บทที่ 1784 ไม่รับรู้ความหวังดี + ตอนที่ 1785 เกิดเรื่องอีกแล้ว

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1784 ไม่รับรู้ความหวังดี

โจวจื่อหัวหัวคิ้วกระตุกดูท่าทางไม่สบอารมณ์เท่าไร เขาเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูงฉะนั้นเลยมั่นใจกับระบบความปลอดภัยที่ตัวเองจัดวางไว้อย่างมาก

อีกอย่างเขายิ่งมั่นใจในความจงรักภักดีของบรรดาลูกน้องของเขามาก

เหมยเหมยสงสัยฝีมือและลูกน้องของเขาจนล่วงเกินเขตต้องห้ามของโจวจื่อหัวเข้า ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เขารู้สึกไม่พอใจอย่างมาก แต่ก็เห็นแก่เหยียนหมิงซุ่น หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นโจวจื่อหัวจะต้องไม่ไว้หน้าแน่ ๆ

“เหมยเหมยไม่สงสัยบ้างหรือว่าเป็นปัญหาของฝั่งเธอ?” น้ำเสียงของโจวจื่อหัวเปลี่ยนไปเล็กน้อยไม่ได้เป็นมิตรอย่างเคยจึงทำเอาเหมยเหมยชะงักงัน

เธอไม่ได้โง่ย่อมต้องฟังออกถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่นานเธอก็รู้ตัวว่าไม่เหมาะสม ครั้งนี้เธอโทรมาโดยขาดการไตร่ตรองเกินไป

คนที่มีความมั่นใจสูงอย่างโจวจื่อหัว แต่จู่ ๆเธอกลับสงสัยว่าเขามีหนอนบ่อนไส้อยู่ข้างกาย นี่ก็ไม่ต่างกับเธอกำลังตบหน้าเขาฉาดใหญ่ โจวจื่อหัวดีใจสิแปลก!

เหมยเหมยถอนหายใจอ่อน จะโทรก็ไม่ได้ไม่โทรก็ไม่ได้ จริง ๆเลยนะ…

“ลุงหัว ฉันมีเสี่ยวอวิ๋นกับเสียวหลี่อยู่ข้างกาย พวกเขาเป็นทหารจากหน่วยรบพิเศษที่ฝีมือเก่งกล้าที่สุดในหน่วยของแผ่นดินใหญ่ เมื่อก่อนเคยร่วมทำงานเป็นบอดี้การ์ดของผู้นำไห่ มีฝีมือและมีความเป็นมืออาชีพมาก ๆ…”

เหมยเหมยแนะนำประวัติการทำงานของเสี่ยวอวิ๋นกับเสียวหลี่คร่าว ๆซึ่งไม่ได้กล่าวเกินจริงเลย การจะเป็นที่ถูกตาต้องใจของเหยียนหมิงซุ่นจนรับไว้เป็นทหารนั้น แต่ละคนล้วนต้องมีฝีมือระดับสุดยอดและเก่งกว่าบอดี้การ์ดรอบตัวโจวจื่อหัวหลายสิบเท่าอย่างไม่ต้องสงสัย

มือสมัครเล่นย่อมสู้มืออาชีพไม่ได้อยู่แล้ว!

แต่โจวจื่อหัวกลับไม่เชื่อเพราะถึงแม้ว่าเขาจะมีความสัมพันธ์อันดีกับฮวาเซี่ยมากแค่ไหนแต่ในใจลึก ๆก็ยังเหยียดหยามแผ่นดินใหญ่อยู่ดี หากประเทศแข็งแกร่งกองทัพทหารถึงจะแข็งแกร่ง ในตอนนี้ฮวาเซี่ยเศรษฐกิจไม่ค่อยดีเท่าไร ฉะนั้นโจวจื่อหัวถึงคิดว่ากองทัพทหารของแผ่นดินใหญ่เองก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพไปกว่ากันเท่าไร

