แต่เบื้องหลังของเฉียนหงเย่น มีอู๋ตงไห่คอยหนุนหลังอยู่ ตนเองคงจะไม่กล้าไปหาเรื่องกับอู๋ตงไห่ ยิ่งไม่กล้าเอาเรื่องอู๋ตงไห่ ดังนั้นต่อให้ตนเองถูกเฉียนหงเย่นสวมเขาให้ ก็ไม่อาจจะหย่าร้างกับเธอได้
ผู้ชายคนหนึ่งถูกสวมเขาแบบนี้ แถมยังไม่สามารถหย่ากับเมียตนเองได้ มันช่างเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดมาก มันช่างเป็นฉากเศร้ามากจริงๆ ไม่คิดเลยว่า จะมาเกิดขึ้นกับตนเอง
คำพูดของหม่าหลันตอนนี้ เหมือนกับถลกเนื้อเถือหนังกันเลย เซียวฉางเฉียนเจ็บปวดราวกับถูกคนตบหน้าเป็นหมื่นครั้ง
นายหญิงใหญ่เซียวก็โมโห เธอถือตัวมาทั้งชีวิต ไม่อาจจะยอมเห็นว่าชื่อเสียงของเซียวฉางเฉียน ถูกโจมตีแบบนี้
ตอนนั้น ที่เซียวเวยเวยไปอยู่กับเซียวอี้เชียน ถึงแม้จะเป็นกระแสมากมาย แต่ตอนนั้น นายหญิงใหญ่ก็ไม่มีทางอื่น อีกอย่าง ในสังคมมีผู้หญิงวัยรุ่นผู้หญิงมากมายไปอยู่กับคนมีเงิน ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก ถึงแม้คนอื่นจะหัวเราะเยาะ แต่ไม่นานมันก็ลืมๆ กันไปเอง
แต่ครั้งนี้ เฉียนหงเย่นก่อเรื่องไม่เหมือนกัน เฉียนหงเย่นทำให้ตระกูลเซียวขายหน้า จนไม่เหลือชิ้นดีเลย
ที่ยิ่งน่าโมโหก็คือ ถูกคนถ่ายวิดีโอแล้วไปลงบนโลกออนไลน์ ทีนี้จบเห่ ตระกูลเซียวกลายเป็นตัวตลกของคนเมืองจินหลิง
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นายหญิงใหญ่ก็ไม่อาจจะทนกับคนชั่วอย่างหม่าหลัน ที่มาหัวเราะเยาะตนเองได้
จากนั้น นายหญิงใหญ่เซียวก็ชี้หน้าด่าหม่าหลัน “อีแซ่หม่า มึงรีบอาหมวกสีเขียวพวกนั้นออกไปให้ไวเลยนะ ไม่งั้นล่ะก็กูจะไม่ไว้หน้ามึงแน่!”
“อ้าว!” หม่าหลันเบ้ปาก “หมวกสีเขียวพวกนี้ ฉันเสียเงินซื้อมาเอง นี่ก็เป็นบ้านฉัน ฉันจะไปแขวนไว้ที่ไหนก็ได้ แม่มีสิทธิ์อะไรมาชี้นิ้วสั่ง? คิดว่าเป็นนายหญิงใหญ่เซียวเหมือนเมื่อก่อนรึไงกัน? ฉันจะบอกให้นะ อย่ามาคิดวางอำนาจอะไร ในบ้านฉัน!”
พูดจบ หม่าหลันก็รีบเปลี่ยนเรื่องพูดว่า “แม่ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้ามาในบ้านของฉัน!ถ้ายังมายืนด่าที่หน้าประตูบ้านฉันอีกล่ะก็ ฉันก็จะโทรแจ้งตำรวจ ให้มาจับแม่ออกไปเสีย!”
นายหญิงใหญ่เซียวได้ยินว่า หม่าหลันจะแจ้งความจับตนเอง ก็โมโหจนตัวสั่น!
แต่ถึงแม้ทั้งสองจะโมโห แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
เจ้าของบ้านเขาไม่มาเปิดประตูให้ ตนเองก็คงไม่อาจจะบุกเข้าไปตบเขาหรอก
บุกเข้าไปก็เท่ากับผิดกฎหมาย ถ้าโทรแจ้งความไป ตนเองคงจะต้องถูกจับไปแน่ ได้ไม่คุ้มเสีย
ในตอนที่สองแม่ลูกไม่รู้จะทำอย่างไรกันนั้น หม่าหลันก็เอาหมวกสีเขียวที่แขวนข้างระเบียง มาใส่บนหัวตนเอง แล้วยิ้มตาหยีพูดว่า “ไอ้หยาพี่ใหญ่ พี่ว่าหมวกนี้มันเขียวดีไหม เป็นมงคลดีนะ!พี่ว่าสีเขียวนี้ มันเขียวกว่าผักกุ้ยช่ายที่พี่กินวันนั้นไหม? ”
หม่าหลันพูดไป แล้วก็ใส่หมวกไปด้วย แล้วก็เต้นสะดีดสะดิ้งอยู่บนระเบียง
ถึงแม้ขาของเธอจะยังไม่หายดี แต่ทำท่าทางเต้นแอโรบิก ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร
พอเธอบิดตัวเยาะเย้ย ก็ยิ่งทำให้เซียวฉางเฉียนโมโหไฟลุกท่วมมากกว่าเดิม!
ตอนนี้เซียวฉางเฉียนก็แทบจะระเบิด เขาอยากจะเอาจรวดสักลูก มายิงระเบียงของหม่าหลันให้แหลกไปเลย
“หม่าหลัน มึงนี่มันบ้า มึงจะเล่นกับกูแบบนี้ใช่ไหม? มึงรู้ไหมว่ามาหาเรื่องกูแล้วจะมีจุดจบอย่างไร? ”
หม่าหลันก็ยิ้มพูดว่า “เมียพี่ไปถูกคนอื่นเขากระทำจนตั้งท้อง คนที่ทำเมียพี่ก็ยังอยู่ดีไม่ใช่หรือไง? เขามีจุดจบอะไรหรือยังล่ะ ฉันแค่พูดแค่นี้เอง ก็คงจะไม่มีจุดจบอะไรได้หรอก!ฮ่าๆๆๆ !”
เซียวฉางเฉียนก็โกรธจัด “หม่าหลัน! สักวันกูจะฆ่ามึง!”
ตอนที่เซียวฉางเฉียนกำลังโกรธจนเส้นเลือดปูดนั้น หม่าหลันก็โยนหมวกสีเขียวออกมา หมวกก็ปลิวมาตกใส่บนหัวของเซียวฉางเฉียน เซียวฉางเฉียนก็ถอยหลัง หมวกก็เลยตกลงที่พื้น
หม่าหลันก็ตบมือดีใจ หัวเราะลั่นพูดว่า “ไอ้หยา พี่ดูสิ หมวกนั้นมันรู้จักพี่ด้วยล่ะ ถึงได้หลิวไปที่หัวพี่ ถ้าเมื่อครู่พี่ไม่หลบนะ มันคงจะหล่นที่หัวพี่พอดีเลยล่ะ!