บทที่ 1228 อัจฉริยะอันดับหนึ่ง

The king of War

เมื่อเห็นคนที่มา สีหน้าของต้วนหวูหยาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาเลิกคิ้วขึ้นและพูดอย่างไม่พอใจ “ต้วนหวูเหยียน ใครอนุญาตให้เจ้าเข้ามาเหยียบที่นี่?”

สีหน้าของต้วนหวูหยาเต็มไปด้วยความโกรธ จวนเล็กหลังนี้ตั้งอยู่ตรงหัวมุมวังราชวงศ์ต้วน ซึ่งไม่ได้อยู่ในทำเลที่ดีสักเท่าใด

แต่จวนเล็กหลังนี้ก็เป็นพื้นที่ต้องห้ามของต้วนหวูหยา ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้ามานอกจากเขาและต้วนหยู่เยียน

เพราะที่นี่คือสถานที่ที่เขาและภรรยาที่ตายไปแล้วเคยอาศัยอยู่ และเป็นสถานที่ที่ต้วนหยู่เยียนเกิดด้วย

แม้ว่าภรรยาที่รักของเขาเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว แต่ความงดงามของสถานที่แห่งนี้ยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำของเขา และแน่นอนว่าคนนอกไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามา

กษัตริย์ต้วนมีโอรสห้าพระองค์ ต้วนหวูหยาเป็นคนที่สอง และต้วนหวูเหยียนเป็นคนที่ห้า ทั้งสองมีอายุห่างกันเพียงสองปี และมีระดับวิถีบู๊ห่างกันเพียงแดนเดียวเท่านั้น

ในราชวงศ์ต้วน เขามีความสามารถด้านวิถีบู๊เป็นรองเพียงต้วนหวูหยาเท่านั้น

แต่มีหลายคนเชื่อว่า ต้วนหวูเหยียนมีความสามารถด้านวิถีบู๊แข็งแกร่งกว่าต้วนหวูหยา เพราะถึงอย่างไรต้วนหวูหยาก็มีอายุมากกว่าต้วนหวูเหยียนสองปี

อันที่จริงเมื่อห้าปีที่แล้วทั้งสองยังมีระดับแดนเดียวกัน ในตอนนั้นต้วนหวูเหยียนต่างหากที่เป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในราชวงศ์ต้วน จนกระทั่งเมื่อสองปีก่อน ต้วนหวูหยาได้ฟันฝ่าเข้าสู่แดนเทพชั้นปลายได้ จึงได้แซงหน้าต้วนหวูเหยียนไป

ในราชวงศ์ต้วน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสามารถ ในบรรดาพระโอรส ไม่แบ่งแยกอายุ แต่วัดกันที่ความแข็งแกร่งและความอ่อนแอ

“ท่านพี่ ท่านไม่ใจแคบไปหน่อยหรือ?”

ต้วนหวูเหยียนพูดอย่างยิ้มแย้ม “แค่จวนหลังเล็กๆ เท่านั้น ถ้าท่านพี่ชอบ ข้าจะมอบจวนหลังใหญ่ที่ดีกว่านี้ให้ท่าน”

“ออกไปซะ!”

ต้วนหวูหยาตวาดอย่างเย็นชา

ที่นี่เป็นพื้นที่ต้องห้ามของเขา ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้ว่าจะเป็นต้วนหวูเหยียนก็ตาม!

แสงเย็นฉายผ่านส่วนลึกในดวงตาของต้วนหวูเหยียน แต่ใบหน้ายังเต็มไปด้วยรอยยิ้มอยู่

สายตาของเขามองพิจารณารอบจวนอย่างไร้ยางอาย และพูดกับคนรับใช้สองคนที่อยู่ข้างหลังด้วยรอยยิ้มว่า “จวนเล็กหลังนี้เล็กไปหน่อย แต่มีภูเขาอยู่เบื้องหลัง ฮวงจุ้ยดี ข้าชอบมาก”

“องค์ชายห้า ในเมื่อท่านชอบ ทำไมจึงไม่ให้องค์ชายรองมอบให้ท่านล่ะ?”

ผู้ติดตามต้วนหวูเหยียนคนหนึ่งพูดคล้อยตามเป็นปี่เป็นขลุ่ย

“สุภาพบุรุษไม่แย่งของรักของผู้อื่น ข้าจะให้พี่รองมอบที่นี่ให้ข้าได้อย่างไร?”