ถึงขั้นสู้บอดี้การ์ดรอบตัวเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

บอดี้การ์ดพวกนี้เขาเชิญมาจากทหารรับจ้างในราคาสูงทั้งนั้น หลายคนเคยร่วมทำสงครามเขตชายแดนมาก่อน เรื่องคุณสมบัติก็ไม่เป็นสองรองใครเช่นกัน

“ขอบคุณเหมยเหมยที่เตือนนะ ฉันจะตรวจสอบคนรอบตัวแน่นอน เธอเองก็ตรวจสอบให้ดีแล้วกัน”

โจวจื่อหัวไม่ได้พูดท้วงตรงไปตรงมาแต่ความหมายกลับแน่ชัด

ทางเขาไม่มีปัญหาแน่นอน ต้องเป็นฝั่งเธอมีปัญหาแน่

เหมยเหมยถอนหายใจเบา ๆ ดื้อรั้นเสียจริง!

ในเมื่อไม่ได้สนิทสนมกันขนาดนั้นเหมยเหมยเองก็ไม่อยากพูดอะไรต่อ “ลุงหัวพูดถูก เราควรต่างตรวจสอบกันหน่อยจะได้รู้ว่าปัญหาเกิดขึ้นจากตรงไหน ถ้ากำจัดตัวต้นเหตุนี้ไม่ได้อนาคตจะต้องเป็นปัญหาใหญ่แน่”

จุดนี้โจวจื่อหัวกลับเห็นด้วย “ถูก จะต้องจับให้ได้ ทางตำรวจเป็นอย่างไรบ้าง? ให้ฉันไปช่วยพูดไหม?”

“ไม่เป็นไรแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะลุงหัว”

เหมยเหมยเอ่ยตอบเชิงเกรงใจไปไม่กี่ประโยคก็วางสายไป ไม่รู้ว่าคฤหาสน์โจวจื่อหัวจะถูกคนติดตั้งเครื่องดักฟังหรือเปล่า พูดอะไรก็ต้องคอยระมัดระวัง เฮ้อ!

“โจวจื่อหัวไม่เชื่อเหรอ?” เสี่ยวอวิ๋นถาม

“ใช่…เขาคิดว่าเป็นปัญหาของฝั่งเรา” เหมยเหมยนวดขมับ ปวดหัวขึ้นเรื่อย ๆเหมือนโดนเข็มแทงก็ไม่ปาน

“โอ้โห…เขาเอาความมั่นใจมาจากไหนเนี่ย? กะอีแค่บอดี้การ์ดยอดฝีมือที่เขาพูดน่ะฉันคนเดียวก็ล้มได้เป็นสิบคนแล้ว” เสี่ยวอวิ๋นโมโหมาก หมากัดหลี่ว์ต้งปินไม่รู้จักสำนักบุญคุณเอาเสียเลย

ทหารรับจ้างที่โจวจื่อหัวจ้างมาในราคาสูงที่ว่านั้น ใช่ว่าเธอดูถูกหรืออะไร ถ้าเรื่องสมรรถภาพทางร่ายกายอาจไม่มีปัญหาแต่เรื่องเทคนิคสู้เธอกับเสียวหลีไม่ได้อย่างแน่นอน

ยุคสมัยกำลังพัฒนาขึ้นรวมถึงกองทัพทหารเองก็เช่นกัน เทคโนโลยีเครื่องดักฟังขั้นสูงพวกนั้นมีหลากหลายรูปแบบ เหยียนหมิงซุ่นถึงได้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาอบรมให้ความรู้ด้านนี้แก่ลูกน้องเป็นประจำทุกปี เพราะกังวลกลัวว่าพวกเขาจะล้าสมัย

บอดี้การ์ดของโจวจื่อหัวไม่เคยได้รับการฝึกฝนอย่างเป็นทางการ ส่วนมากจะเป็นเพียงมือสมัครเล่น อีกอย่างพวกเขาไม่มีต้นทุนไปเรียนรู้ แล้วจะเทียบเธอกับเสียวหลี่ได้อย่างไร?

