ตอนที่ 1511: การกลับมาของไคยะ

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1511: การกลับมาของไคยะ

เผ่าไทท์เป็นเผ่าขนาดกลางในอาณาจักรทะเล แม้ว่าจะเป็นเผ่าที่ไร้ชื่อเสียง แต่มันก็ยังพอมีชื่อเสียงอยู่ในรัศมีหนึ่งล้านกิโลเมตร

นี่เป็นเพราะเผ่าไทท์มีบรรพชนเซียนผู้คุมกฏ เขาอยู่ในระดับ 14 ดาวใกล้จะถึง 15 ดาวอีกไม่นาน

เผ่าไทท์ได้รวมเข้ากับเผ่ากระบี่ทอง,เผ่าเฮอมัน, ตระกูลดาการ์, และตระกูลทิงเว่ย ผ่านการแต่งงาน อีกสี่กลุ่มก็มีเซียนผู้คุมกฏ ดังนั้นพวกเขาจึงสนิทกันมาก พวกเขาใกล้จะจัดตั้งห้าพันธมิตรที่ทำงานรวมกัน

แม้ว่าจะไม่มีใครในทั้งห้ากลุ่มจะมีเซียนราชา แต่ถ้าเซียนผู้คุมกฎร่วมมือกัน พวกเขาก็สามารถครอบครองพื้นที่รอบ ๆ หนึ่งล้านกิโลเมตรและกลายเป็นผู้ปกครองสูงสุด

และวันนี้เป็นวันที่มีความสุขสำหรับเผ่าไทท์ เพราะลูกชายหัวหน้า

คนปัจจุบันของเผ่าไทท์กำลังแต่งงานกับหญิงสาวจากเผ่ากระบี่ทอง ดังนั้นมันจึงมีบรรยากาศที่รื่นรมย์ไปทั่วทั้งเผ่า

บรรพชนของเผ่าไทท์และเผ่ากระบี่ทองนั่งอยู่ในตำแหน่งที่สูงที่สุดด้วยกัน ขณะที่พวกเขายิ้มและจ้องมองไปยังคู่รักคู่ใหม่

จอมยุทธที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์นามว่าเจี้ยนเฉินจะจัดงานแต่งงานในอีกสองวันที่เมืองอัคนี งานแต่งงานของเราวันนี้จะยืมความสุขจากงานแต่งงานของเขา ในอนาคตข้าไม่หวังว่าพวกเขาจะเป็นเท่าราชันเจี้ยนเฉิน ข้าแค่หวังว่าเจ้าจะสามารถเป็นจักรพรรดิได้ บรรพชนเผ่าไทท์กล่าวอวยพรคู่รักใหม่ด้านล่าง ทันทีที่เขาพูดจบแขกจำนวนไม่มากต่างก็เห็นด้วยทันที คนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นกลุ่มแล็ก ดังนั้นตราบใดที่เขาได้ผลดีจากตระกูลไทร์ พวกเขาถือว่าเป็นเกียรติแล้ว

หัวหน้าเผ่าไทท์นั่งพร้อมกับยิ้มไปให้ผู้คนรอบ ๆ ตัวเขาที่พยายามประจบประแจง คนอื่นเชื่อว่าความหวังที่ลูกชายของเขาที่จะได้เป็นจักรพรรดินั่นคงไม่นาน แม้จะมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าจะมีจักรพรรดิในอนาคต

นี่เป็นเพราะเขามีส่วนร่วมในการกำจัดเผ่าคาเลอร์ออกไปเมื่อหลายปีก่อน เขารู้ว่าหญิงสาวเผ่าคาเลอร์ ไคยะ ได้หนีไปและแม้แต่บรรพชนเซียนผู้คุมกฏทั้งห้าก็ไม่อาจรั้งนางไว้ได้ เผ่าของเขาไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรเกี่ยวกับไคยะที่มีแต่พรสวรรค์เท่านั้น อย่างไรก็ตามไคยะยังเป็นอัจฉริยะด้านการบ่มเพาะ นางเป็นเซียนผู้คุมกฏตั้งแต่อายุยังน้อย แถมนางยังบ่มเพาะด้วยวิธีของจักรพรรดิแผ่นดินทั้งแปดอีกด้วย มันมีศักยภาพมากมายที่นางสามารถจะไปถึงเซียนราชาและกลายเป็นเซียนจักรรพรรดิแน่นอน

เพื่อป้องกันการแก้แค้นจากไคยะ ทั้งห้ากลุ่มได้ร่วมมือกันผ่านการแต่งงาน พวกเขาวางแผนด้วยกัน อย่างไรก็ตามพวกเขารู้ว่าเมื่อนางเป็นเซียนราชา เมื่อนั้นแม้ว่าพวกเขาจะร่วมมือกันพวกเขาก็ไม่อาจต่อกรกับนางได้ หากนางเป็นเซียนจักรพรรดิ นางอาจจะล้างบางทั้งห้ากลุ่มของพวกเขาไปจากอาณาเขตทะเลเพียงการโบกมือของนาง เป็นผลทำให้พวกเขาจำเป็นต้องได้รับการคุ้มครองจากเซียนราชาหรือเซียนจักรพรรดิให้เร็วที่สุด

มันไม่น่าเป็นไปได้อย่างยิ่งที่บรรพชนทั้งห้าจะไปถึงเซียนราชา เนื่องจากความสามารถที่จำกัดของพวกเขาดังนั้นพวกเขาอาจจะจบลงด้วยการเป็นเซียนผู้คุมกฏตลอดไป เป็นผลทำให้ทั้งห้ากลุ่มได้แต่ฝากความหวังไว้ที่ลูกหลานที่มีความสามารถเท่านั้น

