บทที่ 1778 คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมหนึ่ง + ตอนที่ 1779 ตายได้น่าแปลกมาก

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1778 คุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมหนึ่ง

 

เสี่ยวอวิ๋นเองก็ได้รับคำสั่งจากเหยียนหมิงซุ่นให้ออกตามล่าตัวโอหยางสยงในฮ่องกง ฉะนั้นสองวันนี้เธอกับเสียวหลี่มักสลับกันไปทำภารกิจและเหลืออีกคนไว้เฝ้าเหมยเหมยที่บ้าน

 

“พวกเธอกำลังตามหาโอหยางสยงเหรอ? เขาหนีมาฮ่องกงเหรอ?” เหมยเหมยรับรู้เรื่องนี้ก็ตกใจอย่างมาก

 

มิน่าพวกเสี่ยวอวิ๋นถึงคอยจับตามองโอหยางซานซาน!

 

โอหยางสยงมีศักดิ์เป็นคุณอาของโอหยางซานซานซึ่งระหว่างสองคนนี้ต้องมีการติดต่อกันอย่างแน่นอน อีกทั้งโอหยางซานซานเรียนที่อเมริกาชีวิตได้ดิบได้ดีที่นู่นจึงไม่ใช่เรื่องยากหากคิดจะพาโอหยางสยงไปประเทศสหรัฐอเมริกา

 

“แล้วมีข่าวคืบหน้าบ้างหรือยัง?” เหมยเหมยถามอีก

 

“ไม่มีเลย ช่วงนี้นอกจากชอปปิ้งโอหยางซานซานก็อยู่แต่กับโจวจื่อหัว ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น” เสี่ยวอวิ๋นดูสลดอย่างมาก

 

เดิมทีภารกิจนี้ไม่ยากแต่ตอนนี้กลับพบว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น

 

“ไม่ต้องรีบหรอก โอหยางสยงยังอยู่ฮ่องกงอีกแน่ ยังไงก็ต้องเผยไต๋ออกมาไม่ช้าก็เร็ว” เหมยเหมยมั่นใจมาก

 

เธอคิดว่าอย่างมากโอหยางสยงคงทนอยู่ต่อได้อีกไม่กี่วันเท่านั้น จากความเคยชินติดหรูอยู่สบายเยี่ยงคุณชายของเขา เขาจะทนใช้ชีวิตลำบากราวกับหนูท่อได้อย่างไร?

 

เพียงแต่ยังไม่ต้องรอให้โอหยางสยงปรากฏตัว เพิ่งผ่านไปได้วันเดียวตำรวจฮ่องกงก็มาหาถึงบ้านเสียก่อน

 

“คุณจ้าว เราสงสัยว่าคุณจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมหนึ่ง รบกวนช่วยให้ความร่วมมือในการสืบคดีกับเราด้วยครับ”

 

ตำรวจสองนายที่มาเป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง ผู้ชายอายุราวสี่สิบกว่าปีส่วนผู้หญิงยังอ่อยเยาว์มาก คาดว่าเพิ่งจบจากโรงเรียนตำรวจได้ไม่นานจึงยังมีไฟเต็มเปี่ยม ทั้งยังมองเหมยเหมยด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรเท่าไร

 

เหมยเหมยกำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ ช่วงนี้เต็มไปด้วยพาดหัวข่าวอื้อฉาวของเจียงโส่วเฉิง ชาวฮ่องกงสนุกสนานได้ทุกวันก็เพราะเรื่องนี้ นอกจากข้อมูลที่เสี่ยวอวิ๋นตามสืบได้ยังมีข่าวอื้อฉาวในอดีตที่นักข่าวผู้มากความสามารถขุดเจอ ทำให้เพลิงไฟร้อนระอุขึ้นเรื่อย ๆ

 

“คดีฆาตกรรมอะไร? พวกคุณมาเล่นตลกอะไรกันเนี่ย?” เหมยเหมยมองสองคนนี้อย่างนึกขำ

 

เธอจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมได้อย่างไร?

