูตผู้นี้? เจ้ารู้หรือไม่ว่าทูตผู้นี้เป็นใคร?”
เย่หยวนจึงตอบกลับไป “เจ้าเป็นใครมันไม่เกี่ยวกับข้า ข้านั้นรู้แค่ว่าอาการของเจ้ามันอันตรายกว่าคนทั้งสองนี้มากล้น ไม่เกินสามวันจากนี้เจ้าจะได้ตายลงอย่างไม่ต้องสงสัยแน่!”
เมื่อคำพูดนี้ถูกกล่าวสีหน้าของทุกผู้คนก็ต้องเปลี่ยนสีไปตามๆ กัน
เฉิงฉงชานมีคลื่นพลังสุดแสนเต็มเปี่ยม ไม่ได้มีท่าทางเหมือนคนป่วยหรือถูกพิษร้ายใดๆ มีหรือที่เขาจะตายลงได้?
เฉิงฉงชานหัวเราะลั่นขึ้นมา “เด็กน้อย เจ้าคิดขู่ข้าหรือ? เจ้าคิดว่าทูตผู้นี้กลัวคำคนมากหรือ? ที่สำคัญไปกว่านั้นเจ้าคิดว่าผู้บรรลุสวรรค์อย่างเจ้านั้นมันจะมีดีอะไรมากล้าพูดเรื่องการโอสถต่อหน้าข้าคนนี้?”
เย่หยวนนั้นยักไหล่ตอบกลับไปด้วยท่าทางไม่คิดต่อล้อต่อเถียงด้วย
แต่ในเวลานั้นเองที่หญิงสาวที่เย่หยวนทำให้กระอักเลือดเมื่อครู่ได้สะดุ้งตัวตื่นขึ้นมา
เฉิงฉงชานหน้าเปลี่ยนสีไปทันทีก่อนจะวิ่งเข้าไปหานางด้วยใบหน้าตื่นเต้นดีใจ
“ศิษย์น้องหวู่ชวง เจ้าตื่นแล้ว! ป-เป็นอย่างไรบ้าง?” เฉิงฉงชานกล่าวถาม
หวู่ชวงนั้นมีระดับปราณเทวะ พลังกายและจิตที่ดีกว่าก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัด นางจึงพยักหน้าตอบกลับมา “ด-ดีขึ้นมาก!”
เฉิงฉงชานยิ้มกว้างขึ้นทันทีที่ได้ยิน “ดีแล้ว! เช่นนั้นก็ดี! เอ๋ เดี๋ยวนะ! ก่อนหน้าสภาพของเจ้านั้นมันแทบจะไม่รอดอยู่แล้วแท้ๆ ทำไมจู่ๆ จึงดีขึ้นมาเช่นนี้ได้เล่า?”
หวู่ชวงจึงตอบกลับไป “ข้าเองก็ไม่ทราบได้! เมื่อกี้ตอนที่พิษมันกำลังไหลเข้าสู่หัวใจของข้านั้นข้ากลับรู้สึกได้ถึงคลื่นพลังสายหนึ่งที่พุ่งพล่านเข้ามาจนทำให้ข้า
กระอักเลือดจนพิษทั้งหลายนั้นออกมาสิ้น เวลานี้ข้าจึงรู้สึกดีขึ้นมาก”
เฉิงฉงชานสั่นสะท้านไปทั้งกายก่อนจะหันไปมองเย่หยวนด้วยความตกตะลึง
ที่แท้แล้วคำขู่ของเขานั้นมันกลับกลายเป็นการรักษาหวู่ชวง!
เฉิงฉงชานนั้นตกตะลึงอย่างมาก ในไม่กี่อึดใจที่เย่หยวนเข้ามาถึงตัวหวู่ชวงนี้เขากลับสามารถควบคุมกระแสการไหลของพิษในร่างหวู่ชวงและยังขับมันออกมาได้?
ฝีมือเช่นนี้มันเหนือล้ำอย่างมาก!
ในเวลานี้การดูถูกของเขานั้นมันได้จางหายไปสิ้น เหลือไว้เพียงแต่ความตกตะลึงเท่านั้น
ที่ด้านข้างทั้งตัวหลินหลาน จักรพรรดิและองค์ชายรองต่างต้องอ้าปากค้างขึ้นมา
เพราะวิธีการนี้มันเหนือล้ำจนเกินไป!
พวกเขานั้นรู้ดีว่าเย่หยวนมีวิชาการโอสถอย่างเหนือล้ำปานใดแต่ก็ไม่นึกฝันว่าวิชาการรักษาของเย่หยวนเองก็จะเหนือล้ำฟ้าดินเช่นนี้ด้วย
ทุกคนนั้นคิดว่าเย่หยวนข่มขู่ให้เฉิงฉงชานยอมขอโทษแต่กลับกลายเป็นว่านั้นคือการรักษาขับพิษออกจากตัวหวู่ชวง
สุดยอด!
