เย่เฉินใช้ฝ่ามือเดียวโจมตี7คนจะต้องถอยหลังไป เล่นเอาราชาบู๊ทั้งแปดอึ้งไปตามกัน!
พลังแบบไหนกัน ถึงสามารถทำให้ถึงจุดที่ไม่อาจคาดคิดแบบนี้ได้?
ต่อให้เป็นสุดยอดฝีมือบนโลกนี้ ก็ไม่มีทางมีพลังที่มากมายแบบนี้ได้!
เพราะถึงอย่างไรราชาบู๊ทั้งแปดก็ไม่ใช่เล่นๆ ถ้าพวกพี่น้องเขานั้นรวมพลังกันล่ะก็ อย่างน้อยจะเป็นพลังที่1+1มากกว่า2เลยทีเดียว
แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้ ราชาบู๊ทั้งแปดรวมพลังกัน ก็ไม่เท่ากันหมัดเดียว ฝ่ามือเดียวของเย่เฉิน
ฟ่านหลินยวนคลานลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก แล้วพูดว่า “มึงเป็นใครกันแน่วะ? มึงจบสำนักไหนมา? อาจารย์มึงเป็นใคร? ”
เย่เฉินก็ยิ้มเย็นพูดว่า “กูไม่มีสำนักหรอก อาจารย์ก็ตัวกูเอง ทำไม มึงไม่ยอมรึไง? ”
ฟ่านหลินยวนก็กลืนน้ำลาย แล้วก็พูดอย่างกลั้นความกลัวไม่ได้ “ยอม!ยอมแล้ว!ยอมจริงๆ !อาจารย์เย่ คุณเป็นสุดยอดฝีมือบนโลกนี้จริงๆ คุณก็น่าจะรู้นะ ว่านักต่อสู้กว่าจะฝึกวิชาได้มันไม่ง่าย เห็นแก่ที่พวกเราพี่น้องรู้ผิดแล้วรู้จักแก้ไข ไว้ชีวิตหมาๆ ของพวกเราไปด้วยเถอะ”
เย่เฉินก็ยิ้มพูดว่า “อะไรกัน ไม่ทันไรก็จะให้กูไว้ชีวิตแล้วหรือ? พวกมึงทำไมไม่ทำตามแผนที่วางไว้ล่ะ? ”
ฟ่านหลินยวนก็พูดอย่างยากลำบากว่า “ผมรู้แล้วว่ามีความสามารถไม่ถึงคุณ ไม่อยากจะดิ้นรนต่อไป ขอให้อาจารย์เย่ไว้ชีวิตด้วยเถอะ!”
เย่เฉินก็ถามกลับ “ตอนที่มึงมานั้น ก็จะฆ่ากู ตอนนี้ฆ่ากูไม่ได้ แล้วก็มาขอให้กูไว้ชีวิต โลกนี้มันสวยงามขนาดนั้นเลยหรือไงวะ? แล้วถ้ากูสู้มึงไม่ได้ แล้วกูขอร้องมึงบ้างล่ะ ขอร้องให้มึงอย่าฆ่ากู พวกมึงยินยอมไหม? ”
ฟ่านหลินยวนก็หน้าเสียมาก เขารู้ว่าเย่เฉินคงจะไม่ปล่อยตนเองไปง่ายๆ แน่
ดังนั้น เขาก็รีบคุกเข่า แล้วพูดกับเย่เฉินว่า “อาจารย์เย่ครับ!ถ้าคุณปล่อยผมไปล่ะก็ พวกเรา8คนพี่น้อง ชาตินี้ ชีวิตนี้ จะเคารพคุณคนเดียว ฟังคำสั่งคุณคนเดียว!”
เย่เฉินก็ยิ้มอย่างสนุกสนาน แล้วถามเขาว่า “อะไรกัน? จะแปรพักตร์งั้นหรือนี่? แล้วมึงจะไปรายงานกับนายท่านอู๋อย่างไรล่ะ? ”
ฟ่านหลินยวนตั้งใจพูดว่า “ชาวบ้านเขาว่ากันว่า นกฉลากก็จะเลือกกิ่งไม้ดีๆ เกาะ ฟ่านหลินยวนรู้ดีว่าเย่เฉินมีพลังวิเศษ ก็เลยยอมสวามิภักดิ์ ชีวิตนี้ก็ติดตามอาจารย์เย่!”
เย่เฉินก็พยักหน้าด้วยสีหน้านิ่งๆ เขาค่อยๆ เดินไปทางพวกฟ่านหลินยวน ไม่มีใครรู้ ว่าตอนนี้เขาจะทำอะไร
ฟ่านหลินยวนเห็นเขาเข้าใกล้มาเรื่อยๆ แล้วก็พูดกับศิษย์น้องทั้งหลายว่า “เร็วเข้า!รีบคำนับอาจารย์เย่สิ!”
จากนั้น ราชาบู๊ทั้งแปดก็คลานกันขึ้นมา แล้วโขกหัวคำนับเย่เฉิน
แม้แต่หมัดเหล็กหลี่ที่แขนเละไปหนึ่งข้างแล้ว ก็ยังคุกเข่าโขกหัวที่พื้นด้วย
ส่วนฟ่านหลินยวน ก็เอาแขนซ้ายหดเข้าไปในแขนเสื้อ กำมีดพกไว้แน่น โดยไม่ให้เห็น
มีดพกนี้ยาวแค่คืบเดียว ตามหลักแล้ว ไม่มีแรงทำลายล้างเท่าไรนัก โดยเฉพาะสำหรับยอดฝีมือ
แต่ว่า มีดพกของฟ่านหลินยวนเล่มนี้ไม่ธรรมดา เขาไม่เพียงชุบยาพิษไว้ที่คมดาบ แถมยังทาสารกัมมันตรังสีไว้ที่คมดาบด้วย
ผงกัมมันตภาพรังสีเล็กๆ พวกนี้ ถ้าไม่ไปสัมผัส ก็จะไม่ส่งอะไรต่อมนุษย์มาก แต่ถ้าถูกผงพวกนี้เข้าไปยังบาดแผล แล้วเข้าสู่ร่างกายล่ะก็ บาดแผลก็จะไม่หาย
ฟ่านหลินยวนอยู่ในยุทธภพมานาน เก็บไม้ตายนี้ไว้ตลอดเวลา
นอกจากพวกศิษย์น้องของเขาแล้ว คนที่เคยเห็นมีดพกนี้ ล้วนตายกันไปหมดแล้ว!
เย่เฉินทำลายแขนขวาเขาไป แค้นนี้จะอยู่ร่วมฟ้ากันไม่ได้
ดังนั้น เขาไม่มีทางแปรพักตร์ไปรับใช้เย่เฉินแน่นอน!
ที่พูดแบบนั้น ก็เพราะว่าเห็นเขาอายุยังน้อย คงจะเดาทางคนที่อยู่ในยุทธภพมานานไม่ได้ ที่แกล้งทำเนยอมอ่อนข้อ จากนั้นก็หาโอกาสใช้วิธีที่ชั่วช้าลอบโจมตี
พยายามฆ่าให้ตายในครั้งเดียว!
———-