“วางท่าเป็นลึกลับ! มันต้องกำลังวางท่าเป็นลึกลับเก่งกาจหลอกลวงสายตาของผู้คนอยู่แน่!” ฉือเฟยหยูกล่าวขึ้นมา
“ใช่แล้ว! มันต้องวางท่าไปเปล่าๆ แน่! ด้วยความเข้ากันได้แค่สี่นั้นมันจะยังมาหลอมโอสถสวรรค์เมฆาชาดได้หรือ? เช่นนั้นแล้วเราเหล่านักหลอมโอสถสวรรค์ทั้งหลายนั้นจะไม่เป็นแค่ตัวตลกไปหรือ!” ฉินชุนกล่าวขึ้นมาเสริม
“แม้จะดูลึกล้ำเช่นนั้นแต่ภายในมันต้องมีแต่กองขี้เถ้าแน่!” ฉือเฟยหยูกล่าวขึ้น
คนทั้งสองนั้นกล่าวเสริมกันไปมาเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ตัวเอง
แต่ในเวลานั้นเองที่เย่หยวนก็หลอมมันได้จนสำเร็จ!
คนทั้งหลายนั้นต่างกลั้นใจมองดูหม้อหลอมอย่างไม่กะพริบตา
จะเป็นลาหรือม้าก็จะได้รู้กันตอนนี้!
“เปิด!”
วินาทีที่หม้อหลอมเปิดออกมามันก็ปรากฏแสงสีทองสว่างจ้าส่องเข้าตาของผู้คน
“โอสถทองระดับเก้า!”
“บ้าน่า! โอสถสวรรค์ที่ยากเย็นปานนั้นหรือว่าเขาจะเคยหลอมมันมาก่อน?”
“ที่สำคัญเขายังมีความเข้ากันได้แค่สี่แต้ม! สี่แต้ม! นี่มัน… จะบ้าเกินไปแล้ว!”
“ให้ตายสิวะ นี่มันจะบ้าเกินไปแล้ว! จัดการเรื่องราวในรวดเดียวเช่นนี้อาจารย์ฉินจะยังต้องประลองใดๆ อีก?”
…
เสียงฮือฮาของผู้คนระเบิดขึ้นพร้อมๆ กัน!
คนทั้งหลายนั้นรู้สึกราวกับกำลังฝันไป!
พวกเขานั้นคิดถึงความเป็นไปได้นับหมื่นๆ พันๆ แต่ไม่มีใครคิดฝันเลยว่าเย่หยวนนั้นกลับจะหลอมโอสถทองระดับเก้าออกมาได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ลงมือเช่นนี้!
เวลานี้เองที่พวกเขาทั้งหลายได้เข้าใจว่าทำไมเย่หยวนนั้นจึงสามารถจะเชิดหน้าบอกว่าไม่ต้องให้ฉินชุนลงมือใดๆ อีกแล้ว
เพราะเช่นนี้แล้วจะยังต้องลงมืออะไร?
ฉินชุนนั้นเองก็บอกมาก่อนแล้วว่าตัวเขานั้นยังหลอมโอสถสวรรค์เมฆาชาดนี้ได้แค่ระดับสามขั้นต่ำ
ต่อให้จะหลอมไปจนกระอักเลือดเขาก็ย่อมจะไม่มีวันหลอมได้ถึงระดับเก้าแน่!
“ฮ่าๆๆ… งดงามนัก! วินาทีที่น้องเย่ลงมือนั้นมันก็ทำลายทุกสิ่งที่ขวางสิ้น! เท่านี้คนทั้งหลายก็คงต้องหุบปากลงบ้างแล้วใช่หรือไม่?” หลัวหยุนชิงกล่าวขึ้นมาพร้อมปรบมือลั่นอย่างสะใจ
เพราะแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่นึกฝันว่าวินาทีที่เย่หยวนลงมือนั้นมันกลับจะทำให้คนทั้งหลายแทบลืมหายใจลงเช่นนี้
ที่ด้านข้างเขานั้นเจ้านิกายเองก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นมา
นักหลอมโอสถสวรรค์สี่แต้มที่เก่งกาจปานนี้เขาก็เพิ่งจะเคยได้พบเห็นครั้งแรกในชีวิต
เย่หยวนหันไปหาฉินชุนก่อนจะกล่าวขึ้น “เจ้าเฒ่า ทำไมไม่ลงมาลองหน่อยเล่า? ข้าเพิ่งจะเคยหลอมมันครั้งแรกยังมีจุดที่ทำพลาดอยู่มาก หากเจ้าหลอมมันถึงระดับเก้าขั้นสุดได้เจ้าย่อมจะชนะข้าได้”
ฉินชุนนั้นหน้าดำมืดลงทันทีที่ได้ยิน เขานั้นแทบจะอยากฉีกร่างเย่หยวนออกเป็นชิ้นๆ
‘ลองแม่เจ้าสิ!’
