ตอนที่ 2978

War sovereign Soaring The Heavens

WSSTH ตอนที่ 2,978 : ต้วนหลิงเทียนออกมาแล้ว!

 

 

“เผ่าพยัคฆ์เหินรึ?”

 

“มิผิด หากจะกล่าวให้ชัดก็คือเผ่าพยัคฆ์เหินสาขาคฤหาสน์เฉวียนโยวของพวกเรา!”

 

“จริงสิ! พอเจ้าเอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ข้าก็นึกขึ้นได้…ไม่กี่วันก่อนรองหัวหน้าเผ่าพยัคฆ์เหินไป๋เจิ้นเยว่ได้มารับกระบี่อมตะจอมราชันด้วยตัวเองถึงพระราชวังหลวงตันจี้!”

 

“หากพวกเจ้ายังมีใครไม่ทราบเรื่องราว ข้าจะบอกให้ฟัง…ไม่กี่วันก่อนต้วนหลิงเทียนกับหวงเจียหลงได้ไปเล่นพนันหิน และในบรรดาหินดิบที่เปิดออกมา กลับพบว่ามีกระบี่อมตะจอมราชันเล่มหนึ่ง! สุดท้าย ‘ไป๋กัง’ พยัคฆ์เหินลายทองแดงที่อยู่ในจวนเจ้าเมืองตู้อวิ๋น จึงเลือกที่จะส่งมอบให้เผ่าพยัคฆ์เหินสาขาคฤหาสน์เฉวียนโยว!!”

 

“หากพวกเจ้าล่วงรู้เรื่องนี้ พวกเจ้าคงปะติดปะต่อเรื่องราวได้ไม่ยาก…ไป๋กังสร้างความดีความชอบขนาดนี้เผ่าพยัคฆ์เหินที่ขึ้นชื่อเรื่องซื่อตรงย่อมไม่คิดเอาเปรียบ! ต้วนหลิงเทียนกับหวงเจียหลงที่เป็นผู้ค้นพบก็มีความดีความชอบใหญ่หลวง ทั้งคู่ย่อมได้รับรางวัลจากเผ่าพยัคฆ์เหินไม่น้อย กับอีแค่ส่งปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับราชามาหลอมโอสถเฉียนจินให้ นับเป็นเรื่องขี้ประติ๋วด้วยซ้ำ!!”

 

 

ถึงแม้เรื่องนี้ผู้คนของประเทศตงหมิงกับประเทศโม่หลุนจะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่พวกมันก็คาดเดาเรื่องราวส่วนใหญ่ได้ออก

 

“คนของฝูชิว ยังบอกให้พวกเราไปรอประมูลโอสถเฉียนจินที่โถงตำหนักที่พักของพวกมันหลังจากนี้อีกสิบวัน…ถึงตอนนั้นระหว่างเรากับคนของประเทศโม่หลุน ผู้ใดจ่ายหนักกว่าก็จักได้โอสถเฉียนจินมา”

 

ชายชราที่เป็นผู้นำคระเดินทางของประเทศตงหมิง หันไปมองกล่าวกับคนของประเทศตงหมิง

 

“โอสถเฉียนจิน!”

 

เดิมสีหน้าหลิงเจวี๋ยอวิ๋นที่แลดูเฉยเมยไร้แยแสสรรพสิ่ง พอได้ยินเรื่องโอสถเฉียนจินยังอดไม่ได้ที่จะเผยอารมณ์ความรู้สึกออกมาให้เห็นอยู่บ้าง!

 

ถึงแม้ก่อนหน้านี้มันจะหวังเรื่องได้รับไส้เดือนฝอยทองทั้ง 2 มา และอาจได้รับโอสถเฉียนจินอยู่บ้าง

 

ทว่าด้วยความที่ไร้ปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับราชา ทำให้โอกาสหลอมโอสถเฉียนจินออกมาสำเร็จมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย หลิงเจวี๋ยอวิ๋นจึงไม่ได้คาดหวังอะไรไว้มากมาย สุดท้ายก็มีโอกาสหลอมได้แค่สองครั้งเท่านั้น…

 

ทว่าตอนนี้พอทราบว่าโอสถเฉียนจินนั้น ต้องหลอมออกมาได้แน่แท้ ความคาดหวังเล็กๆในใจของมันย่อมมลายหายไป กับกลายเป็นการตั้งหน้าตั้งตอรอคอยอย่างมุ่งมาด!