“ในเมื่อเขาไม่เชื่อเราก็ทำอะไรไม่ได้ เราแค่ทำตัวเราให้ดีก็พอ” เหมยเหมยเหนื่อยใจแต่เหนื่อยกายมากกว่า ทั้งที่ร่างกายอ่อนล้าถึงขีดสุดแต่พอล้มตัวนอนกลับนอนไม่หลับ

ใครฆ่าหร่วนหวาไฉ่กันแน่?

……………………

ตอนที่ 1785 เกิดเรื่องอีกแล้ว

โจวจื่อหัววางสายไปและมีสีหน้าท่าทางที่ดูไม่ต่างจากยามปกตินัก แต่คุณนายโจวกลับดูออกว่าเขากำลังไม่พอใจอย่างมาก

“ไม่พอใจอะไรเหรอ? คุณกับเหมยเหมยโกรธอะไรกัน?” คุณนายโจวยิ้มเกลี้ยกล่อม เธอชอบเหมยเหมยพอตัวและสิ่งสำคัญที่สุดคือเธอคิดว่าเหมยเหมยจะนำพาตระกูลโจวไปสู่เส้นทางใหม่ได้

โจวจื่อหัวแค่นเสียงเบา ๆทีหนึ่งแล้วเอ่ยอย่างไม่พอใจ “นังเด็กนั่นกลับสงสัยว่ารอบตัวผมมีหนอนบ่อนไส้ ไม่รู้อะไรซะแล้ว รอบตัวผมเหมือนมีกำแพงเหล็กอยู่แล้วจะมีหนอนบ่อนไส้ได้อย่างไร? ผมว่าฝั่งเธอต่างหากที่มีปัญหา”

คุณนายโจวใจกระตุกวูบและเริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจแปลก ๆก่อนรีบถามที่มาที่ไปของเรื่อง

โจวจื่อหัวเองก็เล่าเรื่องเทปอัดเสียงไปจนหลังเล่าเสร็จเขาก็หายโกรธแล้วเอ่ยต่อคุณนายโจวว่า “ถึงอย่างไรเรื่องนี้ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับผม ผมจะไปตามสืบดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนังหนูจ้าวเหมยหรือเปล่า”

เขาเองก็รู้สึกขำเช่นกัน อายุปูนนี้แล้วทำไมต้องโมโหนังหนูตัวเล็ก ๆด้วยนะ?

คุณนายโจวเอ่ยถาม “คุณคุยโทรศัพท์สายนี้ที่ไหน? รอบตัวมีใครบ้าง?”

เธอไม่ได้มั่นใจเต็มร้อยเหมือนโจวจื่อหัวเพราะจิตใจคนยากจะคาดเดาได้ ใครเล่าจะรับประกันได้ว่ารอบตัวจะปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์

ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลโจวในเวลานี้เหมือนอยู่ตรงปากเหว มีคนอยากล้มตระกูลโจวไม่รู้ตั้งเท่าไร อายุขนาดเธอไม่กลัวตายแต่เธอจะปล่อยให้ลูกหลานลำบากด้วยไม่ได้

โจวจื่อหัวไม่ใส่ใจกับความจริงจังของภรรยาอีกทั้งเขาไม่อยากเอ่ยถึงโอหยางซานซานต่อหน้าภรรยาเลยมีสีหน้าลำบากใจหน่อย ๆ

“สบายใจเถอะ ต้องเป็นฝั่งจ้าวเหมยที่โดนติดตั้งเครื่องดักฟังแน่ เดี๋ยวผมจะลองส่งคนไปช่วยตรวจสอบให้พวกเขาด้วย ผมไปละ คืนนี้ไม่กลับมาทานข้าวแล้วนะ”

คุณนายโจวทำหน้าเคร่งเครียด เธอรู้สึกเช่นเดียวกับเหมยเหมย คนในครอบครัวมีตั้งมากมายขนาดนี้เธอไม่กล้าเสี่ยง

“คุณหนู คุณนายโจวโทรศัพท์มาบอกว่ามีเรื่องจะถามคุณหนู”

เสี่ยวอวิ๋นถือโทรศัพท์เข้ามา เหมยเหมยงีบไปพักหนึ่งเลยรู้สึกสดชื่นขึ้นมาบ้าง เธอรับโทรศัพท์แล้วเอ่ยว่า “คุณป้าโจวมีเรื่องอะไรเหรอคะ?”

