มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1426

สำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมินซึ่งเดิมที่ซากปรักหักพัง ตอนนี้ได้รับการทำความสะอาดเป็นส่วนใหญ่แล้ว แต่คนด้านล่างเหล่านี้ไม่ใช่ศิษย์ของสำนักเซียนไร้เจตสิก ผู้อาวุโสเทพฟ้าสองคนที่เขาทิ้งไว้ให้เฝ้าอยู่ที่นี่ก็ไม่มีข่าวใด ๆ

ในทันใดนั้น ดวงตาของเขาหดลงอย่างกะทันหัน เขาเห็นชายหนุ่มยืนอยู่บนยอดเขาทิพย์ที่สูงที่สุด

“เจ้าเอง? เป็นไปได้ยังไง…”

เขาจำหลัวซิวขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว “เขาถูกราชาเทพไล่ฆ่า แต่กลับยังไม่ตาย?…ราชาเทพล่ะ?”

“ไอ้หมาซือถูตายแล้ว พวกเจ้าจะเป็นรายต่อไป”

หลัวซิวก้าวขึ้นไปในอากาศและพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า รอบกายไม่มีออร่าที่แข็งแกร่งแม้แต่เล็กน้อยออกมาจากร่างกายของเขา เขาเผชิญหน้ากับเทพฟ้าทั้งหกและหนึ่งในนั้นคือจ้าวนภาด้วยตัวเขาคนเดียว

“เจ้าฆ่าราชาเทพ?”

เมื่อจ้าวนภาไร้เจตสิกได้ยิน ปฏิกิริยาแรกของเขาคือไม่เชื่อ เพราะมหาจักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่งแม้ว่าจะแข็งแกร่งเกินกว่าท้าทายท้องฟ้า แต่ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีความมสามารถฆ่าราชาเทพได้

“ฆ่าเขา!”

จ้าวนภาไร้เจตสิกตะโกนอย่างเย็นชาและผู้อาวุโสเทพฟ้าทั้งห้าที่อยู่ข้างหลังเขาก็โจมตีทันที

“พรึบ! พรึบ! พรึบ!…”

แต่ในขณะนี้ ร่างหกร่างก็ปรากฏขึ้นและขวางเทพฟ้าทั้งห้าของสำนักเซียนไร้เจตสิกไว้

เปลือกตาของจ้าวนภาไร้เจตสิกกระตุกขึ้น แน่นอนว่าเขารู้จักเทพฟ้าทั้งหกนี้ แต่พวกเขาเป็นผู้เแข็งแกร่งที่ติดตามราชาเทพซือถู

แต่ตอนนี้ เทพฟ้าทั้งหกนี้ช่วยหลัวซิวต่อสู้กับศัตรู นี่เป็นสถานการณ์อะไร?

จ้าวนภาไร้เจตสิกมีลางสังหรณ์ที่เลวร้ายอยู่ในใจ เขาคาดไม่ถึงว่าหลังจากที่เขานำผู้คนให้ไล่ฆ่าเฟิ่งหวูซิน เพียงแค่จากไปภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน จะมีการเปลี่ยนแปลงมากมายเช่นนี้

“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าเป็นแค่มหาจักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่งจะแข็งแกร่งถึงไหน!”

เจตนาฆ่าของจ้าวนภาไร้เจตสิกพุ่งขึ้น เขาโจมตีสุดกำลังทันทีที่เขาเริ่มโจมตี ใช้กระจกเทพไร้เจตสิกอัญเทพฟ้าชิ้นนี้

“พรึบ!”

ลำแสงศักดิ์สิทธิ์พุ่งออกมาจากกระจกเทพ กฎพลังเทพที่ควบแน่นอย่างที่สุดก็เหมือนกระบี่คมที่แทงทะลุอนัตตาฟ้าดิน

หลัวซิวใช้เกราะเทพเวหากาลโดยตรง ซึ่งเหมือนกับเกราะสีทองที่ปกคลุมทั้งตัวของเขา ทำให้เขาดูเหมือนเทพสงครามทองคำ แสงสีทองห่อหุ้มทั่วร่างกายเขา

เขาใช้พลังแห่งกฎความตาย แสงสีทองที่กระจายออกมาจากร่างกายของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีดำในทันใด เพลิงมรณะลุกโชนขึ้น

จากแสงเทพศักดิ์สิทธิ์ก่อนหน้านี้ ไปจนถึงปราณความตาย การเปลี่ยนแปลงสูงสุดในระหว่างนี้ ให้ความรู้สึกที่ขัดแย้งกันอย่างมาก แต่กลับเป็นธรรมชาติ

ด้วยความช่วยเหลือของเกราะเทพเวหากาลและพลังอมตะเทพสงครามไร้ศัตรูที่ช่วยซึ่งกันและกัน ออร่าของหลัวซิวเพิ่มขึ้นอย่างดุเดือด ถือหอกยุทธ์มังกรดำอยู่ในมือ ควบแน่นกฎพลังเทพแห่งความตาย และใช้นัดเดียวนิพพานของวิชาพลังอมตะ

นัดเดียวนิพพานเป็นการพัฒนาขั้นสูงสุดของกฎความตาย ร่างกายของหลัวซิวดูเหมือนจะถูกรวมเข้ากับหอกยุทธ์ และกฎความตายของเขาได้มาถึงแดนดั้งเดิมขั้น 2 แล้ว กระบวนท่าวิชาพลังอมตะนี้ไม่เหมือนกับเมื่อก่อน

“บูม!”

หอกยุทธ์มังกรดำปะทะกับแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ส่องออกมาจากกระจกเทพ เสียงระเบิดดังก้องในสวรรค์และโลกฟ้าดิน แสงศักดิ์สิทธิ์ที่กระจกเทพไร้เจตสิกส่องออกมาถูกหลัวซิวแทงแตกกระจายในครั้งเดียว

แต่การโจมตีของหลัวซิวไม่ลดลง หอกยุทธ์แทงไปยังคอหอยของจ้าวนภาไร้เจตสิกด้วยความเร็วที่เร็วมาก

นี่ทำให้ใจของจ้าวนภาไร้เจตสิกหวาดกลัว แต่ไม่ว่ายังไงเขาเป็นผู้แข็งแกร่งระดับจ้าวนภา เขาก็ตอบสนองทันที โดยโยนเตาเทพเขียวออกมา ทุบไปที่หลัวซิว

เตาเทพเขียวนี้เป็นสมบัติอัญเทพฟ้าด้วย ความสามารถในการโจมตีอย่างเดียวของหม้อนี้ดีกว่ากระจกเทพไร้เจตสิก

“แคร่ง!”

หลัวซิวแทงไปยังบนเตาเทพด้วยหอก เตาเทพนั้นแข็งแกร่งไม่สามารถทำอะไรมันได้ เขาใช้แรงจากแรงต้านกระแทกพลิกตัวในอากาศแล้วตกลงไป

ปีกเทพมังกรครามยักษ์ไร้มลทิน!