ตอนที่ 1401 อย่างน้อยก็พาคนมาหนึ่งคน

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

การประชุมของทีมสำรวจเดอะเกตส์ออฟเฮลล์เริ่มต้นขึ้น

ในห้องประชุม

ภาพโฮโลแกรมสามมิติถูกนำเสนอเหนือโต๊ะกลม

ลู่โจวยืนตรงโต๊ะประชุม เขามองไปที่สมาชิกทีมสำรวจวิทยาศาสตร์และพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“เดิมทีผมตั้งใจจะเริ่มการประชุมในช่วงค่ำ แต่สิ่งที่ผมกำลังจะพูดต่อไปนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ดังนั้นจึงต้องประชุมกันก่อน”

“ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาทีมโปรเจกต์ 128 ได้ส่งอุปกรณ์ตรวจจับที่หลากหลาย อย่างเช่น รถรีโมตคอนโทรล เครื่องมือสายควบคุม อุปกรณ์ตรวจจับคลื่นแผ่นดินไหวเพื่อสำรวจสถานการณ์ใต้พื้นดิน”

“ภาพโฮโลแกรมที่คุณเห็นอยู่ตอนนี้คือแบบจำลองอุโมงค์ภายใต้ซากปรักหักพัง เส้นสีเขียวเชื่อมต่อกับเส้นทางที่ตรวจสอบล่าสุด เส้นสีเหลืองคือเส้นทางในอดีต ตัวเลขที่ระบุใกล้ๆ คือเวลาในการตรวจสอบ”

“เนื่องจากระยะทางของระยะควบคุมทำให้ระยะทางสูงสุดที่รถรีโมตคอนโทรลสำรวจได้คือหนึ่งกิโลเมตรเท่านั้น มันไม่สามารถเข้าถึงจุดที่ลึกที่สุดของซากปรักหักพังได้ เราสามารถมองเห็นได้ว่าเส้นทางที่อยู่ใต้ซากปรักหักพังมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก”

การอภิปรายเกิดขึ้นรอบๆ โต๊ะประชุม

ลู่โจวมองผู้คนที่แสดงสีหน้าที่แตกต่างกัน เขานิ่งไปสักพักก่อนที่จะพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“จนถึงตอนนี้สาเหตุที่อุโมงค์เหล่านี้เกิดความเปลี่ยนแปลงยังไม่ชัดเจน แต่สิ่งที่ชัดเจนคือเราอาจจะไม่มีแผนที่ที่แน่นอนที่เราสามารถพึ่งพาได้ เราคงต้องพึ่งพาสัญชาตญาณและดวงเพื่อหาทางไปสู่ซากปรักหักพังใต้ดิน”

“สิ่งที่ผมกังวลไม่ใช่เรื่องที่เราอาจหลงทาง แต่เป็นสาเหตุของปรากฏการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้น ผมเดาว่าความลับที่อยู่เบื้องหลังซากปรักหักพังใต้เดอะเกตส์ออฟเฮลล์อาจจะน่าสนใจกว่าปรากฏการณ์ของเราก็ได้”

“ผมจะพูดตรงๆ เลยนะ ภารกิจนี้อาจมีความเสี่ยง ใครอยากจะถอนตัวตอนนี้ก็ยังทัน”

ลู่โจวกลับไปนั่งบนเก้าอี้และให้เวลาสมาชิกในทีมที่นั่งตรงโต๊ะประชุมได้อภิปรายกัน

จริงๆ แล้วเขามีความรู้สึกก่อนที่จะมาที่นี่ว่าการเดินทางมายังดาวอังคารครั้งนี้คงไม่จบง่ายๆ แน่ๆ หลังจากที่พูดคุยกับฟานถงก่อนหน้านี้ เขาก็ยิ่งมั่นใจเข้าไปอีก

เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังความซับซ้อนของเส้นทางใต้ดิน เหตุผลที่ว่าทำไมผู้ศักดิ์สิทธิ์จึงสร้างอุปสรรคมากมายขนาดนี้ สาเหตุที่เขาวงกตเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เรื่องทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ลู่โจวสงสัย

เนื่องจากข้อมูลที่จำกัด เบาะแสที่มีอยู่ไม่เพียงพอที่เขาจะให้คำตอบที่แน่นอนได้

แม้ว่าจะมีเรื่องความเป็นไปได้ที่ไม่แน่นอนมากมาย แต่สิ่งที่แน่นอนคือภารกิจนี้อันตราย

การพิสูจน์ข้อคาดการณ์ ABC อาจเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น การทดสอบจากอารยธรรมที่สูงกว่าเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น

ราวกับว่าผู้ที่อ้างตนว่าเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ไม่สนว่าจะต้องรออีกกี่ปี ถ้าไม่มีใครสามารถผ่านแบบทดสอบของผู้สังเกตการณ์ได้ พวกเขาก็ยอมรอไปอีกยุคสมัยหนึ่ง

เพราะสุดท้ายพวกเขาก็รอคอยมานานหลายพันปีแล้ว สำหรับพวกเขาเวลาเพียงไม่กี่ร้อยปีอาจเป็นเพียงแค่พริบตาเดียว

ถ้าผู้ที่ถูกเลือกสามารถรับมือกับหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่นี้ได้ พวกเขาก็คงไม่ลังเลที่จะเพิ่มความยากเข้าไปในการทดสอบนี้

แม้แต่ตัวลู่โจวเองก็ยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถผ่านการทดสอบนี้ได้