ต้วนหวูเหยียนยิ้มพลางส่ายหน้า จากนั้นสายตาก็จับจ้องไปที่ต้วนหยู่เยียน “หยู่เยียน ท่านอาห้าก็ชอบที่นี่มากเช่นกัน แต่ไม่ต้องการแย่งชิงกับพี่รอง เจ้าคิดว่าข้าควรทำอย่างไร?”

แม้ว่าต้วนหยู่เยียนจะเป็นธิดาของต้วนหวูหยา แต่เธอก็มีร่างกายอ่อนแอและป่วยกระเสาะกระแสะมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยฝึกวิชาบู๊มาก่อน เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ในจวนเล็กหลังนี้ แม้แต่ต้วนหวูเหยียน เธอก็เคยพบเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น

ในเวลานี้ต้วนหวูหยาได้มองมาที่เธอ เธอเกิดความประหม่าเล็กน้อย จับมือต้วนหวูหยาโดยไม่รู้ตัวและพูดอย่างประหม่าว่า “ท่านบอกว่าไม่อยากแย่งชิงกับพ่อของข้า เช่นนั้นท่านจะถามข้าอีกทำไม?”

“ต้วนหวู่เหยียน!”

สีหน้าของต้วนหวูหยามืดหม่นลงอย่างสมบูรณ์ ลมปราณแห่งวิถีบู๊จางๆ ได้แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา

ดวงตาแดงก่ำจับจ้องไปที่ต้วนหวูเหยียน และตะคอกใส่ “ออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นข้าจะสั่งสอนบทเรียนให้เจ้า!”

สีหน้าของต้วนหวูเหยียนไม่มีความเกรงกลัว พูดด้วยรอยยิ้มว่า “บางที อีกประเดี๋ยวที่นี่ก็จะกลายเป็นของข้า!”

พูดจบเขาก็หันหลังเดินจากไปพร้อมกับผู้ติดตามสองคน

“ฮ่าๆๆๆ…”

ต้วนหวูเหยียนหัวเราะลั่นออกมา

ต้วนหวูหยามองตามหลังเขาไป สายตาเต็มไปด้วยความโกรธ

ตั้งแต่เด็ก ระหว่างเขากับต้วนหวูเหยียนขัดแย้งกันเหมือนน้ำกับไฟ ต่อสู้ทั้งในที่เปิดเผยและในที่ลับ แต่ก็ไม่เคยเหมือนในวันนี้ ต้วนหวูเหยียนกล้าที่จะยั่วยุเขาก่อน

สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกถึงความผิดปกติเล็กน้อย

ตอนนี้เขาได้รับการยอมรับว่าเป็นทายาทของราชวงศ์ต้วน พูดตามหลักเหตุผล ต้วนหวูเหยียนได้หมดคุณสมบัติที่จะต่อสู้แย่งชิงกับเขาแล้ว

แต่ทำไมจู่ๆ ต้วนหวูเหยียนถึงได้อวดดีแบบนี้อีก?

“ท่านพ่อ!”

ต้วนหยู่เยียนจับมือพ่อของตนเอาไว้แน่น ในส่วนลึกของดวงตาดูเป็นกังวล

ความโกรธที่มีต่อต้วนหวูหยาถูกข่มไว้ทันที เมื่อมองไปที่ลูกสาว รอยยิ้มบนใบหน้าก็กลับมาปกติเช่นทุกวัน “พ่อไม่เป็นอะไร!”

“แกร๊ง!”

ทันใดนั้นเสียงระฆังของราชวงศ์ต้วนก็ดังขึ้น

“เกิดอะไรขึ้น?”

สีหน้าของต้วนหวูหยาเปลี่ยนไปอย่างมาก

เสียงระฆังดังขึ้นภายในราชวงศ์ต้วน บ่งบอกว่ากษัตริย์ต้วนกำลังจะเรียกประชุมด่วน

ด้วยศักยภาพและสถานะปัจจุบันของราชวงศ์ต้วน เสียงระฆังไม่ได้ดังมาหลายปีแล้ว เสียงระฆังครั้งสุดท้ายดังขึ้นเมื่อสองปีก่อน เมื่อเขาฟันฝ่าถึงแดนเทพชั้นปลาย วันที่กษัตริย์ต้วนได้แต่งตั้งทายาท

“ท่านพ่อ ท่านรีบไปเถิด ท่านปู่น่าจะมีเรื่องสำคัญอยากคุยกับท่าน!”

ต้วนหยู่เยียนพูดเร่งรัด

“ได้!”

ต้วนหวูหยาก็ไม่กล้าลังเล รีบหันหลังเดินจากไป

แต่ทันทีที่เขาเดินออกจากจวน เขาก็รู้สึกมีลางสังหรณ์ไม่ดีในทันใด เขาหยุดและสั่งผู้ที่จะติดตามเขาไป “พวกเจ้าอยู่ที่นี่เพื่อคอยปกป้องคุณหนู!”