 

“ผู้เฒ่าหู โอสถเฉียนจินเม็ดนั้น ข้าต้องการมันมาให้จงได้!”

 

หลิงเจวี๋ยอวิ๋นหันไปมองผู้เฒ่าหู ชายชราผู้นำคณะเดินทางของประเทศตงหมิง พลางส่งเสียงผ่านพลังกล่าววาจาด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เรื่องที่ฝ่าบาทสมควรกำหนดขีดจำกัดที่จะจ่ายได้ไหวเพื่อประมูลไส้เดือนฝอยทองมากับท่าน แม้ท่านจะไม่พูดข้าเองก็รู้อยู่แล้ว…อย่างไรก็ตามหากครั้งนี้ผู้เฒ่าหูช่วยให้ข้าได้รับโอสถเฉียนจินมาล่ะก็ วันหน้าไม่เพียงข้าจะตอบแทนผู้เฒ่าหูด้ววยผลึกอมตะระดับสูงอย่างงาม แต่ให้ถือว่าข้าติดค้างผู้เฒ่าหูเรื่องหนึ่ง!”

 

เมื่อเสียงผ่านพลังของหลิงเจวี๋ยอวิ๋นดังจบคำ ก็เปิดเผยให้เห็นความทะยานอยากของมันในเรื่องโอสถเฉียนจินออกมา!

 

“สหายน้อยหลิง ด้วยวาจานี้ของท่าน ต่อให้ข้าข้าต้องลุยทะเลเพลิงบุกฝ่าหุบเขามีดดาบ ข้าก็จักนำมันมาให้ท่านให้ได้!”

 

ชายชราส่งเสียงผ่านพลังตอบกลับเป็นมั่นเหมาะ สองตาสีโคลนยังทอประกายวับวาวออกมา

 

ตัวมันนั้นมองประเมินหลิงเจวี๋ยอวิ๋นผู้นี้ไว้สูงลิบ!

 

กระทั่งระหว่างเดินทางออกมาจากประเทศตงหมิงเพื่อมุ่งหน้ามาที่นี่ มันยังตระหนักได้รางๆว่าหลิงเจวี๋ยอวิ๋นนั้นไม่คล้ายผู้ฝึกตนอิสระ แต่กลับเป็นเหมือนคุณชายนายน้อยอันสูงศักดิ์จากตระกูลอันยิ่งใหญ่!

 

แม้ว่าเหล่าคุณชายนายน้อยทั่วไป ปกติคำพูดคำจาทีท่ามักไม่แยแสผู้อื่น ทว่าหลิงเจวี๋ยอวิ๋นนั้นไม่เพียงแต่มีด้านนี้ กระทั่งทีท่าสภาวะ ลักษณะการวางตัว กลับอยู่เหนือคุณชายนายน้อยหัวสูงทั้งหมดที่มันเคยประสบพบเจอคนละเรื่อง!

 

ดังนั้นมันจึงเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ว่าหากครั้งนี้มันสามารถช่วยเหลือหลิงเจวี๋ยอวิ๋นได้ และทำให้ผู้อื่นติดค้างมันเรื่องหนึ่ง วันหน้ามันต้องได้รับผลตอบแทนมหาศาลสุดที่มันจะคิดคำนวณได้แน่นอน!

 

“ถึงว่าล่ะ ไฉนผู้เฒ่าหูถึงไม่คิดเสนอราคากระทั่งยังห้ามข้าเอาไว้…ที่แท้คนของฝูชิวรับปากท่านเอาไว้แบบนี้นี่เอง!”

 

ได้ยินคำของชายชรา องค์ชายรองของประเทศตงหมิงพลันตบมือดังฉาด คนอื่นๆของประเทศตงหมิงเองก็เข้าใจเรื่องราวกระจ่างแล้ววเช่นกัน

 

ที่แท้คนของประเทศฝูชิวรับปากไว้แล้ว ว่าหลังหลอมโอสถเฉียนจินออกมาได้ จะให้พวกมันประมูลแข่งกับประเทศโม่หลุน ผู้ใดร่ำรวยกว่าก็ได้ไป!!

 

ในเวลาเดียวกัน

 

ทางด้านคนของประเทศโม่หลุน ก็ได้รับทราบเรื่องราวทั้งหมดจากชายวัยกลางคนที่แลดูน่าเกรงขามแล้วเช่นกัน ว่าอีก 10 วันหลังจากนี้ คนของฝูชิวจะเปิดโอกาสให้พวกมันเข้าร่วมประมูลโอสถเฉียนจินแข่งกับคนของตงหมิง

 

“โอสถเฉียนจิน…โอสถเฉียนจิน!”