นี่ไม่ใช่เกมปริศนาวัดไอคิว

มันคือการเดิมพันกับโชคชะตาของอารยธรรมมนุษย์ในอนาคต…

ห้านาทีผ่านไป

ทุกคนยังคงกระซิบและมองตากันอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่มีใครยืนขึ้นและถอนตัวจากภารกิจเสี่ยงตายนี้

บางทีพวกเขาอาจจะไม่รู้ว่าปัญหานี้จริงจังขนาดไหน

ไม่ว่าจะอย่างไรลู่โจวให้โอกาสพวกเขาได้เลือก

ลู่โจวนั่งตัวตรงและค่อยๆ ขึ้นพลางวางมือบนโต๊ะประชุม

“เยี่ยมมาก ดูเหมือนว่าพวกคุณเตรียมใจกันมาแล้ว เพราะฉะนั้นผมจะไม่พูดอะไรมาก การประชุมสิ้นสุดลงแล้ว เราทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้ เราทำได้เพียงแค่รอดูสถานการณ์”

“เวลากลางคืนคือเวลาอิสระ ไม่ว่าจะเขียนจดหมายหรือถ่ายวิดีโอก็ทำตามที่ต้องการได้เลยนะครับ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นจะมีคนนำจดหมายพวกนี้ไปส่งให้ครอบครัวของคุณ…แต่ขออย่าให้เกิดอะไรขึ้นเลย”

“เราจะออกเดินทางพรุ่งนี้เช้า”

การประชุมจบลง

ทุกคนลุกจากโต๊ะประชุมด้วยความตื่นเต้น

ศาสตราจารย์ออเบรย์ชำเลืองมากศาสตราจารย์เวอร์นัลที่นั่งใกล้เขาและพูดด้วยท่าทางแปลกๆ

“นี่กำลังจะสื่อว่าเราควรเขียนพินัยกรรมเหรอ”

ศาสตราจารย์เวอร์นัลส่ายหัว เขาพูดไม่ออก

“ผมไม่รู้…อย่าถามผม”

วันถัดมา

เวลาแปดโมงตรงที่ปักกิ่ง ผืนแผ่นดินบนดาวอังคารยังคงปกคลุมไปด้วยความมืด

ค่ำคืนที่เงียบสงบถูกรบกวน

ประตูสีเงินขาวถูกเปิดออก รถสำรวจดาวอังคารที่มีล้อสูงกว่าหนึ่งเมตรเคลื่อนที่ออกจากโรงรถ เหลือเพียงร่องรอยบททะเลทราย มันมุ่งหน้าไปที่ภูเขาเดอะเกตส์ออฟเฮลล์ที่อยู่ไกลออกไป

ความลับของอารยธรรมดาวอังคารถูกฝังไว้ที่นั่น

รวมทั้งยังมีข้อความที่ไม่ได้มาจากอารยธรรมมนุษย์

ภารกิจในการสำรวจครั้งนี้คือการขุดสิ่งเหล่านี้จากใต้ผืนดิน ถ้าสถานการณ์ราบรื่นดี มันก็เป็นเรื่องที่ดีในการสร้างความสัมพันธ์ทางการทูตกับเพื่อนบ้านนอกระบบสุริยะ…

หวังเผิงนั่งในรถสำรวจ เขานำปืนไรเฟิลที่มีลักษณะเฉพาะออกมาจากกล่องเครื่องมือและประกอบปืน

ฉากนี้ทำให้คนที่อยู่ใกล้ๆ เขารู้สึกกลัว แม้แต่ฟานถงเองที่กำลังขับรถอยู่ก็อดถามไม่ได้ “คุณพกอาวุธมาด้วยเหรอ”

“เผื่อไว้ก่อนครับ”

หลังจากติดตั้งกล้องส่องทางไกลแล้ว หวังเผิงปรับระดับตำแหน่งการเล็ง

ลู่โจวเหลือบไปมองปืนไรเฟิลในมือของเขาและสังเกตเห็นแบบจำลอง

ปืนไรเฟิล QBZ-20 คือไรเฟิลทหารพลร่มที่ออกแบบโดยสถาบันวิจัยอาวุธยุทโธปกรณ์จีนและสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการบินและอวกาศ ชื่อที่สง่างามของมันคือไฟนรก

เหตุผลที่เขาจำแบบจำลองได้ก็เพราะเขาได้ฝึกกับกองทหารรักษาการณ์ที่จุดปล่อยยานจินหลิงอยู่หลายอาทิตย์ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่เครื่องมือแบบนี้ก็ตามที แต่เขาก็เคยเห็นอยู่หลายครั้ง

หวังเผิงไม่ได้ดูเหมือนกำลังล้อเล่นอยู่ ฟานถงจึงพูดด้วยท่าทางแปลกๆ “ผมคิดว่า…ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริงๆ สิ่งนี้ไม่น่าจะมีประโยชน์นะครับ”

หวังเผิงเลิกคิ้ว

“อ้อเหรอครับ?”

ฟานถงพูด “เทคโนโลยีของพวกเขาเหนือกว่าความรู้ของเราเยอะ ผมพยายามสำรวจโบราณวัตถุอยู่ตลอด แต่มีกำแพงที่มองไม่เห็นขวางทางผมอยู่ ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกัน เดี๋ยวตอนที่เข้าไปคุณก็จะรู้เอง…”

หวังเผิงพยักหน้าและไม่ได้ตอบอะไร

ถ้าไม่มีการขัดแย้งเกิดขึ้นจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด เพราะพวกเขามาที่นี่อย่างสันติ

แต่ถ้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น…

เขาจะต้องปกป้องอย่างน้อยหนึ่งคน