“ท่านทูต เรานั้นได้ตรวจสอบเรื่องราวการตายของนักบวชจุนมาหลายปีแต่ก็ยังไม่อาจจะหาเบาะแสใดได้ แต่ไม่นานมานี้ยูฉินผู้นี้เพิ่งจะไปได้ยินเบาะแสหนึ่งมา!” องค์ชายใหญ่กล่าวขึ้นมา
“หืม? ลองว่ามา!” เฉิงฉงชานขมวดคิ้วถามขึ้น
“ยูฉินคิดว่าการตายของนักบวชจุนนั้นน่าจะเป็นเพราะเย่หยวนแน่!” องค์ชายใหญ่กล่าวขึ้น
เฉิงฉงชานที่ได้ยินจึงต้องรีบถามขึ้นเสริม “มันหมายความว่าอย่างไร?”
องค์ชายรองจึงบอกไป “ตอนที่นักบวชจุนตายลงนั้นมันเป็นเวลาเดียวกันกับที่เย่หยวนบรรลุขึ้นมาพอดี! ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังบรรลุขึ้นมาที่ป่าหมึกเรืองด้วย! ยูฉินรู้ดีว่าคำพูดนี้มันอาจจะฟังดูไร้น้ำหนักไปหน่อยแต่เย่หยวนนั้นมันมีความลับที่มากมายเหลือเกิน! ตั้งแต่ที่มันมาถึงอาณาจักรตะวันออกเรานั้นมันได้ทำเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้ให้เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า! หากนักบวชจุนไม่ทันระวังตัวมันก็ไม่แน่ว่าเขาอาจจะตายลงด้วยน้ำมือของเย่หยวน!”
เฉิงฉงชานหยุดคิดและเงียบปากลงไป
เวลานี้เรื่องราวการปกครองของอาณาจักรตะวันออกมันได้ตัดสินลงไปแล้วแต่ตัวยูฉินนั้นยังไม่ยอมรับ!
เขานั้นคิดจะเอาใจเหล่าเฉิงฉงชานทั้งหลายแต่คนทั้งสามนั้นกลับไม่สนใจมากมาย เวลาจะทำอะไรที่ไหนก็ไม่มีใครรู้ใครทราบได้
องค์ชายใหญ่นั้นได้ตรวจสอบเรื่องราวของเย่หยวนอย่างละเอียดและได้รู้ว่าเย่หยวนทำอะไรที่ไหนตั้งแต่ที่เขาขึ้นมาถึงนี้เหมือนเป็นเรื่องของตัวเองก็ไม่ปาน
และเขานั้นก็ได้เห็นถึงช่องว่างที่น่าตกตะลึงนี้!
การตายของนักบวชจุนนั้นมันกลับประจวบเหมาะเวลาที่เย่หยวนเพิ่งบรรลุขึ้นมาพอดี!
เพราะฉะนั้นเขาจึงคิดอยากจะเอาเรื่องนี้มารายงานให้เฉิงฉงชานฟังและยืมมือเฉิงฉงชานจัดการเย่หยวนลงเสีย
ตราบเท่าที่เย่หยวนตายลง โอกาสของเขามันก็จะกลับมา
แต่ว่าเฉิงฉงชานและพวกนั้นกลับหันไปสนใจและบุกเข้าไปสำรวจสุสานเก่าแทน เพิ่งจะกลับมาถึงเมืองก็ไม่นานมานี้
แต่ใครจะไปคิดว่าคนทั้งสามเมื่อกลับมาถึงนั้นพวกเขากลับจะทั้งโดนพิษและบาดเจ็บสาหัส?
ไหนจะยังเรื่องความบาดหมางที่เกิดขึ้นระหว่างเย่หยวนกับทูตเฉิงอีก!
องค์ชายใหญ่นั้นเห็นชัดเจนว่านี่มันคือโอกาสทอง!