 

ลูกตาขององค์ชาย 7 แห่งประเทศโม่หลุนลุกโชนไปด้วยเพลิงแห่งความปรารถนาอันร้อนแรง มันมองชายวัยกลางคนพลางกล่าวออกมาเสียงหนัก “อาเหลียน ข้ารู้ดีว่าเสด็จพอได้กำหนดขีดจำกัดเรื่องราคาประมูลไส้เดือนฝอยทองทั้ง 2 ให้ท่านเอาไว้…”

 

“อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เป้าหมายของพวกเรามิใช่ไส้เดือนฝอยทองอีกต่อไป แต่เป็นโอสถเฉียนจิน! เช่นนั้นข้าหวังว่าอาเหลียนจะล้มเลิกเพดานราคาที่เสด็จพ่อกำหนด…”

 

“หากจำเป็นจริงๆ ข้าหวังว่าอาเหลียนจะช่วยสำรองจ่ายผลึกอมตะระดับสูงออกไปก่อน และเมื่อพวกเรากลับไปถึงโม่หลุนเมื่อใด ข้าจักให้เสด็จพ่อคืนให้อาเหลียนท่าน”

 

เมื่อรู้ว่ามันมีโอกาสจะได้รับโอสถเฉียนจินโดยตรง ไม่ต้องไปลุ้นหลอมอะไรให้ปวดใจ องค์ชาย 7 โม่หลุนถึงกับคึกคักขึ้นมาอักโข ในใจยังบังเกิดความปรารถนาอันแรงกล้า…

 

เพราะตราบใดที่มันได้โอสถเฉียนจินนั่นมา มันย่อมทะลวงถึงขอบเขตยอดเซียนอมตะขั้นสุดยอด และมันมั่นใจว่าพลังฝีมือของมันต้องเหนือกว่าผู้ใด จนได้รับการยอมรับให้เป็นยอดฝีมืออันดับ 1 ขอบเขตยอดเซียนอมตะของประเทศโม่หลุนแน่นอน!

 

ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วมันอาจจะยังด้อยกว่าต้วนหลิงเทียนอัจฉริยะของประเทศฝูชิว และหลิงเจวี๋ยอวิ๋นอัจฉริยะปีศาจของประเทศตงหมิง แต่อย่างไรก็ตามมันเชื่อว่ามันต้องทำผลงานในแดนสวรรค์ใต้โบราณระดับต่ำได้เป็นอย่างดี!

 

“ขอองค์ชายอย่าได้กังวล ข้าจะพยายามเต็มที่”

 

ชายวัยกลางคนเอ่ยคำด้วยน้ำเสียงเฉยเมย ไม่ได้กระตือรือร้นอะไรเท่าไหร่

 

ภายในห้องบัลลังก์ของประเทศตันจี้

 

ฮ่องเต้ตันจี้กำลังนั่งฟังรายงานของเหอเฟิงอย่างสนใจ

 

“ฮ่องเต้ฝูชิวนั่น…มันอาจจ้างวานปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับราชามาหลอมโอสถเฉียนจินให้ต้วนหลิงเทียนผู้นั้นงั้นหรือ?”

 

อย่างไรก็ตามหลังได้ยินความคิดดังกล่าวของเหอเฟิง ฮ่องเต้ตันจี้พลันส่ายหัวไปมาทันที “เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้!”

 

“ข้ารู้จักฮ่องเต้ฝูชิวผู้นั้นดี อย่างมันใจไม่ถึงพอจะทำเรื่องหาญกล้าอุกอาจอะไรเช่นนี้แน่นอน!”

 

ฮ่องเต้ตันจี้กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจถึงขีดสุด ทำราวกับมันเป็นพยาธิในท้องของฮ่องเต้ฝูชิว!

 

ในฐานะที่มันเป็นฮ่องเต้ตันจี้ประเทศเพื่อนบ้านของประเทศฝูชิว มันย่อมไปมาหาสู่กับฮ่องเต้ฝูชิวบ่อยครั้ง จนเรียกได้ว่าล่วงรู้ลักษณะนิสัยใจคออีกฝ่ายหมดสิ้น คำพยาธิในท้องหาได้เกินเลยแต่อย่างไร…

 

การจ้างวานให้ปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับราชาคนหนึ่งลงมือ มันมีราคาที่ต้องจ่ายมหาศาลเกินไป!