 

“พูดจาดี ๆ ใครล้อเล่นกับเธอ!” ตำรวจสาวตวาดเสียงดุดัน คิ้วเข้มตั้งทำให้ใบหน้าที่เดิมทียังดูดีอยู่บ้างกลับบิดเบี้ยวไปชั่วขณะ

 

“คุณตำรวจ ฉันไม่ใช่นักโทษของพวกคุณ ฉันอยากพูดอย่างไรก็จะพูดอย่างนั้น อีกอย่างฉันอยู่ในบ้านของฉัน พวกคุณจะจุ้นมากไปหน่อยหรือเปล่า!” เหมยเหมยเองก็สะบัดสีหน้าใส่ อารมณ์เสียในพริบตา

 

มักมีเรื่องรังควานใจเธอทุกวี่วัน อยากอยู่เงียบ ๆสักวันก็ไม่ได้!

 

ตำรวจชายมองลูกศิษย์ตนแวบหนึ่งด้วยสายตาตักเตือนแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สงบลงหน่อย “คุณจ้าว คุณรู้จักหร่วนหวาไฉ่สินะ?”

 

“รู้จักสิ เจ้าหมอนี่ทำไมเหรอ?” เหมยเหมยสีหน้าเปลี่ยนไปทันตาพลางมองตำรวจผู้ชายอย่างตกใจ “คนที่ตายคงไม่ใช่หร่วนหวาไฉ่หรอกนะ?”

 

“นี่จะยังเสแสร้งอะไรอีก?” ตำรวจหญิงพูดเสียงประชดเพราะหล่อนมั่นใจว่าเหมยเหมยก็คือฆาตกร

 

เกิดคลื่นใหญ่ซัดกระหน่ำในความรู้สึกของเหมยเหมย หร่วนหวาไฉ่ตายแล้ว?

 

น่าแปลกเสียจริง!

 

เมื่อคืนเธอยังสาปแช่งให้ตาแก่นี่ไม่ได้ตายดีอยู่เลย สวรรค์เป็นใจเสียจริง ไว้กลับไปจะต้องกราบไหว้ฟ้าดินให้มากหน่อยแล้วล่ะ!

 

“ต่อให้คุณเป็นตำรวจแต่จะพูดอะไรก็ต้องมีหลักฐาน ไม่งั้นเราเจอกันที่ศาล” เหมยเหมยดึงหน้าตึงไม่ยอมตกเป็นรอง ตำรวจหญิงยังคิดจะโต้กลับอย่างขุ่นเคืองแต่ถูกตำรวจผู้ชายถลึงตาใส่แวบหนึ่งจึงจำใจต้องหุบปากแต่โดยดี

 

“เชิญคุณจ้าวไปกับเราหน่อยแล้วกัน แค่ถามอะไรสักหน่อย” แม้เสียงของตำรวจผู้ชายจะอ่อนโยนมากแต่กลับไม่เปิดโอกาสให้ปฏิเสธ

 

“ฉันจะโทรหาทนายของฉันก่อน”

 

เหมยเหมยรู้ว่าครั้งนี้คงต้องไปให้ความร่วมมือ แม้เธอไม่กลัวแต่ก็ต้องเตรียมพร้อมทุกอย่างในเมื่อเธอเป็นคนต่างถิ่น ใครจะรู้กันล่ะว่าตำรวจพวกนี้จะปลอมคดีป้ายความผิดให้เธอหรือเปล่า!

 

…………………….