ตราบเท่าที่เขาเอาเรื่องนี้ไปบอกเฉิงฉงชานแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่ทำอะไรอีกตัวเฉิงฉงชานก็คงจะช่วยจัดการเย่หยวนผู้เป็นเสี้ยนหนามให้เขาแน่
สำหรับเฉิงฉงชานแล้ว ใครจะสังหารจุนเถียนมันไม่สำคัญ
ที่สำคัญนั้นคือข้ออ้างที่จะเอาไปให้ทางนิกายต่างหาก!
แน่นอนว่าการจะหาแพะมารับโทษเช่นนี้ มิใช่ว่าใครก็จะมาเป็นแพะได้
หากจับใครก็ไม่รู้กลับไปแล้วมีหรือที่ทางนิกายจะเชื่อถือว่ามันเป็นความจริง?
หรือต่อให้นิกายจะเชื่อแต่คนทั้งหลายก็คงไม่เชื่ออยู่ดี!
เดิมทีนั้นคนที่เหมาะสมจะเป็นแพะที่สุดย่อมจะเป็นองค์จักรพรรดิ
แต่เวลานี้มันมีเย่หยวนขึ้นมาอีกคน!
เย่หยวนนั้นมีชื่อเสียงยิ่งใหญ่ล้ำในอาณาจักรตะวันออกนี้!
ชื่อเสียงของเขาในเวลานี้มันสูงล้ำองค์จักรพรรดิไปเสียด้วยซ้ำ!
หากเขานั้นกลายเป็นคนร้ายและเฉิงฉงชานจัดการสังหารเย่หยวนลง มันย่อมจะเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูได้ด้วย!
ต่อให้จะบังเอิญแค่ไหนมันก็คงไม่มีทางบังเอิญไปได้ถึงขั้นนี้!
ส่วนเรื่องที่ว่าเย่หยวนนั้นเป็นฆาตกรตัวจริงหรือไม่ มันมิใช่เรื่องสำคัญเลย!
ไม่นานเฉิงฉงชานก็ได้รู้ถึงเรื่องราวเบื้องหลังและหันมายิ้มให้แก่องค์ชายใหญ่
เขากล่าวขึ้นมา “เฉียวยูฉิน เจ้านั้นมันฉลาดและรู้ว่าทูตผู้นี้ต้องการอะไร! ข่าวของเจ้านี้มันมีประโยชน์อย่างมาก! สิ่งใดที่เจ้าอยากได้ ข้าย่อมจะเอาให้ได้เช่นกัน แต่วันหน้านั้นเจ้าต้องทำตัวอย่างไรคงไม่ต้องให้ทูตผู้นี้บอกใช่หรือไม่?”
เมื่อเฉียวยูฉินได้ยินเขาก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นมาทันที “ยูฉินนั้นเป็นคนของท่านทูต หากท่านต้องการต่อให้จะเป็นชีวิตนี้ข้าก็มอบให้ได้!”
เฉิงฉงชานตอบกลับไป “แต่จะอย่างไรเสียเจ้าเด็กคนนี้มันรู้กฎแห่งห้วงมิติ วิชาการเคลื่อนไหวของมันนั้นเหนือล้ำอย่างแปลกประหลาด มิใช่คนที่จะจัดการลงได้ง่ายๆ! ข้านั้นจะส่งข่าวกลับไปที่นิกายและขอให้ทางนั้นส่งกำลังเสริมมาจับมัน! ส่วนช่วงนี้เจ้าก็อย่าเพิ่งทำอะไรออกนอกหน้าแล้วกัน!”
เฉียวยูฉินรีบตอบรับด้วยความยินดี “ท่านทูตโปรดวางใจ ยูฉินนั้นจะไม่ทำเรื่องอะไรแน่นอน!”