ขณะเดียวกันที่เผ่าไทท์และเผ่ากระบี่ทองที่จัดการแต่งงาน มีร่างเงาสีขาวปรากฏบนฟ้าห่างไกลออกไป นางเป็นหญิงสาวที่ดูเหมือนจะอายุได้ 20 ปี แม้ว่านางจะไม่ได้มีเสน่ห์ แต่นางก็ยังมีความงดงามอยู่บ้าง ในเวลาเดียวกันที่การปรากฏตัวพลังที่มากมายของนางได้ทำให้พื้นที่รอบ ๆ สั่นอย่างเบา ๆ

หญิงสาวคนนั้นบินอยู่บนอากาศ นางเคลื่อนไหวเร็วอย่างมากจนมาอยู่เหนือเผ่าไทท์ราวกับว่านางหายตัวไปจากจุดที่นางยืนอยู่เมื่อกี้ สัตว์อสูรขนาดเท่ากำปั้นเกาะอยู่ที่ไหล่ของนางอย่างเชื่อฟัง

ด้านกลุ่มทั้งหมดไม่รู้สึกถึงการมาของนางเลย พวกเขายังคงเฉลิมฉลองงานแต่งอยู่

หญิงสาวมองไปที่เผ่าไทท์อย่างเย็นชา ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างมากในทันที จิตสังหารที่ทรงพลังได้แผ่ออกจากตัวนาง ไม่เพียงแต่จะทำให้อุณหภูมิลดลง แต่จิตสังหารก็ยังเปลี่ยนสายลมให้หนาวเหน็บอย่างฉับพลัน มันทำให้สภาพแวดล้อมรอบ ๆ ปั่นป่วน หลังจากที่นางโบกมือ ม่านปกป้องทั้งหลายที่โอบล้อมเผ่าทั้งหมดก็พังลงทันที

จิตสังหารที่กดทับผู้คนลงกับพื้น คนที่อยู่ด้านล่างอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นและสีหน้าเปลี่ยนแปลงไป

งานแต่งงานก็หยุดลง ทุกคนในเผ่าไทท์หุบยิ้มทันที พวกเขาจ้องมองไปที่ท้องฟ้าด้วยความตกใจและจากนั้นพวกเขาก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ลอยอยู่บนอากาศ

บรรพชนของทั้งสองเผ่ารวมถึงเหล่าคนระดับสูงเผยให้เห็นการแสดงออกที่แตกต่างกันอย่างมากเมื่อพวกเขาเห็นหญิงสาวคนนั้น หัวใจของเขาเต้นโครมคราม

คะ คะ ไคยะ… หัวหน้าเผ่าไทท์พูดด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ ในขณะที่ใบหน้าของเขาซีดเซียว แม้แต่ร่องรอยของความสิ้นหวังก็ปรากฏขึ้น หัวหน้าของเผ่ากระบี่ทองก็มีท่าทีเช่นกัน

ทั้งสองคนไม่ใช่เซียนผู้คุมกฏ แต่พวกเขาเคยเห็นเซียนผู้คุมกฏมาก่อนและคุ้นเคยอย่างมาก ไคยะไม่ได้เป็นเซียนผู้คุมกฎในสายตาของพวกเขาอีกต่อไป นางมีการบ่มเพาะที่เหนือไปกว่านั้น

มีพลังที่ท่วมท้นปรากฏออกมาจากที่อื่น แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับจิตสังหารของไคยะ มันเหมือนมดที่อยู่ต่อหน้าช้าง

บรรพชนของเผ่าไทท์ปรากฏขึ้น เขาเป็นเซียนผู้คุมกฏที่เป็นความภาคภูมิใจของเผ่าไทท์ เขามาถึงชั้นสวรรค์ที่ 8 แล้ว

อย่างไรก็ตามเขายังจ้องมองไคยะด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยว เขาดูเคร่งเครียดอย่างมาก

ในอดีต เขาและบรรพชนทั้งสี่ของกลุ่มอื่น ๆ ได้ไล่ล่าไคยะและบังคับให้นางเข้าไปยังส่วนลึกของอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ก่อนที่จะรามือ หากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าพวกเขาไม่มั่นใจว่าจะรอดชีวิตในส่วนลึกของอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาจะยังคงตามนางไปอย่างไม่ลังเล ในอดีตพวกเขาทั้งห้าต่างก็คาดว่าไคยะต้องตายอยู่ในส่วนลึกของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เพราะการบ่มเพาะของนาง ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะเผชิญการแก้แค้นของนางในสักวันหนึ่ง เป็นผลทำให้ทั้งห้ากลุ่มได้เตรียมตัวอยู่ตลอดเวลาในสองสามปีที่่ผ่านมาและรอให้นางกลับมาแก้แค้น พวกเขาเริ่มเตรียมสะสมทรัพย์ให้มากขึ้นและหาเหล่าเซียนราชาเพื่อปกป้องพวกเขาในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า

สิ่งที่พวกเขาไม่คิดก็คือ ไคยะได้กลับมาแก้แค้นเร็วกว่าที่คาด พร้อมกับพลังของนางที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าใจหาย นางกลายเป็นเซียนราชาภายในไม่กี่สิบปี พวกเขาเชื่อว่านางใช้เวลาอย่างน้อย ๆ เป็นร้อย ๆ ปีก่อนที่จะกลับมาแก้แค้นด้วยการบ่มเพาะของจักรพรรดิแผ่นดินทั้งแปดน