 

ตอนที่ 1779 ตายได้น่าแปลกมาก

 

พอโทรหาจินป๋อเหวินติดเหมยเหมยก็เล่าสถานการณ์คร่าว ๆให้ฟัง จินป๋อเหวินจึงกล่าวว่า “คุณรีบไปสถานีตำรวจภายในสิบห้านาที ไม่ต้องกังวล ทางตำรวจไม่มีหลักฐานอย่างมากก็กักตัวคุณได้แค่สี่สิบแปดชั่วโมง”

 

เหมยเหมยถึงค่อยสบายใจหน่อย จินป๋อเหวินเคยสู้คดีเกี่ยวกับอาชญากรรมมานับไม่ถ้วนเลยมีประสบการณ์อย่างโชกโชน คดีเล็กขนาดนี้ไม่น่าจะใช่ปัญหาอะไร นอกจากนี้เธอเองก็บริสุทธิ์ไม่มีความผิดอันใดจึงยิ่งไม่ต้องกังวลใจ

 

เสี่ยวอวิ๋นไปสถานีตำรวจเป็นเพื่อนเธอส่วนเสียวหลี่ไปสืบสาเหตุการตายของหร่วนหวาไฉ่ คนที่หลายวันก่อนยังมีชีวิตดี ๆอยู่เลย แล้วทำไมจู่ ๆถึงโดนฆาตกรรมได้?

 

หรือว่าหร่วนหวาไฉ่มีศัตรูที่ฮ่องกงด้วย?

 

ตำรวจผู้ชายสกุลหลิน ส่วนตำรวจหญิงเป็นลูกศิษย์ของเขา คุณตำรวจหลินคนนี้น่าจะมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าเพราะเห็นตำรวจรอบ ๆต่างให้ความเคารพนับถือเขามาก

 

“คุณจ้าว วันที่ยี่สิบเอ็ดเดือนกรกฎาคมเวลาบ่ายสามโมงถึงห้าโมงเย็นคุณอยู่ไหน?” ตำรวจหลินเชิญเหมยเหมยเข้าไปในห้องแล้วเริ่มไต่สวน

 

เหมยเหมยปฏิเสธไม่ตอบ บอกเพียงว่า “หากทนายของฉันยังไม่มา ฉันก็จะไม่ตอบคำถามของพวกคุณ”

 

อย่าคิดว่าเธอไม่รู้ ชาติที่แล้วเคยดูหนังฮ่องกงมาตั้งมากมายคนในนั้นล้วนพูดแบบนี้เมื่อเจอตำรวจ

 

ตำรวจหญิงอารมณ์คุกรุ่นในทันทีแล้วเดินไปตรงหน้าเหมยเหมยก่นด่า “อย่าคิดว่าคุณไม่ยอมรับก็จะจบนะ หร่วนหวาไฉ่เพิ่งมาถึงฮ่องกงเขาไม่คุ้นที่คุ้นทาง มีแค่คุณที่มีความแค้นกับหร่วนหวาไฉ่ อีกอย่างเมื่อสองวันก่อนพวกคุณยังเคยมีข้อบาดหมางรุนแรงกันด้วย คุณยังเคยข่มขู่หร่วนหวาไฉ่ด้วยว่าไม่นานเขาก็จะได้รับผลกรรม คุณมีเหตุจูงใจที่จะก่อคดี”

 

เหมยเหมยยื่นมือขึ้นมาเช็ดหน้า ขมวดคิ้วอย่างนึกรังเกียจ “เวลาพูดคุณช่วยออกห่างจากฉันหน่อยสิ กลิ่นต้นหอมเต็มปาก เหม็นจนฉันมึนหัวไปหมดแล้ว!”

 

ตำรวจหญิงคนนี้ไม่เพียงแค่ภาษาจีนกลางแย่แต่ยังมีกลิ่นปากรุนแรง ขณะที่อ้าปากคำรามเธอยังเห็นต้นหอมที่ติดตามไรฟันอีกฝ่ายอยู่เลย น่าสะอิดสะเอียนใจชะมัด

 

ตำรวจหลินมุมปากกระตุกหน่อย ๆ ความใจเย็นของเหมยเหมยทำให้ความคิดของเขาเริ่มสั่นคลอน หรือว่าเธอไม่ใช่ฆาตกรจริง ๆ?