…
ในวันนี้เฉิงฉงชานได้นำเอาศิษย์น้องทั้งสองมาพร้อมด้วยของขวัญเต็มไม้เต็มมือ มุ่งหน้ามายังคฤหาสน์ราชครู
ระหว่างทางที่มานั้นมันย่อมจะทำให้เกิดความแตกตื่น
คนทั้งหลายนั้นไม่ได้รู้เลยว่าเฉิงฉงชานและเย่หยวนมีเรื่องใดกันมา พวกเขานั้นแค่เห็นว่าเย่หยวนคือราชครูของอาณาจักรตะวันออก
และต่อให้จะเป็นทูตของนิกายสวรรค์หยกแท้เองก็ยังต้องมาขอรับการรักษาจากท่านราชครูถึงที่
นี่มันจะเหนือล้ำจนเกินไปแล้ว!
“ชิๆ อาณาจักรตะวันออกเรานั้นมันคงยิ่งใหญ่ขึ้นมากแล้ว! ต่อให้เป็นทูตนั้นก็ยังต้องมาเยี่ยมเพื่อขอรับการรักษา!”
“ข้าได้ยินมาว่าเหล่าทูตทั้งหลายนั้นมันสุดแสนโอหัง แม้แต่ตัวจักรพรรดิท่านเองก็ยังต้องเกรงใจแต่ต่อหน้าท่านราชครูนั้นพวกเขากลับต้องวางศักดิ์ศรีลงสิ้น!”
“วันนั้นทูตเฉิงถูกพิษร้ายแรงเข้าจนทำให้คนนับร้อยต้องโดนลูกหลงไปด้วยระหว่างทางที่ออกมารักษา! แต่สุดท้ายท่านราชครูก็ยังจัดการรักษาชีวิตเขากลับมาได้!”
…
เหล่าชาวบ้านทั้งหลายนั้นต่างรู้สึกภาคภูมิใจในตัวราชครูคนใหม่นี้เป็นอย่างมาก
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือตั้งแต่ที่เย่หยวนเข้ามารับตำแหน่งนั้นเขาได้สั่งเปิดประตูคฤหาสน์ราชครูและใกล้ชิดกับผู้คนมากขึ้นกว่าเก่านัก
ใครที่ป่วยเป็นอะไรมานั้นจะได้รับการรักษาสิ้น
แน่นอนว่าอาการป่วยส่วนใหญ่มันจะไม่ถึงมือเย่หยวน มันย่อมจะเป็นหลินหลาน เจียงยู่และตระกูลถังที่คอยดูแล
แต่หากมันมีรายไหนที่มีอาการน่าเป็นห่วง เย่หยวนก็จะลงมาดูอย่างไม่คิดถือตัวใดๆ
เพราะฉะนั้นแม้ว่าเย่หยวนจะขึ้นมาครองตำแหน่งราชครูได้ไม่นานแต่เขาก็ได้รับการเคารพยอมรับจากผู้คนเป็นอย่างมาก
เมื่อเฉิงฉงชานเห็นเย่หยวนเขาก็ต้องยิ้มพร้อมยกมือคารวะ “พี่เย่ ท่าทางของเฉิงผู้นี้มันดูจริงใจพอหรือยัง?”
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เย่ผู้นี้ไม่สนชื่อเสียงใดๆ มากมายหรอก มันมีอะไรที่จับต้องได้หรือไม่เล่า?”
เฉิงฉงชานนั้นยังคงปั้นหน้ายิ้มแต่ในใจของเขานั้นรุ่มร้อนดั่งไฟ
แต่เขาก็รู้ดีว่าตอนนี้หากไม่หยิบอะไรออกมามอบให้ไป มันก็คงจะได้ไม่รับการรักษาแน่
เมื่อไร้สิ้นหนทางเขาจึงได้หยิบเอาแผ่นหยกขึ้นมามอบให้แก่เย่หยวน “แผ่นหยกทั้งหลายนี้เฉิงผู้นี้ได้มาจากในสุสานเก่านั้น พวกมันนั้นถูกเก็บซ่อนไว้อย่างลึกลับ เฉิงผู้นี้ต้องเสี่ยงชีวิตเข้าไปเอามันออกมาเพียงแค่ว่าในแผ่นหยกนั้นมันมีพลังปิดกั้นอันรุนแรงฝังไว้อยู่ทำให้เฉิงผู้นี้ไม่อาจจะเปิดมันออกดูได้ แต่ข้าคิดว่ามันต้องเป็นอะไรที่มีค่ามากอย่างแน่!”