“ครับท่าน!”

ผู้ติดตามเป็นชายชราที่อยู่ระดับแดนเทพชั้นปลาย เขามักจะคอยติดตามต้วนหวูหยา แต่ตอนนี้เขาได้รับมอบหมายจากต้วนหวูหยาให้อยู่ข้างกายต้วนหยู่เยียน

เรื่องนี้ทำให้ชายชรารู้สึกผิดปกติเล็กน้อย

“ท่านพ่อ ท่านจะต้องกลับมาอย่างปลอดภัย!”

เมื่อมองตามบิดาที่เดินจากไป ทันใดนั้นต้วนหยู่เยียนก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยและสวดอ้อนวอนอยู่ภายในใจ

วังราชวงศ์ต้วน ภายในห้องประชุมของอาคารโบราณอันหรูหรา

ในเวลานี้มีทายาทสายตรงของราชวงศ์ต้วนนั่งอยู่เต็มพื้นที่ กษัตริย์ต้วนนั่งอยู่บนที่นั่งด้านบนสุด ด้านล่างคือพระโอรสทั้งห้า รวมถึงสมาชิกผู้ทรงอำนาจคนอื่นๆ ของราชวงศ์

ต้วนหวูหยานั่งอยู่บนที่นั่งแรกทางด้านซ้ายของกษัตริย์ต้วน ที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจก็คือ ต้วนหวูเหยียนนั่งทางด้านขวาของกษัตริย์ต้วนในตำแหน่งแรก

เขาคือทายาทของราชวงศ์ต้วน สมควรแล้วที่จะนั่งในตำแหน่งนี้

แต่ต้วนหวูเหยียนนั้นมีคุณสมบัติที่จะนั่งอยู่ทางด้านขวาของกษัตริย์ต้วนได้หรือ?

ที่ผ่านมา ตำแหน่งนี้ล้วนเป็นผู้อาวุโสระดับแดนเทพชั้นปลายของราชวงศ์ต้วนที่จะมานั่ง

ตอนนี้ผู้อาวุโสระดับแดนเทพชั้นปลายคนนั้นดันมาอยู่ข้างๆ ต้วนหวูเหยียน

แม้ว่าจะเป็นเพียงที่นั่งธรรมดา แต่ก็ทำให้หลายคนตกใจมาก

เมื่อต้วนหวูหยามองไปทางต้วนหวูเหยียน ต้วนหวูเหยียนก็มองมาที่เขาเช่นกัน ด้วยรอยยิ้มมุมปากที่ขี้เล่น ราวกับกำลังเยาะเย้ยเขา

“ฝ่าบาท ทุกคนมากันพร้อมแล้ว!”

ในเวลานี้ พ่อบ้านชราของราชวงศ์ต้วนก็พูดขึ้นมาในทันที

กษัตริย์ต้วนพยักหน้าเล็กน้อย กวาดสายตามองไปรอบๆ ผู้คนและพูดเสียงดังชัดเจน “วันนี้ มีสองเรื่องใหญ่ที่จะพูด!”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ทุกคนก็เงียบลง ไม่มีความรู้สึกตกใจ

เรื่องใหญ่สองเรื่องที่กษัตริย์ต้วนจะมาพูดในการประชุมด่วนต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่

“ขอพูดเรื่องที่หนึ่งก่อน เมื่อรุ่งเช้าวันนี้ องค์ชายห้าต้วนหวูเหยียน ในที่สุดก็ได้ก้าวเข้าสู่ระดับแดนเทพชั้นปลาย ตั้งแต่นี้ต่อไป ศักยภาพของราชวงศ์ต้วนของข้าจะก้าวหน้าขึ้นอีกครั้ง!”

ทุกคนตกใจกับคำพูดนี้ของกษัตริย์ต้วน

ต้วนหวูหยารู้สึกตกใจมาก เขารู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากต้วนหวูเหยียนก้าวเข้าสู่ระดับแดนเทพชั้นปลาย

ในอดีตเขาเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของราชวงศ์ต้วน ตอนนี้ต้วนหวูเหยียนที่อายุน้อยกว่าเขาสองปีได้ก้าวเข้าสู่ระดับแดนเทพชั้นปลาย ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับเขา

นั่นก็หมายความว่า จากนี้ไปต้วนหวูเหยียนต่างหากที่เป็นสุดยอดวรยุทธอันดับหนึ่งของราชวงศ์ต้วน