 

“ฮ่องเต้ฝูชิวนั้นเป็นคนประเภท ‘ไม่เห็นกระต่าย ไม่ปล่อยอินทรีย์ออกล่า’ เว้นเสียแต่มันจืนยันได้เป็นมั่นเหมาะแล้วจริงๆ ว่าต้วนหลิงเทียนจะนำผลประโยชน์เลิศล้ำมาให้มันได้หลังออกจากแดนลับสวรรค์ใต้โบราณระดับต่ำ หาไม่แล้วมันไม่มีวันทุ่มทุนให้ต้วนหลิงเทียนมหาศาลถึงขนาดจ้างวานให้ปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับราชาเคลื่อนไหว”

(ไม่เห็นความสำเร็จที่แน่ชัด ไม่คิดลงมือทำอะไร)

 

“ฝ่าบาท แล้วหากมิใช่ฮ่องเต้ฝูชิวจ้างปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับราชา…หรือจะเป็นหวงเหยี่ยนเฟยที่จัดการเรื่องนี้ แต่มันจะกว้างขวางและมีสามารถถึงขนาดนั้นเชียวหรือ?”

 

เหอเฟิงขมวดคิ้วเล็กน้อย

 

“มันยังไม่กว้างขวางพอและมีสามารถถึงขนาดนั้น!”

 

ฮ่องเต้ตันจี้เอ่ยออกเสียงเรียบ “แต่เจ้าอย่าได้หลงลืมคนข้างกายมัน…ไป๋กัง!”

 

“ไป๋กังรึ?”

 

พอได้ฟัง ลูกตาของเหอเฟิงก็หดเล็กลงทันใด “ฝ่าบาท หรือท่านจะบอกว่า…หลังต้วนหลิงเทียนมีส่วนช่วยให้เผ่าพยัคฆ์เหินได้รับกระบี่อมตะจอมราชันจากหินดิบนั่น เผ่าพยัคฆ์เหินจึงส่งปรมาจารย์หลอมโอสถอมตะระดับราชามาช่วยต้วนหลิงเทียนหลอมโอสถเฉียนจินโดยเฉพาะ?”

 

“อืม นอกเหนือจากสาเหตุนี้ ตัวข้ามิอาจมองเห็นหนทางอื่นใดได้แล้วจริงๆ”

 

ฮ่องเต้ตันจี้กล่าว

 

และในขณะที่ฮ่อเต้ตันจี้กล่าวข้อสันนิษฐานนี้ให้เหอเฟิงฟัง ตัวมันเองยังเริ่มรู้สึกเชื่อมั่นว่าข้อสันนิษฐานของมัน ว่ามีความเป็นไปได้สูงสุด และไม่น่าจะมีความผิดพลาดใดๆ!

 

วันเวลาเพียง 10 วันสำหรับเซียนอมตะในระนาบเทวโลกที่มีอายุขัยไร้จำกัดแล้ว เสมือนห้วงเวลาชั่วพริบตาหนึ่งเท่านั้น

 

สิบวันต่อมา

 

ต้วนหลิงเทียนที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียง อยู่ๆก็เบิกตาโพลง มุมปากเริ่มยกยิ้มสดใสร่าเริงออกมา

 

“ยอดเซียนอมตะขั้นสูงสุด…ในที่สุดข้าก็ทะลวงมาถึง!”

 

ตอนนี้ทั่วร่างต้วนหลิงเทียนได้แผ่กลิ่นอายพลังที่แตกต่างออกไปจากเดิมออกมาอย่างสิ้นเชิง และเพียงหนึ่งห้วงคิดพลังขุมหนึ่งก็ปะทุขึ้นมาลุกโชนระอุไปทั่วร่าง แผ่ซ่านคลื่นพลังไร้สภาพที่แตกต่างจากเมื่อสิบวันก่อนออกมากดดันในบรรยากาศ!

 

ไฉนเป็นเช่นนี้ เนื่องเพราะต้วนหลิงเทียนสามารถบรรลุถึงยอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดได้อย่างราบรื่น! กลายเป็นยอดเซียนอมตะขั้นสูงสุดอย่างเป็นทางการ!!

 

“พลังของโอสถเฉียนจินช่างร้ายกาจจริงๆ!”