เย่หยวนนั้นได้รับแผ่นหยกนั้นไปพร้อมส่องจิตศักดิ์สิทธิ์ลงไปดู แน่นอนว่าเขาย่อมจะสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังรุนแรงที่ปิดกั้นไว้
พลังปิดกั้นนี้มันสุดแสนจะรุนแรงเหนือล้ำอย่างที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ดูท่าแล้วของที่เก็บไว้ภายในมันจะต้องเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก
เย่หยวนนั้นย่อมจะอ่านความคิดของเฉิงฉงชานออกได้ทันที เขานั้นรู้ดีว่าภายในมีของดี แต่หากเปิดไม่ได้มันจะยังมีค่าใด?
แผ่นหยกทั้งหลายนี้ตัวเฉิงฉงชานคงลองมาทุกวิถีทางแล้วแต่ก็ยังไม่อาจจะเปิดมันออกได้
หากสามารถเปิดมันออกได้นั้นเขาก็คงไม่มีทางมอบให้คนอื่นเช่นนี้
เพราะฉะนั้นเขาจึงได้ถือโอกาสยกให้เย่หยวนเพื่อซื้อใจ
แต่เย่หยวนนั้นกลับมีความคิดอีกแบบหนึ่ง
พลังปิดกั้นที่ฝังอยู่ในแผ่นหยกนี้มันเหมือนดั่งสมบัติแก่เย่หยวน
เพราะตราบเท่าที่เขาศึกษามันได้สำเร็จแล้ว เย่หยวนย่อมจะต้องพัฒนาในเต๋าค่ายกลไปได้อีกมากแน่นอน
และเย่หยวนยังสนใจในสิ่งที่ถูกซ่อนอยู่หลังพลังปิดกั้นนั้นด้วย
เย่หยวนนั้นพึงพอใจกับของขวัญในครั้งนี้มาก!
คงเรียกได้ว่าพอใจกันทุกฝ่าย
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “พี่เฉิงนั้นเข้าใจเลือกของขวัญจริงๆ เย่ผู้นี้ชอบมันอย่างมาก”
เฉิงฉงชานยิ้มตอบกลับไป “ดีแล้วที่พี่เย่ชอบมัน!”
แต่เขานั้นกำลังหัวเราะเย้ยอยู่ในใจ
ค่ายกลปิดกั้นที่วางไว้ภายในนั้นมันถูกสร้างขึ้นมาด้วยมือของยอดฝีมือชั้นบรรยากาศสวรรค์จักรพรรดิหยก อย่างน้อยๆ จะต้องเป็นค่ายกลปิดกั้นระดับสี่แน่!
แค่นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยคนหนึ่งนี้ก็คือจะเปิดมันออกหรือ?
อย่าว่าแต่เย่หยวนเลย ต่อให้จะเป็นเหล่าผู้อาวุโสของนิกายเองก็คงไม่อาจเปิดมันออกได้
ที่สำคัญไปกว่านั้นต่อให้จะบังเอิญเปิดออกได้จริงๆ เขาก็คงไม่มีทางหลบหนีพ้นความตายไปได้!
เมื่อรับของขวัญมาแล้วเย่หยวนก็ย่อมจะต้องลงมือรักษา
พิษในร่างของหวู่ชวงนั้นมันรุนแรงไม่น้อยแต่ก็ไม่ได้เหนือล้ำจนเกินรับมือ
หรืออย่างน้อยๆ มันก็ไม่เกินมือเย่หยวน
เมื่อเย่หยวนลงมือแล้วพิษนั้นย่อมจะถูกขับออกมาได้อย่างง่ายดาย
ส่วนศิษย์น้องชายของเฉิงฉงชานอีกคนที่บาดเจ็บสาหัสมานั้นยิ่งจะไม่เป็นปัญหา