‘ระดับเก้าขนาดนี้แล้วลงไปมันก็มีแต่จะเสียหน้าเปล่ามิใช่หรือ?’
แต่ครั้งนี้ท่าทางโอหังของเย่หยวนมันไม่ได้ทำให้คนทั้งหลายเย้ยหยันใดๆ อีก
เพราะเวลานี้ความโอหังของเย่หยวนมันกลายเป็นเรื่องแสนธรรมดา
ยอดฝีมือนั้นย่อมจะมีความโอหังไม่ยอมใคร!
แม้แต่ฉินชุนนั้นยังต้องหุบปากลงมิใช่หรือ?
เหวินจิงซวนนั้นเหม่อมองดูเย่หยวนด้วยปากที่อ้าค้างจนตอนนี้ก็ยังไม่อาจหุบลงได้
หางของเขาปรากฏออกมาแล้วจริง!
แต่มันมิใช่หากจิ้งจอก มันกลายเป็นหางมังกร!
นางนั้นยึดมั่นถือตัวเป็นยอดอัจฉริยะไม่เคยสนใจนักหลอมโอสถสวรรค์คนอื่นๆ ในนิกายอยู่ในสายตา
แต่นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยที่มีความเข้ากันได้แค่สี่นี้กลับเหยียบหัวนางด้วยนิ้วเท้าเดียว
ไม่สิ เขานั้นเหยียบทั้งหัวนางและหัวของอาจารย์นางไปพร้อมๆ กัน!
เดิมทีเย่หยวนนั้นย่อมจะเป็นดั่งตัวตลกในสายตาเหวินจิงซวน!
แต่เวลานี้เขากลับได้กลายเป็นขุนเขาใหญ่
ขุนเขายิ่งใหญ่ที่กดทับหัวนางไว้จนไม่อาจจะหายใจ
“ทำไมไม่พูดอะไรเสียหน่อยเล่า? ไม่ต้องรีบน่า ครั้งนี้เจ้าแค่ประมาทศัตรูไปเท่านั้น เจ้ายังมีโอกาสอีกสองครั้ง มาๆ! เจ้าทำได้น่า!” เย่หยวนหันไปบอกฉินชุนด้วยรอยยิ้ม
ฉินชุนนั้นหน้าดำมืดลงทันทีที่ได้ยิน เจ้าหมอนี่มันกวนเท้าจนเกินรับ!
เขานั้นกัดฟันแน่นโยนแผ่นหยกอีกชิ้นออกมา “นี่คือสูตรโอสถสวรรค์แปลงเก้ามังกรน้ำ! หากเจ้าหลอมมันได้ก็ให้นับว่าเฒ่าคนนี้ไปแพ้พ่ายไปเลย!”
เย่หยวนรีบกล่าวขึ้นมาขัด “ไม่เอาน่า เจ้าต้องระวังให้มากนะ หรือไม่เจ้าอาจจะตบหน้าตัวเองเข้าเอา! เอาตามเดิมนั่นแหละ สามครั้ง!”