 

ต้วนหลิงเทียนโบกมือเบาๆ พลันปรากฏขวดโอสถเล็กๆขวดหนึ่ง และสิ่งที่อยู่ภายในขวดโอสถขวดนี้ก็คือโอสถเฉียนจินที่เขาหลอมได้

 

สำหรับโอสถเฉียนจินอีกเม็ดนั้น ต้วนหลิงเทียนได้กลืนมันลงท้องไปเรียบร้อยเมื่อหลายวันก่อน และเขาก็ไม่ตื่นขึ้นจนกว่าจะย่อยสลายพลังโอสถจนหมด และทะลวงผ่านขอบเขตยอดเซียนอมตะขั้นสวรรค์ มาถึงยอดเซียนยอมตะขั้นสูงสุด!

 

“รีบออกไปดีกว่า ป่านนี้ลุงหวงคงรอจนเครียดแล้ว…”

 

หลังจากนั้นต้วนหลิงเทียนก็ลุกขึ้นและเดินออกจากห้องหับทันที เมื่อออกมาด้านนอก พอแหงนมองขึ้นฟ้าไปก็พบว่าตะวันลอยโด่งกลางหัว บ่งบอกเวลาเที่ยงวัน คนของประเทศโม่หลุนกับตงหมิงที่ควรมา ก็คงมาถึงเรียบร้อยแล้ว

 

“น้องต้วน ในที่สุดท่านก็ออกมาได้เสียที!”

 

ก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะทันได้คืนสติจากการเหม่อมองตะวันบนฟ้าคำนวณเวลา เสียงโล่งใจหนึ่งก็ดังขึ้นเข้าหู และไม่ต้องหันไปมองเขาก็บอกได้ทันที…ว่าเจ้าของเสียงคือหวงเจียหลง!

 

“พี่เจียหลง”

 

พอต้วนหลิงเทียนละสายตาจากฟากฟ้า กลับมามองไปทางต้นเสียงเขาก็พบว่าหวงเจียหลงกับหลิวก่วงหลินกำลังยืนรอเขาอยู่ไม่ไกล

 

“น้องต้วน ท่านทำสำเร็จหรือไม่?”

 

หวงเจียหลงมองถามต้วนหลิงเทียนด้วยสายตาน้ำเสียงจริงจังก่อนใดอื่น

 

ตอนนี้บิดาของมันกับผู้เฒ่าโม่กำลังรับหน้าคนของประเทศโม่หลุนและประเทศตงหมิงอยู่ในโถงใหญ่ของตำหนักที่พวกมันพักอาศัยอยู่

 

และคนของประเทศตงหมิงกับประเทศโม่หลุน ก็มาเพื่อสาเหตุเดียว…โอสถเฉียนจิน!

 

ตัวมันที่ไม่รู้ว่าต้วนหลิงเทียนใช่หลอมโอสถเฉียนจินสำเร็จแล้วหรือไม่ ย่อมร้อนใจทั้งเป็นกังวลไม่น้อย

 

“โชคดีที่ข้ายังไม่ทำให้ตัวเองต้องขายหน้า…”

 

ต้วนหลิงเทียนยกมือขึ้นเบาๆ คว้ารับขวดโอสถขวดหนึ่งที่ผุดจากอากาศว่างเปล่ามาเขย่าเบาๆพอให้ได้ยินเสียงเม็ดยาขลุกขลิก จากนั้นก็โยนขวดโอสถดังกล่าวให้หวงเจียหลงราวโยนขยะชิ้นหนึ่ง

 

“นี่มัน…โอสถเฉียนจินรึ?!”

 

หวงเจียหลงที่ค้ารับขวดโอสถดังกล่าวออกมา พอเปิดออกดูก็เห็นโอสถเม็ดหนึ่งตั้งอย่างเงียบงันในขวด

 

กลิ่นหอมของโอสถพร้อมด้วยยไอพลังพิเศษที่แผ่ออกมาเรืองๆทั่วเม็ดโอสถ ทำให้หวงเจียหลงจดจำได้ทันทีว่านี่คือโอสถเฉียนจินไม่ผิดแน่!

 

พอยืนยันได้ว่ามันคือโอสถเฉียนจินไม่ผิดเพี้ยน สองตาหวงเจียหลงก็ลุกวาวฉายแสงจ้าขึ้นมาทันใด เพราะสิ่งนี้หมายความว่าต้วนหลิงเทียนทำสำเร็จแล้วจริงๆ!