“เด็กน้อย ดูแลศิษย์น้องหวู่ชวงข้าให้ดี คุณของเจ้านี้จะได้รับการตอบแทนแน่!” เฉิงฉงชานกล่าวขึ้นมา
แม้ว่าเขานั้นจะรู้ถึงฝีมือของเย่หยวนแล้วแต่ท่าทางเหลือหัวคนของเขานั้นมันก็ยังไม่จางหาย
ในสายตาของพวกเขานั้นผู้บรรลุสวรรค์มันคือคนนอกคอกที่ไม่ควรค่าได้รับความเคารพใดๆ
เมื่อเย่หยวนได้ยินเช่นนั้นเขาก็ต้องขมวดคิ้วแน่น “นี่หรือคือท่าทางของคนที่ขอให้คนอื่นช่วย?”
เฉิงฉงชานขมวดคิ้วแน่น “ทำไมเล่า? ผู้บรรลุสวรรค์เช่นเจ้านี้แค่ทูตผู้นี้ไม่สังหารเจ้าลงมันก็ถือเป็นการไว้หน้าแล้ว การรักษาแค่นี้ของเจ้ามันจะมีค่าอะไรมากมายอีก? ในดินแดนสวรรค์ตะวันเที่ยงนี้หากไม่มีการปกป้องจากนิกายสวรรค์หยกแท้เราแล้วผู้บรรลุสวรรค์อย่างเจ้ามันคงไม่มีทางจะไปที่ไหนได้แน่!”
เฉิงฉงชานนั้นดูถูกในความเป็นผู้บรรลุสวรรค์ของเย่หยวนจากก้นบึ้งหัวใจ
เทียบกับคนอาณาจักรตะวันออกแล้ว เฉิงฉงชานนั้นย่อมจะมีตำแหน่งที่สูงล้ำฟ้าดินกว่ามาก
เย่หยวนที่ได้ยินจึงหัวเราะขึ้นมา “ในเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วก็ไม่ต้องพูดคุยกันอีก หลินหลาน ไปเถอะ!”
สีหน้าขององค์จักรพรรดิต้องเปลี่ยนสีไปทันทีที่ได้ยิน เขารีบก้าวขึ้นมาหยุดเย่หยวนไว้ “ราชครู ที่ท่านทูตกล่าวมานั้นมันถูกต้องที่สุด! หากไม่มีการปกป้องจากนิกายสวรรค์หยกแท้แล้วผู้บรรลุสวรรค์ย่อมจะไม่อาจอยู่ได้อย่างสงบ! ในดินแดนสวรรค์ตะวันเที่ยงนี้ผู้บรรลุสวรรค์มันคือตัวประหลาด! มีแต่อาณาจักรตะวันออกอันแสนบ้านนอกนี้เท่านั้นที่คนจะยังไม่เกลียดชังผู้บรรลุสวรรค์มากมายนัก ท่านแค่ลงมือรักษาเหล่าท่านทูตทั้งหลายเถอะแล้วพวกเขาจะต้องช่วยปกป้องท่านแน่! ไม่เช่นนั้นหากทางนิกายสวรรค์หยกแท้โกรธขึ้นมาแล้วแม้แต่ออาณาจักรตะวันออกของเราก็คงไม่อาจช่วยท่านได้!”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “ฝ่าบาท มันมิใช่ว่าข้าไม่ไว้หน้าท่านแต่เย่ผู้นี้ไม่ต้องให้ใครมาปกป้องคุ้มครองหัวและไม่ชอบที่จะต้องไปตามกราบเท้าใครเพื่อทำการรักษาให้ เย่ผู้นี้ไม่ได้ไร้สิ้นหนทางปานนั้น! หากคิดอยากให้ข้ารักษาคนไข้มันก็ย่อมได้แต่อีกฝ่ายนั้นต้องแสดงความจริงใจออกมาก่อน แล้วก็ฝ่าบาท เย่ผู้นี้มาในวันนี้เพราะถือว่าเห็นแก่หน้าท่านเท่านั้น จากวันนี้ไปหากใครคิดอยากได้รับการรักษาก็ขอให้ไปหาข้าที่คฤหาสน์ราชครูเอาเถอะ!”
พูดจบเย่หยวนก็เดินนำหลินหลานทำท่าจะออกจากห้องไป
“หึ! คนเขาไว้หน้าให้แล้วเจ้ากลับไม่คิดรับ!” เฉิงฉงชานร้องขึ้นมาก่อนจะพุ่งร่างมาหยุดตรงหน้าเย่หยวน
แต่เย่หยวนนั้นกลับไม่คิดสนใจและกล่าวขึ้นมา “เลิกวางท่าเสีย เก็บแรงไว้เถอะ! ยิ่งเจ้าขยับร่างกายมากเท่าใดเจ้าก็จะยิ่งได้ตายเร็วเท่านั้น! เวลาของเจ้ามันใกล้หมดลงเต็มทีแล้ว หากเจ้าคิดอยากมีชีวิตต่อไปเจ้าก็จงวางหัวสูงๆ ของเจ้าลงกับดินเสีย! แล้วก็อย่าได้คิดจะมาขวางทางข้าเลย หากข้าอยากจะสังหารใครเจ้าก็ไม่มีทางหยุดข้าลงได้หรอก!”
พูดจบเย่หยวนนั้นก็ไม่คิดสนใจเฉิงฉงชานอีกต่อไปเดินผ่านหน้าเขาไปทันที
ดูท่าคำขู่ของเขามันจะได้ผลจริงๆ แล้ว!