ไม่มีใครกล้าจะเอ่ยพูดใดๆ
แต่ว่าการที่ฉินชุนนำเอาสูตรโอสถสวรรค์แปลงเก้ามังกรน้ำออกมานี้มันย่อมจะทำให้เกิดความแตกตื่นขึ้นมาไม่น้อย
เพราะนี่มันเป็นโอสถที่เหนือล้ำยิ่งกว่าโอสถสวรรค์เมฆาชาด มิใช่แค่ว่ามันลึกลับเท่านั้นแต่ความยากในการหลอมของมันก็เหนือล้ำด้วยเช่นกัน
แค่นี้ก็ชัดเจนแล้วว่าฉินชุนนั้นลงมือเต็มแรงแล้ว
แต่น่าเสียดายที่เย่หยวนก็ยังหลอมมันได้อย่างสบายๆ
หลายชั่วโมงต่อมามันก็ปรากฏโอสถสวรรค์ขึ้นในหม้อหลอมอีกครั้ง
ระดับเก้า!
คนทั้งหลายได้แต่ต้องอ้าปากค้างขึ้นตามๆ กัน!
หากจะบอกว่าเย่หยวนเคยหลอมโอสถสวรรค์เมฆาชาดมาก่อนแล้วจะเอาอะไรมาอธิบายเรื่องที่เขาหลอมโอสถสวรรค์แปลงเก้ามังกรน้ำนี้ได้กัน?
โอสถที่ยากเย็นเช่นนี้อย่าว่าแต่ดินแดนสวรรค์ห้าแสงเลย แม้แต่ในห้ายอดแดนสวรรค์นี้มันก็คงมีคนรู้แค่ไม่กี่คนเท่านั้น
แต่เย่หยวนนั้นกลับหลอมมันได้ราวกับเคยฝึกมานับครั้งไม่ถ้วน
วินาทีที่เขาลงมือ มันก็เป็นระดับเก้าทันที!
เย่หยวนมองดูฉินชุนด้วยรอยยิ้ม “ก็บอกแล้วว่าอย่าได้มั่นใจมากไป มันจะเสียหน้าเอา!”
ฉินชุนนั้นหน้าดำเป็นก้นหม้อทันทีที่ได้ยิน
เขานั้นร้องลั่นขึ้นมาอย่างไม่พอใจ “เฒ่าคนนี้ไม่ขอเชื่อว่าเจ้านั้นจะหลอมโอสถสวรรค์นี้ได้!”
พูดจบเขาก็โยนแผ่นหยกอีกชิ้นหนึ่งไปให้แก่เย่หยวน
เย่หยวนนั้นลองส่องจิตศักดิ์สิทธิ์ลงไปดูและต้องเบิกตากว้าง
เพราะสูตรโอสถนี้มันดีไม่น้อย!
เขานั้นไม่คิดจะต่อปากต่อคำใดๆ รีบนั่งลงศึกษามันทันที
คนทั้งหลายนั้นได้แต่มองดูอย่างสงสัยว่าคราวนี้ฉินชุนได้เอาโอสถสวรรค์ชนิดใดออกมากันแน่
แต่พวกเขานั้นรู้ดีว่ามันย่อมจะเป็นสิ่งที่ฉินชุนภาคภูมิที่สุดแล้ว!
หลายชั่วโมงต่อมาหม้อหลอมมันก็ถูกเปิดออก
และยังเป็นระดับเก้า!
“นี่มัน… นี่มันคือโอสถสวรรค์จักรพรรดิหยกตำนานล้างฝุ่น! โอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิ! อ-โอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิระดับเก้า!”
หวู่เฉิงเฉาลุกพรวดขึ้นมามองดูโอสถสวรรค์ในหม้อหลอมนั้นอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
เขานั้นคิดมาตลอดว่าอยากจะเห็นฉินชุนเสียหน้าแต่ก็ไม่คิดฝันว่ามันจะถึงขั้นนี้ได้
เย่หยวนนั้นกลับหลอมโอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิได้ถึงระดับเก้า!
โอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดินั้นมันคือโอสถสวรรค์ในหมู่โอสถสวรรค์!
แต่ละระดับนั้นมันจะบรรจุไปด้วยสุดยอดโอสถสวรรค์ที่เหนือล้ำ นั่นคือระดับที่เรียกว่าระดับจักรพรรดิ!
นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยนั้นไม่อาจจะรับพลังของโอสถสวรรค์ระดับสองได้
หากกินเข้าไปแล้วพลังของโอสถสวรรค์ระดับสองนั้นมันจะระเบิดออกภายใน
แต่ว่าโอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดินั้นไม่เป็นเช่นนั้น!