 

“น้องต้วน…ว่าแต่ท่านหลอมโอสถเฉียนจินได้ 2 เม็ดเลย…หรือว่าได้แค่เม็ดนี้เม็ดเดียว?”

 

หลังยืนยันได้ว่าในโอสถคือโอสถเฉียนจินไม่ผิดเพี้ยน แม้หวงเจียหลงจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองถามต้วนหลิงเทียน สองคิ้วยังขดย่นเป็นปม

 

“พี่เจียหลงคิดว่าไงเล่า?”

 

ต้วนหลิงเทียนยิ้มถามออกมา พลางแผ่กลิ่นอายพลังออกมาทั่วร่าง ให้หวงเจียหลงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังของเขาชัดเจน

 

“ยอดเซียนอมตะขั้นสูงสุด!”

 

สองตาหวงเจียหลงทอประกายจ้าสดใส เร่งหันไปกล่าวแสดงความยินดีกับต้วนหลิงเทียนออกมาด้วยความตื้นเต้น “อั้ย! ข้าขอแสดงความยินดีด้วยน้องต้วน! ท่านนี่มัน…ข้าไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว!!”

 

“พับผ่าเถอะ ข้าล่ะไม่อยากจะเชื่อเลยว่าท่านกลับหลอมโอสถเฉียนจินได้ 2 เม็ดจริงๆ!!”

 

กล่าวถึงท้ายประโยคหวงเจียหลงก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ “ก่อนหน้านี้นับว่าข้าผิดไปแล้วจริงๆ ที่บังอาจแคลงใจความสามารถของท่าน แต่ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายกลับเป็นท่านพ่อที่เชื่อใจท่านได้ถูกต้อง ข้ามันมีตาแต่ไร้แววแท้ๆ…”

 

“ดูเหมือนว่าสุดท้ายข้าก็ยังด้อยกว่าท่านพ่ออยู่ดี…”

 

หวงเจียหลงถอนหายใจออกมาด้วยอารมณ์หดหู่ ใบหน้ายังฉายชัดถึงความรู้สึกผิดออกมาให้เห็น

 

“ขอแสดงความยินดีด้วยนายท่าน!”

 

จังหวะนี้หลิวก่วงหลินเองก็ประสานมือกล่าวคำแสดงความยินดีด้วยรอยยิ้มซ้ำๆราวตัวโง่งม ในสายตาของมันยิ่งมายิ่งฉายชัดถึงความนับถือเลื่อมไสหมดใจ

 

ถึงแม้ว่ามันจะเชื่อมั่นในตัวนายท่านผู้นี้ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจถึงขั้นไร้คำใดจะกล่าว เมื่อพบว่านายท่านของมันกลับสามารถหลอมโอสถเฉียนจินได้สำเร็จทั้ง 2 เม็ดจริงๆ!

 

“ป่านนี้แล้ว คนของประเทศโม่หลุนกับประเทศตงหมิงสมควรมารอแล้วกระมัง?”

 

ต้วนหลิงเทียนเอ่ยถาม

 

“ใช่ พวกมันมากันแล้ว ตอนนี้พวกท่านพ่อกับผู้เฒ่าโม่กำลังรับหน้าอยู่ที่ห้องโถงใหญ่น่ะ”

 

“ในเมื่อน้องต้วนเองก็ออกมาแล้ว เช่นนั้นพวกเราไปด้วยกันเลยเถอะ…ข้าเองก็อยากรู้เช่นกันว่าคนของประเทศโม่หลุนกับประเทศตงหมิงจะหยิบควักผลึกอมตะระดับสูงออกมาแข่งประมูลกันมากขนาดไหน!”

 

กล่าวถึงจุดนี้ท่าทางของหววงเจีหลงก็แลดูคึกคักออกนอกหน้านัก!

 

เรียกว่าตอนนี้ไม่เพียงความรู้สึกผิดทั้งกังวลใจใดๆของหวงเจียหลงจะสลายไปหมด มันยังตั้งหน้าตั้งตารอดูชมความบันเทิงอย่างใจจดจ่อ…

 

มันอยากรู้จริงๆว่าคนของประเทศโม่หลุนกับประเทศตงหมิงจะหยิบควักผลึกอมตะระดับสูงออกมาเท่าไหร่กันแน่ เพื่อประมูลช่วงชิงโอสถเฉียนจินในมือของมัน!