“เหมยเหมย เธอมั่นใจว่าทางลุงหัวของเธอมีหนอนบ่อนไส้แน่ใช่ไหม?” คุณนายโจวเปิดประเด็นอย่างตรงไปตรงมา เหมยเหมยนึกขุ่นใจว่าสองสามีภรรยาคู่นี้มันหมายความว่าอย่างไรกันแน่?

“ค่ะ ไม่ถึงกับร้อยเปอร์เซ็นต์แต่ก็มั่นใจกว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ โทรศัพท์ของลุงหัวต้องถูกติดตั้งเครื่องดักฟังแน่”

เหมยเหมยคิด ๆแล้วก็พูดต่อ “คุณป้าโจว คุณป้าลองเกลี้ยกล่อมลุงหัวดูนะคะ ในเมื่อหนูกล้าพูดขนาดนี้ก็ต้องมั่นใจเต็มร้อยอยู่แล้ว ถึงบอดี้การ์ดข้างตัวเขาจะเก่งก็จริงแต่ก้าวไม่ทันยุคสมัย เตรียมการดีแค่ไหนก็ต้องมีผิดพลาดกันบ้าง”

พูดถึงขนาดนี้แล้วจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่พวกเขาแล้วกัน!

“ขอบคุณเหมยเหมยมากนะ เรื่องนี้ฉันจะตรวจสอบอย่างดี”

คุณนายโจวเข้าใจความหมายของเหมยเหมยดี อย่าเห็นว่าตอนนี้เธอเป็นหญิงแก่ใจดีสวดมนต์กินเจ แต่ตอนสาว ๆก็โหดเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ไหนจะเคยช่วยชีวิตโจวจื่อหัวไว้ด้วยไม่อย่างนั้นโจวจื่อหัวจะเชื่อใจเธอมากขนาดนี้ได้อย่างไร!

หลังวางสายคุณนายโจวก็นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนเรียกพ่อบ้านมาสั่งไม่กี่ประโยค พ่อบ้านรับคำสั่งแล้วก็ออกไป

คุณนายโจวหัวเราะเยาะตัวเอง เมื่อครู่โจวจื่อหัวไม่ยอมบอกว่าคุยโทรศัพท์ที่ไหนก็บ่งบอกว่าตอนคุยโทรศัพท์ต้องมีคู่นอนคนนั้นของเขาอยู่ข้างกายแน่ ๆ เพราะเหตุนี้คุณนายโจวถึงได้ยิ่งสงสัยมากกว่าเดิม

สัญชาตญาณของผู้หญิงบอกเธอว่านางแพศยาโอหยางซานซานต้องมีปัญหาแน่นอน!

ไม่ใช่คนแพศยาที่เรียกร้องแต่เงินทองอย่างที่เคยมีมา เธอจะต้องเปิดโปงภูมิหลังของนางแพศยาคนนี้ให้ได้!

คดีของหร่วนหวาไฉ่ไม่มีอะไรคืบหน้า ตำรวจหลินจะโทรมาถามบ้างเป็นครั้งคราวซึ่งเหมยเหมยก็ตอบกลับไปอย่างซื่อสัตย์ ไม่มีอะไรน่าปิดบังในเมื่อเธอไม่ได้เป็นคนฆ่า

“คุณหนู เกิดเรื่องอีกแล้ว!”

เพิ่งสงบไปได้สองวันเสี่ยวอวิ๋นก็รีบกลับมาด้วยท่าทีตื่นตระหนก

…………………..