โอสถสวรรค์ระดับหนึ่งที่ขึ้นถึงระดับจักรพรรดิได้นั้นมันจะมีคุณสมบัติไม่แพ้โอสถสวรรค์ระดับสอง
แต่พลังของโอสถสวรรค์นี้มันจะอ่อนนุ่มกว่ามากทำให้แม้แต่นักยุทธชั้นบรรยากาศสวรรค์เลิศน้อยสามารถกินมันได้
แต่โอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดินั้นมันเป็นสิ่งที่หลอมกลั่นได้ยากเย็นอย่างแสนสาหัส!
ไม่ว่าจะเป็นโอสถฟื้นฟูเทพหรือโอสถสวรรค์แปลงเก้ามังกรน้ำมันก็ไม่อาจจะเอามาเทียบเคียงกับระดับของโอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิได้เลย!
เพราะฉะนั้นแล้วสำหรับนักหลอมโอสถสวรรค์ส่วนมากโอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิมันจึงเป็นได้แค่ตำนานที่ไม่มีวันได้เห็น
เพราะว่าต่อให้จะได้สูตรมามันก็ไม่มีใครที่จะหลอมได้เช่นกัน!
แต่เย่หยวนกลับหลอมได้!
และมิใช่แค่เขาหลอมได้เท่านั้น… เขากลับหลอมโอสถทองระดับเก้าขึ้นได้!
โอสถทองระดับเก้าของโอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิ!
“ท่านเจ้านิกาย น้องเย่ของข้านี้เหมาะสมกับตำแหน่งผู้พิทักษ์ปีกเขียวหรือไม่เล่า?” หลัวหยุนชิงหันมาถามด้วยรอยยิ้ม
เขานั้นตื่นตะลึงไม่แพ้คนอื่นๆ เช่นกัน
แต่เวลานี้สิ่งที่เขารู้สึกมากกว่าก็คือความพึงพอใจอย่างมากล้น
เย่หยวนนั้นใช้การกระทำอันเหนือฟ้านี้พิสูจน์แก่สายตาทุกผู้คนว่าเขานั้นถูกต้อง!
หากให้พูดแล้วเขาเองก็ไม่คิดฝันว่าเย่หยวนจะเก่งกาจได้เหนือล้ำถึงขั้นนี้เช่นกัน
นี่มันคือโอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิ!
ที่สำคัญมันยังเป็นถึงโอสถสวรรค์ระดับจักรพรรดิทองระดับเก้าด้วย!
เจ้านิกายที่ได้ยินนั้นต้องสั่นสะท้านขึ้นมาทั้งกายก่อนจะพยักหน้าลงอย่างรุนแรง “แน่นอน! แน่นอนว่าเขามีค่าพอ! ไม่สิ แค่ผู้พิทักษ์ปีกเขียวมันยังไม่พอด้วยซ้ำ!”
หลัวหยุนชิงนั้นยิ้มกว้างขึ้นเมื่อได้ยิน “แท้จริงแล้วตอนที่ข้าไปพาเขากลับมานั้นข้าก็อยากจะให้ตำแหน่งผู้พิทักษ์ปีกม่วงแก่เขา น่าเสียดายที่ข้านั้นมีสิทธิ์มอบได้แค่ตราผู้พิทักษ์ปีกเขียว น้องเย่นั้นมีจิตใจหนักแน่นมั่นคงแยกแยะดีชอบชัดเจน เราต้องปฏิบัติกับเขาอย่างซื่อตรง! ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้จะได้ตำแหน่งผู้อาวุโสไปเขาก็ไม่คิดสนใจ เพราะเหตุนี้เองข้าถึงต้องคอยดูเขาอยู่ในอาณาจักรตะวันออกยาวนานถึงสิบปี!”
เจ้านิกายพยักหน้าขึ้นมา “หยุนชิง เจ้าทำได้ดีมาก! เรื่องครั้งนี้นับว่าเจ้าได้สร้างคุณให้แก่นิกายมากล้น! แต่ตำแหน่งผู้พิทักษ์ปีกเขียวนี้จะอย่างไรมันก็ไม่พอ!”