 

แต่ก็ไม่อาจตัดความเป็นไปได้ที่ว่าจ้าวเหมยจะจ้างวานนักฆ่าได้ เท่าที่เขาทราบจ้าวเหมยมีความใกล้ชิดกับมาเฟียใหญ่โจวจื่อหัว การที่จะกำจัดชาวแผ่นดินใหญ่สักคนเป็นเรื่องง่ายสำหรับโจวจื่อหัวยิ่งกว่าอะไร

 

ตำรวจหญิงโกรธปนเขินอายหมายจะยื่นมือตบอีกฝ่าย เหมยเหมยหลบทันแล้วพูดเสียงขรึม “พูดอะไรทำอะไรหัดใช้สมองบ้าง ฉันไม่ใช่คนที่คุณจะหาเรื่องด้วยได้ง่าย ๆนะ”

 

ตำรวจหลินห้ามลูกศิษย์ตัวเองไว้ แม้เขาเองก็นึกโกรธต่อท่าทีเหิมเกริมของเหมยเหมยอย่างมากเช่นกัน แต่เขารู้ดีว่าตอนนี้พวกเขาแค่กำลังสงสัยไม่มีหลักฐานสักนิดจึงไม่อาจทำอะไรกับเธอได้

 

ไม่นานจินป๋อเหวินก็มาถึง พอมาถึงก็เริ่มเข้าสู่สภาวะต่อสู้กันในทันที จากนั้นก็พาตัวเหมยเหมยออกมาจากสถานีตำรวจอย่างรวดเร็ว พวกตำรวจหลินได้แต่มองตาค้างอยู่อย่างนั้น

 

“พวกคุณอย่าได้ใจไป รอฉันหาหลักฐานได้จะต้องไปตามจับกลับมาด้วยตัวเองเลย” ตำรวจหญิงกล่าวด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง

 

กฎหมายที่ฮ่องกงต้องพังเพราะคนมีฐานะพวกนี้นั่นแหละ มีเงินก็ทำได้ทุกอย่างตามที่ตัวเองต้องการ ฆ่าคนวางเพลิงก็ไม่เป็นไร น่าโมโหจะแย่อยู่แล้ว!

 

จินป๋อเหวินกล่าว “ต่อให้คุณมีความแค้นส่วนตัวกับหร่วนหวาไฉ่ แต่ตอนที่เขาตายคุณไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ อีกอย่างคุณเองก็มีพยานบุคคล คดีนี้โยงมาถึงคุณไม่ได้หรอก สบายใจได้!”

 

เหมยเหมยไม่กังวลใจอยู่แล้วแต่เธอสนใจสาเหตุการตายของหร่วนหวาไฉ่มากกว่าเลยถามไปว่า “ตาแก่นั่นตายอย่างไร?”

 

“โดนปาดคอแล้วเสียเลือดมากจนตาย อีกอย่างตายในซอยเล็ก ๆที่มีแต่หมาจรจัด ศพถูกหมาจรจัดกัดแทะแทบไม่เหลือสภาพเดิม กระทั่งช่วงบ่ายเมื่อวานถึงมีคนมาเจอเข้าและศพก็เริ่มเหม็นเน่าแล้วด้วย”

 

จินป๋อเหวินเล่าข่าวที่เขาตามสืบมาให้ฟัง นั่นจึงสร้างความแปลกใจแก่เหมยเหมยยิ่งกว่าเดิม วิธีฆ่าแบบนี้แค่ดูก็รู้ว่าต้องเป็นมืออาชีพ ตัวเธอเล็กกว่าหร่วนหวาไฉ่และมีแรงไม่มากพอ แล้วจะฆ่าเขาได้อย่างราบรื่นขนาดนั้นได้อย่างไร?

 

มิน่าถึงได้ยินมาว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติฮ่องกงมีคดีเก่ากองเท่าภูเขา ลำพังใช้สมองความคิดไขคดี ถ้าไขสำเร็จสิแปลก!

 

……………………….